คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ผู้ว่าจ้าง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 72 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 118/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้ว่าจ้างไม่ต้องรับผิดต่อความเสียหายจากการตอกเสาเข็ม หากผู้รับเหมาเป็นผู้ปฏิบัติงานโดยอิสระและมีความชำนาญ
จำเลยทั้งสองผู้ว่าจ้างสั่งให้จำเลยร่วมผู้รับจ้างตอกเสาเข็มตามแผนผังในแบบแปลนที่กรุงเทพมหานครอนุญาตโดยจำเลยทั้งสองไม่มีหน้าที่เข้าควบคุมการตอกเสาเข็มของจำเลยร่วม ถือว่าเป็นคำสั่งให้จำเลยร่วมปฏิบัติตามสัญญา มิใช่คำสั่งเกี่ยวกับการตอกเสาเข็มซึ่งเป็นหน้าที่ของจำเลยร่วมที่จะ ต้องใช้วิชาการและความระมัดระวังมิให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดเมื่อการตอกเสาเข็มของจำเลยร่วมก่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ย่อมถือไม่ได้ว่าจำเลยทั้งสองผู้ว่าจ้างเป็นผู้ผิดในส่วนการงานที่สั่งให้ทำหรือในคำสั่งที่ให้ไว้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 428

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2828/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิผู้รับจ้างและผู้ว่าจ้างในการดูแลรักษาสิ่งก่อสร้างระหว่างการพิจารณาคดี และขอบเขตคำสั่งศาล
โจทก์ฟ้องให้บังคับจำเลยชำระค่าจ้างก่อสร้างอาคาร จำเลยให้การว่าโจทก์เป็นฝ่ายผิดสัญญา เมื่อตามสัญญาระบุให้สิ่งก่อสร้างรวมทั้งสัมภาระอุปกรณ์ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลยผู้ว่าจ้างตั้งแต่นำเข้ามาในที่ก่อสร้าง จำเลยจึงมีส่วนได้เสียในอาคารพิพาท หากอาคารถูกปล่อยปละละเลยไม่มีผู้ดูแลรักษา ย่อมก่อให้เกิดความเสียหายต่อประโยชน์ส่วนได้เสียของจำเลย แม้จำเลยมิได้ฟ้องแย้งให้โจทก์ส่งมอบอาคาร จำเลยก็มีสิทธิขอให้ศาลมีคำสั่งเพื่อคุ้มครองประโยชน์ของจำเลยในระหว่างการพิจารณา เพื่อให้ศาลมีคำสั่งตั้งผู้ดูแลรักษาอาคารในระหว่างการพิจารณาได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 264 เมื่อโจทก์หยุดการก่อสร้างไปแล้ว และการที่จะให้จำเลยเข้าดูแลรักษาอาคารไม่กระทบถึงสิทธิส่วนได้เสียของโจทก์ ศาลจึงชอบที่จะมีคำสั่งอนุญาตให้จำเลยเข้าเป็นผู้ดูแลรักษาอาคารพิพาทในระหว่างพิจารณา แต่ที่ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้จำเลยเข้าดำเนินการทำประโยชน์และครอบครองอาคารโดยจำเลยมิได้ฟ้องแย้งและมีคำขอบังคับเช่นนั้น จึงไม่ชอบด้วย มาตรา 264

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 948/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจ้างเหมา ความผิดของผู้ว่าจ้างในการไม่ส่งมอบพื้นที่ และสิทธิในการบอกเลิกสัญญา
สัญญาจ้างเหมาก่อสร้างอาคาร จำเลยผู้ว่าจ้างมีหน้าที่ต้องมอบพื้นที่และกำหนดแนวเขตพื้นที่ที่โจทก์จะต้องก่อสร้าง การที่จำเลยสั่งระงับการก่อสร้าง เฉพาะการวางผังและตอกเสาเข็มรุกล้ำเข้าไปในที่ดินของผู้อื่นนั้นเป็นความผิดของจำเลยที่ไม่ตรวจแนวเขตที่ดินให้แน่นอนเสียก่อน จำเลยจึงเป็นฝ่ายผิดสัญญาที่ไม่สามารถให้โจทก์ดำเนินการก่อสร้างตามสัญญาต่อไปได้แต่ในสัญญาจ้างเหมาไม่มีข้อสัญญาให้สิทธิในการบอกเลิกสัญญาไว้เลย สิทธิในการบอกเลิกสัญญาจึงย่อมมีอยู่เฉพาะตามที่กฎหมายบัญญัติไว้เท่านั้นแม้สัญญาจ้างเหมาจะกำหนดเวลาชำระหนี้ไว้แน่นอนแต่เมื่อมีพฤติการณ์แสดงให้เห็นว่าคู่สัญญาไม่ถือเอากำหนดเวลาชำระหนี้ตามสัญญาเป็นข้อสำคัญอีกต่อไป กรณีจึงต้องด้วยบทบัญญัติในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 387 โจทก์จะต้องบอกกล่าวให้จำเลยดำเนินการให้โจทก์ลงมือก่อสร้างต่อไปโดยกำหนดระยะเวลาพอสมควรให้จำเลยแก้ไขข้อขัดข้อง ไม่สามารถแก้ไขภายในระยะเวลาที่กำหนดให้แล้ว โจทก์จึงจะบอกเลิกสัญญาได้ หากโจทก์ยังมิได้ปฏิบัติดังกล่าว โจทก์ก็ยังไม่มีสิทธิบอกเลิกสัญญาเมื่อโจทก์ยังไม่มีแม้แต่สิทธิที่จะบอกเลิกสัญญา โจทก์ก็ไม่มีสิทธิเรียกค่าเสียหาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2517/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความประมาทจากการขนส่งเสาเข็มโดยรถลากจูง และความรับผิดของผู้ว่าจ้างต่อลูกจ้าง
รถยนต์ที่จำเลยที่ 1 ขับมาในเวลากลางคืนลากจูงรถพ่วงบรรทุกเสาเข็มคอนกรีตยาวประมาณ 25 เมตรมาด้วย 2 ต้น ไม่มีสัญญาณไฟตามแนวความยาวของเสาเข็ม เมื่อรถลากจูงเลี้ยวขวาจากถนนหนึ่งเข้าอีกถนนหนึ่งไปแล้ว ตัวรถพ่วงเสาเข็มยังทะแยงขวางถนนอยู่ เป็นเหตุให้รถจี๊ปตรวจการณ์ปะทะกับส่วนกลางของเสาเข็มถูกลากติดไปกับส่วนหน้าของรถพ่วงและอัดติดอยู่ใต้เสาเข็มผู้ตายซึ่งนั่งมาในรถจี๊ปถึงแก่ความตายทันที ดังนี้เป็นความประมาทของจำเลยที่ 1
จำเลยที่ 2 รับว่าจำเลยที่ 1 รับเหมาขนเสาเข็มโดยใช้รถของห้างจำเลยที่ 2 ในชั้นสอบสวนจำเลยที่ 2 ยังได้ไปตกลงเรื่องค่าเสียหายกับฝ่ายโจทก์ หุ้นส่วนคนหนึ่งของจำเลยที่ 2 เบิกความว่าจำเลยที่ 1 เป็นลูกจ้างของจำเลยที่ 2 เป็นคนขับรถยนต์ของจำเลยที่ 2 บรรทุกเสาเข็มไปส่งให้แก่ลูกค้าในวันเกิดเหตุเช่นนี้ ย่อมฟังได้ว่าจำเลยที่ 1 เป็นลูกจ้างจำเลยที่ 2

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบอกเลิกสัญญาปลูกบ้านและการใช้ค่าแห่งการงาน เมื่อผู้ว่าจ้างไม่ชำระเงินค่าวัสดุและห้ามทำงาน
สัญญาปลูกบ้านเสร็จใน 50 วัน แต่ผู้ว่าจ้างจ่ายเงินงวดแรกไม่ครบ และสั่งซื้อสัมภาระให้ผู้รับจ้างช้ากว่ากำหนดจึงถือกำหนด 50 วันบังคับไม่ได้ ผู้ว่าจ้างไม่ให้ผู้รับจ้างทำงานจะว่าผู้รับจ้างทิ้งงานไม่ได้ ผู้ว่าจ้างเลิกสัญญาได้โดยอาศัย มาตรา 605 จึงต้องใช้ค่าแห่งการงานที่ผู้รับจ้างได้ทำไปแล้วตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 391 หักกับเงินที่ผู้ว่าจ้างจ่ายให้ผู้รับจ้างไปก่อนแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 851/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของผู้ว่าจ้างต่อความเสียหายจากการก่อสร้างที่เกิดจากผู้รับเหมา โดยผู้ว่าจ้างมอบหมายให้ผู้อื่นดำเนินการ
จำเลยที่ 1 มอบให้จำเลยที่ 2 ดำเนินการก่อสร้างอาคารจำลยที่2ได้ว่าจ้างเหมาให้ฟ. ทำการก่อสร้างสัญญาระหว่างจำเลยที่ 1 กับ พ. จึงเป็นสัญญาจ้างทำของเมื่อการก่อสร้างดังกล่าวเป็นการก่อสร้างตามแบบแปลนที่ได้รับอนุญาตแล้วและจำเลยที่ 2 ได้ว่าจ้างให้ ศ. เป็นผู้ควบคุมงานและให้รายงานผลให้ทราบเป็นระยะย่อมถือได้ว่าจำเลยที่ 1 เป็นผู้เลือกหาผู้รับจ้าง และการก่อสร้างต้องเป็นไปตามการงานที่จำเลยที่ 1 สั่งให้ทำกรณีต้องตามข้อยกเว้นแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา428 เมื่อการก่อสร้างตึกของจำเลยเป็นเหตุให้ตึกแถวของโจทก์และโจทก์ร่วมเสียหาย จำเลยที่ 1 จะปฏิเสธความรับผิดหาได้ไม่และการที่ศาลวินิจฉัยถึงความรับผิดของจำเลยที่ 1ก็ไม่ใช่เรื่องนอกฟ้องนอกประเด็น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 365/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ งานจ้างบกพร่อง ผู้รับจ้างต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหาย แม้ผู้ว่าจ้างจะยึดหน่วงค่าจ้างได้ แต่ต้องชำระส่วนที่เหลือ
งานที่ทำบกพร่องไม่เป็นไปตามสัญญา ผู้ว่าจ้างต้องใช้ค่าจ้างที่หักค่าเสียหายออกแล้วแก่ผู้รับจ้าง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2829/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การชดเชยค่าก่อสร้างที่สูงขึ้นจากวัสดุราคาแพง ไม่ผูกมัดผู้ว่าจ้าง ผู้รับเหมาพอใจเงินชดเชยแล้ว ฟ้องบังคับไม่ได้
การที่วัสดุก่อสร้างมีราคาสูงขึ้น ไม่เป็นเหตุให้การชำระหนี้ของโจทก์ที่จะต้องก่อสร้างให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้ในสัญญาเป็นพ้นวิสัย โจทก์จะอ้างเรื่องวัสดุก่อสร้างที่มีราคาสูงขึ้นมาเป็นเหตุให้หลุดพ้นจากความรับผิดตามสัญญาไม่ได้
แม้คณะรัฐมนตรีจะมีมติให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจชดเชยค่าจ้างเหมาก่อสร้างให้ผู้รับเหมา และคณะกรรมการพิจารณาปรับปรุงระบบก่อสร้างสถานที่ราชการและถาวรวัตถุของประเทศจะได้กำหนดแนวทางปฏิบัติในการชดเชยเงินค่าจ้างเหมาก่อสร้างให้ผู้รับเหมาไว้ ซึ่งถ้าถือตามหลักเกณฑ์ดังกล่าวจำเลยควรจ่ายเงินชดเชยค่าจ้างให้แก่โจทก์ตามที่คณะกรรมการได้กำหนด แต่มติคณะรัฐมนตรีและคำวินิจฉัยของคณะกรรมการปรับปรุงระบบการก่อสร้างสถานที่ราชการและและถาวรวัตถุของประเทศหาได้บังคับผู้ว่าจ้างและผู้รับเหมาให้จำต้องปฏิบัติตามโดยเด็ดขาดไม่ เมื่อจำเลยพิจารณาจ่ายเงินชดเชยให้แก่โจทก์น้อยกว่าที่คณะกรรมการได้กำหนด โจทก์มิได้โต้แย้ง จึงถือได้ว่าโจทก์พอใจและตกลงยอมรับในจำนวนเงินดังกล่าวเพียงเท่านั้น โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องขอให้ศาลบังคับให้จำเลยใช้เงินชดเชยค่าจ้างเหมาก่อสร้างให้แก่โจทก์ตามคำวินิจฉัยของคณะกรรมการดังกล่าวอีก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1561/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาปรับค่าเสียหายล่าช้าและค่าควบคุมงาน ผู้รับจ้างไม่ต้องพิสูจน์ความเสียหาย แต่ผู้ว่าจ้างต้องพิสูจน์ค่าควบคุมงานจริง
สัญญากำหนดให้ปรับ เมื่อผู้รับจ้างก่อสร้างไม่เสร็จตามกำหนดเวลาผู้ว่าจ้างปรับตามสัญญาได้โดยไม่ต้องพิสูจน์ความเสียหายส่วนค่าควบคุมงานซึ่งผู้รับจ้างสัญญาจะชดใช้ให้เป็นค่าเสียหาย ผู้ว่าจ้างมิได้นำสืบว่าได้เสียหายในข้อนี้อย่างไร ศาลไม่กำหนดให้ผู้ว่าจ้างหักค่าจ้างไว้ได้เท่าที่เป็นเบี้ยปรับเงินค่าควบคุมงานต้องคืนแก่ผู้รับจ้าง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2182/2517

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ละเมิดจากความประมาทเลินเล่อในการบรรทุกสิ่งของยื่นเกินกฎหมาย และความรับผิดของผู้ว่าจ้าง
จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นลูกจ้างของจำเลยที่ 2 ได้รับคำสั่งจากผู้จัดการของห้างหุ้นส่วนจำกัด จำเลยที่ 2 ให้นำท่อน้ำไปทำเกลียว จำเลยที่ 1 จึงขับรถไปตามคำสั่งของจำเลยที่ 2 โดยผูกท่อน้ำไว้กับรถของจำเลยที่ 1 ขณะที่จำเลยที่ 1 จอดรถอยู่ในช่องทางที่ 3 ซึ่งอยู่ติดกับเกาะกลางถนน โจทก์ขับรถยนต์มาชนท่อน้ำที่ผูกติดกับรถจำเลยที่ 1 เป็นเหตุให้บังโคลนรถโจทก์ได้รับความเสียหาย และตาทั้งสองข้างของโจทก์พิการ เมื่อพิจารณาได้ความว่าจำเลยที่ 1 ได้ละเว้น ไม่ทำเครื่องหมายให้ปลอดภัยไว้ท้ายท่อน้ำซึ่งยื่นพ้นออกมาจากท้ายรถยนต์ของจำเลยที่ 1 ถึง 2 เมตร อันเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายว่าด้วยการจราจร และเป็นการประมาทเลินเล่อ ส่วนโจทก์ซึ่งขับรถมาชนท่อน้ำนั้น ได้ใช้ความระมัดระวังในการขับรถในขณะเกิดเหตุพอสมควรแก่พฤติการณ์แวดล้อมแล้ว ดังนี้จำเลยที่ 1 ย่อมต้องรับผิดในผลแห่งละเมิดต่อโจทก์ จำเลยที่ 2ก็ต้องร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 1 ในผลแห่งละเมิดซึ่งจำเลยที่ 1 ได้กระทำไปในทางการที่จ้างนั้นด้วย
of 8