พบผลลัพธ์ทั้งหมด 51 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1412/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำไม้เกินขอบเขตใบอนุญาต ถือเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายป่าไม้
ซื้อสิทธิการทำไม้หวงห้ามมาจากผู้รับใบอนุญาต แต่กลับไปทำไม้ ผิดตำบลกับที่ปรากฏในใบอนุญาต ดังนี้ย่อมเป็นการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติป่าไม้ ต้องมีผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1409/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำสั่งห้ามทำประโยชน์ในที่สาธารณะ: ความชอบด้วยกฎหมายและการฝ่าฝืน
นายอำเภอได้ประกาศและมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้หนึ่งผู้ใดทำนาหรือทำประโยชน์ใดรุกล้ำเข้าไปในเขตบึงแห่งหนึ่งซึ่งเป็นที่สาธารณะประโยชน์และหวงห้ามรักษาพืชพันธุ์สัตว์น้ำนั้น ถือว่าเป็นคำสั่ง อันชอบด้วยกฎหมายตามความในพระราชบัญญัติปกครองท้องที่ พ.ศ.2457 มาตรา 122 ผู้ใดฝ่าฝืนย่อมเป็นผิดฐานขัดคำสั่งเจ้าพนักงานตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 334(2)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1607/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขนย้ายข้าวภายหลังได้รับอนุญาต: การกระทำแยกช่วงไม่ถือเป็นการฝ่าฝืนประกาศ
ประกาศข้าหลวงประจำจังหวัดมีใจความว่า ห้ามมิให้ผู้ครอบครองข้าวยักย้ายข้าวจากสถานที่เก็บ เว้นแต่จะได้รับอนุญาต และการยักย้ายดังกล่าวให้ทำได้ฉะเพาะเวลาระหว่างพระอาทิตย์ขึ้น ถึงพระอาทิตย์ตก ดังนี้ เมื่อทางพิจารณาได้ความว่า จำเลยได้รับอนุญาตให้ขนย้ายข้าวจากสถานที่เก็บได้แล้ว และเอาข้าวบันทุกรถยนตร์เดินทางไปในเวลากลางวัน แต่ไปค่ำมึดลงในระหว่างทาง ดังนี้ จำเลยย่อมไม่มีผิดฐานขนย้ายข้าวจากสถานที่เก็บในเวลากลางคืนตามประกาศฉะบับนั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1607/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขนย้ายข้าวหลังได้รับอนุญาต: การกระทำเป็นระยะไม่ต่อเนื่องไม่ถือว่าฝ่าฝืนประกาศ
ประกาศข้าหลวงประจำจังหวัดมีใจความว่า ห้ามมิให้ผู้ครอบครองข้าวยักย้ายข้าวจากสถานที่เก็บ เว้นแต่จะได้รับอนุญาต และการยักย้ายดังกล่าวให้ทำได้เฉพาะเวลาระหว่างพระอาทิตย์ขึ้น ถึงพระอาทิตย์ตกดังนี้ เมื่อทางพิจารณาได้ความว่า จำเลยได้รับอนุญาตให้ขนย้ายข้าวจากสถานที่เก็บได้แล้ว และเอาข้าวบรรทุกรถยนต์ เดินทางไปในเวลากลางวัน แต่ไปค่ำมืดลงในระหว่างทาง ดังนี้ จำเลยย่อมไม่มีผิดฐานขนย้ายข้าวจากสถานที่เก็บในเวลากลางคืนตามประกาศฉบับนั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 713/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องความผิดพ.ร.บ.สำรวจและห้ามกักกันข้าว ต้องแสดงหลักฐานประกาศคณะกรรมการกำหนดเวลาแจ้งข้าว และการฝ่าฝืนประกาศ
ความผิดฐานมีข้าวไว้ในครอบครองในเขตต์ห้ามกักกันข้าว โดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตาม พ.ร.บ.สำรวจและห้ามกักกันข้าว พ.ศ. 2489 ฟ้องต้องได้ความว่า ได้มีประกาศคณะกรรมการกำหนดเวลาให้ผู้มีข้าวเกินปริมาณมาแจ้ง และจำเลยทำฝ่าฝืนประกาศนั้น จึงจะมีผิด
ฟ้องของโจทก์มิได้กล่าวถึงประกาศของคณะกรรมการ และมิได้ยื่นสำเนาประกาศมาท้ายคำฟ้อง ซึ่งพอจะถือว่าเป็นส่วนหนึ่งแห่งคำฟ้อง ดังนี้ ถือว่า ฟ้องของโจทก์ไม่สมบูรณ์ ลงโทษจำเลยไม่ได้
ฟ้องของโจทก์มิได้กล่าวถึงประกาศของคณะกรรมการ และมิได้ยื่นสำเนาประกาศมาท้ายคำฟ้อง ซึ่งพอจะถือว่าเป็นส่วนหนึ่งแห่งคำฟ้อง ดังนี้ ถือว่า ฟ้องของโจทก์ไม่สมบูรณ์ ลงโทษจำเลยไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 402-405/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแจ้งปริมาณข้าวเปลือก: เจตนาฝ่าฝืนและความแตกต่างของกฎหมาย
คณะกรรมการจังหวัดได้ออกประกาศให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองข้าวเปลือก ไปแจ้งปริมาณสถานที่เก็บ ตามอำนาจในพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภคนั้น แม้เรื่องการแจ้งปริมาณและสถานที่เก็บข้าวจะมีบัญญัติไว้แล้วในพระราชบัญญัติสำรวจห้ามกักกันข้าวซึ่งออกใช้ภายหลังก็ดีศาลก็จะใช้ พระราชบัญญัติสำรวจและห้ามกักกันข้าวแทนพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภค ฯลฯ ไม่ได้ เพราะกฎหมายทั้งสองนี้มีความมุ่งหมายต่างกัน
ผู้ที่ไม่แจ้งปริมาณและสถานที่เก็บตามประกาศของคณะกรรมการจังหวัดซึ่งออกโดยอาศัยอำนาจตามความในพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภคฯลฯ นั้น ถ้าไม่ทราบประกาศดังกล่าวแล้วนั้นก็ถือว่าไม่มีเจตนาฝ่าฝืน ยังไม่ผิด
คดีที่จำเลยรับสารภาพตามฟ้อง หากโจทก์ต้องสืบพยานประกอบคำรับ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 176 เมื่อพยานที่นำสืบกลับฟังไม่ได้ว่าจำเลยได้กระทำผิดเช่นนี้ศาลย่อมพิพากษายกฟ้องได้
ผู้ที่ไม่แจ้งปริมาณและสถานที่เก็บตามประกาศของคณะกรรมการจังหวัดซึ่งออกโดยอาศัยอำนาจตามความในพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภคฯลฯ นั้น ถ้าไม่ทราบประกาศดังกล่าวแล้วนั้นก็ถือว่าไม่มีเจตนาฝ่าฝืน ยังไม่ผิด
คดีที่จำเลยรับสารภาพตามฟ้อง หากโจทก์ต้องสืบพยานประกอบคำรับ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 176 เมื่อพยานที่นำสืบกลับฟังไม่ได้ว่าจำเลยได้กระทำผิดเช่นนี้ศาลย่อมพิพากษายกฟ้องได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 594/2489
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สำคัญผิดในข้อเท็จจริงเกี่ยวกับขอบเขตใบอนุญาตขนสุรา ทำให้ไม่มีเจตนาฝ่าฝืนกฎหมาย จึงไม่มีความผิด
ขนสุราไปต่างตำบลผิดจากใบอนุญาต โดยเข้าใจผิดว่าใบอนุญาตให้ขนไปยังตำบลนั้นได้ ดังนี้ ไม่มีความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 990/2485 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้เรือฝ่าฝืนเงื่อนไขใบอนุญาตและการรับผิดตาม พ.ร.บ.เดินเรือในน่านน้ำไทย
เมื่อกดหมายบัญญัติเพียงว่าไช้เรือโดยมิได้รับอนุญาตโดยถูกต้องตามกดหมายเปนความผิด แต่ปรากตไนไบอนุญาตว่าจะไช้เรือรับส่งคนโดยสารและลากจูงทั้งสองหย่างไม่ได้ เช่นนี้ย่อมลงโทสจำเลยได้ตามพ.ร.บ. เดินเรือไนน่านน้ำไทยฉบับที่ 6 พ.ส. 2481 ม.9 ไม่เปนการนอกฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1019/2480
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจำหน่ายสุราต่ำกว่าปริมาณที่ใบอนุญาตกำหนด ถือเป็นการฝ่าฝืนใบอนุญาต
จำเลยได้รับใบอนุญาตจำหน่ายน้ำสุราประเภทที่ 1 ขายสุราไปครั้งหนึ่งต่ำกว่า 10 ลิตร์ ต้องถือว่าจำหน่ายน้ำสุราผิดไปจากใบอนุญาตมีผิดตามกฎหมายข้างต้น
ประมวลวิธีพิจารณาอาญา ม. 218 - 222 ศาลขั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาต้องกันให้ปรับจำเลย 321 บาท จำเลยฎีกาได้ฉะเพาะปัญหาข้อ++++
ประมวลวิธีพิจารณาอาญา ม. 218 - 222 ศาลขั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาต้องกันให้ปรับจำเลย 321 บาท จำเลยฎีกาได้ฉะเพาะปัญหาข้อ++++
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3642/2554
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของกรรมการบริษัทต่อการฝ่าฝืน พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร แม้พ้นจากตำแหน่งแล้ว
จำเลยที่ 1 เป็นนิติบุคคลซึ่งเป็นเพียงบุคคลสมมุติโดยอาศัยอำนาจของกฎหมายจะดำเนินหรือปฏิบัติงานตามวัตถุประสงค์ของบริษัทด้วยตนเองไม่ได้ต้องกระทำโดยผู้แทน ขณะเกิดเหตุจำเลยที่ 2 เป็นกรรมการผู้มีอำนาจของจำเลยที่ 1 จึงเป็นผู้รับผิดชอบในการดำเนินหรือปฏิบัติงานของจำเลยที่ 1 เมื่อจำเลยที่ 2 ให้การรับสารภาพ ข้อเท็จจริงจึงฟังได้ตามฟ้องว่า จำเลยที่ 2 ร่วมกระทำความผิดกับจำเลยที่ 1 ด้วยและการกระทำของจำเลยที่ 2 ก็ยังเป็นความผิดตลอดเวลาที่ยังไม่มีการปฏิบัติให้ถูกต้องตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 แม้จำเลยที่ 2 จะไม่ได้เป็นกรรมการผู้มีอำนาจของจำเลยที่ 1 ตั้งแต่วันที่ 28 พฤษภาคม 2547 อันเป็นเวลาหลังจากเกิดเหตุแล้วก็ตาม แต่ก็หาเป็นเหตุให้มีผลลบล้างความรับผิดของจำเลยที่ 2 ในขณะเกิดเหตุไม่ หากจำเลยที่ 2 ต้องเสียหายจากการที่ยังไม่มีการปฏิบัติให้ถูกต้องดังกล่าวหลังจากนั้นอย่างไรก็ชอบที่จะไปว่ากล่าวเอาแก่จำเลยที่ 1 เป็นอีกส่วนหนึ่งต่างหาก ดังนั้นจำเลยที่ 2 ต้องชำระค่าปรับตลอดเวลาที่ฝ่าฝืนจนกว่าจะได้ปฏิบัติให้ถูกต้อง