คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
รับฟ้อง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 84 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 458/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับฟ้องแย้งในคดีขับไล่: พิจารณาสัญญาต่างตอบแทนและเงื่อนไขฟ้องแย้ง
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากห้องเช่า. จำเลยให้การต่อสู้ว่าโจทก์ตกลงให้จำเลยตกแต่งซ่อมแซมบ้านใหม่ทั้งหมดแล้วจะให้จำเลยเช่าต่อหลังจากหมดสัญญาอีก 3 ปี จึงมีสัญญาต่างตอบแทนต่อกัน ฟ้องแย้งขอให้บังคับโจทก์ทำสัญญาเช่ากับจำเลยอีก 3 ปีนั้น เมื่อเป็นฟ้องแย้งที่เกี่ยวกับฟ้องเดิมแล้วก็ต้องรับไว้เสียก่อน ส่วนข้ออ้างของจำเลยจะแพ้หรือชนะเป็นข้อวินิจฉัยภายหลังรับฟ้องแย้งแล้ว (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 303/2504)
ส่วนฟ้องแย้งที่ว่า หากข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่าโจทก์จำเลยไม่มีสัญญาต่างตอบแทนต่อกัน จำเลยก็ขอฟ้องแย้งเรียกค่าเสียหายจากโจทก์ที่จำเลยต้องเสียค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงห้องเช่านั้น เป็นฟ้องแย้งที่มีเงื่อนไข กล่าวคือจะถือเป็นฟ้องแย้งต่อเมื่อศาลพิพากษาขับไล่จำเลย ซึ่งเป็นเรื่องเกิดขึ้นภายหลังจึงเป็นคนละเรื่องไม่เกี่ยวกับฟ้องเดิม ไม่เป็นฟ้องแย้งที่จะรับไว้พิจารณา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2403/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เขตอำนาจศาล: การรับฟ้องจำเลยนอกเขตเมื่อถอนฟ้องจำเลยในเขตแล้ว
การที่ศาลแพ่งอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องจำเลยที่ 3 ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ในเขตศาลแพ่งไปแล้ว แต่ยังดำเนินกระบวนพิจารณาเกี่ยวกับจำเลยที่ 1 และที่ 2 ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่นอกเขตศาลแพ่งแสดงให้เห็นว่าศาลแพ่งได้ใช้ดุลพินิจรับฟ้องโจทก์เกี่ยวกับจำเลยที่ 1 และที่ 2 ไว้พิจารณาพิพากษาตามที่บัญญัติไว้ในพระธรรมนูญศาลยุติธรรมมาตรา14(4) ที่ได้แก้ไขเพิ่มเติมใหม่แล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2038/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลอาญาในการรับฟ้องคดีความผิดนอกเขตอำนาจ และการใช้ดุลพินิจรับฟ้อง
ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 22 (1) บัญญัติว่า "เมื่อจำเลยมีที่อยู่ฯลฯ ในท้องที่หนึ่งนอกเขตศาลดังกล่าวแล้ว จะชำระที่ศาลซึ่งท้องที่นั้นอยู่เขตอำนาจก็ได้" นั้น มิใช่เป็นบทบังคับให้ศาลซึ่งท้องที่ที่จำเลยมีที่อยู่ ฯลฯ ในเขตอำนาจจะรับชำระคดีนั้นหรือไม่ก็ได้ ความผิดที่เกิดขึ้นนอกเขตศาลอาญา แต่จำเลยมีภูมิลำเนาในเขตศาลอาญา เมื่อผู้เสียหายเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง ศาลจึงมีอำนาจที่จะใช้ดุลพินิจรับหรือไม่รับคดีนั้นไว้พิจารณาก็ได้
การที่ศาลอาญาสั่งในคำฟ้องของโจทก์ว่า "นัดไต่สวนให้โจทก์นำส่งหมายนัด...." ยังถือไม่ได้ว่าศาลอาญาได้ใช้ดุลพินิจรับคดีของโจทก์ไว้ชำระแล้ว ด้วยเหตุนี้ที่ศาลอาญาสั่งงดไต่สวนมูลฟ้องและมีคำสั่งไม่ประทับฟ้องของโจทก์ไว้พิจารณาจึงเป็นการที่ศาลอาญาได้ใช้ดุลพินิจสั่งตามอำนาจที่มีอยู่ (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 4/2523)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1506/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับฟ้องคดีและการชำระค่าธรรมเนียมศาล ศาลต้องตรวจสอบการชำระค่าธรรมเนียมก่อนดำเนินกระบวนการพิจารณา
ค่าธรรมเนียมศาลที่ต้องเสียเมื่อยื่นคำฟ้องตามตาราง 1และตาราง 2 คิดตามกฎหมายที่ใช้อยู่ในขณะยื่นคำฟ้องเมื่อศาลเห็นว่าโจทก์ปิดแสตมป์ไม่ครบจำนวนก็สั่งให้โจทก์ปิดแสตมป์ให้ถูกต้องภายในเวลาที่กำหนด ถ้าไม่ทำตามก็ให้สั่งไม่รับคำคู่ความนั้น การที่ศาลสั่งให้ส่งสำเนาฟ้องและหมายเรียกจำเลยไปในคราวเดียวกับที่สั่งให้โจทก์ปิดแสตมป์ให้ครบ จึงเป็นการสั่งรับฟ้องก่อนปิดแสตมป์ครบ ไม่มีผลผูกพันคู่ความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 974/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนแปลงชื่อโจทก์หลังยื่นฟ้อง ศาลต้องรับบัญชีระบุพยานที่ใช้ชื่อใหม่ได้ หากโจทก์ได้แจ้งการเปลี่ยนแปลงชื่อให้ศาลทราบแล้ว
โจทก์ยื่นฟ้องแล้ว ระหว่างพิจารณาได้รับอนุญาตจากกระทรวงพาณิชย์ให้ใช้ชื่อของบริษัทโจทก์ใหม่ แต่ไม่ได้ยื่นคำร้องขอแก้ไขฟ้องเกี่ยวกับชื่อโจทก์ เพียงแต่ยื่นคำแถลงว่าโจทก์ยื่นบัญชีระบุพยานไว้แล้ว โดยระบุในนามบริษัทโจทก์ที่ได้รับอนุญาตให้ใช้ใหม่ โจทก์ขอดำเนินคดีในนามใหม่ตลอดไป ส่วนหนังสือที่ได้รับอนุญาตให้ใช้ชื่อใหม่จะนำเสนอศาลในวันนัดพิจารณา ศาลสั่งรวมคำแถลงนี้ไว้ในสำนวน ดังนี้ แม้โจทก์จะไม่ได้ยื่นคำร้องขอแก้ไขชื่อของ บริษัทโจทก์ ก็ต้องถือว่าศาลชั้นต้นได้รับรู้แล้วว่าชื่อบริษัทโจทก์ได้มีการเปลี่ยนแปลงใหม่แล้วการที่โจทก์ยื่นบัญชีระบุพยานมาโดยกล่าวเลขคดีเดิม ได้ระบุชื่อบริษัทโจทก์เก่าใหม่มาด้วยจึงถือได้ว่าเป็นบัญชีระบุพยานของโจทก์ในคดีนั้นเอง การที่ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับบัญชีระบุพยานโจทก์ไว้จึงเป็นการไม่ชอบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 59/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาล: ศาลพลเรือนรับฟ้องคดีทหารไม่ได้ แม้ผู้ต้องหาเป็นทหารประจำการ
ตามฟ้องระบุยศจำเลยเป็นพันโทและบรรยายว่าพนักงานสอบสวนมอบตัวจำเลยแก่ผู้บังคับบัญชาฝ่ายทหารรับไปแสดงว่าจำเลยเป็นทหารประจำการอยู่ในอำนาจศาลทหารตาม พระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหารฯปรากฏแต่แรกศาลรับฟ้องไว้แล้วไม่ต้องด้วยข้อยกเว้นตาม มาตรา15 วรรค 2 ศาลพลเรือนรับพิจารณาพิพากษาไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 129/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโต้แย้งสิทธิในที่ดินสาธารณประโยชน์ ศาลรับฟ้องได้ แม้ไม่มีหนังสือสำคัญแสดงสิทธิ
โจทก์ฟ้องว่าโจทก์เป็นเจ้าของที่พิพาท จำเลยซึ่งเป็นนายอำเภอสั่งให้โจทก์ออกไปจากที่ดินดังกล่าวอ้างว่าเป็นที่ดินสาธารณประโยชน์ ถือได้ว่าเป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์ จึงมีประเด็นว่าที่พิพาทเป็นที่สาธารณประโยชน์หรือไม่ ซึ่งจะต้องฟังพยานหลักฐานต่อไป การที่โจทก์มิได้กล่าวในฟ้องว่าโจทก์มีหนังสือสำคัญสำหรับที่ดินหรือไม่ ไม่พอให้ถือว่าโจทก์ไม่มีสิทธิฟ้อง ศาลจึงชอบที่จะรับฟ้องไว้พิจารณา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 129/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโต้แย้งสิทธิในที่ดิน การรับฟ้องคดีที่ดิน และประเด็นการพิสูจน์ว่าเป็นที่สาธารณประโยชน์
โจทก์ฟ้องว่าโจทก์เป็นเจ้าของที่พิพาทจำเลยซึ่งเป็นนายอำเภอสั่งให้โจทก์ออกไปจากที่ดินดังกล่าวอ้างว่าเป็นที่ดินสาธารณประโยชน์ถือได้ว่าเป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์จึงมีประเด็นว่าที่พิพาทเป็นที่สาธารณประโยชน์หรือไม่ ซึ่งจะต้องฟังพยานหลักฐานต่อไป การที่โจทก์มิได้กล่าวในฟ้องว่าโจทก์มีหนังสือสำคัญสำหรับที่ดินหรือไม่ ไม่พอให้ถือว่าโจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องศาลจึงชอบที่จะรับฟ้องไว้พิจารณา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1042-1043/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คดีแพ่งเกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา: การดำเนินกระบวนพิจารณา การสั่งรับฟ้อง และสิทธิในการยื่นคำให้การ
โจทก์ฟ้องจำเลยเป็นคดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วมีคำสั่งให้ประทับฟ้อง หมายเรียกจำเลยแก้คดี ดังนี้ เป็นการสั่งรับฟ้องคดีส่วนอาญาและส่วนแพ่งแล้ว ไม่จำต้องสั่งรับฟ้องส่วนแพ่งอีก
คดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญานั้น จำเลยมีสิทธิยื่นคำให้การในวันนัดสืบพยานโจทก์ได้มิใช่ต้องยื่นคำให้การแก้คดีภายใน 8 วัน และโจทก์มีหน้าที่นำสืบก่อน เมื่อปรากฏว่าโจทก์ทราบคำสั่งศาลเรื่องวันนัดสืบพยานโจทก์แล้วศาลก็ไม่ต้องแจ้งวันนัดสืบพยานโจทก์ให้ทราบอีก ทั้งไม่จำเป็นต้องมีการนัดพร้อม นัดชี้สองสถานแต่อย่างใด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1570/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การวางเงินตามประกาศกระทรวงฯ เพื่อรับฟ้องคดี การนับระยะเวลา และผลของการไม่ปฏิบัติตาม
โจทก์ยื่นฟ้องในวันที่ 7 มีนาคม 2518 ขอให้เพิกถอนคำสั่งอุทธรณ์ของอธิบดีและคำสั่งพนักงานเงินทดแทน ศาลชั้นต้นมีคำสั่งในวันเดียวกันนั้นว่า โจทก์ไม่ได้วางเงินตามประกาศกระทรวงมหาดไทยฯ ข้อ 60 ให้โจทก์วางเงินภายใน 3 วัน แล้วจะสั่งต่อไป ดังนี้เมื่อตามคำขอท้ายฟ้องระบุว่าโจทก์รอฟังคำสั่งอยู่ ถ้าไม่รอให้ถือว่าทราบแล้ว ก็ต้องถือว่าโจทก์ทราบคำสั่งของศาลในวันที่โจทก์ยื่นฟ้องนั่นเอง ซึ่งย่อมมีผลตั้งต้นคำนวณเป็นหนึ่งในวันรุ่งขึ้น และสิ้นสุดที่จะต้องวางเงินตามคำสั่งภายในวันที่ 10 มีนาคม 2518 เมื่อโจทก์ไม่วางเงินภายในเวลาดังกล่าวและศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฟ้องไปแล้ว โจทก์จะขอวางเงินโดยอ้างว่าเพิ่งทราบคำสั่งเมื่อวันที่ 12 มีนาคม2518 หาได้ไม่ แม้โจทก์จะอ้างว่าโจทก์ป่วยก่อนที่จะทราบคำสั่งให้วางเงิน ก็ต้องถือว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นภายหลังที่โจทก์ทราบคำสั่งศาลแล้วเช่นกัน
of 9