คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
หลักฐานหนังสือ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 66 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 495/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องเรียกประโยชน์จากตัวแทน แม้ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือก็ฟ้องได้ และการแบ่งแยกที่ดินต้องเป็นไปตามประมวลกฎหมายที่ดิน
โจทก์ฟ้องเรียกเอาประโยชน์ที่อ้างว่าตัวแทนได้รับไว้จากการที่โจทก์มอบหมายให้ไปทำการแทนดังนั้น ถึงการตั้งตัวแทนนั้นจะไม่ได้ทำหลักฐานกันไว้เป็นหนังสือ โจทก์ก็ย่อมฟ้องได้ไม่ตกเป็นโมฆะ
(อ้างฎีกาที่ 640/2489 และ 418/2501)
เอกสารมีชื่อจำเลยเป็นเจ้าของ. โจทก์ก็นำสืบได้ว่าที่จำเลยมีชื่อเป็นเจ้าของที่พิพาทนั้นได้กระทำในฐานะเป็นตัวแทนของโจทก์หาใช่นำสืบเปลี่ยนแปลงแก้ไขเอกสารไม่
(อ้างฎีกาที่ 640/2489 และ 1290/2501)
ประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 79 บัญญัติว่าเมื่อผู้มีสิทธิในที่ดินซึ่งมีโฉนดที่ดินแล้วประสงค์จะแบ่งแยกที่ดินเป็นบางส่วน ต้องให้พนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งเป็นผู้ปฏิบัติการตามประมวลกฎหมายนั้นและพนักงานอื่นซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งให้ปฏิบัติการตามประมวลกฎหมายนั้นไปทำการรังวัดแบ่งแยกที่ดินเมื่อได้รังวัดแบ่งแยกเสร็จแล้ว ถ้าจะต้องจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมก็ให้จดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเสียก่อน แล้วให้เจ้าพนักงานที่ดินออกโฉนดที่ดินฉบับใหม่ให้ดังนั้นการที่คู่ความชี้เขตให้พนักงานศาลทำแผนที่แบ่งเขตที่ดินส่วนที่เป็นของโจทก์ และศาลพิพากษาให้เป็นไปตามนั้น จึงไม่ชอบ ชอบที่จะให้ถอนชื่อจำเลยออกและใส่ชื่อโจทก์เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ร่วมกับผู้มีชื่อในโฉนด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 867/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมต้องทำเป็นหนังสือ การแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อความในเอกสารทำไม่ได้ และอำนาจฟ้องของโจทก์
โจทก์จำเลยเป็นสามีภริยากัน เมื่อหย่าขาดจากกัน จำเลยยอมเป็นผู้ออกค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตร และทำหนังสือสัญญากันไว้เป็นหลักฐาน เป็นการระงับข้อพิพาทซึ่งอาจจะมีขึ้น สัญญาดังกล่าวจึงเป็นสัญญาประนีประนอมตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 850 ซึ่งกฎหมายบังคับให้มีหลักฐานเป็นหนังสือ
จำเลยขอนำสืบว่า โจทก์ได้ตกลงยินยอมด้วยปากให้จำเลยชำระเงินค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตรต่ำกว่าที่ตกลงกันไว้สัญญาประนีประนอม เป็นการนำสืบแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อความในเอกสาร ต้องห้ามตามกฎหมาย
จำเลยมิได้ยกข้อต่อสู้ไว้ในคำให้การ ที่จำเลยขอนำสืบข้อต่อสู้นั้นจึงเป็นการขอนำสืบนอกประเด็น
โจทก์ฟ้องเรียกเงินค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตรซึ่งจำเลยยอมจ่ายให้แก่โจทก์ตามสัญญาประนีประนอมเมื่อจำเลยไม่ปฏบัติตามสัญญา โจทก์ก็มีอำนาจฟ้องในนามของโจทก์เอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 263-264/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกู้ยืมเงินตามหลักฐานหนังสือ การใช้เงินต้องพิสูจน์ตามที่กฎหมายกำหนด
การกู้ยืมเงินที่มีหลักฐานเป็นหนังสือนั้น มีบทบัญญัติกฎหมายบังคับไว้เป็นพิเศษ ว่าผู้กู้จะนำสืบการใช้เงินได้เฉพาะเท่าที่บัญญัติไว้ในมาตรา 653 วรรคสอง แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์เท่านั้นจำเลยจะสืบพยานบุคคลว่าได้ชำระต้นเงินกู้แล้วแต่โจทก์ไม่คืนสัญญากู้ให้ไม่ได้ดังนี้ เมื่อจำเลยไม่มีหลักฐานการใช้ต้นเงินตามที่กฎหมายบัญญัติไว้มาแสดงต่อศาลจำเลยก็ต้องแพ้คดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 936/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนำสืบการชำระดอกเบี้ยและเงินที่ได้รับจริง แม้ไม่มีหลักฐานหนังสือ ก็ทำได้ตามกฎหมาย
จำเลยขอสืบพยานบุคคลว่า ได้ชำระดอกเบี้ยให้โจทก์ไปแล้วได้ แม้จะไม่มีพยานหลักฐานเป็นหนังสือมาแสดงไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 653 วรรค 2
จำเลยขอสืบว่า เวลาจำนองโจทก์จ่ายเงินให้เพียง 50,000 บาท หักเอาไว้เป็นดอกเบี้ยเสีย 10,000 บาท (แต่ทำสัญญาจำนองเป็นเงิน 60,000 บาท)่ จำเลยนำพยานบุคคลมาสืบได้ ไม่ขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94 แต่เป็นการนำสืบถึงการชำระดอกเบี้ย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 312/2504

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องเรียกเงินทดรองจ่ายทำศพโดยไม่มีหลักฐานหนังสือเป็นหนังสือ สิทธิเรียกร้องขาดอายุความและไม่มีอำนาจฟ้อง
ฟ้องเรียกเงินที่โจทก์ทดรองจ่ายในการทำศพแทนจำเลยนั้นเป็นลักษณะกู้ยืม เมื่อไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือแล้วก็ไม่มีอำนาจฟ้องแม้จะถือเอาคำให้การและคำเบิกความของจำเลยในการสู้คดี ซึ่งรับว่าได้รับเงินจริง ก็จะบังคับแก่จำเลยไม่ได้ เพราะขณะฟ้องโจทก์ไม่มีหลักฐานการกู้ยืมเป็นหนังสือ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 243/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้เงินกู้ยืมและการนำสืบพยานบุคคลเรื่องดอกเบี้ย: หลักฐานหนังสือไม่ครอบคลุมดอกเบี้ย
การนำสืบการใช้เงินว่าต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 653 วรรคสอง นั้นหมายความเฉพาะถึงการใช้ต้นเงินที่กู้ยืมไปเกินกว่า 50 บาท เท่านั้น ไม่กินความถึงการใช้ดอกเบี้ยด้วยการชำระดอกเบี้ยย่อมนำสืบด้วยพยานบุคคลได้ไม่ขัดต่อ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 2/2503)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 581/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกู้ยืมเงินเกิน 50 บาท ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อผู้ยืมจึงจะฟ้องร้องบังคับคดีได้
การที่จำเลยขอยืนเงินที่โจทก์จะนำไปชำระให้แก่เจ้าหนี้ไปใช้แก้ขัดก่อนนั้น ถือว่าเป็นการกู้ยืม มิใช่เป็นเรื่องการรับมอบของตัวแทน เมื่อการกู้ยืมเงินกว่า 50 บาทขึ้นไปมิได้มีหลักฐานแห่งการกู้ยืมเป็นหนังสืออย่างใดอย่างหนึ่งลงลายมือชื่อผู้ยืมเป็นสำคัญจะฟ้องร้องให้บังคับคดีไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 581/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกู้ยืมเงินเกิน 50 บาท ที่ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อผู้ยืม จะฟ้องร้องบังคับคดีไม่ได้
การที่จำเลยขอยืมเงินที่โจทก์จะนำไปชำระให้แก่เจ้าหนี้ไปใช้แก้ขัดก่อนนั้นถือว่าเป็นการกู้ยืม มิใช่เป็นเรื่องการรับมอบของตัวแทนเมื่อการกู้ยืมเงินกว่า 50 บาทขึ้นไปมิได้มีหลักฐานแห่งการกู้ยืมเป็นหนังสืออย่างใดอย่างหนึ่งลงลายมือชื่อผู้ยืมเป็นสำคัญจะฟ้องร้องให้บังคับคดีไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 418/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การมอบหมายให้ซื้อที่ดินแทน แม้ไม่มีหลักฐานหนังสือก็มีผลผูกพันได้ หากพิสูจน์ได้ว่ามีการมอบหมายจริง
ฟ้องว่าตั้งตัวแทนให้นำเงินไปชำระค่าที่ดินแทนตัวแทนเอาเงินนั้นไปชำระให้ผู้ขายแต่เพียงบางส่วนซ้ำยังใส่ชื่อตนเองเป็นผู้ซื้อที่ดินเสียด้วยจึงขอให้ศาลบังคับตัวแทนยอมให้ตัวการลงชื่อเป็นเจ้าของที่ดินหรือถ้าบังคับไม่ได้ก็ให้บังคับให้คืนเงินให้ดังนี้กรณีไม่ต้องด้วย ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 798 จึงไม่จำต้องมีหลักฐานการตั้งตัวแทนเป็นหนังสือ (เทียบฎีกาที่ 640/2489).

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 616/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยินยอมในนิติกรรม: หน้าที่การนำสืบและข้อจำกัดการอ้างหลักฐานหนังสือ
ตามฟ้องของโจทก์ตั้งประเด็นมาว่าภรรยาโจทก์ไปทำสัญญาประนีประนอมกับจำเลยโดยมิได้รับความยินยอมจากโจทก์ ฝ่ายจำเลยให้การต่อสู้ว่าโจทก์รู้เห็นยินยอมด้วยแล้วข้อโตเถียงกันเช่นนี้หน้าที่นำสืบต้องตกอยู่แก่จำเลยต้องนำสืบว่าโจทก์ได้รู้เห็นยินยอม
ในเรื่องการยินยอมของโจทก์ มิได้มีหนังสือใช้ไม่ได้ตาม ม.1476 เมื่อโจทก์มิได้ยกประเด็นโต้เถียงมาแต่ศาลชั้นต้น โจทก์เพิ่งมายกปัญหาข้อนี้โต้เถียงมาในชั้นอุทธรณ์และในชั้นฎีกาศาลฎีกาจึงไม่รับวินิจฉัยให้.
of 7