พบผลลัพธ์ทั้งหมด 88 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1153-1154/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสมคบคิดก่อการกบถ: วันเวลาที่ระบุในฟ้อง และการล้มล้างรัฐบาลที่ถูกต้องตามกฎหมาย
ฟ้องหาว่าจำเลยได้สมคบกันพยายามจะก่อการกบถโดยจะกระทำการประทุษฐร้ายเพื่อทำลายรัฐบาล ฯลฯ ระหว่างวันที่ 1 มีนาคม 2491 เวลาใดไม่ปรากฎถึง วันที่ 2 ตุลาคม ปีเดียวกันเวลากลางวัน ฯลฯ ดังนี้ ถือได้ว่าเป็นฟ้องที่ระบุวันเวลาจำกัดพอสมควรเท่าที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้แล้ว กฎหมายหาได้บังคับให้แยกเป็นเวลา เป็นรายตัวบุคคลไม่ และไม่จำเป็นต้องแยกว่า จำเลยคนใดกระทำผิดอย่างใด เมื่อได้บรรยายการกระทำผิดมาพอที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีแล้ว ก็ย่อมเป็นฟ้องที่สมบูรณ์
การล้มล้างรัฐบาลเก่า ตั้งเป็นรัฐบาลขึ้นใหม่โดยใช้กำลังนั้น ในตอนต้นอาจไม่ชอบด้วยกฎหมายจนกว่าประชาชนจะได้ยอมรับนับถือแล้ว เมื่อเป็นรัฐบาลที่ถูกต้องตามความเป็นจริงคือหมายความว่า ประชาชนได้ยอมรับนับถือแล้ว ผู้ก่อการกบถล้มล้างรัฐบาลดั่งกล่าวก็ต้องเป็นผิดตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 102
การล้มล้างรัฐบาลเก่า ตั้งเป็นรัฐบาลขึ้นใหม่โดยใช้กำลังนั้น ในตอนต้นอาจไม่ชอบด้วยกฎหมายจนกว่าประชาชนจะได้ยอมรับนับถือแล้ว เมื่อเป็นรัฐบาลที่ถูกต้องตามความเป็นจริงคือหมายความว่า ประชาชนได้ยอมรับนับถือแล้ว ผู้ก่อการกบถล้มล้างรัฐบาลดั่งกล่าวก็ต้องเป็นผิดตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 102
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1542/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สมคบคิดทำร้ายร่างกาย: การกระทำต่อเนื่องและต่างจิตต่างใจไม่ถือเป็นความร่วมมือ
จำเลยเป็นคนก่อเหตุขึ้นในวงรำวงก่อน แล้วมีผู้มาห้ามระหว่างที่พูดขอร้องอยู่นั้น มีคนอีกคนหนึ่งสืบเท้าเข้ามาเอามีดพกปลายแหลมแทงผู้กล่าวห้าม 1 ที แล้วเอามีดกลับใส่ฝักเดินกลับไปยืนอยู่ในหมู่คน ผู้ถูกแทงเซไปจำเลยจึงเงื้อมีดจะแทงผู้นั้นบ้าง แต่มีผู้จับมีดไว้ได้เสียก่อน ดังนี้จะถือว่าจำเลยสมคบกับผู้ที่แทงคนแรกในการทำร้ายร่างกายผู้ห้ามนั้น ยังไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1542/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสมคบคิดทำร้ายร่างกาย: พิจารณาจากเหตุการณ์ปัจจุบันทันด่วนและการกระทำต่างวัตถุประสงค์
จำเลยเป็นคนก่อเหตุขึ้นในวงรำวงก่อน แล้วมีผู้มาห้าม ระหว่างที่พูดขอร้องอยู่นั้น มีคนอีกคนหนึ่งสืบเท้าเข้ามาเอามีดพกปลายแหลมแทงผู้กล่าวห้าม 1 ที แล้วเอามีดกลับใส่ฝักเดินกลับไปยืนอยู่ในหมู่คน ผู้ถูกแทงเซไป จำเลยจึงเงื้อมีดจะแทงผู้นั้นบ้าง แต่มีผู้จับมีดไว้ได้เสียก่อน ดังนี้ จะถือว่าจำเลยสมคบกับผู้ที่แทงคนแรกในการทำร้ายร่างกายผู้ห้ามนั้น ยังไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1507/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สมคบคิดฆ่า: การกระทำเกินเลยขอบเขตที่ขอความช่วยเหลือ ไม่ถือเป็นความผิดสมคบคิด
จำเลยกับผู้ตายเกิดวิวาทชกต่อยกันด้วยมือเปล่าก่อน จำเลยสู้ไม่ได้จึงร้องเรียกให้เพื่อนช่วย เพื่อนเข้ามาช่วยแล้วใช้มีดแทงผู้ตาย ดังนี้ เมื่อมีพฤติการณ์ประกอบให้เห็นว่าการแทงผู้ตายตายนั้น เป็นการกระทำของเพื่อนเอง ซึ่งเกินเลยจากที่จำเลยขอให้ช่วยแล้ว จำเลยก็ยังไม่ควรมีผิดฐานสมคบกับเพื่อนฆ่าผู้ตาย ตาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 121/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดทางอาญาจากการยิงผู้ป่วยทางจิต: การพยายามฆ่า vs ฆ่า, การสมคบคิด
ผู้ตายซึ่งวิกลจริตขึ้นไปบนเรือนจำเลย หญิงซึ่งอยู่บนเรือนคนเดียวเข้าใจว่าเป็นคนร้าย จึงร้องว่าขโมยให้ชาวบ้านช่วย มีชาวบ้าน 30-40 คนรวมทั้งจำเลยมีอาวุธปืน 6-7 กระบอกไล่ตามยิงผู้ตาย ผู้ตายหนีไปแอบจอมปลวก จำเลยกับคนอื่น 2 คนยิงไปยังผู้ตายคนละนัด พอสิ้นเสียงปืนปรากฏว่า ผู้ตายถูกกระสุนปืนล้มลงตาย โดยไม่ปรากฏว่าตายเพราะถูกกระสุนปืนของใคร ดังนี้ ถือว่าจำเลยผิดเพียงฐานพยายามฆ่าผู้ตาย และไม่ถือว่าจำเลยและผู้ที่ยิง ตลอดจนชาวบ้านที่ไล่ติดตามนั้นสมคบกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1016/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตาย: ความผิดฐานสมคบคิด vs. ความผิดส่วนบุคคล
ผู้ตายเมาสุราพูดจาท้าทายใครต่อใครในงาน อันเป็นการก่อกวนโทสะแก่บุคคลที่อยู่ที่นั้นทุกคน จำเลยที่ 1-2-3 มีส่วนเป็นเจ้าของงานแต่ไม่มีสาเหตุโกรธเคืองกับผู้ตาย จำเลยที่ 1 ใช้ไม้ตีผู้ตาย 1 ที ไม่ถึงบาดเจ็บจำเลยที่ 2 เอามีดฟันอีก 1 ทีถึงบาดเจ็บ แล้วจำเลยที่ 3 เอามีดแทงผู้ตาย 1 ที ถูกที่หน้าท้องไส้ทะลักออกมาและถึงแก่ความตายเพราะบาดแผลที่ถูกแทงภายหลังนี้แผลเดียว ดังนี้จะฟังว่าจำเลยทั้ง 3 คนสมคบกันฆ่าผู้ตาย ยังไม่ถนัด เพราะการที่จำเลยที่ 3 เข้ามาและใช้มีดแทงผู้ตายภายหลังนั้น จำเลยที่ 1-2 อาจไม่รู้เห็นด้วยก็ได้จำเลยที่ 3 ควรมีผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาคนเดียว ส่วนจำเลยที่ 1-2 ควรมีผิดแต่เพียงเท่าที่ตนกระทำแต่ละคน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 510/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สมคบคิดทำผิด vs. สมรู้ร่วมคิด: ศาลลงโทษได้แม้มิได้อ้างมาตราเฉพาะ
ฟ้องว่าสมคบกันทำผิดร่วมกัน ทางพิจารณาได้ความว่าผิดฐานสมรู้ แม้มิได้อ้างมาตรา 65 ศาลก็ลงโทษฐานสมรู้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 510/2490
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงฐานความผิดจากสมคบคิดเป็นสมรู้ร่วมคิด ศาลลงโทษได้ตามฐานที่พิพากษา
ฟ้องว่าสมคบกันทำผิดร่วมกัน ทางพิจารณาได้ความว่าผิดฐานสมรู้แม้มิได้อ้างมาตรา 65 ศาลก็ลงโทษฐานสมรู้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 454/2488
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสมคบคิดทำผิดอาญาและการลงโทษจำเลยนอกเหนือจากที่ระบุในฟ้อง
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานสมคบกันฆ่าพลตำรวจสมบูรณ์, ซึ่งกระทำการตามหน้าที่อันชอบด้วยกฎหมาย ได้ความว่านายน้อยจำเลยใช้ไม้ตีพลตำรวจสุธรรมเช่นนี้ จะลงโทษนายน้อยฐานต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานไม่ได้ เพราะเป็นข้อเท็จจริงนอกฟ้อง
แม้จำเลยจะได้กระทำผิดในที่แห่งเดียวกัน แต่เป็นเรื่องเกิดขึ้นในปัจจุบันทันด่วน ต่างคนต่างทำโดยมิได้มีการคบคิดกัน ไม่ถือว่าเป็นตัวการด้วยกัน
แม้จำเลยจะได้กระทำผิดในที่แห่งเดียวกัน แต่เป็นเรื่องเกิดขึ้นในปัจจุบันทันด่วน ต่างคนต่างทำโดยมิได้มีการคบคิดกัน ไม่ถือว่าเป็นตัวการด้วยกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8/2487 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความยินยอมร่วมกันทำร้ายร่างกายและการขาดเหตุยั่วโทสะ
การที่จำเลยออกไปคอยผู้ตายซึ่งมาร้องด่าท้าทายชวนไห้ไปทำร้ายซึ่งกันและกันนะที่เกิดเหตุโดยเตรียมอาวุธไปด้วยนั้น เปนการสแดงความตั้งไจอันแท้จิงว่าต่างสมัคไจจะทำร้ายกันไม่ต้องด้วยลักสนะยั่วโทสะตามกดหมายอันจะเปนเหตุไห้ลดโทสได้.