พบผลลัพธ์ทั้งหมด 68 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 866/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับคดีและการส่งสำเนาอุทธรณ์แก่คู่ความที่เกี่ยวข้องกับสินบริคณห์
โจทก์นำยึดทรัพย์สินของจำเลยซึ่งเป็นสินบริคณห์ระหว่างจำเลยกับภริยา ผู้ร้องซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาของภริยาจำเลยอีกคดีหนึ่งร้องขอให้แยกสินบริคณห์ที่ยึดออกเป็นส่วนของภริยาจำเลย ศาลอนุญาต โจทก์จึงขอให้ศาลยึดทรัพย์สินส่วนของภริยานี้อีก อ้างว่าหนี้ระหว่างโจทก์จำเลยเป็นหนี้ร่วม เมื่อศาลสั่งประการใดแล้ว หากโจทก์อุทธรณ์คำสั่งศาล ศาลต้องสั่งให้ส่งสำเนาอุทธรณ์ให้แก่ผู้ร้องซึ่งเป็นจำเลยอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 235 ด้วย หากศาลชั้นต้นมิได้สั่งเช่นนั้น และเมื่อศาลอุทธรณ์วินิจฉัยคดีไป ศาลฎีกาก็สั่งให้ยกคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์และให้ศาลชั้นต้นดำเนินการส่งสำเนาอุทธรณ์ให้แก่ผู้ร้องเสียใหม่ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1260/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การส่งสำเนาอุทธรณ์ให้จำเลยทหารและการพิจารณาคดีต่อเนื่องเมื่อจำเลยรับทราบแล้ว
อัยการจังหวัดสกลนครโจทก์ ยื่นฟ้องอุทธรณ์แล้วขอให้ศาลส่งสำเนาอุทธรณ์ให้จำเลยที่จังหวัดทหารบกอุดรธานี โดยแถลงว่าจำเลยเข้ารับราชการทหาร เป็นทหารประจำการอยู่ที่นั่น ศาลชั้นต้นได้ส่งสำเนาอุทธรณ์ไปยังผู้บังคับการจังหวัดทหารบกอุดรจนล่วงเลยเวลามานานแล้ว ไม่ได้รับตอบศาลชั้นต้นสอบถามโจทก์ ๆ ว่าไม่สามารถส่งสำเนาอุทธรณ์ได้ เพราะจำเลยอยู่ในอำนาจของทหาร เช่นนี้ เพียงแต่ยังไม่ทันได้รับตอบจากจังหวัดทหารบก จะถือว่าเป็นกรณีหาตัวจำเลยไม่พบ หรือหลบหนี หรือจงใจไม่รับอุทธรณ์ตามความในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 201 ยังไม่ถนัด เพราะเรื่องเช่นนี้โจทก์ควรจะได้พยานยามติดต่อกับทางทหารให้ได้ความชัดเจนว่าส่งสำเนาอุทธรณ์ให้จำเลยได้หรือไม่ อย่างไร เพราะเป็นทางราชการด้วยกัน
ศาลอุทธรณ์ สั่งจำหน่ายคดี เพราะส่งสำเนาอุทธรณ์ให้จำเลยไม่ได้ เมื่อปรากฏต่อมาว่า จำเลยได้รับสำเนาอุทธรณ์แล้ว โจทก์ก็ชอบที่จะต้องไปร้องต่อศาลอุทธรณ์ขอให้ศาลอุทธรณ์ทำการพิจารณาพิพากษาต่อไปไม่ใช่ฎีกาขอให้ศาลฎีกาสั่งให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาพิพากษา
ศาลอุทธรณ์ สั่งจำหน่ายคดี เพราะส่งสำเนาอุทธรณ์ให้จำเลยไม่ได้ เมื่อปรากฏต่อมาว่า จำเลยได้รับสำเนาอุทธรณ์แล้ว โจทก์ก็ชอบที่จะต้องไปร้องต่อศาลอุทธรณ์ขอให้ศาลอุทธรณ์ทำการพิจารณาพิพากษาต่อไปไม่ใช่ฎีกาขอให้ศาลฎีกาสั่งให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาพิพากษา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1260/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การส่งสำเนาอุทธรณ์ให้จำเลยที่เป็นทหารและการพิจารณาคดีต่อเมื่อจำเลยรับทราบแล้ว
อัยการจังหวัดสกลนครโจทก์ ยื่นฟ้องอุทธรณ์แล้วขอให้ศาลส่งสำเนาอุทธรณ์ให้จำเลยที่จังหวัดทหารบกอุดรธานี โดยแถลงว่าจำเลยเข้ารับราชการทหารเป็นทหารประจำการอยู่ที่นั่น ศาลชั้นต้นได้ส่งสำเนาอุทธรณ์ไปยังผู้บังคับการจังหวัดทหารบกอุดรจนล่วงเลยเวลามานานแล้วไม่ได้รับตอบ ศาลชั้นต้นสอบถามโจทก์ๆ ว่าไม่สามารถส่งสำเนาอุทธรณ์ได้ เพราะจำเลยอยู่ในอำนาจของทหาร เช่นนี้ เพียงแต่ยังไม่ทันได้รับตอบจากจังหวัดทหารบก จะถือว่าเป็นกรณีหาตัวจำเลยไม่พบหรือหลบหนี หรือจงใจไม่รับอุทธรณ์ตามความในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 201 ยังไม่ถนัดเพราะเรื่องเช่นนี้โจทก์ควรจะได้พยายามติดต่อกับทางทหารให้ได้ความชัดเจนว่า ส่งสำเนาอุทธรณ์ให้จำเลยได้หรือไม่อย่างไร เพราะเป็นทางราชการด้วยกัน
ศาลอุทธรณ์สั่งจำหน่ายคดี เพราะส่งสำเนาอุทธรณ์ให้จำเลยไม่ได้ เมื่อปรากฏต่อมาว่า จำเลยได้รับสำเนาอุทธรณ์แล้ว โจทก์ก็ชอบที่จะต้องไปร้องต่อศาลอุทธรณ์ขอให้ศาลอุทธรณ์ทำการพิจารณาพิพากษาต่อไป ไม่ใช่ฎีกาขอให้ศาลฎีกาสั่งให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาพิพากษา
ศาลอุทธรณ์สั่งจำหน่ายคดี เพราะส่งสำเนาอุทธรณ์ให้จำเลยไม่ได้ เมื่อปรากฏต่อมาว่า จำเลยได้รับสำเนาอุทธรณ์แล้ว โจทก์ก็ชอบที่จะต้องไปร้องต่อศาลอุทธรณ์ขอให้ศาลอุทธรณ์ทำการพิจารณาพิพากษาต่อไป ไม่ใช่ฎีกาขอให้ศาลฎีกาสั่งให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาพิพากษา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 890/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาที่ยื่นฟ้องก่อนแก้กฎหมายวิธีพิจารณา ต้องใช้กฎหมายเดิมบังคับ หากส่งสำเนาฎีกาไม่ได้ให้จำหน่ายคดี
คดีที่ได้ยื่นฟ้องฎีกาก่อนวันประกาศใช้ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาที่แก้ไขใหม่นั้น ต้องใช้ประมวลกฎหมาย วิธีพิจารณาที่ใช้อยู่เดิมบังคับ.เมื่อส่งสำเนาฎีกาไม่ได้ ต้องจำหน่ายคดี.
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 5/2499)
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 5/2499)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 890/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาที่ยื่นก่อนกฎหมายวิธีพิจารณาใหม่ ใช้กฎหมายเดิมบังคับ แม้ส่งสำเนาฎีกาไม่ได้
คดีที่ได้ยื่นฟ้องฎีกาก่อนวันประกาศใช้ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาที่แก้ไขใหม่นั้น ต้องใช้ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาที่ใช้อยู่เดิมบังคับเมื่อส่งสำเนาฎีกาไม่ได้ต้องจำหน่ายคดี(ประชุมใหญ่ครั้งที่5/2499)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 714/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การส่งสำเนาอุทธรณ์ล่าช้า: ศาลต้องกำหนดเวลาชัดเจน มิฉะนั้นถือไม่ได้ว่าโจทก์ทิ้งฟ้อง
โจทก์แพ้คดีศาลชั้นต้นโจทก์จึงอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นสั่งแต่เพียงว่า "รับอุทธรณ์โจทก์" ดังนี้เมื่อศาลชั้นต้นไม่ได้กำหนดระยะเวลาไว้ว่าจะให้โจทก์มารับสำเนาไปส่งแก่จำเลยภายในเวลาเท่าใด เมื่อโจทก์มาขอรับสำเนาอุทธรณ์ไปส่งให้แก่จำเลยหลังจากฟ้องอุทธรณ์แล้วเป็นเวลา 27 วัน เช่นนี้ก็ตามก็ยังเรียกไม่ได้ว่าโจทก์ทิ้งฟ้องตาม ป.วิ.แพ่ง ม.174(2) เพราะศาลชั้นต้นยังไม่ได้กำหนดวันให้โจทก์มานำสำเนาอุทธรณ์ส่งให้แก่จำเลยไว้
การส่งหมายเรียกไม่เหมือนกับการส่งสำเนาอุทธรณ์
ป.วิ.แพ่ง ม.174(1) กำหนดระยะเวลา 15 วันไว้ตายตัวว่าโจทก์มีหน้าที่จะต้องส่งหมายเรียกให้จำเลยมาแก้คดี ไม่เหมือน ม.174(2) ซึ่งให้ศาลเป็นผู้กำหนดเวลาตามสมควร
ฎีกาที่ 798/2498
การส่งหมายเรียกไม่เหมือนกับการส่งสำเนาอุทธรณ์
ป.วิ.แพ่ง ม.174(1) กำหนดระยะเวลา 15 วันไว้ตายตัวว่าโจทก์มีหน้าที่จะต้องส่งหมายเรียกให้จำเลยมาแก้คดี ไม่เหมือน ม.174(2) ซึ่งให้ศาลเป็นผู้กำหนดเวลาตามสมควร
ฎีกาที่ 798/2498
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 714/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การส่งสำเนาอุทธรณ์และการทิ้งฟ้อง: ศาลต้องกำหนดเวลาชัดเจน การส่งสำเนาอุทธรณ์ต่างจากหมายเรียก
โจทก์แพ้คดีศาลชั้นต้นโจทก์จึงอุทธรณ์ศาลชั้นต้นสั่งแต่เพียงว่า'รับอุทธรณ์โจทก์ สำเนาให้จำเลย' ดังนี้เมื่อศาลชั้นต้นไม่ได้กำหนดระยะเวลาไว้ว่าจะให้โจทก์มารับสำเนาไปส่งแก่จำเลยภายในเวลาเท่าใดเมื่อโจทก์มาขอรับสำเนาอุทธรณ์ไปส่งให้แก่จำเลยหลังจากฟ้องอุทธรณ์แล้วเป็นเวลา 27 วันเช่นนี้ก็ตามก็ยังเรียกไม่ได้ว่าโจทก์ทิ้งฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา174(2) เพราะศาลชั้นต้นยังไม่ได้กำหนดวันให้โจทก์มานำสำเนาอุทธรณ์ส่งให้แก่จำเลยไว้
การส่งหมายเรียกไม่เหมือนกับการส่งสำเนาอุทธรณ์
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา174(1) กำหนดระยะเวลา 15 วันไว้ตายตัวว่าโจทก์มีหน้าที่จะต้องส่งหมายเรียกให้จำเลยมาแก้คดีไม่เหมือนมาตรา174(2) ซึ่งให้ศาลเป็นผู้กำหนดเวลาตามสมควร(ฎีกาที่ 798/2498)
การส่งหมายเรียกไม่เหมือนกับการส่งสำเนาอุทธรณ์
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา174(1) กำหนดระยะเวลา 15 วันไว้ตายตัวว่าโจทก์มีหน้าที่จะต้องส่งหมายเรียกให้จำเลยมาแก้คดีไม่เหมือนมาตรา174(2) ซึ่งให้ศาลเป็นผู้กำหนดเวลาตามสมควร(ฎีกาที่ 798/2498)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1440/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไม่ส่งสำเนาคำอุทธรณ์ให้จำเลยครบถ้วนทำให้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ไม่สมบูรณ์
เมื่อโจทก์อุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้น ศาลชั้นต้นส่งสำเนาให้จำเลยบางคนไม่ได้ หากศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลยทุกคนนั้นย่อมเป็นการไม่ถูกต้องตามกระบวนพิจารณา ศาลฎีกาต้องย้อนสำนวนไปให้พิจารณาพิพากษาใหม่ (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 20/2498)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1238/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาไม่รับเนื่องจากโจทก์ไม่สามารถส่งสำเนาให้จำเลยได้ แม้คดีไม่มีเหตุต้องห้าม
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาต้องการให้ยกฟ้องโจทก์โจทก์ฎีกาศาลชั้นต้นสั่งรับเป็นฎีกา แต่ส่งสำเนาให้จำเลยไม่ได้ จึงส่งสำนวนมายังศาลฎีกา เมื่อศาลฎีกาเห็นว่าฎีกาโจทก์ต้องห้ามตาม ก.ม.ศาลฎีกาจะพิพากษาให้ยกฎีกาโจทก์เสียเลยก็ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 510/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทิ้งฟ้องเนื่องจากไม่ดำเนินการส่งสำเนาอุทธรณ์ตามกำหนด ศาลจำหน่ายคดีได้
ยื่นอุทธรณ์แล้วไม่นำสำเนาอุทธรณ์ส่งให้คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งจนเกินกำหนดเวลาที่ศาลสั่ง เป็นการทิ้งฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 174(2) ศาลอุทธรณ์สั่งจำหน่ายคดีได้