พบผลลัพธ์ทั้งหมด 61 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1565/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายที่ดินโดยเจตนาฉ้อโกง: การสมยอมเพื่อหลีกเลี่ยงสัญญาเดิม
สัญญาจะขายที่ดินแก่เขาแล้วกลับเอาไปขายแก่คนอื่นเสียเมื่อปรากฎว่าคนซื้อภายหลังนี้ทราบอยู่ก่อนแล้วว่าผู้ขาย ได้ตกลงจะขายที่นี้แก่ผู้ซื้อคนแรก ทั้งตนเองก็ยังได้เคยขอซื้อต่อจากเขาแต่เขาไม่ขายให้เช่นนี้ดังนี้ย่อมฟังได้ว่าการซื้อขายรายหลังนี้เป็นการสมยอม เพื่อฉ้อโกงผู้ซื้อ ผู้ซื้อย่อมฟ้องให้เพิกถอนนิติกรรมการโอนนี้และบังคับให้ผู้ขายโอนขายที่นี้แก่เขากับให้ผู้ซื้อรายหลังใช้ค่าเสียหายแก่เขาอีกได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1367/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินโดยสมยอม ศาลมีอำนาจเพิกถอนได้ แม้ผู้รับโอนอ้างสุจริต
แม้ว่าจำเลยได้โอนกรรมสิทธิที่ดินไปยังผู้ร้องขัดทรัพย์ แต่ปรากฎว่านิติกรรมการโอนนั้นได้ทำโดยสมยอม ศาลมีอำนาจเพิกถอนการโอนได้.
ผู้รับโอนที่พิพาทไว้โดยเป็นการกระทำให้เจ้าหนี้เสียเปรียบหรือไม่ เป็นปัญหาข้อเท็จจริง.
ผู้รับโอนที่พิพาทไว้โดยเป็นการกระทำให้เจ้าหนี้เสียเปรียบหรือไม่ เป็นปัญหาข้อเท็จจริง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1367/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิกถอนการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินเนื่องจากสมยอมกันเพื่อหลีกเลี่ยงเจ้าหนี้
แม้ว่าจำเลยได้โอนกรรมสิทธิที่ดินไปยังผู้ร้องขัดทรัพย์ แต่ปรากฏว่านิติกรรมการโอนนั้นได้ทำโดยสมยอม ศาลมีอำนาจเพิกถอนการโอนได้
ผู้รับโอนที่พิพาทไว้โดยเป็นการกระทำให้เจ้าหนี้เสียเปรียบหรือไม่เป็นปัญหาข้อเท็จจริง
ผู้รับโอนที่พิพาทไว้โดยเป็นการกระทำให้เจ้าหนี้เสียเปรียบหรือไม่เป็นปัญหาข้อเท็จจริง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 434/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิผู้รับมรดกในการคุ้มครองจากหนี้สินที่สร้างขึ้นโดยสมยอม
ผู้ร้องยื่นคำร้องเข้ามาเพื่อขอให้ได้รับความคุ้มครองสิทธิในการรับมรดกของผู้ร้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 57(1) ซึ่งบัญญัติให้บุคคลที่ 3 ได้รับความคุ้มครองสิทธิของตนที่มีอยู่โดยทันทีไม่จำต้องฟ้องคดีหลายเรื่องและไม่จำต้องได้รับความยินยอมจากคู่ความเช่นอนุมาตรา 2 แม้คู่ความจะคัดค้าน ศาลก็สั่งอนุญาตได้
โจทก์ฟ้องเรียกเงินกู้จากจำเลยในฐานะส่วนตัวและในฐานะผู้จัดการมรดกและผู้รับมรดกของภริยาผู้วายชนม์ผู้ร้องสอดผู้เป็นมารดาผู้ตายผู้ร้องสอดว่าโจทก์จำเลยสมยอมสร้างหนี้สินขึ้นโดยไม่เป็นความจริง ทำให้ผู้ร้องสอดเสียหายเนื่องจากผู้ร้องสอดกำลังฟ้องจำเลยเรียกทรัพย์มรดกรายนี้อยู่ ศาลชั้นต้นยกคำร้องของผู้ร้องสอดเสีย แล้วดำเนินคดีไปพิพากษาให้จำเลยในส่วนตัวและในฐานะผู้จัดการและรับมรดกนางเลี๊ยบ ใช้ต้นเงินและดอกเบี้ยให้โจทก์ตามฟ้องดังนี้ เมื่อผู้ร้องสอดอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นขึ้นมาศาลสูงก็มีอำนาจยกคำสั่งและคำพิพากษาศาลล่าง ให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาและพิพากษาใหม่ ตามรูปความได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 243(1)
โจทก์ฟ้องเรียกเงินกู้จากจำเลยในฐานะส่วนตัวและในฐานะผู้จัดการมรดกและผู้รับมรดกของภริยาผู้วายชนม์ผู้ร้องสอดผู้เป็นมารดาผู้ตายผู้ร้องสอดว่าโจทก์จำเลยสมยอมสร้างหนี้สินขึ้นโดยไม่เป็นความจริง ทำให้ผู้ร้องสอดเสียหายเนื่องจากผู้ร้องสอดกำลังฟ้องจำเลยเรียกทรัพย์มรดกรายนี้อยู่ ศาลชั้นต้นยกคำร้องของผู้ร้องสอดเสีย แล้วดำเนินคดีไปพิพากษาให้จำเลยในส่วนตัวและในฐานะผู้จัดการและรับมรดกนางเลี๊ยบ ใช้ต้นเงินและดอกเบี้ยให้โจทก์ตามฟ้องดังนี้ เมื่อผู้ร้องสอดอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นขึ้นมาศาลสูงก็มีอำนาจยกคำสั่งและคำพิพากษาศาลล่าง ให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาและพิพากษาใหม่ ตามรูปความได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 243(1)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 710/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจจัดการสินบริคนห์ของผู้อนุบาล: การขายทรัพย์สินโดยสมยอมและสิทธิของโจทก์
ภริยาซึ่งเป็นผู้อนุบาลสามีผู้วิกลจริตซึ่งศาลสั่งให้เป็นคนไร้ความสามารถมีอำนาจจัดการสินบริคนห์ส่วนของสามีได้โดยลำพัง
ทำสัญญาขายที่ดินแก่คน 1 แล้วไปโอนขายให้แก่อีกคน 1 โดยสมยอมกัน ผู้ซื้อคนแรกข้อให้เพิกถอนโอนรายหลังได้
ทำสัญญาขายที่ดินแก่คน 1 แล้วไปโอนขายให้แก่อีกคน 1 โดยสมยอมกัน ผู้ซื้อคนแรกข้อให้เพิกถอนโอนรายหลังได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 105/2485
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาสละสิทธิสมยอม ศาลเพิกถอนได้ ไม่เกินคำขอ
ร้องคัดค้านการยึดทรัพย์ เมื่อได้ความว่าสัญญาสละสิทธิและรับเงินระหว่างผู้ร้องกับจำเลยเป็นการสมยอมกันศาลย่อมพิพากษาให้เพิกถอนสัญญานั้นได้ ไม่เป็นการเกินคำขอ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 660/2481
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลชี้ขาดการโอนทรัพย์โดยสมยอมเพื่อฉ้อฉล โจทก์ไม่ต้องฟ้องเพิกถอนก่อน
โจทก์ยึดทรัพย์จำเลย ผู้ร้องร้องขัดทรัพย์ว่าเป็นทรัพย์ของตนและโจทก์ยืนยันว่าการโอนนั้นทำโดยสมยอมดังนี้ ศาลมีอำนาจจะชี้ขาดว่าได้โอนกันโดยสมยอมหรือไม่ โดยโจทก์มิต้องไปฟ้องขอให้เพิกถอนการโอนนั้นเสียก่อน
อ้างฎีกาที่ 181/2481
อ้างฎีกาที่ 181/2481
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 181/2481
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนทรัพย์สินสมยอมเจ้าหนี้เสียเปรียบ โมฆะ แม้ไม่ได้ฟ้องเพิกถอน
ภริยารู้แล้วว่าสามีจะถูกฟ้องเรื่องหนี้สิน จึงโอนสินบริคณห์ให้แก่บุตร์ของตนอันเกิดด้วยสามีเดิมไปดังนี้ ต้องถือว่าการโอนเป็นโมฆะใช้ไม่ได้ เพราะเป็นการยินยอมกระทำให้เจ้าหนี้เสียเปรียบ
โจทก์ยึดทรัพย์จำเลยซึ่งเป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษาผู้ร้องๆ ขัดทรัพย์ว่าเป็นของตน โจทก์แถลงว่าการโอนนั้นทำโดยสมยอมใช้ไม่ได้ดังนี้ ศาลมีอำนาจที่จะชี้ขาดปัญหานี้ได้โดยโจทก์มิต้องไปฟ้องขอให้เพิกถอนการโอนนั้นก่อน
โจทก์ยึดทรัพย์จำเลยซึ่งเป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษาผู้ร้องๆ ขัดทรัพย์ว่าเป็นของตน โจทก์แถลงว่าการโอนนั้นทำโดยสมยอมใช้ไม่ได้ดังนี้ ศาลมีอำนาจที่จะชี้ขาดปัญหานี้ได้โดยโจทก์มิต้องไปฟ้องขอให้เพิกถอนการโอนนั้นก่อน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 669/2480
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแสดงเจตนาลวงในการโอนทรัพย์เพื่อหลีกเลี่ยงหนี้สัญญา และผลกระทบต่อการยึดทรัพย์
พฤตติการณ์ที่ถือว่าเป็นการแสดงเจตนาลวงสัญญาทางพระราชไมตรีคนในบังคับอังกฤษร้องขัดทรัพย์ ฎีกาได้ฉะเพาะปัญหาข้อกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 267/2480
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาขายฝากและการสมยอมฉ้อโกง: เมื่อเจตนาเดิมเปลี่ยนแปลง
คู่สัญญาตั้งใจจะกู้เงินและให้ที่ดินเป็นประกัน แต่เมื่อไปที่เกษตร์ได้ตกลงทำเป็นคู่สัญญาขายฝากดังนี้ ไม่เรียกว่าเป็นนิติกรรมอำพราง ประมวลวิธีพิจารณาแพ่ง ม.288