พบผลลัพธ์ทั้งหมด 65 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 251/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เช็คไม่พอจ่าย, สัญญาจำนอง/ค้ำประกันไม่สมบูรณ์ ไม่เป็นเหตุให้หนี้ระงับ ศาลยืนตามเดิม
ปัญหาที่ว่าโจทก์นำเช็คที่จำเลยที่ 1 ขายให้ไปเข้าบัญชีหลังวันถึงกำหนดสั่งจ่ายเงินในบัญชีของจำเลยที่ 1 จึงไม่พอจ่าย หนี้ย่อมระงับจำเลยที่ 2 ที่ 3 และที่ 4 ผู้ค้ำประกันหลุดพ้นความรับผิดก็ดี ปัญหาที่ว่าสัญญาจำนองที่ผู้รับมอบอำนาจจากโจทก์ลงชื่อแทนโจทก์ โดยมิได้ประทับตราของโจทก์ไม่มีผลบังคับก็ดี และปัญหาที่ว่าสัญญาขายลดเช็คสัญญาค้ำประกันลงชื่อจำเลยฝ่ายเดียวเป็นโมฆะก็ดี ล้วนเป็นเรื่องส่วนได้เสียของจำเลยเองมิใช่ปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน
โจทก์เคยทวงถามให้จำเลยชำระหนี้ด้วยวาจาแล้วหลายครั้ง การที่โจทก์บอกกล่าวบังคับจำนองกำหนดเวลาให้ชำระหนี้จำนวน 1,350,000 บาทพร้อมดอกเบี้ยภายใน 15 วัน นับแต่ได้รับหนังสือบอกกล่าวนั้น เป็นการบอกกล่าวภายในเวลาอันสมควรแล้ว
โจทก์เคยทวงถามให้จำเลยชำระหนี้ด้วยวาจาแล้วหลายครั้ง การที่โจทก์บอกกล่าวบังคับจำนองกำหนดเวลาให้ชำระหนี้จำนวน 1,350,000 บาทพร้อมดอกเบี้ยภายใน 15 วัน นับแต่ได้รับหนังสือบอกกล่าวนั้น เป็นการบอกกล่าวภายในเวลาอันสมควรแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1041/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
จัดการงานนอกสั่ง ชดใช้ทดรอง: การชำระหนี้แทนตัวการทำให้หนี้ระงับ ตัวการต้องชดใช้
การที่โจทก์ชำระหนี้ให้แก่บุคคลภายนอกแทนจำเลยไปนั้นแม้จำเลยจะไม่ได้มอบหมายให้จัดการชำระหนี้แทนก็ตามแต่ก็เป็นผลทำให้หนี้ของจำเลยระงับไปจำเลยหลุดพ้นความรับผิดต่อบุคคลภายนอกและอาจนำรถเข้าวิ่งร่วมกับบุคคลภายนอกได้ตามข้อตกลงต่อไปเช่นนี้ เป็นการสมประโยชน์ของจำเลยซึ่งเป็นตัวการเพราะต้องตามความประสงค์อันแท้จริงของตัวการหรือต้องตามความประสงค์ตามที่จะพึงสันนิษฐานได้กรณี จึงเป็นเรื่องจัดการงานนอกสั่งโจทก์จึงมีสิทธิเรียกร้องให้จำเลยชดใช้เงินที่ออกทดรองคืนได้ตามมาตรา401
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 787/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความระงับหนี้เดิม การตกลงในคดีอาญาผูกพันคดีแพ่งได้หากมีการสัตยาบัน
จำเลยทำสัญญาจะขายที่ดินแปลงหนึ่งให้โจทก์ ได้รับเงินมัดจำไปแล้ว 25,000 บาท ถ้าผิดสัญญายอมให้โจทก์เรียกร้องค่าเสียหายได้อีก 25,000 บาท แต่ต่อมาปรากฏว่าไม่มีที่ดินขายให้โจทก์ โจทก์จึงฟ้องจำเลยข้อหาฉ้อโกง ระหว่างพิจารณาคดีอาญาดังกล่าว ทนายโจทก์กับจำเลยได้ร่วมกันยื่นคำร้องว่าจำเลยได้ชำระเงินให้แก่โจทก์แล้ว 10,000 บาท ส่วนที่เหลือ 20,000 บาท จำเลยจะนำมาชำระภายในเวลาที่กำหนด โจทก์ไม่ประสงค์ที่จะดำเนินคดีกับจำเลยต่อไป โจทก์ขอถอนฟ้องและศาลอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้อง ข้อตกลงของโจทก์จำเลยตามคำร้องดังกล่าวจึงเป็นการระงับข้อพิพาทเกี่ยวกับการเรียร้องค่าเสียหายกรณีผิดสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินให้เสร็จไปด้วยต่างยอมผ่อนผันให้แก่กัน ข้อตกลงนี้จึงเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความทำให้มูลหนี้ตามสัญญาเดิมระงับ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1008/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแปลงหนี้: การตกลงเปลี่ยนสิ่งชำระหนี้จากเงินเป็นบริการ (ทำภาพยนตร์) ทำให้หนี้เดิมระงับ
จำเลยซื้อเครื่องปรับอากาศไปจากโจทก์ โดยจำเลยชำระเงินให้โจทก์ส่วนหนึ่ง ส่วนที่ค้างชำระตกลงกันว่า หากไม่นำมาชำระให้จำเลยจะทำภาพยนตร์ตัวอย่างเพื่อโฆษณาร้านค้าให้โจทก์ แต่จำเลยก็ไม่นำเงินที่ค้างมาชำระ และไม่ทำภาพยนตร์โฆษณาให้โจทก์ ดังนี้ ถือได้ว่าหนี้ค่าเครื่องปรับอากาศที่ค้างชำระดังกล่าวนั้น โจทก์จำเลยได้ตกลงทำสัญญาเปลี่ยนสิ่งซึ่งเป็นสารสำคัญแห่งหนี้ โดยเปลี่ยนวัตถุแห่งหนี้จากการที่จำเลยจะต้องชำระเงินมาเป็นหนี้ที่จำเลยจะต้องฉ่ายทำภาพยนตร์โฆษณากิจการร้านค้าให้โจทก์เสียแล้ว หนี้ที่จำเลยจะต้องชำระเงินย่อมเป็นอันระงับไปด้วยการแปลงหนี้ใหม่ โจทก์จึงจะฟ้องบังคับให้จำเลยชำระเงินที่ค้างตามสัญญาซื้อขายซึ่งระงับไปแล้วด้วยการแปลงหนี้ใหม่หาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1008/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแปลงหนี้: การตกลงเปลี่ยนจากการชำระเงินเป็นบริการถ่ายทำภาพยนตร์ ทำให้หนี้เดิมระงับ
จำเลยซื้อเครื่องปรับอากาศไปจากโจทก์ โดยจำเลยชำระเงินให้โจทก์ส่วนหนึ่ง ส่วนที่ค้างชำระตกลงกันว่า หากไม่นำมาชำระให้จำเลยจะทำภาพยนตร์ตัวอย่างเพื่อโฆษณาร้านค้าให้โจทก์แต่จำเลยก็ไม่นำเงินที่ค้างมาชำระ และไม่ทำภาพยนตร์โฆษณาให้โจทก์ดังนี้ ถือได้ว่าหนี้ค่าเครื่องปรับอากาศที่ค้างชำระดังกล่าวนั้นโจทก์จำเลยได้ตกลงทำสัญญาเปลี่ยนสิ่งซึ่งเป็นสารสำคัญแห่งหนี้ โดยเปลี่ยนวัตถุแห่งหนี้จากการที่จำเลยจะต้องชำระเงินมาเป็นหนี้ที่จำเลยจะต้องถ่ายทำภาพยนตร์โฆษณากิจการร้านค้าให้โจทก์เสียแล้วหนี้ที่จำเลยจะต้องชำระเงินย่อมเป็นอันระงับไปด้วยการแปลงหนี้ใหม่ โจทก์จึงจะฟ้องบังคับให้จำเลยชำระเงินที่ค้างตามสัญญาซื้อขายซึ่งระงับไปแล้วด้วยการแปลงหนี้ใหม่หาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8/2518
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การระงับหนี้จากการชำระเงินตามเช็ค และผลกระทบต่อเอกสารสัญญากู้
ลูกหนี้ยืมเงินเจ้าหนี้โดยออกเช็คลงวันที่ล่วงหน้าให้เจ้าหนี้ไว้และทำหนังสือให้ไว้ด้วยว่าได้ยืมเงินและออกเช็คให้เจ้าหนี้ไว้ หากไม่ใช้เงินตามกำหนดให้เจ้าหนี้ฟ้องต่อศาลได้แทนสัญญากู้ ดังนี้ เมื่อธนาคารปฏิเสธการใช้เงินตามเช็ค เจ้าหนี้ฟ้องตามเอกสารนี้หรือฟ้องตามเช็คก็ได้ลูกหนี้ชำระเงินแก่เจ้าหนี้ตามเช็คแล้วหนี้ระงับโดยไม่ต้องมีใบรับเงินตามมาตรา 653 เมื่อหนี้ระงับแล้วเจ้าหนี้ขอรับชำระหนี้ตามเอกสารนั้นไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 182/2518
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ชำระหนี้ด้วยของอื่นและการระงับหนี้จากการรับชำระหนี้
ออกเช็คใช้หนี้เงินกู้เป็นการชำระหนี้ด้วยของอื่น เมื่อโจทก์ยอมรับและได้รับเงินตามเช็คแล้ว หนี้ก็ระงับจำเลยนำสืบการใช้เงินโดยพยานบุคคลได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1715/2518
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแปลงหนี้ใหม่จากเช็คชำระหนี้: หนี้เดิมระงับเมื่อรับเช็คใหม่
จำเลยออกเช็คชำระหนี้แก่โจทก์ เช็คขึ้นเงินไม่ได้โจทก์รับเช็คที่ผู้อื่นสั่งจ่ายแทนเช็คเดิมจากจำเลย ดังนี้ เป็นการแปลงหนี้ใหม่ หนี้ตามเช็คเดิมระงับไป การที่เจ้าของบัญชีไม่นำเงินเข้าบัญชีตามเช็คใหม่ ไม่ใช่กรณีที่หนี้เดิมไม่ระงับตาม มาตรา 351
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1730/2516 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การต่อสู้คดีว่าสัญญาไม่สมบูรณ์และหนี้ระงับแล้ว ศาลอนุญาตให้สืบพยานได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94 วรรคท้าย
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกู้เงินโจทก์ซึ่งจำเลยได้รับเงินไปแล้ว และจำเลยได้จำนองที่ดินเป็นประกันเงินที่กู้ไป จำเลยให้การต่อสู้ว่าจำเลยไม่ได้กู้เงินโจทก์และไม่ได้รับเงินจากโจทก์ ความจริงเป็นเรื่องการเช่าซื้อรถยนต์กันระหว่างสามีโจทก์กับสามีจำเลย สามีโจทก์เกรงจะไม่ได้เงินค่าเช่าซื้อจึงให้จำเลยนำที่ดินมาจำนองค้ำประกันสัญญาเช่าซื้อนั้น โดยให้โจทก์เป็นเจ้าหนี้ผู้รับจำนองแทนเพราะสามีโจทก์เป็นคนต่างด้าว สัญญาจำนองไม่สมบูรณ์ และหนี้ตามสัญญาจำนองได้ระงับสิ้นไปเพราะสามีโจทก์ได้เรียกเอารถยนต์คืนไปแล้ว และในระหว่างที่รถยนต์ที่เช่าซื้อยังอยู่ที่สามีจำเลย สามีจำเลยก็ได้ส่งเงินให้สามีโจทก์ และไม่เคยติดค้างดอกเบี้ยคำให้การจำเลยเช่นนี้เป็นคำให้การที่ต่อสู้คดีว่าจำเลยมีนิติสัมพันธ์ตามสัญญาที่พิพาทอยู่กับสามีโจทก์ แต่การที่ปรากฏมีชื่อโจทก์เป็นเจ้าหนี้จำเลยก็โดยมีเจตนาจะอำพรางตัวเจ้าหนี้ที่แท้จริงไว้ ทั้งจำเลยยังต่อสู้ว่าหนี้ตามสัญญาที่พิพาทเป็นหนี้สืบเนื่องมาจากหนี้ตามสัญญาค้ำประกันการเช่าซื้อรถยนต์ ซึ่งจำเลยอ้างด้วยว่าหนี้ตามสัญญาเช่าซื้อรถยนต์ไม่มีติดค้างอยู่ระหว่างสามีโจทก์และสามีจำเลย หากฟังได้สมจริงดังจำเลยต่อสู้หนี้ตามสัญญากู้ยืมและสัญญาจำนองตามที่โจทก์ฟ้องก็อาจจะไม่สมบูรณ์ จำเลยจึงมีสิทธินำสืบตามข้อต่อสู้ของจำเลยได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94 วรรคท้าย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 353/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชำระหนี้ด้วยข้าวเปลือกและการนำสืบพยาน การไม่ยกฟ้องฎีกาที่ไม่ชัดเจน
จำเลยให้การว่า ขณะทำหนังสือสัญญากู้ยืมเงิน โจทก์จำเลยได้ตกลงกันด้วยวาจาว่า โจทก์ยอมให้จำเลยชำระหนี้เงินกู้นี้ด้วยข้าวเปลือก 3 เกวียนก็ได้ ต่อมาจำเลยได้มอบข้าวเปลือกให้โจทก์แล้ว หนี้จึงระงับ จำเลยนำพยานบุคคลสืบตามที่ให้การนี้ได้ ไม่เป็นการสืบเปลี่ยนแปลงเอกสาร เพราะเป็นการนำสืบถึงการชำระหนี้เพื่อให้หนี้ระงับไป ไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94
ฟ้องฎีกาที่ไม่ได้ยกข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายขึ้นอ้างอิงโดยชัดแจ้งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 2049
ฟ้องฎีกาที่ไม่ได้ยกข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายขึ้นอ้างอิงโดยชัดแจ้งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 2049