พบผลลัพธ์ทั้งหมด 91 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 573/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจ้างต่อเนื่อง-ต่ออายุ ไม่ใช่สัญญาใหม่: ลูกจ้างมีสิทธิค่าชดเชย แม้สหกรณ์อ้างไม่แสวงหากำไร
เมื่อโจทก์ทำงานถึงอายุ 60 ปีแล้วมีการต่ออายุการทำงานออกไปคราวละ 1 ปี จนกระทั่งโจทก์มีอายุครบ65 ปีนั้น การต่ออายุการทำงานแต่ละคราวเป็นเพียงการขยายกำหนดเวลาจ้างเดิมออกไปไม่ใช่ตกลงทำสัญญาจ้างกันใหม่ จึงเป็นสัญญาจ้างที่มิได้กำหนด ระยะเวลาการจ้างไว้แน่นอนอยู่เช่นเดิม แม้จำเลยจะเลิกจ้างโจทก์เมื่อครบกำหนดระยะเวลาที่ต่ออายุการทำงาน จำเลยก็ต้องจ่ายค่าชดเชย
วัตถุประสงค์ตามข้อบังคับสหกรณ์จำเลยกำหนดการจัดสรรกำไรสุทธิ ของสหกรณ์ การจัดสรรกำไรเป็นโบนัสแก่เจ้าหน้าที่สหกรณ์จึงแสดงว่าสหกรณ์จำเลยดำเนินการเพื่อกำไรในทางเศรษฐกิจ
การจ่ายค่าชดเชยเป็นหน้าที่ของนายจ้างตาม กฎหมายคุ้มครองแรงงานการไม่ปฏิบัติตามเป็นความผิดอาญา ถือว่าเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน จึงไม่อาจระงับไปด้วยเหตุที่ลูกจ้างถอนคำร้องเรียนต่อพนักงานตรวจแรงงานเพื่อเตือนจำเลยให้จ่ายค่าชดเชย
จำเลยเสียค่าแต่งทนายความ ซึ่งจำเลยไม่ต้องเสียตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงานฯ มาตรา27 ศาลฎีกาคืนค่าธรรมเนียมนี้ให้จำเลย
วัตถุประสงค์ตามข้อบังคับสหกรณ์จำเลยกำหนดการจัดสรรกำไรสุทธิ ของสหกรณ์ การจัดสรรกำไรเป็นโบนัสแก่เจ้าหน้าที่สหกรณ์จึงแสดงว่าสหกรณ์จำเลยดำเนินการเพื่อกำไรในทางเศรษฐกิจ
การจ่ายค่าชดเชยเป็นหน้าที่ของนายจ้างตาม กฎหมายคุ้มครองแรงงานการไม่ปฏิบัติตามเป็นความผิดอาญา ถือว่าเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน จึงไม่อาจระงับไปด้วยเหตุที่ลูกจ้างถอนคำร้องเรียนต่อพนักงานตรวจแรงงานเพื่อเตือนจำเลยให้จ่ายค่าชดเชย
จำเลยเสียค่าแต่งทนายความ ซึ่งจำเลยไม่ต้องเสียตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงานฯ มาตรา27 ศาลฎีกาคืนค่าธรรมเนียมนี้ให้จำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3428/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความคดีพ่อค้า: สหกรณ์ขายเชื่อและขอบเขตการเป็นพ่อค้าตามประมวลกฎหมายแพ่ง
สหกรณ์โจทก์จัดอาหารสัตว์มาจำหน่าย แม้โจทก์จะมีระเบียบการให้สินเชื่อแก่สมาชิก ระเบียบดังกล่าวก็เพียงกำหนดวงเงินที่จะให้สินเชื่อและกำหนดวิธีการที่จะควบคุมมิให้ผู้ที่ได้รับสินเชื่อจำหน่ายทรัพย์สินของตนเท่านั้น ซึ่งถ้าสมาชิกหรือบุคคลภายนอกมาขอซื้อสินค้าด้วยเงินสดโจทก์ก็หามีอำนาจควบคุมไม่ และไม่ปรากฏว่าโจทก์ไม่ติดต่อค้าขายกับบุคคลภายนอกจึงต้องถือว่าโจทก์ขายอาหารสัตว์เป็นปกติธุระแก่บุคคลทั่วไป โจทก์จึงเป็นพ่อค้าตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165(1) และต้องใช้อายุความ 2 ปีในการใช้สิทธิเรียกร้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3428/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความหนี้ซื้อเชื่อ: สหกรณ์ขายอาหารสัตว์เป็นปกติธุระ ถือเป็นพ่อค้าต้องใช้ อายุความ 2 ปี
สหกรณ์โจทก์จัดอาหารสัตว์มาจำหน่าย แม้โจทก์จะมีระเบียบการให้สินเชื่อแก่สมาชิกระเบียบดังกล่าวก็เพียงกำหนดวงเงินที่จะให้สินเชื่อและกำหนดวิธีการที่จะควบคุมมิให้ผู้ที่ได้รับสินเชื่อจำหน่ายทรัพย์สินของตนเท่านั้น ซึ่งถ้าสมาชิกหรือบุคคลภายนอกมาขอซื้อสินค้าด้วยเงินสดโจทก์ก็หามีอำนาจควบคุมไม่ และไม่ปรากฏว่าโจทก์ไม่ติดต่อค้าขายกับบุคคลภายนอกจึงต้องถือว่าโจทก์ขายอาหารสัตว์เป็นปกติธุระแก่บุคคลทั่วไป โจทก์จึงเป็นพ่อค้าตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165(1) และต้องใช้อายุความ 2 ปีในการใช้สิทธิเรียกร้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1822/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลิกจ้างลูกจ้างกรณีทุจริตหน้าที่ แม้สมาคมเป็นนิติบุคคลอื่น แต่เชื่อมโยงกับสหกรณ์จำเลย
แม้สมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์การเกษตรจะได้จดทะเบียนเป็นสมาคมเป็นนิติบุคคลต่างหากจากสหกรณ์การเกษตรจำเลยก็ตามแต่สมาคมนี้นับได้ว่าอยู่ในเครือเดียวกับจำเลยโดยมีกำเนิดสืบเนื่องมาจากวัตถุประสงค์ของกิจการจำเลยผู้สมัครเป็นสมาชิกสมาคมล้วนเป็นสมาชิกของจำเลย เนื่องด้วยสมาคมไม่มีเจ้าหน้าที่ของตนเองจำเลยจึงมอบหมายให้โจทก์ซึ่งเป็นลูกจ้างประจำของจำเลยดำเนินการรับสมัครสมาชิกตั้งแต่เริ่มก่อตั้งสมาคมและยังมิได้จดทะเบียนเป็นสมาคม ถือได้ว่าจำเลยมอบให้โจทก์ปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวเพื่อกระทำการให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของจำเลยแล้ว ดังนี้ เมื่อโจทก์ยักยอกเงินค่ารับสมัคร สมาชิกสมาคมจึงเป็นการทุจริตต่อหน้าที่ที่จำเลยมอบหมายแก่โจทก์จำเลยจึงเลิกจ้างหรือไล่โจทก์ออกจากงานได้โดยไม่ต้องจ่ายเงินบำเหน็จ ค่าทำงานในวันหยุดพักผ่อนประจำปีและค่าชดเชย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3130/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขีดฆ่าแก้ไขใบเสร็จรับเงินโดยประธานกรรมการสหกรณ์ ไม่ถือเป็นการละเมิด หากเงินดังกล่าวไม่ใช่ของสหกรณ์
จำเลยในฐานะประธานกรรมการสหกรณ์โจทก์ขีดฆ่าแก้ไขใบเสร็จรับเงินทั้งที่ข้อบังคับของสหกรณ์โจทก์ไม่ได้ให้อำนาจที่จะกระทำได้ แต่ไม่มีข้อบังคับให้ส่งเงินนั้นแก่โจทก์ เงินจำนวนตามใบเสร็จนั้นไม่ใช่ของโจทก์ ไม่เป็นละเมิดต่อโจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 119/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การมอบอำนาจฟ้องคดีของสหกรณ์: เสียงข้างมากของคณะกรรมการเพียงพอทำให้หนังสือมอบอำนาจสมบูรณ์
จำเลยให้การว่า ค. จะได้รับมอบอำนาจจากโจทก์ให้ฟ้องคดีหรือไม่ จำเลยไม่ทราบและไม่รับรอง คำให้การเช่นนี้ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยให้การรับ โจทก์จึงยังมีหน้าที่นำสืบถึงประเด็นข้อนี้
พระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ.2511 มาตรา 24 บัญญัติให้คณะกรรมการดำเนินการของสหกรณ์จำกัดเป็นผู้ดำเนินการและเป็นผู้แทนสหกรณ์จำกัด ในกิจการอันเกี่ยวกับบุคคลภายนอกและคณะกรรมการจะมอบหมายให้กรรมการคนหนึ่งหรือหลายคนทำการแทนก็ได้ แต่ตามกฎหมายและข้อบังคับของสหกรณ์โจทก์มิได้กำหนดไว้ว่าในการดำเนินกิจการต่าง ๆ คณะกรรมการดังกล่าวจะต้องลงชื่อครบทุกคนหรือไม่เพียงใด จึงต้องนำบทบัญญัติทั่วไปเกี่ยวกับนิติบุคคลตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาใช้บังคับ ซึ่งมาตรา 77 กำหนดให้เป็นไปตามเสียงข้างมาก ดังนั้น เมื่อคณะกรรมการดำเนินการของโจทก์ 6 คนในจำนวน 7 คนได้ลงชื่อในหนังสือมอบอำนาจให้ ค. ฟ้องคดี จึงเป็นเสียงข้างมากตามนัยแห่งบทกฎหมายดังกล่าว หนังสือมอบอำนาจของโจทก์ซึ่งสมบูรณ์ตามกฎหมาย
พระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ.2511 มาตรา 24 บัญญัติให้คณะกรรมการดำเนินการของสหกรณ์จำกัดเป็นผู้ดำเนินการและเป็นผู้แทนสหกรณ์จำกัด ในกิจการอันเกี่ยวกับบุคคลภายนอกและคณะกรรมการจะมอบหมายให้กรรมการคนหนึ่งหรือหลายคนทำการแทนก็ได้ แต่ตามกฎหมายและข้อบังคับของสหกรณ์โจทก์มิได้กำหนดไว้ว่าในการดำเนินกิจการต่าง ๆ คณะกรรมการดังกล่าวจะต้องลงชื่อครบทุกคนหรือไม่เพียงใด จึงต้องนำบทบัญญัติทั่วไปเกี่ยวกับนิติบุคคลตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาใช้บังคับ ซึ่งมาตรา 77 กำหนดให้เป็นไปตามเสียงข้างมาก ดังนั้น เมื่อคณะกรรมการดำเนินการของโจทก์ 6 คนในจำนวน 7 คนได้ลงชื่อในหนังสือมอบอำนาจให้ ค. ฟ้องคดี จึงเป็นเสียงข้างมากตามนัยแห่งบทกฎหมายดังกล่าว หนังสือมอบอำนาจของโจทก์ซึ่งสมบูรณ์ตามกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 119/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนังสือมอบอำนาจของสหกรณ์: เสียงข้างมากของคณะกรรมการเพียงพอต่อการสมบูรณ์ของอำนาจฟ้องคดี
จำเลยให้การว่า ค.จะได้รับมอบอำนาจจากโจทก์ให้ ฟ้องคดีหรือไม่ จำเลยไม่ทราบและไม่รับรอง คำให้การเช่นนี้ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยให้การรับ โจทก์จึงยังมีหน้าที่นำสืบถึง ประเด็นข้อนี้
พระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ.2511 มาตรา 24 บัญญัติให้คณะกรรมการดำเนินการของสหกรณ์จำกัดเป็นผู้ดำเนินการและ เป็นผู้แทนสหกรณ์จำกัดในกิจการอันเกี่ยวกับบุคคลภายนอก และคณะกรรมการจะมอบหมายให้กรรมการคนหนึ่งหรือหลายคน ทำการแทนก็ได้แต่ตามกฎหมายและข้อบังคับของสหกรณ์โจทก์ มิได้กำหนดไว้ว่าในการดำเนินกิจการต่างๆ คณะกรรมการดังกล่าว จะต้องลงชื่อครบทุกคนหรือไม่เพียงใด จึงต้องนำบทบัญญัติทั่วไป เกี่ยวกับนิติบุคคลตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาใช้บังคับ ซึ่งมาตรา 77 กำหนดให้เป็นไปตามเสียงข้างมาก ดังนั้น เมื่อ คณะกรรมการดำเนินการของโจทก์ 6 คนในจำนวน 7 คนได้ลงชื่อ ในหนังสือมอบอำนาจให้ ค.ฟ้องคดี จึงเป็นเสียงข้างมากตามนัย แห่งบทกฎหมายดังกล่าว หนังสือมอบอำนาจของโจทก์จึงสมบูรณ์ ตามกฎหมาย
พระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ.2511 มาตรา 24 บัญญัติให้คณะกรรมการดำเนินการของสหกรณ์จำกัดเป็นผู้ดำเนินการและ เป็นผู้แทนสหกรณ์จำกัดในกิจการอันเกี่ยวกับบุคคลภายนอก และคณะกรรมการจะมอบหมายให้กรรมการคนหนึ่งหรือหลายคน ทำการแทนก็ได้แต่ตามกฎหมายและข้อบังคับของสหกรณ์โจทก์ มิได้กำหนดไว้ว่าในการดำเนินกิจการต่างๆ คณะกรรมการดังกล่าว จะต้องลงชื่อครบทุกคนหรือไม่เพียงใด จึงต้องนำบทบัญญัติทั่วไป เกี่ยวกับนิติบุคคลตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาใช้บังคับ ซึ่งมาตรา 77 กำหนดให้เป็นไปตามเสียงข้างมาก ดังนั้น เมื่อ คณะกรรมการดำเนินการของโจทก์ 6 คนในจำนวน 7 คนได้ลงชื่อ ในหนังสือมอบอำนาจให้ ค.ฟ้องคดี จึงเป็นเสียงข้างมากตามนัย แห่งบทกฎหมายดังกล่าว หนังสือมอบอำนาจของโจทก์จึงสมบูรณ์ ตามกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3116/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของสหกรณ์ต่อละเมิดของบุคคลที่สามที่ดำเนินการในนามของสหกรณ์
จำเลยที่ 2 ดำเนินกิจการตามวัตถุประสงค์ของตนโดยยอมให้จำเลยที่ 1 นำรถแท็กซี่ออกวิ่งรับคนโดยสารในนามสหกรณ์แท็กซี่อิสระ จำกัด ซึ่งเป็นชื่อของจำเลยที่ 2โดยเปิดเผย โดยจำเลยที่ 2 มีผลประโยชน์จากสมาชิกที่นำรถเข้าวิ่ง-ร่วม เท่ากับจำเลยที่ 2 เชิดให้จำเลยที่ 1เป็นตัวแทนของจำเลยที่ 2 จำเลยที่ 2 จึงต้องร่วมรับผิดต่อบุคคลภายนอกผู้สุจริต เสมือนว่าจำเลยที่ 1เป็นตัวแทนของตนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 821เมื่อจำเลยที่ 1 ขับรถไปกระทำละเมิดอันต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายให้โจทก์ จำเลยที่ 2 ต้องรับผิดร่วมด้วยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 427,821
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2791/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจที่ประชุมใหญ่สหกรณ์ในการกำหนดหลักเกณฑ์จ่ายโบนัส: สิทธิและขอบเขตตามกฎหมายและข้อบังคับ
ตาม พระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ. 2511 กับข้อบังคับของชุมนุมสหกรณ์ แสดงว่าที่ประชุมใหญ่ของจำเลยมีอำนาจใช้ดุลพินิจกำหนดหลักเกณฑ์ในการ จ่ายเงินโบนัสได้ตามที่เห็นสมควร ดังนั้น การที่ที่ประชุมใหญ่ลงมติอนุมัติตามข้อเสนอของคณะกรรมการดำเนินการของจำเลยให้จ่ายโบนัสแก่พนักงานโดยมีหลักเกณฑ์ว่าต้องมีตัวอยู่กับจำเลยในวันที่ที่ประชุมอนุมัตินั้น จึงอยู่ในอำนาจที่จะกระทำได้โดยชอบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2454/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจสั่งเลิกสหกรณ์: เมื่อสหกรณ์ดำเนินการไม่ได้ผล หรือก่อให้เกิดความเสียหาย
โจทก์จำเลยตกลงกันขอให้ศาลวินิจฉัยในประเด็นข้อเดียวว่า จำเลยมีสิทธิสั่งเลิกสหกรณ์โจทก์ตามกฎหมายหรือไม่ โดยโจทก์จำเลยขอสละข้อต่อสู้อื่นๆ และไม่ติดใจสืบพยานกันต่อไป ย่อมถือว่าโจทก์จำเลยขอปิดคดีของตนเสร็จแล้ว ไม่มีเหตุที่จะย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นดำเนินการสืบพยานโจทก์ต่อไปอีก
เมื่อได้ความว่าสหกรณ์จำกัดไม่อาจดำเนินการให้ได้ผลดี หรือการดำเนินการของสหกรณ์ก่อให้เกิดความเสียหายแก่สหกรณ์หรือประโยชน์ส่วนรวมดังระบุไว้ในมาตรา 51 (3) แห่งพระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ. 2511 แล้ว นายทะเบียนสหกรณ์ย่อมมีอำนาจสั่งเลิกสหกรณ์ได้ทันทีโดยไม่จำต้องสั่งให้แก้ไขข้อบกพร่องตามมาตรา 47 ก่อน
เมื่อได้ความว่าสหกรณ์จำกัดไม่อาจดำเนินการให้ได้ผลดี หรือการดำเนินการของสหกรณ์ก่อให้เกิดความเสียหายแก่สหกรณ์หรือประโยชน์ส่วนรวมดังระบุไว้ในมาตรา 51 (3) แห่งพระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ. 2511 แล้ว นายทะเบียนสหกรณ์ย่อมมีอำนาจสั่งเลิกสหกรณ์ได้ทันทีโดยไม่จำต้องสั่งให้แก้ไขข้อบกพร่องตามมาตรา 47 ก่อน