พบผลลัพธ์ทั้งหมด 60 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1816/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประกันและการส่งหมายนัด การปฏิบัติตามสัญญาประกัน และการถือที่อยู่ตามสัญญาเป็นภูมิลำเนาเฉพาะการ
ตามสัญญาประกันข้อ 5 มีข้อความว่า หากนายประกันย้าย ที่อยู่โดยมิได้แจ้งให้ศาลทราบ. นายประกันยินยอมให้ถือ ว่าที่อยู่ของนายประกันตามที่ระบุไว้ในสัญญาประกันนั้นเป็น ภูมิลำเนาเฉพาะการตามกฎหมาย ดังนี้ เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏ ว่านายประกันมิได้แจ้งให้ศาลทราบว่าย้ายที่อยู่ การที่ พนักงานเดินหมายปิดหมายนัด ณ ที่อยู่ของนายประกันตามที่ระบุไว้ในสัญญาประกัน ย่อมถือได้ว่าปิดหมายยังภูมิลำเนาของนายประกันแล้ว
การปิดหมายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 79มิได้กำหนดให้ตำรวจท้องที่เป็นพยานในการปิดหมาย ดังนั้นเมื่อพนักงานเดินหมายปิดหมายตามคำสั่งศาลโดยไม่มีพยานยืนยัน ว่าได้ทำการปิดหมายที่บ้านนายประกันจริง ก็ถือว่าเป็น การส่งหมายที่ชอบด้วยกฎหมาย
ในสัญญาประกันข้อ 2 กำหนดว่า ในระหว่างประกันนี้ นายประกันหรือจำเลยจะปฏิบัติตามหมายนัดหรือหมายเรียกของเจ้าพนักงานหรือศาล มิฉะนั้นนายประกันยอมรับผิดชอบใช้เงินให้แก่ศาลจนครบ เมื่อนายประกันไม่ปฏิบัติตามนัดหรือหมายเรียกของศาล คือไม่ส่งตัวจำเลยไปศาลเพื่อฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ตามนัด นายประกันจึงผิดสัญญาประกัน แม้ศาลจะไม่ได้ส่งหมายนัดแจ้งวันเวลานัดให้จำเลยหรือทนายจำเลยไปฟังคำพิพากษาก่อนก็ตาม เพราะสัญญาประกันเป็นสัญญาที่นายประกันกระทำไว้ต่อศาล จำเลยหรือทนายจำเลยหาได้เป็นผู้กระทำสัญญาประกันไว้ต่อศาลไม่
การปิดหมายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 79มิได้กำหนดให้ตำรวจท้องที่เป็นพยานในการปิดหมาย ดังนั้นเมื่อพนักงานเดินหมายปิดหมายตามคำสั่งศาลโดยไม่มีพยานยืนยัน ว่าได้ทำการปิดหมายที่บ้านนายประกันจริง ก็ถือว่าเป็น การส่งหมายที่ชอบด้วยกฎหมาย
ในสัญญาประกันข้อ 2 กำหนดว่า ในระหว่างประกันนี้ นายประกันหรือจำเลยจะปฏิบัติตามหมายนัดหรือหมายเรียกของเจ้าพนักงานหรือศาล มิฉะนั้นนายประกันยอมรับผิดชอบใช้เงินให้แก่ศาลจนครบ เมื่อนายประกันไม่ปฏิบัติตามนัดหรือหมายเรียกของศาล คือไม่ส่งตัวจำเลยไปศาลเพื่อฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ตามนัด นายประกันจึงผิดสัญญาประกัน แม้ศาลจะไม่ได้ส่งหมายนัดแจ้งวันเวลานัดให้จำเลยหรือทนายจำเลยไปฟังคำพิพากษาก่อนก็ตาม เพราะสัญญาประกันเป็นสัญญาที่นายประกันกระทำไว้ต่อศาล จำเลยหรือทนายจำเลยหาได้เป็นผู้กระทำสัญญาประกันไว้ต่อศาลไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1558/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การส่งหมายนัดฟังคำพิพากษาที่ไม่ชอบตามกฎหมาย ทำให้การอ่านคำพิพากษาให้แก่โจทก์ร่วมไม่สมบูรณ์
ศาลชั้นต้นออกหมายนัดฟังคำพิพากษาเพื่อส่งให้แก่โจทก์ร่วมโดยระบุชื่อโจทก์ร่วมในหมายนัด แต่การส่งหมาย เจ้าพนักงานศาลได้ให้บ.สามีโจทก์ร่วมลงชื่อรับแทน โจทก์ร่วมในศาล จึงเป็นการส่งหมายนัดโดยเจ้าพนักงานศาล ไปยังที่อื่นนอกจากภูมิลำเนาของโจทก์ร่วมเมื่อ บ.มิใช่ ผู้มีชื่อระบุว่าเป็นผู้รับหมายโดยตรงและไม่ปรากฏว่าเป็นผู้ซึ่งโจทก์ร่วมหรือทนายความของโจทก์ร่วม แต่งตั้งให้ทำการแทน แม้ บ.จะรับหมายในศาลจากเจ้าพนักงานศาล ก็ถือไม่ได้ว่าเป็นการรับหมายไว้แทนโจทก์ร่วมโดยชอบ การที่โจทก์ร่วมไม่มาศาลในวันนัด ศาลชั้นต้นได้อ่านคำพิพากษาให้โจทก์และจำเลยฟังโดยถือว่า โจทก์ร่วมได้ฟังด้วยแล้วนั้นจึงไม่ชอบ ถือไม่ได้ว่า ศาลชั้นต้นได้อ่านคำพิพากษาให้โจทก์ร่วมฟังแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1558/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การส่งหมายนัดและการอ่านคำพิพากษาให้แก่โจทก์ร่วม การรับหมายแทนที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายทำให้การอ่านคำพิพากษาไม่สมบูรณ์
ศาลชั้นต้นออกหมายนัดฟังคำพิพากษาเพื่อส่งให้แก่โจทก์ร่วมโดยระบุชื่อโจทก์ร่วมในหมายนัด แต่การส่งหมาย เจ้าพนักงานศาลได้ให้บ.สามีโจทก์ร่วมลงชื่อรับแทน โจทก์ร่วมในศาล จึงเป็นการส่งหมายนัดโดยเจ้าพนักงานศาล ไปยังที่อื่นนอกจากภูมิลำเนาของโจทก์ร่วมเมื่อ บ.มิใช่ ผู้มีชื่อระบุว่าเป็นผู้รับหมายโดยตรงและไม่ ปรากฏว่าเป็นผู้ซึ่งโจทก์ร่วมหรือทนายความของโจทก์ร่วม แต่งตั้งให้ทำการแทน แม้ บ.จะรับหมายในศาลจาก เจ้าพนักงานศาล ก็ถือไม่ได้ว่าเป็นการรับหมายไว้แทนโจทก์ร่วมโดยชอบการที่โจทก์ร่วมไม่มาศาลในวันนัดศาลชั้นต้นได้อ่านคำพิพากษาให้โจทก์และจำเลยฟังโดยถือว่า โจทก์ร่วมได้ฟังด้วยแล้วนั้นจึงไม่ชอบ ถือไม่ได้ว่า ศาลชั้นต้นได้อ่านคำพิพากษาให้โจทก์ร่วมฟังแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2661/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การส่งหมายนัดกับนายประกันที่ไม่ยอมรับ และผลต่อการผิดสัญญาประกัน
ศาลชั้นต้นนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ เจ้าพนักงานศาลได้นำหมายนัดไปส่งให้นายประกัน แต่นายประกันไม่ยอมรับหมาย อ้างว่าไม่เคยประกันตัวนายทองมีจำเลยในคดีนี้ (ตามหมายนัดปรากฏว่ามีแต่ชื่อนายทองมีจำเลยไม่มีชื่อนายวุฒิจำเลยที่ 2) เจ้าพนักงานศาลจึงนำหมายนัดกลับคืนมา ดังนี้ ยังถือไม่ได้ว่าเป็นการส่งหมายนัดที่ถูกต้องตามกฎหมาย ดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา 78 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง เมื่อยังถือไม่ได้ว่าเป็นการส่งหมายนัดที่ถูกต้องตามกฎหมาย ก็ย่อมถือไม่ได้ว่านายประกันได้ทราบหมายนัดวันฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ กรณีเช่นนี้ต้องถือว่ายังไม่มีการผิดสัญญาประกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 613/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประกันตัว: การส่งหมายนัด และการปฏิบัติตามสัญญา
เมื่อส่งหมายนัดให้นายประกันส่งตัวจำเลยยังไม่ได้ และยังถือไม่ได้ว่านายประกันได้ทราบนัดของศาล ไม่ว่าโดยพฤตินัยหรือโดยนิตินัยแล้ว จะถือว่านายประกันผิดสัญญาประกันหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2266/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การส่งหมายนัดโดยวิธีธรรมดาและการใช้วิธีปิดประกาศที่หน้าศาล ความผิดสัญญาประกัน
ศาลชั้นต้นส่งหมายนัดให้นายประกันไม่ได้ เพราะพนักงานผู้ส่งหมายไปไม่ถึงบ้านนายประกัน ยังถือไม่ได้ว่าไม่สามารถส่งหมายให้แก่นายประกันได้โดยวิธีธรรมดา อันจะทำให้ศาลชั้นต้นนำวิธีการอย่างอื่นมาใช้แทน ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 79 ฉะนั้น ที่ศาลชั้นต้นสั่งให้ปิดประกาศที่หน้าศาลแทนการส่งหมายนัดให้นายประกันจึงเป็นการมิชอบ ยังถือไม่ได้ว่านายประกันได้ทราบนัดของศาลแล้ว เมื่อนายประกันไม่ปฏิบัติตามหมายนัดจะถือว่านายประกันผิดนัดแล้วปรับนายประกันยังไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1651/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การส่งหมายนัดและผลของการไม่ปฏิบัติตามสัญญาประกัน การตีความที่อยู่ของผู้ประกัน
บ้านเลขที่ 37 ในถนนเดียวกันมี 2 หลัง หลังหนึ่งอยู่ริมถนนอีกหลังอยู่ในตรอก ผู้ประกันอยู่ที่บ้านซึ่งอยู่ในตรอก แต่เขียนที่อยู่ในคำร้องขอปล่อยชั่วคราวโดยระบุเลขบ้านกับถนนและขีดในช่องตรอกหรือซอยในแบบพิมพ์คำร้องเสีย. เมื่อศาลออกหมายนัดให้ส่งตัวจำเลย พนักงานเดินหมายจึงไปส่งที่บ้านริมถนน ไม่พบผู้ประกันและคนในบ้านหลังนั้นแจ้งว่าไม่มีคนชื่ออย่างผู้ประกันอยู่ที่บ้านหลังนั้นดังนี้ถือไม่ได้ว่าพนักงานเดินหมายไม่ได้ไปส่งหมายนัดให้ผู้ประกันตามที่อยู่ในคำร้องขอปล่อยชั่วคราว เมื่อไม่สามารถส่งหมายนัดได้แล้วศาลได้ปิดประกาศแจ้งวันนัดให้ผู้ประกันส่งตัวจำเลย ประกาศดังกล่าวนี้มีผลใช้ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 79 เมื่อผู้ประกันไม่ส่งตัวจำเลยตามกำหนดนัดในประกาศต้องถือว่าผิดสัญญาประกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 427/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การส่งหมายนัดจำเลยที่ไม่อาจส่งให้ได้ ส่งผลต่อการพิจารณาคดี ศาลต้องจำหน่ายคดีชั่วคราว
ทนายจำเลยรับหมายนัดและสำเนา+คดีอาญาไว้แทนจำเลย ภายหลังไม่สามารถส่งให้จำเลยได้เพราะจำเลยได้ออกจากที่อยู่ไม่ทราบว่าไปไหน ดังนี้ ศาลเห็นว่าส่งหมายนัดและสำเนาฎีกาให้จำเลยไม่ได้ ซึ่งเท่ากับไม่ได้ตัวจำเลยมาแก้คดี ศาลฎีกาต้องจำหน่ายคดีไว้ชั่วคราวจนกว่าจะส่งหมายนัดและสำเนาฎีกาให้จำเลยได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 420/2559
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแจ้งคำสั่งรับอุทธรณ์ & ผลของการไม่ส่งหมายนัดสำเนา - ศาลต้องแจ้งคำสั่งโดยตรง
การที่จำเลยทั้งสองนำเงินค่าธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์มาชำระภายในระยะเวลาที่ศาลชั้นต้นขยายระยะเวลาวางเงินค่าธรรมเนียมให้จำเลยทั้งสอง แสดงว่าจำเลยทั้งสองประสงค์ที่จะต่อสู้คดีในชั้นอุทธรณ์ต่อไป เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งในคำแถลงวางเงินค่าขึ้นศาลของจำเลยทั้งสองแต่เพียงว่า รับไว้ นำฝาก โดยไม่ได้ระบุไว้ด้วยว่า ศาลชั้นต้นได้มีคำสั่งเกี่ยวกับอุทธรณ์ของจำเลยทั้งสองในอุทธรณ์แล้ว แม้จะมีตราประทับที่ด้านล่างอุทธรณ์ของจำเลยทั้งสองว่า ถ้าศาลไม่อาจสั่งได้ในวันนี้ ผู้ยื่นจะมาติดตามเพื่อทราบคำสั่งทุก ๆ 7 วัน มิฉะนั้นถือว่าทราบคำสั่งแล้ว และทนายจำเลยทั้งสองลงลายมือชื่อทราบคำสั่งก็ตาม แต่เมื่อศาลชั้นต้นเคยสั่งในอุทธรณ์ของจำเลยทั้งสองคนละวันกับที่จำเลยทั้งสองยื่นอุทธรณ์ว่า รอไว้สั่งเมื่อผู้อุทธรณ์ชำระค่าขึ้นศาลครบถ้วนแล้ว จึงถือว่าจำเลยทั้งสองได้ทราบคำสั่งดังกล่าวโดยอาศัยตราประทับที่ด้านล่างอุทธรณ์ของจำเลยทั้งสองมาครั้งหนึ่งแล้ว หากจะให้ตราประทับที่ด้านล่างอุทธรณ์ของจำเลยทั้งสองมีผลบังคับตลอดไปว่าศาลชั้นต้นสั่งอะไรในอุทธรณ์ของจำเลยทั้งสองแล้ว จำเลยทั้งสองจะมาทราบติดตามเพื่อรับทราบคำสั่งศาลชั้นต้นทุก ๆ 7 วัน มิฉะนั้นถือว่าทราบคำสั่งแล้วอีก ย่อมไม่เป็นธรรมแก่จำเลยทั้งสอง ดังนี้ จึงถือว่าจำเลยทั้งสองทราบคำสั่งรับอุทธรณ์ของจำเลยที่ 2 แล้วไม่ได้ และเป็นหน้าที่ของศาลชั้นต้นต้องแจ้งคำสั่งรับอุทธรณ์ให้จำเลยที่ 2 ทราบโดยตรง การที่ศาลชั้นต้นไม่แจ้งคำสั่งดังกล่าวให้จำเลยที่ 2 ทราบ เมื่อจำเลยที่ 2 ไม่ได้แถลงให้ศาลชั้นต้นทราบว่าจะดำเนินการอย่างไรในกรณีที่ไม่สามารถส่งหมายนัดสำเนาอุทธรณ์ให้โจทก์ได้ตามคำสั่งศาลชั้นต้น จึงยังถือไม่ได้ว่าจำเลยที่ 2 จงใจเพิกเฉยไม่ดำเนินคดีภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนดอันเป็นการทิ้งฟ้องอุทธรณ์ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 174 (2)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5845/2558 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การส่งหมายนัดตามภูมิลำเนาเฉพาะการของผู้ร้อง มีผลต่อความชอบด้วยกฎหมายของการพิจารณาคดี
ผู้ร้องได้เลือกเอาบ้านเลขที่ 46/10 โดยมีเจตนาปรากฏชัดแจ้งว่าให้เป็นภูมิลำเนาเฉพาะการสำหรับในการดำเนินคดีของผู้ร้อง ตาม ป.พ.พ. มาตรา 42 การที่พนักงานเดินหมายไปปิดหมายนัดและสำเนาคำร้องขอของผู้คัดค้านเพื่อแจ้งกำหนดวันนัดไต่สวนตามทะเบียนราษฎร์ที่ผู้ร้องมีชื่ออยู่ โดยผู้คัดค้านไม่ได้นำส่งหมายนัดและสำเนาคำร้องของผู้คัดค้านไปยังภูมิลำเนาเฉพาะการของผู้ร้อง การปิดหมายนัดและสำเนาคำร้องขอของผู้คัดค้านจึงไม่ชอบด้วย ป.วิ.พ. มาตรา 74 (2), 77 และ มาตรา 79 ถือไม่ได้ว่าผู้ร้องทราบนัดไต่สวนแล้ว เมื่อกรณีปรากฏเหตุที่มิได้ปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายในข้อที่มุ่งหมายจะยังให้การเป็นไปด้วยความยุติธรรมในเรื่องการส่งคำคู่ความ และทำให้กระบวนพิจารณาหลังจากนั้นต่อมาเป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมายด้วย จึงชอบที่จะสั่งให้เพิกถอนการพิจารณาที่ผิดระเบียบนั้นเสียทั้งหมด ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 27 และเมื่อวินิจฉัยให้เพิกถอนการพิจารณาที่ผิดระเบียบตั้งแต่การส่งหมายนัดและสำเนาคำร้องขอของผู้คัดค้านแล้ว กรณีต้องย้อนไปดำเนินกระบวนพิจารณาดังกล่าวใหม่ให้ถูกต้องตามที่กฎหมายบังคับ