พบผลลัพธ์ทั้งหมด 274 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7137/2541 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการขอพิจารณาคดีใหม่: คุณสมบัติคู่ความและเหตุขาดนัด
ผู้ที่จะมีสิทธิยื่นคำขอให้พิจารณาคดีใหม่ตาม ป.วิ.พ.มาตรา 207ได้นั้น จะต้องเป็นคู่ความและเป็นคู่ความฝ่ายที่ถูกศาลแสดงว่าขาดนัดพิจารณา และการขาดนัดพิจารณาเป็นเหตุให้ศาลได้มีคำพิพากษาหรือคำสั่งให้ฝ่ายที่ขาดนัดนั้นแพ้คดีในประเด็นข้อพิพาทด้วย
คดีนี้ศาลชั้นต้นได้ทำการไต่สวนเป็นคดีไม่มีข้อพิพาท และมีคำสั่งให้ผู้ร้องทั้งสองได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินที่ครอบครองตาม ป.พ.พ.มาตรา 1382 ไปแล้ว คดีจึงไม่มีประเด็นข้อพิพาท ผู้คัดค้านไม่ได้เป็นผู้ยื่นคำฟ้องหรือถูกฟ้องต่อศาล ผู้คัดค้านจึงไม่ใช่บุคคลที่เป็นคู่ความในคดีนี้ตาม ป.วิ.พ.มาตรา 1 (11) และผู้คัดค้านไม่ได้ถูกศาลแสดงว่าขาดนัดพิจารณาและมีคำพิพากษาหรือคำสั่งให้ผู้คัดค้านแพ้คดีในประเด็นที่พิพาทผู้คัดค้านจึงไม่มีสิทธิขอให้พิจารณาคดีใหม่
คดีนี้ศาลชั้นต้นได้ทำการไต่สวนเป็นคดีไม่มีข้อพิพาท และมีคำสั่งให้ผู้ร้องทั้งสองได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินที่ครอบครองตาม ป.พ.พ.มาตรา 1382 ไปแล้ว คดีจึงไม่มีประเด็นข้อพิพาท ผู้คัดค้านไม่ได้เป็นผู้ยื่นคำฟ้องหรือถูกฟ้องต่อศาล ผู้คัดค้านจึงไม่ใช่บุคคลที่เป็นคู่ความในคดีนี้ตาม ป.วิ.พ.มาตรา 1 (11) และผู้คัดค้านไม่ได้ถูกศาลแสดงว่าขาดนัดพิจารณาและมีคำพิพากษาหรือคำสั่งให้ผู้คัดค้านแพ้คดีในประเด็นที่พิพาทผู้คัดค้านจึงไม่มีสิทธิขอให้พิจารณาคดีใหม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7137/2541
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในการขอพิจารณาคดีใหม่ต้องเป็นคู่ความที่ถูกศาลแสดงว่าขาดนัดและมีคำพิพากษาถึงที่สุด
ผู้ที่จะมีสิทธิยื่นคำขอให้พิจารณาคดีใหม่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 207 ได้นั้นจะต้องเป็นคู่ความและเป็นคู่ความฝ่ายที่ถูกศาลแสดงว่าขาดนัดพิจารณา และการขาดนัดพิจารณาเป็นเหตุให้ศาลได้มีคำพิพากษาหรือคำสั่งให้ฝ่ายที่ขาดนัดนั้นแพ้คดีในประเด็นข้อพิพาทด้วย คดีนี้ศาลชั้นต้นได้ทำการไต่สวนเป็นคดีไม่มีข้อพิพาทและมีคำสั่งให้ผู้ร้องทั้งสองได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินที่ครอบครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382ไปแล้ว คดีจึงไม่มีประเด็นข้อพิพาท ผู้คัดค้านไม่ได้เป็นผู้ยื่นคำฟ้องหรือถูกฟ้องต่อศาล ผู้คัดค้านจึงไม่ใช่บุคคลที่เป็นคู่ความในคดีนี้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 1(11) และผู้คัดค้านไม่ได้ถูกศาลแสดงว่าขาดนัดพิจารณาและมีคำพิพากษาหรือคำสั่งให้ผู้คัดค้านแพ้คดีในประเด็นที่พิพาทผู้คัดค้านจึงไม่มีสิทธิขอให้พิจารณาคดีใหม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5698/2541 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การส่งหมายเรียกที่ไม่ชอบ และสิทธิในการขอให้พิจารณาคดีใหม่เมื่อมีเหตุผลที่อาจชนะคดี
จำเลยทั้งสองได้ย้ายไปจากบ้านเลขที่ 252 ไปมีภูมิลำเนาอยู่ที่อื่นแล้ว บ้านเลขที่ดังกล่าวจึงมิใช่ภูมิลำเนาของจำเลยทั้งสอง โดยมิพักต้องคำนึงว่าจำเลยทั้งสองย้ายไปอยู่ที่อื่นด้วยเหตุผลใด และการที่ยังมีชื่อของจำเลยทั้งสองในทะเบียนบ้านดังกล่าวด้วยเหตุผลเพียงไม่ได้แจ้งย้ายชื่อออกไปเพียงอย่างเดียวย่อมไม่ทำให้บ้านหลังดังกล่าวยังคงเป็นภูมิลำเนาของจำเลยทั้งสอง เหตุนี้การส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องและหมายนัดสืบพยานของโจทก์ให้แก่จำเลยทั้งสองที่บ้านเลขที่ 252 จึงเป็นการไม่ชอบ และย่อมไม่มีทางที่จำเลยทั้งสองจะทราบว่าตนได้ถูกโจทก์ฟ้อง การที่จำเลยทั้งสองไม่ได้ยื่นคำให้การต่อสู้คดีและไม่ได้มาศาลในวันนัดสืบพยาน จะถือว่าจำเลยทั้งสองจงใจขาดนัดยื่นคำให้การหรือจงใจขาดนัดพิจารณาย่อมไม่ได้ เมื่อคดีไม่ปรากฏว่าก่อนที่จำเลยทั้งสองจะยื่นคำร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่นั้นได้มีการออกคำบังคับและส่งคำบังคับให้แก่จำเลยทั้งสองให้ปฏิบัติตามคำพิพากษา จึงยังไม่มีวันเริ่มต้นและวันสิ้นสุดที่จะนับกำหนดระยะเวลาในการยื่นคำร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208จำเลยทั้งสองจึงมีสิทธิยื่นคำร้องขอให้พิจารณาใหม่ได้
คำร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่ของจำเลยทั้งสองอ้างว่าจำเลยทั้งสองมีทางชนะคดีโจทก์ เพราะความจริงจำเลยทั้งสองเป็นผู้ซื้อที่ดินตามที่โจทก์ฟ้องแต่เพียงฝ่ายเดียว โจทก์มิได้เกี่ยวข้อง จำเลยทั้งสองมิได้เป็นตัวแทนของโจทก์ โจทก์และจำเลยทั้งสองมิได้มีนิติสัมพันธ์ใด ๆ ต่อกัน และได้แสดงเหตุผลต่าง ๆ ว่าข้อเท็จจริงมิได้เป็นไปตามที่โจทก์ฟ้อง และปรากฏตามสำเนาหนังสือสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินท้ายฟ้องของโจทก์ว่ามีแต่เฉพาะจำเลยทั้งสองเพียงฝ่ายเดียวที่เป็นฝ่ายซื้อที่ดินตามที่โจทก์ฟ้อง ไม่ปรากฏชื่อโจทก์เป็นผู้ซื้อด้วยเลย ถือได้ว่าจำเลยทั้งสองได้กล่าวโดยละเอียดชัดแจ้งถึงเหตุที่จำเลยทั้งสองจะชนะคดีโจทก์หรืออีกนัยหนึ่งเท่ากับจำเลยทั้งสองคัดค้านว่า คำพิพากษาของศาลที่ให้โจทก์ชนะคดีจำเลยทั้งสองโดยฟังข้อเท็จจริงตามคำฟ้องของโจทก์เป็นการไม่ถูกต้องนั่นเองคำร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่ของจำเลยทั้งสองจึงชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208
คำร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่ของจำเลยทั้งสองอ้างว่าจำเลยทั้งสองมีทางชนะคดีโจทก์ เพราะความจริงจำเลยทั้งสองเป็นผู้ซื้อที่ดินตามที่โจทก์ฟ้องแต่เพียงฝ่ายเดียว โจทก์มิได้เกี่ยวข้อง จำเลยทั้งสองมิได้เป็นตัวแทนของโจทก์ โจทก์และจำเลยทั้งสองมิได้มีนิติสัมพันธ์ใด ๆ ต่อกัน และได้แสดงเหตุผลต่าง ๆ ว่าข้อเท็จจริงมิได้เป็นไปตามที่โจทก์ฟ้อง และปรากฏตามสำเนาหนังสือสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินท้ายฟ้องของโจทก์ว่ามีแต่เฉพาะจำเลยทั้งสองเพียงฝ่ายเดียวที่เป็นฝ่ายซื้อที่ดินตามที่โจทก์ฟ้อง ไม่ปรากฏชื่อโจทก์เป็นผู้ซื้อด้วยเลย ถือได้ว่าจำเลยทั้งสองได้กล่าวโดยละเอียดชัดแจ้งถึงเหตุที่จำเลยทั้งสองจะชนะคดีโจทก์หรืออีกนัยหนึ่งเท่ากับจำเลยทั้งสองคัดค้านว่า คำพิพากษาของศาลที่ให้โจทก์ชนะคดีจำเลยทั้งสองโดยฟังข้อเท็จจริงตามคำฟ้องของโจทก์เป็นการไม่ถูกต้องนั่นเองคำร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่ของจำเลยทั้งสองจึงชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5698/2541
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การส่งหมายเรียกที่ไม่ชอบตามภูมิลำเนาเดิมหลังย้ายออก และสิทธิในการขอพิจารณาคดีใหม่
จำเลยทั้งสองได้ย้ายไปจากบ้านเลขที่ 252 ไปมีภูมิลำเนา อยู่ที่อื่นแล้ว บ้านเลขที่ดังกล่าวจึงมิใช่ภูมิลำเนาของ จำเลยทั้งสอง โดยมิพักต้องคำนึงว่าจำเลยทั้งสองย้ายไป อยู่ที่อื่นด้วยเหตุผลใด และการที่ยังมีชื่อของจำเลยทั้งสอง ในทะเบียนบ้านดังกล่าวด้วยเหตุผลเพียงไม่ได้แจ้งย้ายชื่อ ออกไปเพียงอย่างเดียวย่อมไม่ทำให้บ้านหลังดังกล่าวยังคง เป็นภูมิลำเนาของจำเลยทั้งสอง เหตุนี้การส่งหมายเรียก และสำเนาคำฟ้องและหมายนัดสืบพยานของโจทก์ให้แก่จำเลยทั้งสองที่บ้านเลขที่ 252 จึงเป็นการไม่ชอบ และย่อมไม่มีทางที่จำเลยทั้งสองจะทราบว่าตนได้ถูกโจทก์ฟ้อง การที่จำเลยทั้งสองไม่ได้ยื่นคำให้การต่อสู้คดีและไม่ได้มาศาลในวันนัดสืบพยาน จะถือว่าจำเลยทั้งสองจงใจขาดนัดยื่นคำให้การหรือจงใจขาดนัดพิจารณาย่อมไม่ได้ เมื่อคดีไม่ปรากฏว่าก่อนที่จำเลยทั้งสองจะยื่นคำร้องขอให้พิจารณา คดีใหม่นั้นได้มีการออกคำบังคับและส่งคำบังคับให้แก่ จำเลยทั้งสองให้ปฏิบัติตามคำพิพากษา จึงยังไม่มีวันเริ่มต้น และวันสิ้นสุดที่จะนับกำหนดระยะเวลาในการยื่นคำร้องขอ ให้พิจารณาคดีใหม่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208 จำเลยทั้งสองจึงมีสิทธิยื่นคำร้องขอ ให้พิจารณาใหม่ได้ คำร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่ของจำเลยทั้งสองอ้างว่าจำเลยทั้งสองมีทางชนะคดีโจทก์ เพราะความจริงจำเลยทั้งสองเป็นผู้ซื้อที่ดินตามที่โจทก์ฟ้องแต่เพียงฝ่ายเดียว โจทก์มิได้เกี่ยวข้อง จำเลยทั้งสองมิได้เป็นตัวแทนของโจทก์ โจทก์และจำเลยทั้งสองมิได้มี นิติสัมพันธ์ใด ๆ ต่อกัน และได้แสดงเหตุผลต่าง ๆ ว่า ข้อเท็จจริงมิได้เป็นไปตามที่โจทก์ฟ้อง และปรากฏตามสำเนา หนังสือสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินท้ายฟ้องของโจทก์ว่ามีแต่เฉพาะ จำเลยทั้งสองเพียงฝ่ายเดียวที่เป็นฝ่ายซื้อที่ดิน ตามที่โจทก์ฟ้อง ไม่ปรากฏชื่อโจทก์เป็นผู้ซื้อด้วยเลยถือได้ว่าจำเลยทั้งสองได้กล่าวโดยละเอียดชัดแจ้งถึงเหตุ ที่จำเลยทั้งสองจะชนะคดีโจทก์หรืออีกนัยหนึ่งเท่ากับ จำเลยทั้งสองคัดค้านว่า คำพิพากษาของศาลที่ให้โจทก์ ชนะคดีจำเลยทั้งสองโดยฟังข้อเท็จจริงตามคำฟ้องของโจทก์ เป็นการไม่ถูกต้องนั้นเอง คำร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่ ของจำเลยทั้งสองจึงชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8407/2540
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการขอพิจารณาคดีใหม่ตามมาตรา 207 ว.พ.พ. ต้องเป็นคู่ความที่ถูกศาลสั่งให้แพ้คดีและถูกสั่งขาดนัด
ผู้ที่จะมีสิทธิร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 207 นั้น นอกจากจะต้องเป็นคู่ความฝ่ายที่ถูกศาลสั่งว่าขาดนัดพิจารณาแล้ว จะต้องปรากฏว่าศาลได้มีคำพิพากษาหรือคำสั่งให้แพ้คดีในประเด็นข้อพิพาทด้วย คดีนี้ผู้คัดค้านนำคำคัดค้านและขอเลื่อนคดีมายื่นต่อศาลชั้นต้นหลังจากที่ศาลได้อ่านรายงานกระบวนพิจารณาและมีคำสั่งว่าผู้ร้องเป็นบุตรชายด้วย กฎหมายของผู้ตายเสร็จสิ้นไปก่อนแล้ว การที่ศาลมีคำสั่งไม่รับคำคัดค้านและไม่อนุญาตให้เลื่อนคดี คดีนี้จึงยังคงเป็นคดีไม่มีข้อพิพาทและไม่มีประเด็นข้อพิพาท เมื่อผู้คัดค้านมิได้ถูกศาลสั่งว่าขาดนัดพิจารณา และศาลมิได้มีคำพิพากษาหรือคำสั่งให้ผู้คัดค้านแพ้คดีในประเด็นข้อพิพาท ผู้คัดค้านจึงไม่มีสิทธิขอให้พิจารณาคดีใหม่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 207
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 794/2540
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแจ้งนัดพิจารณาคดีและการพิจารณาคำร้องขอพิจารณาคดีใหม่: การพิสูจน์การรับทราบวันนัดเป็นสาระสำคัญ
ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสถานที่ส่งหมายยังเป็นข้อโต้แย้งกันอยู่ซึ่งเป็นสาระสำคัญในอันที่จะวินิจฉัยว่าโจทก์ได้ทราบกำหนดวันนัดสืบพยานโจทก์หรือไม่หากฟังว่าโจทก์ไม่ทราบกำหนดวันนัดสืบพยานดังกล่าวกรณีก็ไม่อยู่ในบังคับที่โจทก์จะต้องขอให้ศาลยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่ภายใน15วันนับแต่วันที่ศาลยกฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา166วรรคสองประกอบมาตรา181ดังนั้นการที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้องโจทก์โดยถือว่าโจทก์ทราบวันนัดสืบพยานโจทก์แล้วและการที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่โดยมิได้ให้ศาลชั้นต้นไต่สวนพยานหลักฐานให้สิ้นกระแสความก่อนจึงเป็นการไม่ชอบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7413/2540
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาคดีใหม่: จำเลยปฏิเสธหนี้ค้ำประกัน และมีเหตุผลที่อาจชนะคดีได้ ศาลต้องพิจารณา
ตามคำร้องขอของจำเลยที่ขอให้ศาลยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่นั้นระบุว่า จำเลยเคยกู้เงินโจทก์เป็นการส่วนตัว และวางหนังสือรับรองการทำประโยชน์เพื่อประกันการชำระหนี้ของจำเลยต่อโจทก์ เมื่อจำเลยชำระหนี้ดังกล่าวแก่โจทก์แล้ว โจทก์บ่ายเบี่ยงไม่ยอมคืนหนังสือรับรองการทำประโยชน์แก่จำเลย จำเลยไม่เคยเกี่ยวข้องผูกพันเข้ารับภาระหนี้ใด ๆ ซึ่ง ม. จะมีต่อโจทก์หรือไม่ จำเลยไม่มีส่วนรู้เห็นด้วย ตามคำร้องขอของจำเลยแสดงให้เห็นแล้วว่า จำเลยได้ปฏิเสธว่ามิได้เป็นหนี้โจทก์ตามสัญญาค้ำประกันเงินกู้ ม. ดังคำวินิจฉัยของศาลชั้นต้นและตามคำร้องขอของจำเลยนี้ก็แสดงอยู่ในตัวว่าจำเลยมีทางชนะคดีในเมื่อมีการพิจารณาคดีใหม่ กรณีจึงถือได้ว่าคำร้องขอของจำเลยได้กล่าวโดยละเอียดชัดแจ้งซึ่งข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208 วรรคสอง ในอันที่ศาลจะสั่งให้มีการพิจารณาคดีใหม่ได้ ส่วนในชั้นไต่สวนคำร้องขอให้พิจารณาใหม่นั้น ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 209 วรรคหนึ่ง บัญญัติให้ศาลไต่สวนพิจารณาต่อไปเพียงว่า มีเหตุสมควรเชื่อว่า คู่ความฝ่ายที่ขาดนัดนั้นมาศาลไม่ได้หรือไม่เท่านั้น จำเลยจึงไม่ต้องนำสืบเกี่ยวกับข้อคัดค้านคำชี้ขาดของศาลชั้นต้นเพื่อให้เห็นว่าตนจะชนะคดีอย่างไรอีก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5020/2540 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขอพิจารณาคดีใหม่ต้องแสดงเหตุคัดค้านคำตัดสินชัดเจน
การขอให้พิจารณาใหม่ได้นั้นมีวัตถุประสงค์เพื่อก่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่คู่ความในคดี โดยฝ่ายที่ขาดนัดต้องยื่นคำขอภายในเวลาที่กำหนดและต้องกล่าวโดยละเอียดชัดแจ้งซึ่งเหตุที่จำเลยได้ขาดนัดและข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลตาม ป.วิ.พ.มาตรา 208 วรรคสอง แต่ตามคำร้องของจำเลยในคดีแรงงานเรื่องนี้ได้กล่าวไว้เฉพาะเหตุที่จำเลยขาดนัด ไม่ได้กล่าวเลยว่าหากมีการพิจารณาคดีใหม่แล้วจำเลยอาจชนะคดีได้อย่างไร จึงเป็นคำร้องที่มิได้กล่าวโดยชัดแจ้งซึ่งข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลแรงงาน ย่อมไม่ชอบด้วยบทบัญญัติของกฎหมายดังกล่าว ที่ศาลแรงงานมีคำสั่งยกคำร้องชอบแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5020/2540 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขอพิจารณาคดีใหม่ต้องแสดงเหตุขาดนัดและข้อคัดค้านคำพิพากษาชัดเจน
การขอให้พิจารณาใหม่ได้นั้นมีวัตถุประสงค์เพื่อก่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่คู่ความในคดี โดยฝ่ายที่ขาดนัดต้องยื่นคำขอภายในเวลาที่กำหนดและต้องกล่าวโดยละเอียดชัดแจ้งซึ่งเหตุที่จำเลยได้ขาดนัดและข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208 วรรคสองแต่ตามคำร้องของจำเลยในคดีแรงงานเรื่องนี้ได้กล่าวไว้เฉพาะเหตุที่จำเลยขาดนัด ไม่ได้กล่าวเลยว่าหากมีการพิจารณาคดีใหม่แล้วจำเลยอาจชนะคดีได้อย่างไร จึงเป็นคำร้องที่มิได้กล่าวโดยชัดแจ้งซึ่งข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลแรงงาน ย่อมไม่ชอบด้วยบทบัญญัติของกฎหมายดังกล่าวที่ศาลแรงงานมีคำสั่งยกคำร้องชอบแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5020/2540
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขอพิจารณาคดีใหม่ต้องแสดงเหตุขาดนัดและข้อคัดค้านคำตัดสินชัดเจน เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม
การขอให้พิจารณาใหม่ได้นั้นมีวัตถุประสงค์เพื่อก่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่คู่ความในคดีโดยฝ่ายที่ขาดนัดต้องยื่นคำขอภายในเวลาที่กำหนดและต้องกล่าวโดยละเอียดชัดแจ้งซึ่งเหตุที่จำเลยได้ขาดนัดและข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา208วรรคสองแต่ตามคำร้องของจำเลยในคดีแรงงานเรื่องนี้ได้กล่าวไว้เฉพาะเหตุที่จำเลยขาดนัดไม่ได้กล่าวเลยว่าหากมีการพิจารณาคดีใหม่แล้วจำเลยอาจชนะคดีได้อย่างไรจึงเป็นคำร้องที่มิได้กล่าวโดยชัดแจ้งซึ่งข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลแรงงานย่อมไม่ชอบด้วยบทบัญญัติของกฎหมายดังกล่าวที่ศาลแรงงานมีคำสั่งยกคำร้องชอบแล้ว