คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ภาระการพิสูจน์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 130 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5400/2537 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ภาระการพิสูจน์ในคดีแย่งคืนที่ดิน: โจทก์ต้องพิสูจน์การมอบที่ดินให้ทำกินต่างดอกเบี้ย
โจทก์ฟ้องเรียกที่ดินคืนจากจำเลยทั้งสองโดยอ้างว่าโจทก์มอบที่ดินให้จำเลยทั้งสองทำกินต่างดอกเบี้ย จำเลยทั้งสองให้การต่อสู้ว่า โจทก์ขายที่พิพาทให้จำเลยทั้งสองแล้ว ถือว่าจำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธโดยมิได้ตั้งประเด็นขึ้นมาใหม่เพราะข้อเท็จจริงที่ว่าโจทก์ขายที่พิพาทให้จำเลยทั้งสองแล้วนั้นเป็นเพียงเหตุผลของการปฏิเสธเท่านั้น โจทก์ต้องมีหน้าที่นำสืบข้อเท็จจริงเพื่อสนับสนุนข้ออ้างตามคำฟ้องของโจทก์ที่ว่า โจทก์มอบที่ดินให้จำเลยทั้งสองทำกินต่างดอกเบี้ย ไม่ใช่เป็นหน้าที่ของจำเลยทั้งสองที่จะต้องนำสืบพิสูจน์ว่าลายมือชื่อของผู้ขายในหนังสือสัญญาขายที่ดินเป็นของโจทก์
อ.เป็นผู้พิมพ์หนังสือสัญญาขายที่ดินและเป็นผู้จดทะเบียนซื้อขายที่พิพาทย่อมเป็นพยานบุคคลที่ได้เห็นหรือทราบข้อความเกี่ยวกับเรื่องที่จะเบิกความเป็นพยานนั้นโดยตรง จึงเป็นประจักษ์พยาน ไม่ใช่พยานชั้นสอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5400/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ภาระการพิสูจน์ในคดีที่ฟ้องแย่งคืนที่ดิน: โจทก์ต้องพิสูจน์ข้ออ้างการมอบที่ดินให้ทำกินต่างดอกเบี้ย ไม่ใช่จำเลย
โจทก์ฟ้องเรียกที่ดินคืนจากจำเลยทั้งสองโดยอ้างว่าโจทก์มอบที่ดินให้จำเลยทั้งสองทำกินต่างดอกเบี้ย จำเลยทั้งสองให้การต่อสู้ว่า โจทก์ขายที่พิพาทให้จำเลยทั้งสองแล้ว ถือว่าจำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธโดยมิได้ตั้งประเด็นขึ้นมาใหม่เพราะข้อเท็จจริงที่ว่าโจทก์ขายที่พิพาทให้จำเลยทั้งสองแล้วนั้นเป็นเพียงเหตุผลของการปฏิเสธเท่านั้น โจทก์ต้องมีหน้าที่นำสืบข้อเท็จจริงเพื่อสนับสนุนข้ออ้างตามคำฟ้องของโจทก์ที่ว่า โจทก์มอบที่ดินให้จำเลยทั้งสองทำกินต่างดอกเบี้ย ไม่ใช่เป็นหน้าที่ของจำเลยทั้งสองที่จะต้องนำสืบพิสูจน์ว่าลายมือชื่อของผู้ขายในหนังสือสัญญาขายที่ดินเป็นของโจทก์ อ. เป็นผู้พิมพ์หนังสือสัญญาขายที่ดินและเป็นผู้จดทะเบียนซื้อขายที่พิพาทย่อมเป็นพยานบุคคลที่ได้เห็นหรือทราบข้อความเกี่ยวกับเรื่องที่จะเบิกความเป็นพยานนั้นโดยตรง จึงเป็นประจักษ์พยาน ไม่ใช่พยานชั้นสอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3947/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับฟังพยานหลักฐานสัญญาประกันภัย: สำเนาใบอนุญาตขับขี่ และภาระการพิสูจน์ของผู้รับประกันภัย
ต้นฉบับใบอนุญาตขับรถยนต์ของ น. ซึ่งเป็นผู้ขับรถยนต์คันเกิดเหตุอยู่ในความครอบครองของ น. ซึ่งหลบหนีคดีอาญา โจทก์ที่ 1 จึงอยู่ในฐานะที่ไม่อาจจะนำต้นฉบับใบอนุญาตขับรถยนต์นั้นมาเป็นพยานเอกสารได้ จึงเป็นกรณีเข้าข้อยกเว้นที่ว่าไม่สามารถนำต้นฉบับมาได้โดยประการอื่นศาลจึงรับฟังสำเนาหรือภาพถ่ายเอกสารนั้นได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 93(2) จำเลยให้การรับว่าได้รับประกันภัยรถยนต์ของโจทก์ที่ 1ไว้จริงแต่จำเลยไม่ต้องรับผิดตามสัญญาประกันเพราะผู้ขับรถยนต์คันดังกล่าวไม่ได้รับอนุญาตให้ขับรถยนต์ได้ตามกฎหมาย ซึ่งเป็นข้อยกเว้นความรับผิดตามกรมธรรม์ประกันภัยข้ออ้างดังกล่าวจำเลยเป็นฝ่ายกล่าวอ้างขึ้นในคำให้การจึงมีหน้าที่นำสืบในข้อนี้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3947/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับฟังสำเนาเอกสารกรณีต้นฉบับอยู่กับผู้หลบหนี และภาระการพิสูจน์ของผู้รับประกันภัย
เมื่อต้นฉบับใบอนุญาตขับรถยนต์อยู่ในความครอบครองของ น.ซึ่งหลบหนีคดีอาญา จึงเป็นกรณีเข้าข้อยกเว้นที่ไม่สามารถนำต้นฉบับมาได้โดยประการอื่นชอบที่โจทก์ที่ 1 จะอ้างสำเนาหรือภาพถ่ายเอกสารได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 93(2) จำเลยให้การรับว่า ได้รับประกันภัยรถยนต์ของโจทก์ที่ 1ไว้จริงแต่จำเลยไม่ต้องรับผิดตามสัญญาประกันภัยเพราะผู้ขับรถยนต์ไม่ได้รับอนุญาตให้ขับรถยนต์ได้ตามกฎหมายซึ่งเป็นข้อยกเว้นความรับผิดตามกรมธรรม์ประกันภัย จำเลยจึงมีหน้าที่นำสืบในข้อนี้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 181/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์ที่ดินร่วมกัน: สิทธิของเจ้าของกรรมสิทธิ์ และภาระการพิสูจน์เมื่อมีข้อพิพาท
ที่ดินพิพาทเป็นที่ดินมีโฉนด ซึ่งเป็นเอกสารมหาชนแสดงความเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ของโจทก์และจำเลยผู้มีชื่อในโฉนด ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าถูกต้อง จำเลยผู้กล่าวอ้างว่าความจริงโจทก์มีชื่อเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์แทนจำเลยซึ่งมิได้เป็นไปตามข้อความในเอกสารนั้น มีภาระการพิสูจน์ให้ปรากฏความจริงตามคำกล่าวอ้างตาม ป.วิ.พ. มาตรา 127.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3991/2535 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ภาระการพิสูจน์การหลีกเลี่ยงอากร: ผู้ซื้อต้องพิสูจน์ว่าได้เสียภาษีแล้ว
ความผิดตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2469 มาตรา 27ทวิ ต้องเป็นการซื้อของที่ตนรู้ว่าเป็นของที่นำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยหลีกเลี่ยงอากร ซึ่งภาระการพิสูจน์ดังกล่าวนี้ตกอยู่แก่จำเลยผู้ซื้อที่จะต้องพิสูจน์ว่าสินค้าผ้าของกลางได้เสียภาษีโดยถูกต้องแล้วดังที่พระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2469มาตรา 100 บัญญัติไว้หาใช่เป็นหน้าที่ของโจทก์ที่จะนำสืบไม่ เมื่อจำเลยไม่นำสืบคดีต้องฟังว่าจำเลยซื้อผ้าของกลางโดยรู้ว่ายังไม่ได้เสียค่าภาษี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3991/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ภาระการพิสูจน์การนำเข้าสินค้าและการหลีกเลี่ยงภาษีศุลกากรตกอยู่แก่ผู้ซื้อ จำเลยต้องพิสูจน์ว่าได้เสียภาษีถูกต้องแล้ว
หน้าที่พิสูจน์ว่าสินค้าผ้าของกลางที่นำเข้ามาจากต่างประเทศได้เสียภาษีถูกต้องหรือไม่ ตกอยู่แก่จำเลยผู้ซื้อสินค้าผ้าของกลางจะต้องมีภาระการพิสูจน์ว่าได้มีการเสียภาษีถูกต้องแล้วตาม พ.ร.บ. ศุลกากร พ.ศ. 2469 มาตรา 100 หาใช่เป็นหน้าที่ของโจทก์ที่จะนำสืบไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3943/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ภาระการพิสูจน์สัญชาติ: พยานหลักฐานไม่เพียงพอ ศาลยกฟ้อง
เมื่อโจทก์อ้างว่าโจทก์เป็นคนสัญชาติไทย แต่จำเลยโต้แย้งว่า โจทก์เป็นคนต่างด้าวและให้คืนบัตรประจำตัวประชาชนแก่จำเลย โจทก์จึงต้องมีภาระการพิสูจน์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3943/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ภาระการพิสูจน์สัญชาติไทย: พยานหลักฐานที่ไม่เพียงพอ ศาลยกฟ้อง
เมื่อโจทก์อ้างว่าโจทก์เป็นคนสัญชาติไทย แต่จำเลยโต้แย้งว่าโจทก์เป็นคนต่างด้าวและให้คืนบัตรประจำตัวประชาชนแก่จำเลยโจทก์จึงต้องมีภาระการพิสูจน์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2906/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองที่ดินโดยไม่สุจริตหลังได้รับอนุญาต และภาระการพิสูจน์กรรมสิทธิ์เมื่ออ้างว่าถือแทนทายาท
แม้โจทก์จะบรรยายฟ้องว่าจำเลยและสามีได้ขออนุญาตปลูกบ้านพิพาทจากโจทก์และเจ้าของกรรมสิทธิ์ร่วม แต่โจทก์นำสืบว่า สามีจำเลยได้ขออนุญาต ร. ปลูกบ้านเมื่อประมาณ 30 ปี ก่อนโจทก์เบิกความคดีนี้ ต่อมา ร. ได้โอนกรรมสิทธิ์ที่ดินที่บ้านพิพาทปลูกอยู่ให้แก่โจทก์และผู้อื่นเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ร่วมกันก็ตามก็ถือไม่ได้ว่าเป็นการนำสืบแตกต่างไปจากฟ้อง เพราะเมื่อ ร.โอนกรรมสิทธิ์ที่ดินให้แก่โจทก์และบุคคลอื่นแล้ว การที่จำเลยยังคงอาศัยอยู่ในบ้านพิพาทก็เท่ากับโจทก์และเจ้าของร่วมในที่ดินได้อนุญาตให้จำเลยปลูกบ้านอยู่ต่อไปนั่นเอง กฎหมายสันนิษฐานว่าผู้มีชื่อในโฉนดเป็นเจ้าของที่ดินในโฉนดเมื่อจำเลยกล่าวอ้างว่าโจทก์และผู้มีชื่อถือกรรมสิทธิ์แทนบุคคลอื่นจำเลยจึงมีภาระการพิสูจน์ แต่ในทางนำสืบนั้น จำเลยคงมีแต่ตัวจำเลย พ.บุตรสาวของจำเลยและส. มาเบิกความลอย ๆ ว่าร. ถือกรรมสิทธิ์แทนบุคคลอื่น โดยปราศจากพยานหลักฐานอื่นสนับสนุนจึงมีน้ำหนักน้อย ไม่สามารถหักล้างข้อสันนิษฐานของกฎหมายดังกล่าวได้ เมื่อข้อเท็จจริงฟังไม่ได้ว่าจำเลยหรือสามีจำเลยมีส่วนเป็นเจ้าของร่วมในที่พิพาท การที่จำเลยอยู่ในที่ดินพิพาทจึงเป็นการอยู่โดยอาศัยสิทธิของโจทก์ เมื่อโจทก์ไม่ประสงค์จะให้จำเลยอาศัยอยู่ต่อไปและได้บอกกล่าวให้จำเลยออกไปจากที่พิพาทแล้วแต่จำเลยไม่ออกไปจึงเป็นการละเมิดและต้องใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์.
of 13