คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
พิสูจน์สิทธิ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 55 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1711-1714/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนสิทธิและหน้าที่ตามสัญญาเช่า ผู้โอนต้องพิสูจน์สิทธิหากอ้างสิทธิภายหลัง
ผู้รับโอนตึกแถวย่อมได้รับทั้งสิทธิและหน้าที่ของผู้โอนรวมทั้งการเช่าระหว่างผู้โอนและผู้เช่าเดิมด้วย
ผู้โอนอ้างว่าตนกลับมีสิทธิในตึกนั้นใหม่อีก ก็ต้องนำสืบแสดงตามที่อ้าง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1711-1714/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนกรรมสิทธิ์และสิทธิเช่า: ผู้รับโอนย่อมได้รับทั้งสิทธิและหน้าที่เดิม ผู้โอนต้องพิสูจน์สิทธิที่อ้าง
ผู้รับโอนตึกแถวย่อมได้รับทั้งสิทธิและหน้าที่ของผู้โอนรวมทั้งการเช่าระหว่างผู้โอนและผู้เช่าเดิมด้วย
ผู้โอนอ้างว่าตนกลับมีสิทธิในตึกนั้นใหม่อีก ก็ต้องนำสืบแสดงตามที่อ้าง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2016/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิเจ้าของร่วม: การพิสูจน์ส่วนได้เสียและผลของการรับโอนโดยไม่สุจริต
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1357 เป็นแต่เพียงความสันนิษฐานของกฎหมายเท่านั้นว่า ผู้เป็นเจ้าของร่วมมีส่วนเท่ากันแต่ผู้เป็นเจ้าของร่วมกัน ย่อมนำสืบได้ว่า มีส่วนมากน้อยกว่ากันได้ ฉะนั้นผู้มีชื่อในโฉนดร่วมกันย่อมมีสิทธิฟ้องขอให้แสดงว่าใครมีส่วนเป็นเจ้าของมากน้อยเพียงใดได้
ที่ดินมีชื่อผู้เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในโฉนดร่วมกัน 2 คน เจ้าของร่วมคนหนึ่งขายส่วนของตนให้แก่ผู้ซื้อ แล้วถูกผู้ซื้อฟ้องศาลจนศาลพิพากษาให้โอนแก่ผู้ซื้อ ในชั้นบังคับคดีผู้เป็นเจ้าของร่วมอีกคนหนึ่งยื่นคำร้องคัดค้านต่อศาลว่าเจ้าของร่วมผู้ขายมีกรรมสิทธิ์ในที่ดินนั้นเพียง 3 ไร่ ไม่ใช่ครึ่งหนึ่ง ศาลได้รับข้อค้านนั้นไว้ดำเนินการพิจารณาต่อไป หลังจากนั้นผู้ซื้อจึงได้รับโอนที่ดินนั้นกึ่งหนึ่ง ดังนี้ ย่อมถือได้ว่ารับโอนไว้โดยรู้อยู่แล้วว่าผู้ขายมีกรรมสิทธิ์ไม่ถึงครึ่งหนึ่งดังที่มีชื่อในโฉนด เพราะมีข้อพิพาทกันต่อไปแล้วว่า ผู้ขายมีส่วนเป็นเจ้าของเท่าไรแน่ ฉะนั้นจึงเป็นการรับโอนโดยไม่สุจริต

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1444/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเช่าพื้นที่ค้าขายและการคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า จำเลยต้องพิสูจน์สิทธิ
โจทก์ฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยออกจากฟ้องเช่าของโจทก์ โดยอ้างว่าห้องเช่าอยู่ในทำเลการค้าได้บอกเลิกสัญญาเช่าแล้ว
จำเลยต่อสู้ว่าเช่าห้องของโจทก์อยู่อาศัย ได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯ
และจำเลยยังแถลงรับอีกว่าการเช่าไม่มีหนังสือสัญญาต่อกันห้องเช่าอยู่ในทำเลยการค้าขายจำเลยอยู่อาศัยและค้าขายของชำตลอดมา ดังนี้ จำเลยมีหน้าที่ต้องนำสืบว่า จำเลยมีเหตุอันควรได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯลฯ อย่างไร ถ้าต่างฝ่ายต่างไม่สืบพยาน จำเลยก็ไม่มีทางชนะคดีได้ ศาลต้องพิพากษาขับไล่จำเลยออกจากห้องเช่าของโจทก์
(อ้างฎีกาที่ 420/2494)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 71/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าใช้จ่ายหมั้นและการพิสูจน์สิทธิเรียกร้องค่าเสียหายจากสัญญาหมั้นที่ไม่เป็นไปตามสัญญา
ค่าหมากพลูและค่าขนมวันหมั้น, ค่ารถไปหมั้นและค่าเลี้ยงแขกวันไปหมั้น ไม่เข้าอยู่ในข้อหนึ่งข้อใดของ ป.ม.แพ่งฯ มาตรา 1439,
ฟ้องข้อใดที่จำเลยให้การปฏิเสธ และโจทก์ไม่นำสืบจะบังคับไม่ได้ ให้ยกฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 874/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิการใช้ทาง - จำเลยต้องพิสูจน์สิทธิเหนือทางเมื่อปิดกั้นการใช้ทางของผู้อื่น
คดีขอให้เปิดกั้นทางเดิน เมื่อจำเลยปิดกั้นทางเดิน จำเลยจะต้องแสดงให้ประจักษ์ว่าจำเลยมีสิทธิปิดกั้นเสียได้ คดีฟังไม่ได้ว่าจำเลยเป็นเจ้าของหรือมีสิทธิอย่างใดเหนือที่ตอนพิพาทนั้น จำเลยก็ไม่มีสิทธิจะปิดกั้นทางเดินนั้นได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 874/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิการใช้ทาง – จำเลยต้องพิสูจน์สิทธิในที่ดินก่อนปิดกั้นทางเดินของผู้อื่น
คดีขอให้เปิดกั้นทางเดินเมื่อจำเลยปิดกั้นทางเดินจำเลยจะต้องแสดงให้ประจักษ์ว่าจำเลยมีสิทธิปิดกั้นเสียได้ คดีฟังไม่ได้ว่าจำเลยเป็นเจ้าของหรือมีสิทธิอย่างใดเหนือที่ตอนพิพาทนั้น จำเลยก็ไม่มีสิทธิจะปิดกั้นทางเดินนั้นได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1754/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้ครอบครองที่ดินโดยมีชื่อในโฉนดตามคำพิพากษา มีสิทธิเหนือผู้ที่อ้างกรรมสิทธิ์ภายหลัง เว้นแต่ผู้ที่อ้างจะพิสูจน์สิทธิที่ดีกว่าได้
ฝ่ายที่ยึดถือที่ดินมีชื่อในโฉนดตามคำพิพากษาของศาลแล้ว เมื่อมีบุคคลอื่นอ้างว่าที่ดินเป็นของตน ก็เป็นหน้าที่ของบุคคลอื่นนั้นต้องนำสืบก่อน.
ประชุมใหญ่ครั้งที่ 24/92

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1754/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้ครอบครองที่ดินโดยมีชื่อในโฉนดตามคำพิพากษา มีสิทธิได้เปรียบ ผู้ทวงสิทธิอื่นต้องพิสูจน์สิทธิที่เหนือกว่า
ฝ่ายที่ยึดถือที่ดินมีชื่อในโฉนดตามคำพิพากษาของศาลแล้ว เมื่อมีบุคคลอื่นอ้างว่าที่ดินเป็นของตน ก็เป็นหน้าที่ของบุคคลอื่นนั้นต้องนำสืบก่อน(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 24/92)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 68/2486 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องแทนผู้อื่น และการพิสูจน์สิทธิในที่ดินที่ไม่ชัดเจน
โจทฟ้องขอไห้สาลสแดงว่าที่พิพาทเปนสิทธิแก่โจทแต่ชั้นพิจารนาได้ความว่า ที่รายพิพาทนั้น เปนของโจทและน้องสาวคนละครึ่งโดยน้องสาวโจทไม่ได้มอบอำนาดไห้โจทฟ้องเช่นี้ แม้จะได้ความต่อมาว่า ที่เปนของโจทครึ่งหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้ปรากตไนแผนที่ว่ามีเขตเพียงใด สาลย่อมพิพากสาลแดงสิทธิไห้โจทไม่ได้
of 6