พบผลลัพธ์ทั้งหมด 59 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2061/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องของผู้ชำระบัญชีห้างหุ้นส่วนสามัญที่มิได้จดทะเบียนต้องได้รับมอบหมายจากหุ้นส่วน
การชำระบัญชีห้างหุ้นส่วนสามัญที่มิได้จดทะเบียนนั้นกฎหมายมิได้ให้อำนาจผู้ชำระบัญชีมีอำนาจฟ้องคดีดังเช่นผู้ชำระบัญชีห้างหุ้นส่วนสามัญจดทะเบียน ผู้ชำระบัญชีห้างหุ้นส่วนสามัญที่มิได้จดทะเบียนจะฟ้องคดีโดยลำพังไม่ได้ นอกจากผู้เป็นหุ้นส่วนจะมอบอำนาจให้ฟ้อง
กรณีที่ผู้ชำระบัญชีห้างหุ้นส่วนสามัญที่มิได้จดทะเบียนฟ้องคดี จะต้องกล่าวมาพร้อมกับฟ้องว่า มีอำนาจฟ้องคดีอย่างใด จะมากล่าวอ้างขึ้นในภายหลังไม่ได้
รายงานการประชุมของผู้เป็นหุ้นส่วนที่มอบให้ผู้ชำระบัญชีมีอำนาจฟ้องนั้น ไม่ใช่ใบมอบอำนาจ.
กรณีที่ผู้ชำระบัญชีห้างหุ้นส่วนสามัญที่มิได้จดทะเบียนฟ้องคดี จะต้องกล่าวมาพร้อมกับฟ้องว่า มีอำนาจฟ้องคดีอย่างใด จะมากล่าวอ้างขึ้นในภายหลังไม่ได้
รายงานการประชุมของผู้เป็นหุ้นส่วนที่มอบให้ผู้ชำระบัญชีมีอำนาจฟ้องนั้น ไม่ใช่ใบมอบอำนาจ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2061/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องของผู้ชำระบัญชีห้างหุ้นส่วนสามัญมิได้จดทะเบียน: ต้องได้รับมอบอำนาจจากหุ้นส่วน
การชำระบัญชีห้างหุ้นส่วนสามัญที่มิได้จดทะเบียนนั้นกฎหมายมิได้ให้อำนาจผู้ชำระบัญชีมีอำนาจฟ้องคดีดังเช่นผู้ชำระบัญชีห้างหุ้นส่วนสามัญจดทะเบียน ผู้ชำระบัญชีห้างหุ้นส่วนสามัญที่มิได้จดทะเบียนจะฟ้องคดีโดยลำพังไม่ได้ นอกจากผู้เป็นหุ้นส่วนจะมอบอำนาจให้ฟ้อง
กรณีที่ผู้ชำระบัญชีห้างหุ้นส่วนสามัญที่มิได้จดทะเบียนฟ้องคดี จะต้องกล่าวมาพร้อมกับฟ้องว่า มีอำนาจฟ้องคดีอย่างใด จะมากล่าวอ้างขึ้นในภายหลังไม่ได้
รายงานการประชุมของผู้เป็นหุ้นส่วนที่มอบให้ผู้ชำระบัญชีมีอำนาจฟ้องนั้น ไม่ใช่ใบมอบอำนาจ
กรณีที่ผู้ชำระบัญชีห้างหุ้นส่วนสามัญที่มิได้จดทะเบียนฟ้องคดี จะต้องกล่าวมาพร้อมกับฟ้องว่า มีอำนาจฟ้องคดีอย่างใด จะมากล่าวอ้างขึ้นในภายหลังไม่ได้
รายงานการประชุมของผู้เป็นหุ้นส่วนที่มอบให้ผู้ชำระบัญชีมีอำนาจฟ้องนั้น ไม่ใช่ใบมอบอำนาจ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 68/2487
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องหนี้ห้างหุ้นส่วนสามัญโดยไม่ระบุตัวแทน
หนี้ของห้างหุ้นส่วนสามัญนั้น ถ้าผู้จัดการหุ้นส่วนมาฟ้องในนามของตนเองโดยไม่ระบุว่าฟ้องแทนห้างหุ้นส่วนหรือในนามของห้างหุ้นส่วนศาลต้องตัดสินยกฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3-4/2487
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตทางการค้าห้างหุ้นส่วนสามัญ: การพิจารณาจากสภาพกิจการและประเพณี
การพิจารณาว่ากิจการที่ผู้จัดการห้างหุ้นส่วนสามัญไม่จดทะเบียนทำไปจะอยู่ในทางการค้าของหุ้นส่วนหรือไม่ จะต้องพิเคราะห์ถึงสภาพของกิจการของห้างหุ้นส่วนนั้นประกอบกับประเพณีที่ห้างหุ้นส่วนที่มีลักษณะเช่นเดียวกันย่อมปฏิบัติกันอยู่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 672/2486 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีของห้างหุ้นส่วนสามัญจดทะเบียนและข้อกำหนดเรื่องตัวแทน
ผู้จัดการห้างหุ้นส่วนสามัญที่จดทเบียนไปทำสัญญาไนนามของห้างหุ้นส่วน ๆ ย่อมมีอำนาดฟ้องคดีเกี่ยวกับสัญญานั้นได้
ห้างหุ้นส่วนสามัญจดทเบียนนั้นแม้ตั้งผู้จัดการไว้สองคน ผู้จัดการแต่ละคนก็มีอำนาดจัดการได้ตามลำพัง
ผู้จัดการห้างหุ้นส่วนสามัญจดทเบียนไปทำสัญญาไนนามของห้างหุ้นส่วนนั้นไม่ตกหยู่ไนบังคับ ม. 801,804 แห่งประมวนแพ่งฯ
สาลไม่สงสัยความแท้จิงของไบมอบอำนาดไห้ฟ้องความและอีกฝ่ายหนึ่งก็ไม่คัดค้านความแท้จิงดังนี้ ไม่ต้องทำตามแบบไน ม. 47 แห่ง ป.ม.วิธีพิจารนาความแพ่ง.
ห้างหุ้นส่วนสามัญจดทเบียนนั้นแม้ตั้งผู้จัดการไว้สองคน ผู้จัดการแต่ละคนก็มีอำนาดจัดการได้ตามลำพัง
ผู้จัดการห้างหุ้นส่วนสามัญจดทเบียนไปทำสัญญาไนนามของห้างหุ้นส่วนนั้นไม่ตกหยู่ไนบังคับ ม. 801,804 แห่งประมวนแพ่งฯ
สาลไม่สงสัยความแท้จิงของไบมอบอำนาดไห้ฟ้องความและอีกฝ่ายหนึ่งก็ไม่คัดค้านความแท้จิงดังนี้ ไม่ต้องทำตามแบบไน ม. 47 แห่ง ป.ม.วิธีพิจารนาความแพ่ง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 87/2479
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องของหุ้นส่วนในห้างหุ้นส่วนสามัญที่ไม่จดทะเบียน: ฟ้องได้หากหุ้นส่วนทั้งหมดร่วมกัน
ผู้จัดการห้างหุ้นส่วนสามัญไม่จดทะเบียนไปทำสัญญาแทนห้างหุ้นส่วน ผู้เป็นหุ้นส่วนทุกคนรวมกันเป็นโจทก์ฟ้องคู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่งได้
เดิมผู้เป็นหุ้นส่วนคนเดียวในห้างหุ้นส่วนสามัญไม่จดทะเบียนเป็นโจทก์ฟ้องจำเลยศาลยกฟ้อง ต่อมาผู้เป็นหุ้นส่วนทุกคนได้เข้าเป็นโจทก์ฟ้องจำเลยในมูลหนี้รายเดียวกันกับเรื่องเดิมได้เพราะเป็นเรื่องคนละประเด็น
คดีที่โจทก์ได้ยื่นฟ้องก่อนวันใช้ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งต้องใช้พ.ร.บ.วิธีพิจารณาแพ่งร.ศ.127 ซึ่งเป็นกฎหมายซึ่งใช้อยู่ในเวลานั้นในการวินิจฉัยว่าฟ้องต้องห้ามหรือไม่
เดิมผู้เป็นหุ้นส่วนคนเดียวในห้างหุ้นส่วนสามัญไม่จดทะเบียนเป็นโจทก์ฟ้องจำเลยศาลยกฟ้อง ต่อมาผู้เป็นหุ้นส่วนทุกคนได้เข้าเป็นโจทก์ฟ้องจำเลยในมูลหนี้รายเดียวกันกับเรื่องเดิมได้เพราะเป็นเรื่องคนละประเด็น
คดีที่โจทก์ได้ยื่นฟ้องก่อนวันใช้ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งต้องใช้พ.ร.บ.วิธีพิจารณาแพ่งร.ศ.127 ซึ่งเป็นกฎหมายซึ่งใช้อยู่ในเวลานั้นในการวินิจฉัยว่าฟ้องต้องห้ามหรือไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 878/2478
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การตั้งผู้ชำระบัญชีห้างหุ้นส่วนสามัญที่ไม่จดทะเบียน ต้องเป็นไปตามเสียงข้างมากของผู้เป็นหุ้นส่วน
การตั้งผู้ชำระบัญชีห้างหุ้นส่วนสามัญที่ไม่ได้จดทะเบียนนั้น+เป็นไปตามเสียงข้างมาก+ผู้เป็นหุ้นส่วน+ศาลยุตติธรรม+อำนาจศาล+บังคับบุคคลภายนอก+ทำกิจโดยเขาไม่สมัคร+ได้ อำนาจเจ้าพนักงานรักษาทรัพย์เสนอให้ตั้งเจ้าพนักงาน+ทรัพย์เป็นผู้ชำระ+ของห้างหุ้นส่วนนั้น+เจ้าพนักงานไม่ยอมรับ+มีกฎหมายบังคับเจ้าพนักงานรักษาทรัพย์ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 560/2473
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลิกห้างหุ้นส่วนสามัญเมื่อหุ้นส่วนตาย และความรับผิดในหนี้หลังการเลิก
หนี้สินที่เกิดขึ้นภายหลังที่หุ้นส่วนคนหนึ่งได้ตายไปแล้ว ผู้รับมฤดกของหุ้นส่วนผู้ตายไม่ต้องรับผิด
ห้างหุ้นส่วนสามัญเมื่อผู้ถือหุ้นคนหนึ่งตาย ห้างสุ้นส่วนต้องเลิก ถึงแม้สัญญาว่าผู้รับมฤดกถือหุ้นต่อไป แต่ถ้าเขาไม่ยอมก็ต้องเลิก
ห้างหุ้นส่วนสามัญเมื่อผู้ถือหุ้นคนหนึ่งตาย ห้างสุ้นส่วนต้องเลิก ถึงแม้สัญญาว่าผู้รับมฤดกถือหุ้นต่อไป แต่ถ้าเขาไม่ยอมก็ต้องเลิก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 14968/2558
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ห้างหุ้นส่วนสามัญไม่จดทะเบียน: การลงทุนด้วยแรงงาน การแบ่งผลกำไร และการเลิกห้าง
โจทก์เป็นผู้จัดล็อกพื้นที่ในตลาดเพื่อให้ผู้ค้าเช่าแผงขายสินค้าและจัดทำบัญชีเพื่อประโยชน์ในการประกอบกิจการค้านั้น ดังนี้ ย่อมเท่ากับว่าโจทก์ได้ร่วมลงทุนหรือลงหุ้นเป็นแรงงานแล้ว เข้าลักษณะเป็นสัญญาห้างหุ้นส่วนสามัญไม่จดทะเบียนตาม ป.พ.พ. มาตรา 1012 และ 1025 ที่บัญญัติว่า สัญญาจัดตั้งห้างหุ้นส่วนคือ สัญญาซึ่งบุคคลสองคนขึ้นไปตกลงเข้ากันเพื่อกระทำกิจการร่วมกัน ด้วยประสงค์จะแบ่งปันกำไรอันจะพึงได้แต่กิจการที่ทำนั้น ซึ่งสิ่งที่นำมาลงหุ้นนั้นจะเป็นเงิน หรือทรัพย์สินสิ่งอื่น หรือแรงงานก็ได้ ตามมาตรา 1026 วรรคสอง
โจทก์บรรยายฟ้องว่า โจทก์เป็นหุ้นส่วนกับจำเลยในการประกอบกิจการค้าตลาดนัด แต่จำเลยไม่แบ่งผลกำไรให้โจทก์ ทั้งมีพฤติการณ์กีดกันไม่ให้โจทก์เข้าเกี่ยวข้องในกิจการที่เข้าหุ้นกัน โจทก์จึงบอกเลิกสัญญาหุ้นส่วนและคำขอท้ายฟ้องของโจทก์ได้ระบุขอให้ศาลพิพากษาให้เลิกหุ้นส่วนสามัญและให้มีการชำระบัญชี ดังนั้น การที่ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ห้างเลิกกัน โดยระบุวันที่เลิกอันเป็นการรับฟังข้อเท็จจริงจากพยานหลักฐานที่ได้ความว่าห้างดังกล่าวเลิกกันเมื่อใด จึงยังอยู่ในขอบเขตแห่งคำขอ เพียงแต่ระบุวันที่ห้างเลิกให้ชัดเจนเพื่อประโยชน์ในการชำระบัญชีเท่านั้น ไม่เป็นการพิพากษาเกินคำขอแต่อย่างใด
โจทก์บรรยายฟ้องว่า โจทก์เป็นหุ้นส่วนกับจำเลยในการประกอบกิจการค้าตลาดนัด แต่จำเลยไม่แบ่งผลกำไรให้โจทก์ ทั้งมีพฤติการณ์กีดกันไม่ให้โจทก์เข้าเกี่ยวข้องในกิจการที่เข้าหุ้นกัน โจทก์จึงบอกเลิกสัญญาหุ้นส่วนและคำขอท้ายฟ้องของโจทก์ได้ระบุขอให้ศาลพิพากษาให้เลิกหุ้นส่วนสามัญและให้มีการชำระบัญชี ดังนั้น การที่ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ห้างเลิกกัน โดยระบุวันที่เลิกอันเป็นการรับฟังข้อเท็จจริงจากพยานหลักฐานที่ได้ความว่าห้างดังกล่าวเลิกกันเมื่อใด จึงยังอยู่ในขอบเขตแห่งคำขอ เพียงแต่ระบุวันที่ห้างเลิกให้ชัดเจนเพื่อประโยชน์ในการชำระบัญชีเท่านั้น ไม่เป็นการพิพากษาเกินคำขอแต่อย่างใด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 14410/2558
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ห้างหุ้นส่วนสามัญ - ความรับผิดร่วมกันในหนี้สิน - การค้าขายปกติ
จำเลยร่วมและจำเลยทั้งสองตกลงเข้ากันเพื่อกระทำกิจการจำหน่ายสินค้าที่ซื้อจากโจทก์ร่วมกัน โดยมีวัตถุประสงค์แบ่งปันผลกำไรระหว่างกัน จึงเข้าลักษณะสัญญาจัดตั้งห้างหุ้นส่วนสามัญตาม ป.พ.พ. มาตรา 1012 แล้ว หาจำต้องทำสัญญาจัดตั้งห้างหุ้นส่วนสามัญระหว่างจำเลยร่วมกับจำเลยทั้งสองไม่ การที่จำเลยทั้งสองร่วมกันสั่งซื้อสินค้าจากโจทก์และเป็นหนี้ค่าสินค้าโจทก์เป็นการดำเนินการในฐานะหุ้นส่วน อันเป็นไปในทางที่เป็นธรรมดาการค้าขายของห้างหุ้นส่วนนั้น ดังนั้น จำเลยร่วมซึ่งเป็นหุ้นส่วน จึงต้องรับผิดร่วมกับจำเลยทั้งสองชำระหนี้ค่าสินค้าดังกล่าวให้แก่โจทก์ด้วย ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1050