คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
รับผิดร่วม

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 42 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 10267-10271/2550

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรมหลังโอนกิจการ นายจ้างเดิมและผู้รับโอนมีหน้าที่รับผิดร่วมกัน
ปรากฏตามสัญญาการโอนกิจการว่า โดยที่กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐและเป็นผู้ถือหุ้นร้อยละ 99.99 ในกิจการของจำเลยทั้งสอง มีนโยบายที่จะเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินการบริหารหนี้ด้อยคุณภาพของบริษัทบริหารสินทรัพย์ที่กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินถือหุ้นเพื่อให้เป็นมาตรฐานเดียวกันและสะดวกต่อการกำกับดูแลรวมทั้งประหยัดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน โดยการลดหรือใช้ต้นทุนร่วมกัน กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินจึงเห็นควรให้มีการโอนกิจการจำเลยที่ 1 โดยให้จำเลยที่ 2 รับโอนสินทรัพย์ทุกชนิด หนี้สินและภาระผูกพันทั้งหมด ยกเว้นลูกหนี้ที่ปรับปรุงโครงสร้างหนี้ รวมทั้งรับพนักงานของจำเลยที่ 1 ที่สมัครใจทำงานกับจำเลยที่ 2 ภายใต้เงื่อนไขที่ระบุไว้ในโครงการโอนกิจการที่เสนอต่อธนาคารแห่งประเทศไทย และปรากฏตามโครงการโอนกิจการที่จำเลยที่ 1 จัดทำเพื่อเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทและที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติและนำเสนอธนาคารแห่งประเทศไทยเพื่อทราบว่า จำเลยที่ 2 จะรับโอนพนักงานของจำเลยที่ 1 ประมาณ 200 คน ตามความสมัครใจ ซึ่งผู้บริหารของจำเลยทั้งสองจะได้พิจารณาร่วมกันต่อไป ดังนั้น การโอนกิจการดังกล่าวจึงเป็นการดำเนินการเพื่อประโยชน์ของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นร้อยละ 99.99 ในกิจการของจำเลยทั้งสองให้การบริหารหนี้ด้อยคุณภาพมีประสิทธิภาพมากขึ้นเท่านั้นโดยมีข้อตกลงรับโอนพนักงานของจำเลยที่ 1 ไปทำงานกับจำเลยที่ 2 ด้วย การที่จำเลยที่ 2 มีหนังสือแจ้งแก่โจทก์ทั้งห้าว่าไม่มีตำแหน่งงานที่เหมาะสมกับโจทก์ทั้งห้าและไม่สามารถรับโจทก์ทั้งห้าเข้าเป็นพนักงานของจำเลยที่ 2 ได้ และต่อมาจำเลยที่ 1 ได้เลิกจ้างโจทก์ทั้งห้า จึงเป็นการเลิกจ้างโดยจำเลยที่ 1 ผู้โอนกิจการและจำเลยที่ 2 ผู้รับโอนกิจการมิได้ประสบภาวะความจำเป็นหรือขาดทุนจนถึงกับต้องเลิกจ้างพนักงาน ทั้งมิใช่เกิดจากการกระทำความผิดของโจทก์ทั้งห้าจนถึงกับต้องถูกเลิกจ้าง ส่วนการจัดหาตำแหน่งงานให้โจทก์ทั้งห้าก็เป็นเรื่องที่จำเลยทั้งสองจะต้องพิจารณาร่วมกันให้โจทก์ทั้งห้าไปปฏิบัติหน้าที่ที่เหมาะสมต่อไป เมื่อจำเลยที่ 1 เลิกจ้างโจทก์ทั้งห้าจึงเป็นการเลิกจ้างโดยปราศจากเหตุผลอันสมควรและเพียงพอ เป็นการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5985/2561

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ นายจ้างต้องรับผิดร่วมกับลูกจ้างในผลละเมิด แม้จะมีการว่าจ้างผู้รับเหมาช่วง การแสดงออกว่าลูกจ้างเป็นผู้ปฏิบัติงานตามหน้าที่ของนายจ้าง
โจทก์ทั้งสามบรรยายฟ้องว่า จำเลยที่ 1 เป็นนิติบุคคล มี ช. เป็นนายกเทศมนตรีนครนครศรีธรรมราช และเป็นเจ้าของผู้ครอบครองรถบรรทุกคันเกิดเหตุ ในวันเกิดเหตุ ร. ขับรถบรรทุกคันเกิดเหตุเพื่อปฏิบัติหน้าที่เก็บขนถ่ายขยะตามคำสั่งของจำเลยทั้งสอง แม้โจทก์จะไม่ได้กล่าวในคำฟ้องว่า ที่ข้างรถบรรทุกคันเกิดเหตุมีข้อความว่า เทศบาลนครนครศรีธรรมราช แต่จำเลยที่ 1 ให้การว่า จำเลยที่ 1 เป็นเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ได้ว่าจ้างจำเลยที่ 2 เป็นผู้ดำเนินการเก็บขนขยะมูลฝอยเทศบาลนครนครศรีธรรมราชแทนจำเลยที่ 1 ย่อมเป็นที่เห็นได้ว่า จำเลยที่ 1 รับว่า ร. ทำหน้าที่ขับรถบรรทุกคันเกิดเหตุเพื่อเก็บขนขยะในนามของจำเลยที่ 1 ตามคำสั่งของจำเลยที่ 1 เมื่อการเก็บขนขยะเป็นภารกิจของเทศบาล การขับรถเก็บขนขยะของ ร. จึงเป็นการทำไปตามหน้าที่ในภารกิจของจำเลยที่ 1 พฤติการณ์ดังกล่าวย่อมเป็นการแสดงออกแก่บุคคลทั่วไปว่า ร. เป็นลูกจ้างของจำเลยที่ 1 และรถบรรทุกคันเกิดเหตุเป็นของจำเลยที่ 1 การที่จำเลยที่ 1 ว่าจ้างจำเลยที่ 2 ดำเนินการเก็บขนขยะในนามของจำเลยที่ 1 ย่อมถือได้ว่าจำเลยที่ 1 เป็นนายจ้างของ ร. ด้วย ส่วนจำเลยที่ 1 จะมีสัญญาหรือข้อตกลงกับจำเลยที่ 2 อย่างไร ก็เป็นเรื่องที่จะบังคับกันระหว่างจำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ 2 เท่านั้น หาได้มีผลผูกพันกับบุคคลภายนอกซึ่งรวมถึงโจทก์ทั้งสามด้วยไม่ เมื่อข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า ร. ขับรถบรรทุกคันเกิดเหตุไปในทางการที่จ้างของจำเลยทั้งสองและกระทำละเมิด จำเลยทั้งสองจึงต้องร่วมกับ ร. รับผิดในผลแห่งละเมิดที่ ร. กระทำด้วยตาม ป.พ.พ. มาตรา 425
of 5