คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
พยานเอกสาร

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 124 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2251/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนำสืบพยานเอกสารหลังหมดกำหนด – พยานประกอบคำถามค้าน
หลังจากที่จำเลยซึ่งมีหน้าที่นำสืบก่อนสืบพยานเสร็จและแถลงหมดพยานแล้ว จำเลยยื่นเอกสารในระหว่างถามค้านตัวโจทก์ที่อ้างตนเองเป็นพยานอีก เมื่อโจทก์รับรองเอกสารนั้น จำเลยย่อมอ้างเป็นพยานหลักฐานประกอบคำของโจทก์ได้ เพราะพยานเอกสารดังกล่าวมิใช่เป็นพยานหลักฐานสนับสนุนข้ออ้างหรือข้อเถียงของจำเลยซึ่งจะต้องดำเนินการตามหลักเกณฑ์และขั้นตอนของกฎหมาย จำเลยจึงไม่ต้องยื่นคำร้องต่อศาล อ้างเหตุถึงการไม่สามารถยื่นบัญชีระบุพยานได้ภายในกำหนด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1958/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับฟังพยานเอกสารที่ชำระค่าเอกสารภายหลังคำพิพากษา ศาลฎีกาพิจารณาจากเจตนาในการแก้ไขข้อหลงลืม
โจทก์ชำระค่าอ้างเอกสารภายหลังที่ศาลชั้นต้นพิพากษาแล้วแต่ก่อนที่จำเลยจะฟ้องอุทธรณ์ แสดงว่าโจทก์ประสงค์ให้ศาลชั้นต้นรับฟังเป็นพยานเอกสารและได้แก้ไขข้อหลงลืมแล้ว ไม่ทำให้การรับฟังพยานเอกสารของโจทก์ถึงกับเสียไป ศาลฎีกาย่อมรับฟังพยานเอกสารดังกล่าวของโจทก์มาประกอบการวินิจฉัยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4177/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับฟังพยานเอกสารและการผูกพันตามฐานตัวแทนเมื่อมีการชำระหนี้ผ่านตัวแทน
จำเลยที่ 1 ยื่นบัญชีระบุเอกสารหมาย ล.1 เป็นพยานไว้แล้วตามบัญชีระบุพยานฉบับลงวันที่ 15 สิงหาคม 2528 ส่วนที่จำเลยที่ 1ยื่นคำร้องขอระบุเอกสารหมาย ล.1 เป็นพยานเพิ่มเติมตามคำร้องและบัญชีพยานฉบับลงวันที่ 20 ธันวาคม 2528 ซึ่งศาลชั้นต้นไม่อนุญาตนั้น เป็นการยื่นบัญชีระบุพยานมาซ้ำซ้อน ทั้งตามคำร้องของจำเลยที่ 1 ดังกล่าวเป็นเรื่องที่จำเลยที่ 1 ขอส่งต้นฉบับเอกสารหมาย ล.1 ต่อศาลเพราะจำเลยที่ 1 ไม่สามารถนำจำเลยที่ 2 มาสืบประกอบกับพยานเอกสารนั้นได้ กรณีเช่นนี้อยู่ในดุลพินิจของศาลว่าจะรับฟังพยานเอกสารดังกล่าวหรือไม่ มิใช่ว่าเอกสารดังกล่าวเป็นเอกสารที่ได้ยื่นต่อศาลโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายจึงรับฟังไม่ได้ สัญญาที่โจทก์ตั้งจำเลยที่ 2 เป็นผู้แทนจำหน่ายรถแทรกเตอร์ให้โจทก์ มีข้อความในข้อ 9 ค. ระบุว่า "เมื่อผู้จำหน่ายได้เงินค่าเช่าซื้อจากลูกค้าแล้วจะต้องรีบส่งเงินจำนวนนั้นทั้งหมดให้แก่บริษัท พร้อมรายละเอียดโดยครบถ้วนภายใน 5 วัน นับแต่วันที่ผู้จำหน่ายได้รับจากลูกค้า" ย่อมถือได้ว่า นอกจากโจทก์จะตั้งจำเลยที่ 2 เป็นผู้จำหน่ายแล้ว ยังให้จำเลยที่ 2 เป็นตัวแทนรับเงินจากลูกค้าของโจทก์ได้ด้วย การรับเงินค่ารถแทรกเตอร์ของจำเลยที่ 2ไว้จากจำเลยที่ 1 จึงเป็นการปฏิบัติการไปภายในขอบอำนาจแห่งฐานตัวแทน โจทก์ซึ่งเป็นตัวการต้องผูกพันต่อการชำระหนี้ดังกล่าวตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 820

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2398/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การงดสืบพยานและการรับฟังพยานเอกสาร: ศาลชอบที่จะงดสืบพยานจำเลยหากจำเลยขอเลื่อนเอง และการชำระค่าเอกสารเป็นหน้าที่ตามกฎหมาย
นัดก่อนจำเลยแถลงว่ามีพยานมาศาลเท่านี้ ขอเลื่อนคดีไป และพยานจำเลยคงเหลือ 2 ปาก นัดหน้าจะสืบเสร็จ ศาลชั้นต้นอนุญาตให้เลื่อนคดี นัดต่อมาจำเลยสืบพยานได้อีก 2 ปากแล้ว แถลงขอเลื่อนคดีเพื่อสืบพยานอีกโจทก์แถลงคัดค้าน ดังนี้ ศาลชั้นต้นย่อมชอบที่จะสั่งงดสืบพยานจำเลย เพราะจำเลยแถลงขอสืบต่อไปเพียง2 ปากเท่านั้น การเสียค่าอ้างเอกสารตามตาราง 2 ท้าย ป.วิ.พ. นั้นเป็นค่าธรรมเนียมอย่างหนึ่ง ซึ่งกฎหมายกำหนดให้มีหน้าที่ชำระตั้งแต่เมื่อส่งเอกสารเป็นต้นไปมิใช่ว่าหากไม่ชำระค่าอ้างเอกสารทันทีแล้วจะรับฟังเอกสารนั้น ๆ ไม่ได้ ผู้อ้างเอกสารย่อมมีโอกาสเสียค่าอ้างเอกสารได้เสมอ เมื่อโจทก์เสียค่าอ้างเอกสารจึงรับฟังเอกสารดังกล่าวเป็นพยานได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1946/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การมอบอำนาจฟ้องคดี: พยานเอกสารไม่ตรงกับคำฟ้อง และการนำสืบพยานบุคคลแทนเอกสาร
โจทก์มอบอำนาจให้ อ. ฟ้องคดีแทนโดยแนบภาพถ่ายหนังสือมอบอำนาจมาท้ายฟ้อง แต่กลับนำสืบว่าภาพถ่ายหนังสือมอบอำนาจท้ายฟ้องมิใช่ภาพถ่ายหนังสือมอบอำนาจให้ฟ้องคดีนี้ เป็นภาพถ่ายหนังสือมอบอำนาจให้ฟ้องคดีอื่น ส่วนภาพถ่ายหนังสือมอบอำนาจให้ฟ้องคดีนี้โจทก์ได้แนบไปท้ายฟ้องคดีอื่นสลับกัน โดยโจทก์นำสืบต้นฉบับหนังสือมอบอำนาจทั้งสองฉบับประกอบคำเบิกความของ อ. ว่าโจทก์มอบอำนาจให้ อ. ฟ้องคดีนี้จริง เช่นนี้ ภาพถ่ายหนังสือมอบอำนาจท้ายฟ้องและต้นฉบับย่อมมิใช่หนังสือมอบอำนาจให้ฟ้องคดีนี้ส่วนต้นฉบับหนังสือมอบอำนาจให้ฟ้องคดีนี้ก็มิได้มีการส่งสำเนาล่วงหน้าตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 90 จึงรับฟังเป็นพยานหลักฐานไม่ได้ โจทก์จึงไม่มีพยานเอกสารมาแสดงให้เห็นถึงการมอบอำนาจให้ฟ้องคดีนี้ ทั้งคำเบิกความของ อ. ก็เป็นพยานบุคคลจะรับฟังแทนเอกสารมิได้ ต้องห้ามตามมาตรา 94(ก) ประกอบมาตรา 60 วรรคสอง จึงฟังไม่ได้ว่าโจทก์มอบอำนาจให้ อ. ฟ้องคดีนี้แทนโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5519/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจประเมินภาษีหลังการแบ่งส่วนราชการ และการรับฟังพยานเอกสาร การประเมินภาษีที่ถูกต้องตามกฎหมาย
พ.เจ้าหน้าที่ตรวจสอบภาษี 7 ได้รับคำสั่งกรมสรรพากรให้ปฏิบัติหน้าที่ตรวจสอบและประเมินภาษีอากรประจำสำนักงานภาษีสรรพากรเขตพื้นที่ 8 อันเป็นสำนักงานที่จัดตั้งขึ้นตามพระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการกรมสรรพากร กระทรวงการคลัง พ.ศ. 2515 ย่อมถือว่าเป็นเจ้าพนักงานประเมินผู้ได้รับแต่งตั้งจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ตามประกาศกระทรวงการคลังว่าด้วยการแต่งตั้งเจ้าพนักงาน (ฉบับที่ 121) เรื่อง ประกาศยกเลิกและแต่งตั้งเจ้าพนักงานตามประมวลรัษฎากร ที่กำหนดให้ข้าราชการพลเรือนสามัญตั้งแต่ระดับ 3 ขึ้นไปเป็นเจ้าพนักงานประเมิน การแบ่งส่วนราชการภายในของกรมสรรพากรเป็นเรื่องการบริหารราชการแผ่นดิน เพื่อให้เกิดความคล่องตัวมีประสิทธิภาพและเหมาะสมกับสภาพในปัจจุบันไม่กระทบถึงอำนาจหน้าที่ในการตรวจสอบภาษีที่ทำต่อเนื่องกันมา ดังนั้น เมื่อกองภาษีการค้าซึ่งเป็นหน่วยงานดูแลรับผิดชอบเกี่ยวกับภาษีของโจทก์ถูกยุบเลิกไป โดยมีการจัดตั้งสำนักงานภาษีสรรพากรเขตพื้นที่ขึ้นมาแทน และปรากฏว่าภูมิลำเนาและสถานที่ประกอบการค้าของโจทก์อยู่ภายในเขตพื้นที่รับผิดชอบของสำนักงานภาษีสรรพากรเขตพื้นที่ 7 แต่กรมสรรพากรมีคำสั่งให้ ว.ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานตรวจสอบภาษีภายในของโจทก์อยู่เดิมมีอำนาจตรวจสอบภาษีของโจทก์ต่อไป แม้ ว.จะได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าหน้าที่ตรวจสอบภาษีของสำนักงานภาษีสรรพากรเขตพื้นที่ 8 ก็มีอำนาจตรวจสอบภาษีของโจทก์ได้ ภาพถ่ายจากต้นฉบับเอกสารที่อยู่ในความอารักขาหรือในความควบคุมของทางราชการเป็นสำเนาเอกสารที่ต้องมีบุคคลดังที่ระบุไว้ในมาตรา 93(3) แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งรับรองความถูกต้องจึงจะรับฟังได้ แต่เมื่อจำเลยอ้างส่งสำเนาเอกสารดังกล่าวต่อศาลโดยโจทก์มิได้คัดค้านว่าต้นฉบับเอกสารไม่มี หรือเอกสารนั้นปลอมหรือสำเนาไม่ถูกต้องเช่นนี้ ศาลภาษีอากรกลางจึงมีอำนาจรับฟังสำเนาเอกสารนั้นได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 125 ประกอบด้วยพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลภาษีอากรและวิธีพิจารณาคดีภาษีอากรพ.ศ. 2528 มาตรา 17 โจทก์มีรายได้จากการประกอบกิจการ แต่ไม่มีหลักฐานแสดงการจ่ายของโจทก์ ซึ่งต้องถือว่าโจทก์มีเงินกำไรสุทธิที่จะต้องเสียภาษีตามจำนวนที่เป็นรายรับของโจทก์ การที่เจ้าพนักงานประเมินนำข้อมูลจากหน่วยงานที่ควบคุมการทำงานของโจทก์มาคำนวณกำไรสุทธิด้วยการหักค่าใช้จ่ายให้แก่โจทก์รวมจำนวนถึงร้อยละ 80ซึ่งเป็นการกระทำโดยมีเหตุสมควรและเป็นธรรมแก่โจทก์เจ้าพนักงานประเมินจึงมีอำนาจกระทำได้ โจทก์เพิกเฉยไม่ให้ความร่วมมือในการตรวจสอบภาษีของจำเลยเมื่อถูกประเมินก็ไม่ยอมมารับผลการประเมินโดยอ้างว่าสถานที่ประกอบการค้าของโจทก์ไม่ได้อยู่ในเขตรับผิดชอบของสำนักงานภาษีสรรพากรเขตพื้นที่ 8 จึงไม่ไปรับทราบผลการประเมินเช่นนี้ ย่อมไม่มีเหตุจะงดหรือลดเบี้ยปรับและเงินเพิ่ม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5268/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับช่วงสิทธิในสัญญาประกันภัย และการรับฟังพยานเอกสารที่มิได้ปิดอากรแสตมป์
หนังสือมอบอำนาจให้รับเงินแทนและใบรับเงินของผู้ซ่อมรถเป็นตราสารที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องปิดอากรแสตมป์ ตามบัญชีอัตราอากรแสตมป์ท้ายหมวด 6 แห่งประมวลรัษฎากรข้อ 6 และ ข้อ 28ตามลำดับ แม้เอกสารดังกล่าวมิได้ปิดอากรแสตมป์ก็นำมารับฟังประกอบพยานบุคคลว่ามีการจ่ายเงินแล้วได้ เงื่อนไขตามสัญญาประกันภัยเป็นข้ออ้างของคู่สัญญาที่จะปฏิบัติต่อกันหรือลดหย่อนผ่อนกันได้โดยหลักประนีประนอม คู่กรณีเท่านั้นที่จะยกเป็นข้อต่อสู้ระหว่างกัน บุคคลอื่นหา ยก ขึ้นกล่าวอ้างได้ไม่ จำเลยซึ่งเป็นผู้ทำละเมิดจึงไม่อาจยกขึ้นต่อสู้ว่าโจทก์ที่ 1 ผู้รับประกันภัยจ่ายค่าทดแทนไปโดยผิดเงื่อนไขในสัญญาประกันภัย เมื่อโจทก์ที่ 1 จ่ายค่าทดแทนไปโดยสุจริตมิได้มีการสมยอมกับผู้เอาประกันภัย ย่อมมีสิทธิเข้ารับช่วงสิทธิของผู้เอาประกันภัยได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2732/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองที่ดินพิพาท: ศาลรับฟังพยานเอกสารแม้ไม่ส่งให้คู่ความก่อน แต่เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม
พยานเอกสารของจำเลยแม้เป็นเพียงภาพถ่าย แต่ตรงกับเอกสารที่ส่งมาตามหนังสือของสำนักงานที่ดินตามที่จำเลยขอให้ศาลมีคำสั่งเรียก ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้รับรองสำเนาถูกต้องแล้วและแม้จำเลยมิได้ส่งสำเนาเอกสารดังกล่าวให้โจทก์ก่อนวันสืบพยานไม่น้อยกว่าสามวันก็ตาม แต่เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมศาลย่อมรับฟังเอกสารดังกล่าวได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3048/2533 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าอ้างเอกสารที่ค้างชำระไม่ทำให้การรับฟังพยานเอกสารเสียไป หากมีการแก้ไขก่อนยื่นอุทธรณ์
โจทก์ลืมเสียค่าอ้างเอกสารและศาลชั้นต้นก็มิได้สั่งให้โจทก์จัดการชำระค่าอ้างเอกสารนั้น การที่โจทก์ทราบภายหลังที่ศาลชั้นต้นพิพากษาคดีแล้วและโจทก์ได้จัดการชำระค่าอ้างเอกสารขณะโจทก์ยื่นคำแก้อุทธรณ์ นับว่าโจทก์ได้จัดการแก้ไขข้อหลงลืมแล้ว ไม่ทำให้การรับฟังพยานเอกสารของโจทก์เสียไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3046/2533 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับฟังพยานเอกสารในสำนวนความ: ดุลพินิจศาลไม่ต้องยึดโยงกับผู้ระบุอ้าง
เมื่อเอกสารที่ใช้ในการวินิจฉัยคดีรวมอยู่ในสำนวนคดีที่จำเลยระบุอ้างเป็นพยานเอกสารนั้นจึงเข้าสู่สำนวนความของศาลโดยถูกต้อง การที่ศาลจะฟังและเชื่อพยานหลักฐานในส่วนไหนอย่างไรในสำนวนเป็นดุลพินิจของศาล ไม่จำเป็นว่าคู่ความที่ได้รับประโยชน์จากเอกสารนั้นจะต้องเป็นฝ่ายระบุอ้างและนำเข้าสู่สำนวนความ
of 13