คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
เขตควบคุม

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 51 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1834/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เขตควบคุมการแปรรูปไม้: การพิสูจน์การประกาศและการปิดประกาศเพื่อความถูกต้องตามกฎหมาย
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยทำการแปรรูปไม้สัก ในเขตควบคุมการแปรรูปไม้โดยไม่ได้รับอนุญาตเหตุเกิดในป่าตำบลหนึ่ง อันเป็นเขตควบคุมการแปรรูปไม้ซึ่งรัฐมนตรีประกาศกำหนดในราชกิจจานุเบกษา พ้นกำหนด 90 วันนับแต่วันประกาศ และได้คัดสำเนาประกาศไว้ ณะที่ว่าการอำเภอ และที่ทำการกำนันและที่สาธารณะสถานในท้องที่ซึ่งเกี่ยวข้องที่เกิดเหตุนี้แล้ว ขอให้ลงโทษ
จำเลยให้การปฏิเสธว่าไม่ได้กระทำความผิด เฉย ๆ แม้มิได้ต่อสู้ว่าตำบลที่เกิดเหตุไม่ใช่เหตุควบคุมแปรรูปไม้ และมิได้ต่อสู้ว่าไม่มีการปิดประกาศที่เกิดเหตุ ก็ดี ศาลก็ยังต้องวินิจฉัยว่าตำบลที่เกิดเหตุนั้น เป็นเขตควบคุมการแปรรูปไม้แล้วหรือไม่ และมีการประกาศและปิดสำเนาประกาศถูกต้องแล้วหรือไม่ด้วย ซึ่งในข้อวินิจฉัยนี้ แม้โจทก์จะมีพยานคือ ป่าไม้เขตและป่าไม้จังหวัดนั้น มาเบิกความว่าตำบลที่เกิดเหตุได้ประกาศกำหนดเป็นเขตควบคุมกรแปรรูปไม้และได้ปิดประกาศไว้ด้วยแล้วก็ตามแต่เมื่อโจทก์มิได้นำตัวประกาศหรือสำเนา อันเจ้าหน้าที่รับรองว่า ถูกต้องมาแสดงให้ปรากฎ ทั้งผู้ปิดประกาศนั้น ก็ไม่มีมาเบิกความเช่นนี้ ศาลย่อมวินิจฉัยได้ว่า ที่ว่าที่เกิดเหตุเป็นเขตควบคุมการแปรรูปไม้โดยมีประกาศและปิดประกาศแล้วนั้น ฟังไม่ได้ จึงต้องพิพากษายกฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1834/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เขตควบคุมการแปรรูปไม้: การพิสูจน์ประกาศและการปิดประกาศ
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยทำการแปรรูปไม้สัก ในเขตควบคุมการแปรรูปไม้โดยไม่ได้รับอนุญาต เหตุเกิดในป่าตำบลหนึ่ง อันเป็นเขตควบคุมการแปรรูปไม้ซึ่งรัฐมนตรีประกาศกำหนดในราชกิจจานุเบกษา พ้นกำหนด 90 วันนับแต่วันประกาศ และได้คัดสำเนาประกาศไว้ ณ ที่ว่าการอำเภอ และที่ทำการกำนันและที่สาธารณะสถานในท้องที่ซึ่งเกี่ยวข้องที่เกิดเหตุนี้แล้ว ขอให้ลงโทษ
จำเลยให้การปฏิเสธว่าไม่ได้กระทำความผิดเฉยๆ แม้มิได้ต่อสู้ว่าตำบลที่เกิดเหตุไม่ใช่เขตควบคุมแปรรูปไม้ และมิได้ต่อสู้ว่าไม่มีการปิดประกาศณที่เกิดเหตุก็ดีศาลก็ยังต้องวินิจฉัยว่าตำบลที่เกิดเหตุนั้น เป็นเขตควบคุมการแปรรูปไม้แล้วหรือไม่ และมีการประกาศและปิดสำเนาประกาศถูกต้องแล้วหรือไม่ด้วย ซึ่งในข้อวินิจฉัยนี้แม้โจทก์จะมีพยานคือ ป่าไม้เขตและป่าไม้จังหวัดนั้น มาเบิกความว่าตำบลที่เกิดเหตุได้ประกาศกำหนดเป็นเขตควบคุมการแปรรูปไม้และได้ปิดประกาศไว้ด้วยแล้วก็ตามแต่เมื่อโจทก์มิได้นำตัวประกาศหรือสำเนา อันเจ้าหน้าที่รับรองว่า ถูกต้องมาแสดงให้ปรากฏ ทั้งผู้ปิดประกาศนั้นก็ไม่มีมาเบิกความเช่นนี้ ศาลย่อมวินิจฉัยได้ว่าที่ว่าที่เกิดเหตุเป็นเขตควบคุมการแปรรูปไม้โดยมีประกาศและปิดประกาศแล้วนั้นฟังไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1363-1365/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยกเลิกประกาศเขตควบคุมการแปรรูปไม้: การปิดประกาศยกเลิกไม่ต้องเป็นไปตามมาตรา 5 พ.ร.บ.ป่าไม้ 2484
ประกาศของรัฐมนตรี ซึ่งจะต้องคัดสำเนาประกาศไว้ณที่ต่างๆ ตามความในมาตรา 5 แห่ง พ.ร.บ.ป่าไม้ 2484 นั้น เป็นประกาศ ซึ่งรัฐมนตรีกำหนดขึ้นตามบท แห่ง พ.ร.บ.ป่าไม้อันเป็นเรื่องที่จะให้มีผลบังคับแก่ประชาชนทั่วไป เช่นประกาศกำหนดเขตควบคุมการแปรรูปไม้ เป็นต้น ส่วนประกอบยกเลิกประกาศนั้นเป็นเรื่องที่ไม่ต้องการให้ประกาศนั้นมีผลบังคับแก่ประชาชนต่อไป จึงหาจำต้องนำไปปิดในที่ต่าง ๆ ตามที่กำหนดไว้ไม่ ก็ย่อมมีผลใช้ได้
ประกาศรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตราธิการมีข้อความยกเลิกประกาศฉะบับแรก ๆ ที่กำหนดเขตควบคุมการแปรรูปไม้ไว้ แล้วมีข้อความกำหนดเขตควบคุมการแปรรูปไม้ขึ้นใหม่ แต่ประกาศฉบับนี้หาได้มีการคัดสำเนาปิดไว้ ณ ที่ว่าการอำเภอ ที่ว่าการกำนัน หรือที่สาธารณะสถานในท้องที่ในเขตที่เกี่ยวข้องไม่ ดังนี้ ประกาศฉะบับหลังนี้คงมีผลใช้ได้เฉพาะที่ให้ยกเลิกประกาศฉะบับแรก ๆ ที่ กำหนดเขตควบคุมการแปรรูปไม้เท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1363-1365/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประกาศรัฐมนตรีเรื่องเขตควบคุมการแปรรูปไม้: ผลบังคับใช้และการคัดสำเนาประกาศ
ประกาศของรัฐมนตรี ซึ่งจะต้องคัดสำเนาประกาศไว้ ณที่ต่างๆตามความในมาตรา 5 แห่ง พระราชบัญญัติป่าไม้ 2484 นั้นเป็นประกาศซึ่งรัฐมนตรีกำหนดขึ้นตามบท แห่งพระราชบัญญัติป่าไม้อันเป็นเรื่องที่จะให้มีผลบังคับแก่ประชาชนทั่วไป เช่นประกาศกำหนดเขตควบคุมการแปรรูปไม้ เป็นต้น ส่วนประกาศยกเลิกประกาศนั้นเป็นเรื่องที่ไม่ต้องการให้ประกาศนั้นมีผลบังคับแก่ประชาชนต่อไป จึงหาจำต้องนำไปปิดในที่ต่างๆตามที่กำหนดไว้ไม่ ก็ย่อมมีผลใช้ได้
ประกาศรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตราธิการมีข้อความยกเลิกประกาศฉบับแรกๆที่กำหนดเขตควบคุมการแปรรูปไม้ไว้ แล้วมีข้อความกำหนดเขตควบคุมการแปรรูปไม้ขึ้นใหม่ แต่ประกาศฉบับนี้หาได้มีการคัดสำเนาปิดไว้ ณ ที่ว่าการอำเภอ ที่ว่าการกำนันหรือที่สาธารณะสถานในท้องที่ในเขตที่เกี่ยวข้องไม่ ดังนี้ ประกาศฉบับหลังนี้คงมีผลใช้ได้เฉพาะที่ให้ยกเลิกประกาศฉบับแรกๆที่ กำหนดเขตควบคุมการแปรรูปไม้เท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 113/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขนย้ายข้าวผ่านเขตควบคุม: ไม่ถือเป็นการขนย้ายออกจากเขตตาม พรบ.ควบคุมข้าว
พระราชบัญญัติสำรวจและห้ามกักกันข้าว 2489 มาตรา 10 ห้ามมิให้ขนย้ายข้าวออกจากเขต ซึ่งคณะกรรมการประกาศกำหนด มิได้ห้ามการขนผ่านเขต (อ้างฎีกาที่ 1220/2491)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1179/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตความผิด พ.ร.บ.ควบคุมสินค้า, พ.ร.บ.สำรวจข้าว, และการขนย้ายสินค้าผ่านเขตควบคุม
พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภคและของอื่น ๆ ในภาวะคับขัน กับ พ.ร.บ.การค้าข้าว มีวัตถุประสงค์คนละอย่าง หาได้ขัดแย้งหรือทับกันไม่ ผู้ใดฝ่าฝืนประกาศของเจ้าพนักงานซึ่งออกอาศัยอำนาจ พ.ร.บ.ฉบับไหน ก็ต้องมีผิดตาม พ.ร.บ.ฉบับนั้น
จำเลยขนย้ายรำจากจังหวัดนอกเขตต์กักกันข้าว พาผ่านจังหวัดอันเป็นเขตต์กักกันข้าว ออกไปอีกจังหวัดหนึ่ง ดังนี้ ไม่มีผิดตามพระราชบัญญัติสำรวจและห้ามกักกันข้าว
(อ้างฎีกาที่ 506 - 507/2491)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1179/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขนย้ายสินค้าข้ามเขตควบคุมและการตีความอำนาจตามกฎหมายหลายฉบับ
พระราชบัญญัติควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภคและของอื่นๆ ในภาวะคับขันกับ พระราชบัญญัติสำรวจและห้ามกักกันข้าว และ พระราชบัญญัติการค้าข้าวมีวัตถุประสงค์คนละอย่าง หาได้ขัดแย้ง หรือทับกันไม่ ผู้ใดฝ่าฝืนประกาศของเจ้าพนักงานซึ่งออกอาศัยอำนาจ พระราชบัญญัติ ฉบับไหน ก็ต้องมีผิดตามพระราชบัญญัติ ฉบับนั้น
จำเลยขนย้ายรำจากจังหวัดนอกเขตกักกันข้าว พาผ่านจังหวัดอันเป็นเขตกักกันข้าว ออกไปอีกจังหวัดหนึ่ง ดังนี้ ไม่มีผิดตามพระราชบัญญัติสำรวจและห้ามกักกันข้าว (อ้างฎีกาที่506-507/2491)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 15179/2551 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เขตควบคุมการแปรรูปไม้: โจทก์ไม่นำสืบประกาศ แต่จำเลยไม่โต้แย้ง ถือว่าจำเลยทราบแล้ว ศาลลงโทษได้
มาตรา 5 แห่ง พ.ร.บ.ป่าไม้ ฯ ที่กำหนดให้คัดสำเนาประกาศรัฐมนตรีซึ่งกำหนดขึ้นตามบทแห่งกฎหมายดังกล่าวประกาศไว้ตามสถานที่ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องนั้นเป็นแต่เพียงการกำหนดวิธีการให้พนักงานเจ้าหน้าที่กระทำในการประกาศให้ทราบถึงประกาศรัฐมนตรีเท่านั้น ไม่ใช่บทบังคับอันเป็นองค์ประกอบความผิด การที่โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยร่วมกับพวกมีไม้สักแปรรูปไว้ในครอบครองภายในเขตควบคุมการแปรรูปไม้ตามประกาศของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร ลงวันที่ 3 พฤศจิกายน 2499 โดยประกาศดังกล่าวได้มีการคัดสำเนาประกาศไว้ ณ สถานที่ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องให้ทราบโดยทั่วกัน และจำเลยกับพวกได้ทราบแล้ว ซึ่งจำเลยไม่เคยโต้เถียงทั้งไม่ฎีกาว่าท้องที่เกิดเหตุมิใช่เขตควบคุมการแปรรูปไม้ แสดงว่าจำเลยทราบประกาศดังกล่าวแล้ว หากจำเลยเห็นว่ายังไม่ได้มีการปิดประกาศดังกล่าว ซึ่งจะใช้บังคับแก่จำเลยไม่ได้ ก็เป็นข้อที่จำเลยจะต่อสู้ขึ้นมาให้เห็นเป็นประเด็นในศาลชั้นต้น ดังนั้น แม้โจทก์จะมิได้นำสืบให้เห็นว่า ได้มีการคัดสำเนาประกาศกระทรวงเกษตร เรื่อง กำหนดเขตควบคุมการแปรรูปไม้ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ ฯ ปิดประกาศไว้ ณ สถานที่ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ก็ลงโทษจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 15179/2551

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประกาศเขตควบคุมการแปรรูปไม้ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ การพิสูจน์ทราบประกาศไม่ใช่องค์ประกอบความผิด
มาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 ที่กำหนดให้คัดสำเนาประกาศรัฐมนตรีซึ่งกำหนดขึ้นตามบทแห่งกฎหมายดังกล่าวประกาศไว้ตามสถานที่ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องนั้นเป็นแต่เพียงการกำหนดวิธีการให้พนักงานเจ้าหน้าที่ที่กระทำในการประกาศให้ทราบถึงประกาศรัฐมนตรีเท่านั้น ไม่ใช่บทบังคับอันเป็นองค์ประกอบความผิดการที่โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยร่วมกับพวกมีไม้สักแปรรูปไว้ในครอบครองภายในเขตควบคุมการแปรรูปไม้ตามประกาศของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร ลงวันที่ 3 พฤศจิกายน 2499 โดยประกาศดังกล่าวได้มีการคัดสำเนาประกาศไว้ ณ สถานที่ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องให้ทราบโดยทั่วกัน และจำเลยกับพวกได้ทราบแล้ว ดังนั้น แม้โจทก์จะมิได้นำสืบให้เห็นว่า ได้มีการคัดสำเนาประกาศกระทรวงเกษตร เรื่องกำหนดเขตควบคุมการประรูปไม้ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 ปิดประกาศไว้ ณ สถานที่ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ก็ลงโทษจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 712/2550

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องขาดองค์ประกอบความผิดฐานแปรรูปไม้ในเขตควบคุมการแปรรูปไม้ แม้มีคำขอท้ายฟ้อง ศาลไม่อาจลงโทษได้
โจทก์บรรยายฟ้องในข้อ 1 ใจความว่า ด้วย ร.ม.ต.ว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์การเกษตร อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 47 และมาตรา 75 แห่ง พ.ร.บ.ป่าไม้ฯ ออกประกาศกระทรวงเกษตรให้กำหนดเขตควบคุมการแปรรูปไม้ตลอดเขตท้องที่ทุกจังหวัดและโจทก์บรรยายฟ้องข้อ 2 ใจความว่า ก. ภายในเขตควบคุมการแปรรูปไม้ดังกล่าวในฟ้องข้อ 1 จำเลยทั้งหกร่วมกันตั้งโรงงานแปรรูปไม้ขึ้นที่บริเวณไม่มีเลขที่บ้าน หมู่ที่ 2 ตำบลหนองย่างทอย อำเภอศรีเทพ จังหวัดเพชรบูรณ์ โดยร่วมกันตั้งโรงงานทำเป็นสถานที่ขึ้นเพื่อทำการแปรรูปไม้ไผ่ซางโดยใช้เครื่องจักรกล ได้แก่แท่นเครื่องแปรรูปไม้ไผ่ซาง 4 แท่น แท่นเครื่องตัดไม้ไผ่ซางมีใบเลื่อยพร้อมมอเตอร์ 3 เครื่อง และตาชั่ง 1 เครื่อง เป็นเครื่องมือเครื่องใช้ภายในโรงงาน ที่ใช้ทำการเลื่อยแปรรูปไม้ไผ่ซางให้เปลี่ยนรูป เปลี่ยนขนาด แปรเปลี่ยนสภาพไปจากเดิม ทั้งนี้โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ และไม่มีเหตุอันควรได้รับยกเว้นตามกฎหมาย ข. จำเลยทั้งหกได้บังอาจร่วมกันทำไม้ภายในเขตป่าฝั่งซ้ายของแม่น้ำป่าสัก ในท้องที่ตำบลหนองย่างทอย อำเภอศรีเทพ จังหวัดเพชรบูรณ์ อันเป็นเขตป่าสงวนแห่งชาติ โดยได้ร่วมกันนำไม้ไผ่ซางที่มีอยู่ภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติดังกล่าวมาผ่าเลื่อยให้เปลี่ยนรูป เปลี่ยนขนาด แปรเปลี่ยนสภาพไปจากเดิม อันเป็นการกระทำให้เกิดการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติ ทั้งนี้ โดยจำเลยทั้งหกไม่ได้รับสัมปทานและมิได้รับการยกเว้นตามกฎหมาย โดยโจทก์มิได้บรรยายฟ้องว่าจำเลยทั้งหกร่วมกันทำการแปรรูปไม้หรือกระทำด้วยประการอื่นใดแก่ไม้ อันเป็นการทำให้ไม้เปลี่ยนรูปและขนาดไปจากเดิมโดยมิได้รับอนุญาตภายในเขตควบคุมการแปรรูปไม้ อันเป็นองค์ประกอบความผิดฐานแปรรูปไม้ภายในเขตควบคุมการแปรรูปไม้โดยไม่ได้รับอนุญาตตามมาตรา 48 วรรคหนึ่ง แห่ง พ.ร.บ.ป่าไม้ฯ อันเป็นความผิดคนละฐานซึ่งมีองค์ประกอบความผิดแตกต่างจากความผิดฐานตั้งโรงงานแปรรูปไม้ภายในเขตควบคุมการแปรรูปไม้ และความผิดฐานทำไม้ภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติที่โจทก์ได้บรรยายฟ้องมา ดังนั้น เมื่อโจทก์มิได้บรรยายข้อเท็จจริงและรายละเอียดแห่งการกระทำทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลยทั้งหกร่วมกันกระทำความผิดฐานแปรรูปไม้ภายในเขตควบคุมการแปรรูปไม้โดยไม่ได้รับอนุญาตมาในฟ้อง ฟ้องของโจทก์จึงเป็นฟ้องที่บรรยายข้อเท็จจริงขาดองค์ประกอบความผิดตาม ป.วิ.อ. มาตรา 158 (5) แม้คำขอท้ายฟ้องจะระบุบทมาตราให้ลงโทษมาด้วย ศาลก็ไม่อาจลงโทษจำเลยในข้อหาความผิดฐานนี้ได้ต้องห้ามตาม ป.วิ.อ. มาตรา 192 วรรคหนึ่ง
of 6