พบผลลัพธ์ทั้งหมด 102 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 284/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อพิพาทสิทธิซื้อขายที่ดินและโรงงานระหว่างหุ้นส่วน สิทธิเรียกร้องและค่าขึ้นศาล
โจทก์ฟ้องว่าโจทก์กับจำเลยทำสัญญาเข้าหุ้นส่วนกันซื้อที่ดินพร้อมโรงงานและสิ่งปลูกสร้าง โดยตกลงออกเงินกันคนละครึ่งจำเลยผิดสัญญาไม่ออกเงินส่วนของตน. โจทก์จึงบอกเลิกสัญญาเข้าหุ้นส่วนต่อจำเลยโดยถือว่าโจทก์มีสิทธิตามสัญญาซื้อขายแต่ผู้เดียว คำขอท้ายฟ้องของโจทก์มีอยู่ข้อหนึ่งว่า โจทก์เป็นผู้ซื้อและทำหนังสือสัญญาจะซื้อขายที่ดินและโรงงานกับผู้ขายแต่ผู้เดียว ห้ามจำเลยเกี่ยวข้อง เช่นนี้ฟังได้ว่าจำเลยได้โต้แย้งสิทธิของโจทก์ตามสัญญาจะซื้อขายที่ดินและโรงงานดังกล่าวแล้ว คำให้การจำเลยก็โต้แย้งว่าจำเลยไม่ได้ขอให้โจทก์จ่ายเงินทดรองและโจทก์ก็ไม่ได้จ่ายเงินทดรองแทนจำเลย เงินที่ชำระครั้งแรกกับที่ผ่อนชำระจำเลยได้ชำระครึ่งหนึ่งตามสัญญาตลอดมา จึงเป็นกรณีที่มีข้อโต้แย้งระหว่างโจทก์กับจำเลย หากพิจารณาได้ตามความที่โจทก์ฟ้อง ศาลก็บังคับตามคำขอของโจทก์ดังกล่าวได้ส่วนคำขออื่นซึ่งศาลบังคับให้ไม่ได้ หรือโจทก์ไม่มีสิทธิเรียกร้อง ศาลก็ชอบที่จะยกคำขอนั้น การงดสืบพยานจึงไม่ชอบ
โจทก์ฟ้องว่าโจทก์มีสิทธิแต่ผู้เดียวตามสัญญาจะซื้อขายที่ดินและโรงงานในราคา 3,400,000 บาท จำเลยให้การว่าจำเลยมีสิทธิตามสัญญาดังกล่าวครึ่งหนึ่งและจำเลยได้ชำระเงินตามสัญญาครึ่งหนึ่งตลอดมา ดังนี้ เป็นคดีมีทุนทรัพย์ โจทก์ต้องเสียค่าขึ้นศาลในจำนวนทุนทรัพย์ 1,700,000 บาท
โจทก์ฟ้องว่าโจทก์มีสิทธิแต่ผู้เดียวตามสัญญาจะซื้อขายที่ดินและโรงงานในราคา 3,400,000 บาท จำเลยให้การว่าจำเลยมีสิทธิตามสัญญาดังกล่าวครึ่งหนึ่งและจำเลยได้ชำระเงินตามสัญญาครึ่งหนึ่งตลอดมา ดังนี้ เป็นคดีมีทุนทรัพย์ โจทก์ต้องเสียค่าขึ้นศาลในจำนวนทุนทรัพย์ 1,700,000 บาท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1820/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หุ้นส่วนไม่ปรองดอง พิพาททางอาญา เป็นเหตุให้ห้างหุ้นส่วนเหลือวิสัยที่จะดำรงอยู่ได้
ห้างหุ้นส่วนจำกัดจำเลยที่ 1 มีผู้เป็นหุ้นส่วนสองคน คือโจทก์ซึ่งเป็นหุ้นส่วนจำพวกจำกัดความรับผิด และจำเลยที่ 2 เป็นหุ้นส่วนจำพวกไม่จำกัดความรับผิดและเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ โจทก์กล่าวหาว่าจำเลยที่ 2 ยักยอกทรัพย์ ของห้างหุ้นส่วน และจำเลยที่ 2 กล่าวหาว่าโจทก์ลักทรัพย์ของห้างหุ้นส่วน จนโจทก์และจำเลยที่ 2 ต่างถูกพนักงานอัยการฟ้องคดีอาญาในความผิดที่ต่างฝ่ายต่างกล่าวหาซึ่งกันและกัน พฤติการณ์ดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าผู้เป็นหุ้นส่วนไม่ปรองดองกัน ไม่ไว้วางใจซึ่งกันและกัน จึง เป็นกรณีที่มีเหตุทำให้ห้างหุ้นส่วนเหลือวิสัยที่จะดำรง คงอยู่ต่อไปได้ ศาลย่อมพิพากษาให้ห้างหุ้นส่วนเลิกกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2342/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิพาทระหว่างตัวการตัวแทน แม้ไม่มีเอกสารหลักฐานการมอบอำนาจ ก็รับฟังพยานบุคคลได้
โจทก์จำเลยมิได้พิพาทเกี่ยวกับหนี้ตามสัญญาซื้อขายอสังหาริมทรัพย์โดยอาศัยสัญญาตัวแทนเป็นมูลกรณี หากแต่เป็นเรื่องพิพาทระหว่างตัวการตัวแทนตามสัญญาตัวแทนโดยเฉพาะ แม้ไม่มีหลักฐานการตั้งตัวแทนเป็นหนังสือ ก็รับฟังพยานบุคคลได้ ไม่อยู่ในบังคับของ มาตรา798 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และการนำสืบของโจทก์ก็ไม่ใช่นำสืบแก้ไข เปลี่ยนแปลงข้อความในเอกสารอันเป็นการต้องห้ามตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1403/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การตั้งตัวแทนซื้อที่ดินโดยไม่ทำเป็นหนังสือ ไม่ขัดต่อประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 798 หากพิพาทระหว่างตัวการ-ตัวแทน
โจทก์ตั้งจำเลยเป็นตัวแทนซื้อที่ดิน โดยให้จำเลยออกเงินไปก่อน และลงชื่อในโฉนดแทน แม้การตั้งตัวแทนนั้นจะมิได้ทำเป็นหนังสือ โจทก์ก็มีอำนาจบังคับให้จำเลยโอนใส่ชื่อโจทก์ในที่ดินดังกล่าวได้ ไม่ขัดต่อประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 798 (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 493/2510)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1520/2519
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องขับไล่จากที่ดิน ค่าเช่าต่ำ มิใช่พิพาทกรรมสิทธิ์
ฟ้องขับไล่จากที่ดิน ค่าเช่าไม่เกินเดือนละ 5,000 บาท จำเลยเถียงว่าเป็นที่สาธารณะ มิใช่พิพาทกรรมสิทธิ์ที่ดิน ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้ขับไล่ จำเลยฎีกาข้อเท็จจริงไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1952/2517
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อพิพาทเรื่องกรรมสิทธิ์ที่ดินและการคิดค่าธรรมเนียมคดีมีทุนทรัพย์
โจทก์ฟ้องจำเลยขอให้แบ่งแยกโฉนดโดยอ้างว่าโจทก์มีกรรมสิทธิ์ที่ดิน 10 ไร่ 3 งานเศษ จำเลยต่อสู้ว่าโจทก์มีกรรมสิทธิ์เพียง 3 ไร่ 2 งาน 40 ตารางวา ประเด็นที่โต้เถียงกันมีว่า โจทก์เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินเนื้อที่เท่าใด จึงเป็นคดีที่มีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันอาจคำนวณเป็นราคาเงินได้รวมอยู่ด้วย โจทก์จึงต้องเสียค่าธรรมเนียมอย่างคดีมีทุนทรัพย์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 335/2516 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำ: คดีเดิมพิพาทกรรมสิทธิ์นา คดีหลังเรียกค่าเสียหายจากผลกระทบเดิม
คดีก่อนมีประเด็นในเรื่องที่โจทก์ขอให้ศาลแสดงกรรมสิทธิ์นาพิพาท ให้ขับไล่ และห้ามไม่ให้จำเลยเข้าไปเกี่ยวข้องกับนาพิพาทแม้คดีนี้จะมีประเด็นแต่เพียงเรื่องค่าสินไหมทดแทนก็ตาม แต่ประเด็นที่จะต้องพิจารณาก็เนื่องมาจากมูลฐานเดียวกัน โจทก์มีทางเรียกค่าสินไหมทดแทน สำหรับค่าเสียหายที่ได้เกิดขึ้นก่อนโจทก์ฟ้องคดีเรื่องก่อนและที่จะเกิดขึ้นต่อไป กรณีเช่นนี้ต้องด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 148 วรรคแรก ที่ห้ามมิให้คู่ความเดียวกันฟ้องกันอีก ฟ้องโจทก์คดีเรื่องนี้จึงเป็นฟ้องซ้ำกับฟ้องคดีเรื่องก่อน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 335/2516
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำ: คดีเดิมพิพาทกรรมสิทธิ์นา คดีหลังเรียกค่าเสียหายจากกรรมสิทธิ์เดียวกัน
คดีก่อนมีประเด็นในเรื่องที่โจทก์ขอให้ศาลแสดงกรรมสิทธิ์นาพิพาท ให้ขับไล่ และห้ามไม่ให้จำเลยเข้าไปเกี่ยวข้องกับนาพิพาท แม้คดีนี้จะมีประเด็นแต่เพียงเรื่องค่าสินไหมทดแทนก็ตาม แต่ประเด็นที่จะต้องพิจารณาก็เนื่องมาจากมูลฐานเดียวกัน โจทก์มีทางเรียกค่าสินไหมทดแทนสำหรับค่าเสียหายที่ได้เกิดขึ้นก่อนโจทก์ฟ้องคดีเรื่องก่อน และที่จะเกิดขึ้นต่อไป กรณีเช่นนี้ต้องด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 148 วรรคแรก ที่ห้ามมิให้คู่ความเดียวกันฟ้องกันอีก ฟ้องโจทก์คดีเรื่องนี้จึงเป็นฟ้องซ้ำกับฟ้องคดีเรื่องก่อน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 259/2516 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิครอบครองที่ดิน: พิพาทสิทธิครอบครองโดยตรง ไม่ใช่มรดก อายุความ 1 ปีไม่บังคับใช้
โจทก์ฟ้องว่า มารดายกที่สวน (ที่ดินมือเปล่า) ให้แก่โจทก์และมารดาได้ทำพินัยกรรมเอกสารฝ่ายเมืองยกที่ดินดังกล่าวให้แก่โจทก์อีกชั้นหนึ่ง โจทก์ได้ครอบครองตลอดมา เมื่อมารดาถึงแก่กรรมแล้วโจทก์ได้ขอจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมที่ดินดังกล่าว จำเลย(ซึ่งเป็นพี่ชาย) คัดค้านอ้างว่ามีส่วนเป็นเจ้าของด้วย จำเลยให้การต่อสู้ว่าบิดามารดายกที่พิพาทซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของที่ดินนั้นให้จำเลย จำเลยครอบครองมา ดังนี้ เป็นเรื่องพิพาทกันเกี่ยวกับสิทธิครอบครองโดยตรง จะนำอายุความ 1 ปี ซึ่งเป็นอายุความในเรื่องมรดกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1754มาใช้บังคับหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1287/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขอทำบัญชีทรัพย์สินมรดก: ศาลไม่คุ้มครองหากพิพาทอยู่ที่การเป็นผู้จัดการมรดก ไม่ใช่การแบ่งทรัพย์สิน
ในกรณีที่ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตาย และผู้คัดค้านก็ยื่นคำร้องคัดค้าน ขอให้ยกคำร้องของผู้ร้องและตั้งผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการมรดก ประเด็นแห่งข้อพิพาทจึงมีเพียงว่า ผู้ร้องหรือผู้คัดค้านสมควรเป็นผู้จัดการมรดก ฉะนั้น การที่ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้ผู้คัดค้านทำบัญชีทรัพย์สินมรดกของผู้ตาย จึงไม่เกียวกับประโยชน์ของผู้ร้องที่มีอยู่ในคดีอันจะพึงต้องให้ศาลมีคำสั่งกำหนดวิธีการเพื่อคุ้มครองในระหว่างการพิจารณา หรือเพื่อบังคับตามคำพิพากษา เพราะประโยชน์ของผู้ร้องอยู่ที่การจะได้เป็นผู้จัดการมรดกหรือไม่เท่านั้น ไม่ได้อยู่ที่การจะได้รับส่วนแบ่งในทรัพย์สินมรดกของผู้ตาย