คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ลงโทษทางวินัย

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 43 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7486/2562

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจลงโทษทางวินัยย้อนหลังของเจ้าหน้าที่รัฐที่ลาออกแล้ว: ป.ป.ช.มีอำนาจจำกัดเฉพาะความผิดทุจริต
บทบัญญัติแห่ง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 19 มาตรา 88 มาตรา 91 และมาตรา 92 วรรคหนึ่ง ซึ่งใช้ในขณะเกิดเหตุ ให้อำนาจคณะกรรมการ ป.ป.ช. ไต่สวนและพิจารณาความผิดทางวินัย เฉพาะข้อกล่าวหาที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ การกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือการกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม ตามประมวลกฎหมายอาญา และ พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 เท่านั้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. ไม่มีอำนาจในการไต่สวนข้อเท็จจริงและชี้มูลความผิดทางวินัยในข้อที่มีการกล่าวหาว่าโจทก์กระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงฐานประมาทเลินเล่อในหน้าที่การงานอย่างร้ายแรง การที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ไต่สวนข้อเท็จจริงและชี้มูลความผิดทางวินัยโจทก์ว่า การกระทำของโจทก์มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรงฐานประมาทเลินเล่อในหน้าที่การงานอย่างร้ายแรงเป็นเหตุให้จำเลยได้รับความเสียหาย ตามข้อบังคับของจำเลย ส่วนข้อกล่าวหาทางอาญาไม่มีมูลให้ตกไป จึงเป็นการกระทำที่ไม่มีอำนาจ ไม่เข้ากรณีตามมาตรา 92 วรรคหนึ่ง ที่จำเลยซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาของโจทก์จะถือเอารายงานการไต่สวนข้อเท็จจริงและความเห็นของคณะกรรมการ ป.ป.ช. มาเป็นสำนวนการสอบสวนทางวินัยของจำเลย จำเลยต้องแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนขึ้นทำการสอบสวนโจทก์ตามข้อบังคับของจำเลยเพื่อดำเนินการทางวินัยเสียก่อน เมื่อไม่ปรากฏว่าจำเลยได้ดำเนินการทางวินัยแก่โจทก์ตามข้อบังคับของจำเลย จึงไม่ชอบด้วยข้อบังคับของจำเลยและไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่มีผลใช้บังคับแก่โจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4015/2561

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม: คำสั่งมอบหมายงานที่ไม่สมเหตุสมผลไม่อาจเป็นเหตุลงโทษทางวินัยได้
โจทก์นายจ้างฟ้องขอให้เพิกถอนคำสั่งของจำเลยพนักงานตรวจแรงงานที่มีคำสั่งให้โจทก์จ่ายค่าชดเชยและค่าจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าแก่จำเลยร่วมลูกจ้าง เพราะจำเลยร่วมกระทำผิดซ้ำคำเตือน จำเลยและจำเลยร่วมให้การว่าหนังสือเตือนฉบับที่ 1 ไม่เป็นความจริง โดยระหว่างวันที่ 5 ถึงวันที่ 9 สิงหาคม 2557 โจทก์มอบหมายงานที่ไม่ให้เวลาแก่จำเลยร่วมพอสมควร เป็นคำสั่งที่ไม่เป็นธรรม ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยว่า ในวันที่ 6 สิงหาคม 2556 โจทก์มอบหมายงานให้แก่จำเลยร่วมให้ทำให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 9 สิงหาคม 2556 แต่ในระหว่างนั้นในวันที่ 7 และวันที่ 9 สิงหาคม 2556 โจทก์มอบหมายงานให้แก่จำเลยร่วมทำอีก 2 งาน รวมเป็น 4 งาน ดังนั้น การที่จำเลยใช้ดุลพินิจว่าการมอบหมายงานดังกล่าวแก่จำเลยร่วมไม่เป็นธรรมชอบแล้ว จึงเป็นกรณีที่ศาลแรงงานกลางได้ให้เหตุผลและวินิจฉัยแล้ว แม้ศาลแรงงานกลางจะไม่ได้หยิบยกบทกฎหมายขึ้นอ้างในคำวินิจฉัยให้ชัดเจน และการให้เหตุผลแห่งคำวินิจฉัยจะรวบรัดไปบ้าง แต่คำพิพากษาของศาลแรงงานกลางดังกล่าวก็ได้กล่าว หรือแสดงถึงข้อเท็จจริงที่ฟังได้โดยสรุปและมีคำวินิจฉัยในประเด็นแห่งคดีพร้อมด้วยเหตุผลแห่งคำวินิจฉัยตาม พ.ร.บ.จัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ.2522 มาตรา 51 วรรคหนึ่ง แล้ว
หนังสือเตือนฉบับที่ 1 มีข้อความระบุว่า จำเลยร่วมกระทำผิดฐานไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา และการกระทำผิดครั้งหลังก็เป็นความผิดฐานไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาด้วยเช่นกัน แต่เมื่อศาลแรงงานกลางวินิจฉัยแล้วว่าคำสั่งมอบหมายงานของโจทก์ตามเอกสารมอบหมายงานให้จำเลยร่วมทำ ที่โจทก์ระบุไว้ในหนังสือเตือนฉบับที่ 1 เป็นคำสั่งที่ไม่เป็นธรรม ดังนั้น การที่จำเลยร่วมฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งที่ไม่เป็นธรรมดังกล่าว โจทก์ย่อมไม่อาจนำมาเป็นเหตุในการลงโทษทางวินัยแก่จำเลยร่วมได้ การที่โจทก์นำหนังสือเตือนฉบับที่ 1 มาใช้เป็นเหตุเลิกจ้างโดยอ้างว่าจำเลยร่วมกระทำผิดซ้ำคำเตือนกับหนังสือเตือนครั้งหลังจึงไม่อาจกระทำได้ ถือไม่ได้ว่าจำเลยร่วมกระทำผิดซ้ำคำเตือน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3653-3654/2561

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษทางวินัยต้องเป็นไปตามระเบียบที่เกี่ยวข้อง หากระเบียบไม่ครอบคลุมห้ามนำระเบียบอื่นมาใช้โดยไม่ชอบ
โจทก์ระบุว่าการกระทำของจำเลยร่วมเป็นการกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง ตามระเบียบสหกรณ์ออมทรัพย์พนักงานบริษัทการบินไทย จำกัด ว่าด้วยข้อบังคับการทำงาน พ.ศ.2552 ข้อ 22 (1) (2) (3) เมื่อโจทก์ระบุว่าจำเลยร่วมกระทำผิดตามข้อบังคับการทำงานดังกล่าว การลงโทษจำเลยร่วมจึงต้องใช้ข้อบังคับการทำงานอันเดียวกันซึ่งมีระบุถึงโทษทางวินัยไว้แล้วมาใช้บังคับแก่จำเลยร่วมตามข้อ 23 ซึ่งกำหนดโทษไว้ 5 ประเภท คือ ไล่ออก ปลดออก ให้ออก พักงาน และตักเตือนเป็นหนังสือ โจทก์จะนำโทษตัดเงินเดือน ตามระเบียบว่าด้วยการเจ้าหน้าที่ ตอนที่ 2 วินัย การลงโทษ ค่าชดเชย การอุทธรณ์ และการร้องทุกข์ พ.ศ.2543 ข้อ 8.4 ซึ่งระบุให้ใช้ในกรณีเจ้าหน้าที่กระทำผิดวินัยมาใช้หาได้ไม่ เนื่องจากเป็นการลงโทษโดยนำระเบียบฉบับอื่นมาใช้ ดังนั้นโจทก์จึงไม่อาจอนุโลมนำระเบียบฉบับอื่นมาใช้บังคับแก่กันได้ หากให้โจทก์เลือกปฏิบัติเช่นนี้ได้จะเป็นผลเสียต่อความเป็นธรรมในการลงโทษผู้กระทำความผิดวินัย เพราะโจทก์สามารถหลบเลี่ยงหรือเลือกปฏิบัติในการลงโทษพนักงานคนใดตามความประสงค์ของโจทก์โดยการนำโทษเบามาลงกับการกระทำความผิดร้ายแรงได้ โจทก์จึงไม่มีอำนาจตัดเงินเดือนของจำเลยร่วม ต้องจ่ายเงินค่าจ้างที่ตัดไปคืนให้จำเลยร่วมตามคำสั่งพนักงานตรวจแรงงาน
of 5