พบผลลัพธ์ทั้งหมด 66 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 197/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวโดยชอบธรรม: เหตุทำร้ายเกิดขึ้นก่อน, จำเลยตกอยู่ในภาวะอันตราย, และการใช้สิทธิป้องกันตัวที่สมควร
จำเลยไม่ได้เป็นผู้ก่อเหตุขึ้นก่อนแต่ผู้ตายเข้าใจว่าจำเลยตีภริยาตนจึงเกิดโทสะชักมีดวิ่งมาทำร้ายจำเลย ถึงกับกระโดดจากสะพานน้ำไปหาจำเลยในเรือแล้วตกลงไปในน้ำด้วยกันผู้ตายโผกอดปล้ำเอามีดทำร้ายจำเลยมีบาดเจ็บถึง 4 แห่ง จนจมน้ำไปด้วยกัน เมื่อต่างโผล่ขึ้นมาแล้วจำเลยจะต้องนึกรู้ว่าตนจะถูกทำร้ายอีกและจำเลยกำลังอ่อนเพลียเพราะต้องจมน้ำ และน้ำตรงนั้นก็ลึกหยั่งไม่ถึงจะหลีกเลี่ยงด้วยวิธีอื่นไม่ได้ จำเลยจึงยิงผู้ตายตาย ดังนี้ ถือได้ว่าเป็นการป้องกันตัวที่ไม่เกินสมควรแก่เหตุ ควรได้รับยกเว้นโทษตามมาตรา 50
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1343/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้กำลังเกินสมควร ยิงผู้ร้ายขณะหลบหนี
ยิงผู้ร้ายที่กำลังถือห่อของ ขณะกำลังวิ่งหนี โดยผู้ร้ายมิได้กระทำอะไรแก่ตน ดังนี้ ย่อมเป็นการรุนแรงเกินสมควรแก่เหตุไป ตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 53
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 894/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เหตุหย่า: พฤติการณ์ความรุนแรงในครอบครัวและการกระทบกระทั่งทางวาจา ไม่เป็นเหตุสมควรให้หย่า
การที่ภริยาเคยเอามือดันหลังบิดาสามีตกคูในขณะเดินข้ามสะพานสวนกันและภริยาไปรบเร้าสามีให้หาที่อยู่ แล้วสามีพูดว่าที่นี่ไม่ใช่โรงแรม ภริยาโกรธชกสามี สามีเอาไม้เรียวตีภริยา ภริยาแย่งไม้ได้แล้วตีสามีบ้างคนละทีสองที ต่อมาสามีได้มีจดหมายนัดพบภริยาภริยาก็ไปหาพูดจากันเป็นปกติ ในจดหมายของสามีก็แสดงความรักและอาลัยต่อภริยา หากแต่มีความลำบากเรื่องที่อยู่เพราะผู้ใหญ่พฤติการณ์เหล่านี้ถือว่ายังไม่เป็นเหตุหย่าตามกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2106-2108/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประเมินภาษีร้านค้าจากค่าเช่า ต้องมีเหตุผลแสดงว่าค่าเช่าที่ประเมินสูงกว่าค่าเช่าจริง
ผู้เสียภาษีฟ้องข้าหลวงประจำจังหวัดในเรื่องประเมินภาษีและเรียกภาษีที่เก็บเกินไปคืน และข้าหลวงประจำจังหวัดคนใหม่ขอเข้าเป็นจำเลยแทน ไม่มีผู้ใดคัดค้าน ศาลย่อมรับพิจารณาคดีที่ฟ้องกันนั้น
การประเมินภาษีร้านค้าจากเงินค่าเช่านั้นเจ้าพนักงานประเมินจะต้องมีเหตุผล เป็นข้อเท็จจริงที่จะแสดงว่า ร้านค้านั้น ๆ สมควรให้เช่าได้ในจำนวนเงินสูงกว่าค่าเช่าจริง จะเอาค่าเช่าของร้านค้ารายหนึ่ง ซึ่งเป็นเหตุการณ์ฉะเพาะรายมาเป็นมาตรฐานว่าค่าเช่ารายอื่นต่ำเกินสมควรนั้นไม่ได้.
การประเมินภาษีร้านค้าจากเงินค่าเช่านั้นเจ้าพนักงานประเมินจะต้องมีเหตุผล เป็นข้อเท็จจริงที่จะแสดงว่า ร้านค้านั้น ๆ สมควรให้เช่าได้ในจำนวนเงินสูงกว่าค่าเช่าจริง จะเอาค่าเช่าของร้านค้ารายหนึ่ง ซึ่งเป็นเหตุการณ์ฉะเพาะรายมาเป็นมาตรฐานว่าค่าเช่ารายอื่นต่ำเกินสมควรนั้นไม่ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 847/2490
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้สิทธิเช่าทรัพย์สินเกินสมควร และความรับผิดในความเสียหายที่เกิดขึ้น
เช่าโกดังเก็บของเมื่อไม่มีข้อสัญญาว่า เช่าเก็บอะไรน้ำหนักเท่าใดผู้เช่าก็เก็บของได้เพียงพอควรแก่น้ำหนักของโกดังที่จะทานได้ ถ้าเก็บของเกินน้ำหนักเช่นนั้นแล้วเกิดชำรุดเสียหาย ผู้เช่าต้องรับผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 673/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การต่อสู้ป้องกันตัวหลังวิวาทขาดตอน: การกระทำของจำเลยฟังได้ว่าเป็นการป้องกันตัวที่สมควร
จำเลยเป็นปากเสียงกันแล้วเลิกลากันไป สักครู่หนึ่งฝ่ายหนึ่งกลับย้อนมาเอามีดฟันอีกฝ่ายหนึ่ง จึงต่อสู้ทำร้ายกันและกันมีบาดเจ็บ ต้องฟังว่าป้องกันเพราะกรณีวิวาทขาดตอนไปแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 308/2488 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อสันนิษฐานทางกฎหมายเรื่องเงินตราและการหักล้างได้
ข้อสันนิษฐานของกฎหมายที่ว่าถ้ามีสตางค์เกิน 30 บาท ให้ถือว่าไว้เกินสมควรนั้น ไม่ใช่ข้อสันนิษฐานเด็ดขาด ย่อมนำสืบหักล้างข้อสันนิษฐานนี้ได้.
พฤตติการณ์ที่ถือว่าผู้เข้าหุ้นทำการค้าขายกับพวกอีก 4 คนในระยะ 3-4 วันได้สตางค์มา 45 บาท 46 สตางค์ยังไม่ทันแบ่งกัน ไม่เป็นการเกินสมควร.
พฤตติการณ์ที่ถือว่าผู้เข้าหุ้นทำการค้าขายกับพวกอีก 4 คนในระยะ 3-4 วันได้สตางค์มา 45 บาท 46 สตางค์ยังไม่ทันแบ่งกัน ไม่เป็นการเกินสมควร.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 85/2487
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การมีเงินสดในร้านค้าจำนวนน้อย ไม่ถือเป็นความผิด
กรณีที่ร้านค้ามีสตางค์ไว้ 80 บาท โจทก์ไม่แสดงให้เห็นว่าเกินสมควรไม่มีความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 679/2487 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองเหรียญกษาปณ์เกินสมควรเพื่อใช้ในการค้าขาย ศาลยกฟ้องเนื่องจากจำนวนเงินเหมาะสมกับกิจการ
จำเลยตั้งร้านค้าขายบุหรี่และเครื่องอุปโภคบริโภคต่าง ๆ มีสินค้าไนร้านประมานสามพันบาทได้มีเหรียนกสาปน์ไว้ไนครอบครองรวม 78 บาท 5 สตางค์ สาลดีกาเห็นว่า ถือไม่ได้ว่าจำเลยมีไว้เกินสมควนหรือเกินจำเปนอันจะฟังว่าเปนผู้ทำการค้าเหรียนกสาปน์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 679/2487
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองเหรียญกษาปณ์ไม่ถือเป็นการค้า หากมีไว้ไม่เกินสมควร
จำเลยตั้งร้านค้าขายบุหรี่และเครื่องอุปโภคบริโภคต่างๆ มีสินค้าในร้านประมาณสามพันบาท ได้มีเหรียญกษาปณ์ไว้ในครอบครองรวม 78 บาท 5 สตางค์ ศาลฎีกาเห็นว่า ถือไม่ได้ว่าจำเลยมีไว้เกินสมควรหรือเกินจำเป็นอันจะฟังว่าเป็นผู้ทำการค้าเหรียญกษาปณ์