คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
สภาพแห่งข้อหา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 69 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3037/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องขาดอายุความ - การไม่แสดงสภาพแห่งข้อหาและหลักฐานสนับสนุน
โจทก์ฟ้องให้จำเลยรับผิดในฐานะทายาทของ จ. ผู้ตายซึ่งเป็นคู่สัญญาจ้างทำของกับโจทก์ โดยทำสัญญากันตั้งแต่วันที่17 มีนาคม 2525 โจทก์บรรยายฟ้องว่า ผู้ตายผิดสัญญาทำให้โจทก์เสียหาย โจทก์มีหนังสือแจ้งให้จำเลยมาทำงานและตกลงค่าเสียหายกับโจทก์ จำเลยได้รับหนังสือเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2529 โจทก์มีหนังสือแจ้งให้จำเลยนำค่าเสียหายมาชำระ จำเลยได้รับหนังสือเมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2529 แต่จำเลยไม่ชำระ โดยโจทก์ไม่ได้บรรยายฟ้องเลยว่า ผู้ตายถึงแก่ความตายเมื่อใด โจทก์รู้ถึงการตายของผู้ตายเมื่อใด จึงเป็นเหตุให้จำเลยไม่ทราบข้ออ้างของโจทก์ และไม่อาจให้การได้โดยชัดแจ้งว่าคดีโจทก์ขาดอายุความเพราะเหตุใด ถือว่าโจทก์มิได้แสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาของโจทก์ ทั้งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาเช่นว่านั้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172 ฟ้องโจทก์จึงเคลือบคลุม.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1957/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องเคลือบคลุม: การบรรยายลักษณะการรุกล้ำที่ดินไม่จำเป็นต้องระบุเนื้อที่ หากระบุสภาพแห่งข้อหาและคำขอบังคับชัดเจน
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยก่อสร้างรั้วคอนกรีตรุกล้ำที่ดินของโจทก์ทางด้าน ทิศตะวันออก ซึ่ง ติด กับที่ดินของจำเลย ขอให้จำเลยรื้อรั้วออกไปจากที่ดินโจทก์ ดังนี้ ฟ้องโจทก์ได้ แสดงโดย แจ้งชัดซึ่ง สภาพแห่งข้อหาของโจทก์และคำขอบังคับทั้งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาตาม ป.วิ.พ. มาตรา 172 วรรคสองแล้วไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม ส่วนจำเลยจะบุกรุกเข้าไปในที่ดินของโจทก์เท่าใด เป็นเพียงรายละเอียดซึ่ง โจทก์อาจนำสืบได้ ในชั้น พิจารณา.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3151/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องไม่เคลือบคลุม แม้ไม่ระบุรายละเอียดสัญญาเช่า หากบรรยายสภาพแห่งข้อหาและคำขอบังคับชัดเจน
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยเช่าที่ดินของโจทก์ เมื่อสัญญาเช่าหมดอายุ จำเลยตกลงเช่าต่อไปโดยไม่มีกำหนดเวลา ต่อมาโจทก์ไม่ประสงค์จะให้จำเลยเช่าต่อ จึงบอกเลิกการเช่าให้จำเลยส่งมอบที่เช่าคืนโจทก์ เป็นการแสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาและคำขอบังคับ ทั้งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาเช่นว่านั้นแล้วแม้จะมิได้บรรยายถึงวันเวลาที่จำเลยเช่าอัตราค่าเช่า และเงื่อนไขข้อตกลงต่าง ๆ มาในฟ้อง ก็เป็นเพียงรายละเอียดที่โจทก์สามารถนำสืบในชั้นพิจารณาได้ ฟ้องโจทก์จึงไม่เคลือบคลุม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2894/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิจารณาคำฟ้องทุจริตต่อหน้าที่ ศาลต้องพิจารณาตามสภาพแห่งข้อหาที่บรรยายไว้ในฟ้อง
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยที่ 2 ได้ร่วมกันทุจริตกับจำเลยที่ 1 โดยนำน้ำมันหล่อลื่นจำนวน 2 ถัง ขนาดถังละ 209 ลิตรราคาถังละ 5,747.50 บาท รวมเป็นเงิน 11,495 บาท ไปขายและเป็นประโยชน์เพื่อตนเองโดยทุจริต แสดงว่าโจทก์มิได้เจาะจงชนิดและคุณภาพของน้ำมันหล่อลื่นที่จำเลยที่ 2 นำไปขายโดยทุจริต เมื่อศาลแรงงานกลางฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยที่ 2 ได้นำน้ำมันหล่อลื่น1 ถังไปจริง ก็ถือได้ว่าจำเลยที่ 2 ได้นำน้ำมันหล่อลื่นตามฟ้องของโจทก์ไปแล้ว แม้จะปรากฏว่าน้ำมันหล่อลื่นถังดังกล่าวมีน้ำผสมอยู่ก็ไม่อาจถือได้ว่าศาลแรงงานกลางฟังข้อเท็จจริงต่างจากฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1322/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำฟ้องแสดงสภาพแห่งข้อหาชัดเจน แม้รายละเอียดหนี้เป็นเรื่องสืบในชั้นพิจารณา ศาลไม่ถือว่าฟ้องเคลือบคลุม
ฟ้องโจทก์ได้บรรยายถึงหนี้ที่จำเลยค้างชำระและพยานหลักฐานที่แสดงว่าจำเลยเป็นหนี้โจทก์ระหว่างวันที่เท่าใดจำนวนเท่าใดด้วยจึงเป็นคำฟ้องที่แสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาแล้วส่วนรายละเอียดแห่งหนี้เป็นเรื่องที่โจทก์จะต้องนำสืบในชั้นพิจารณา.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2151/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตการบรรยายฟ้องคดีแพ่ง: ไม่ต้องละเอียดเท่าคดีอาญา เน้นสภาพแห่งข้อหาและคำขอ
การบรรยายฟ้องในคดีแพ่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 172 กำหนดแต่เพียงว่าฟ้องจะต้องแสดงโดยชัดแจ้งซึ่งสภาพแห่งข้อหา คำขอบังคับ ทั้งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาเท่านั้นหาต้องบรรยายถึงข้อเท็จจริงและรายละเอียดเหมือนกับฟ้องในคดีอาญาไม่
โจทก์ฟ้องให้จำเลยชำระหนี้ตามสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชีและบังคับจำนอง แม้โจทก์ไม่แนบบัญชีกระแสรายวันมาท้ายฟ้องและมิได้บรรยายโดยละเอียดตั้งแต่จำเลยทำสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชี หรือบัญชีเดินสะพัดว่าจำเลยออกเช็คสั่งจ่ายเงินจากบัญชีกระแสรายวัน และทำใบนำเงินเข้าบัญชีกระแสรายวันในแต่ละเดือนเท่าใดอย่างใด ก็ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม เพราะเป็นรายละเอียดที่จะต้องสืบเมื่อมีประเด็นโต้เถียงกัน
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยชำระหนี้ตามสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชีและบังคับจำนอง ศาลชั้นต้นตรวจคำฟ้องคำให้การสั่งงดชี้สองสถานแล้ว พิพากษายกฟ้องโดยอ้างว่าฟ้องของโจทก์เคลือบคลุม โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุมพิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาใหม่ จำเลยฎีกาว่าฟ้องของโจทก์เป็นฟ้องเคลือบคลุมดังนี้ ต้องเสียค่าขึ้นศาลชั้นฎีกา 200 บาท ตามตาราง1(2)(ข) แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมิใช่เสียตามทุนทรัพย์ที่พิพาท
(โปรดดูคำพิพากษาฎีกาที่ 1440/2520)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3570/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตการบรรยายคำฟ้องแพ่ง: เพียงแสดงสภาพแห่งข้อหา ไม่ต้องละเอียดเหมือนคดีอาญา
การบรรยายคำฟ้องในคดีแพ่ง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 172 กำหนดแต่เพียงว่าจะต้องแสดงให้แจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหา ทั้งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาเท่านั้น หาต้องบรรยายถึงข้อเท็จจริงและรายละเอียดเหมือนกับฟ้องในคดีอาญาไม่ การที่โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 3 ซึ่งเป็นนายท้ายควบคุมเรือด่วนเจ้าพระยาและเรือหางยาว ได้กระทำการอันเป็นความประมาทเลินเล่อ ไม่ได้ใช้ความระมัดระวังเท่าที่วิญญูชนจะพึงใช้ ทำให้เรือด่วนเจ้าพระยาชนกับเรือหางยาวเป็นเหตุให้ผู้ตายถึงแก่ความตายจึงชอบด้วยกฎหมายแล้ว ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 702/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้อน: คำฟ้องเดิมกับคำฟ้องใหม่ที่มีสภาพแห่งข้อหาและคำขอบังคับเดียวกัน
ผู้จัดการมรดกในฐานะตัวแทนของทายาทรวมทั้งโจทก์ในคดีนี้เป็นโจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยทั้งสี่ออกจากที่พิพาท คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ โจทก์ในคดีนี้มาฟ้องขับไล่จำเลยทั้งสี่ออกจากที่พิพาทเดียวกันอีก ฟ้องทั้งสองจึงเป็นคำฟ้องเรื่องเดียวกัน เพราะสภาพแห่งข้อหาและคำขอบังคับเป็นอย่างเดียวกัน จึงเป็นฟ้องซ้อนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 173

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1699/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องเคลือบคลุม จำเลยไม่เข้าใจพฤติการณ์ขับรถ การบรรยายฟ้องต้องชัดเจนแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหา
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยที่ 1 ได้ขับรถของจำเลยที่2ด้วยความประมาทปราศจากความระมัดระวังที่นักขับรถอาชีพจะต้องมีตามวิสัยและพฤติการณ์ และจำเลยที่ 1 อาจใช้ความระมัดระวังได้แต่หาได้ใช้ให้เพียงพอไม่ เป็นเหตุให้ชนรถโจทก์ตกถนนพลิกคว่ำได้รับความเสียหาย มิได้บรรยายเลยว่าจำเลยที่ 1 มีพฤติการณ์ในการขับรถอย่างไรจำเลยไม่อาจเข้าใจได้ว่าจำเลยที่ 1 ขับรถอย่างไร ซึ่งโจทก์ถือว่าเป็นการขับด้วยความประมาทปราศจากความระมัดระวังทั้งไม่อาจเข้าใจได้ว่าจำเลยที่ 1 จะใช้ความระมัดระวังอย่างไรจึงจะหลีกเลี่ยงหรือป้องกันมิให้รถชนกันฟ้องโจทก์จึงเป็นคำฟ้องที่มิได้แสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา172 วรรคสอง เป็นฟ้องเคลือบคลุม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2209/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องเคลือบคลุม: การบรรยายสภาพแห่งข้อหาในคำฟ้องเพียงพอต่อการต่อสู้คดีหรือไม่
โจทก์บรรยายฟ้องว่า ตัวแทนของจำเลยได้ตกลงว่าจ้างให้โจทก์ทำการปรับปรุง ตกแต่งสถานที่สำนักงานสาขาของจำเลยเป็นเงินค่าจ้าง 17,828 บาท โจทก์ได้ทำงานแล้วเสร็จตามสัญญา และทวงถามให้ชำระค่าจ้าง จำเลยไม่ชำระ ขอให้บังคับ ดังนี้ฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุม เพราะได้บรรยายสภาพแห่งข้อหา คำขอบังคับตลอดจนข้ออ้างอันอาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาไว้แจ้งชัดพอที่จำเลยจะให้การต่อสู้คดี การตกแต่งอะไรบ้างทั้งหมดหรือบางส่วน ทาสีหรือต่อเติมอะไรอย่างไร เป็นรายละเอียดที่นำสืบได้ในชั้นพิจารณาไม่จำต้องบรรยายไว้ในคำฟ้อง
of 7