พบผลลัพธ์ทั้งหมด 44 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5148/2559
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เงินชดเชยจากเกษียณอายุ ถือเป็นเงินชดเชยตามกฎหมายแรงงาน สามารถเลือกเสียภาษีได้
ป.รัษฎากร บัญญัติให้เงินที่นายจ้างจ่ายให้ครั้งเดียวเพราะเหตุออกจากงานสามารถเลือกเสียภาษีโดยไม่ต้องนำไปรวมคำนวณกับเงินได้อื่น ซึ่งประกาศอธิบดีกรมสรรพากร (ฉบับที่ 45) ได้แบ่งประเภทเงินได้ดังกล่าวออกเป็น 4 ประเภท สำหรับข้อ 1 (ค) มีข้อความกำหนดไว้เพียงว่าให้หมายถึงเงินชดเชยตามกฎหมายแรงงานเท่านั้น เมื่อโจทก์ถูกเลิกจ้างเพราะเหตุครบเกษียณอายุ และได้รับเงินที่นายจ้างจ่ายให้ครั้งเดียวเมื่อออกจากงานรวม 3,118,040 บาท โดยหนังสือแจ้งการจ่ายเงินชดเชยตามกฎหมายแรงงานและเงินบำเหน็จของบริษัทฯ แยกเป็นเงินชดเชยตามกฎหมายแรงงาน 1,792,000 บาท และเงินบำเหน็จ 1,326,040 บาท เงิน 1,792,000 บาท เป็นการจ่ายตามข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานของบริษัทฯ กรณีพนักงานที่ทำงานติดต่อกันครบ 10 ปี และนายจ้างคำนวณจ่ายให้แก่โจทก์จากเงินเดือนอัตราสุดท้ายเป็นระยะเวลา 300 วัน ซึ่งวิธีการจ่ายเงินดังกล่าวเป็นไปตามมาตรา 118 (5) แห่ง พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 อีกทั้งเป็นเงินที่นายจ้างจ่ายให้แก่โจทก์เมื่อเกษียณอายุอันเป็นการเลิกจ้างโดยลูกจ้างมิได้กระทำความผิดตามความหมายของกฎหมายคุ้มครองแรงงาน ถือได้ว่าเข้าลักษณะเป็นเงินชดเชยตามกฎหมายแรงงานแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1816/2556
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขอรับเงินชดเชยค่าขนส่งตามโครงการยกระดับราคาหัวมันสำปะหลัง ผู้รับต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และมีหลักฐานการซื้อขายจริง
จำเลยที่ 1 ประกอบกิจการโรงงานทำมันเม็ดแข็ง เข้าร่วมโครงการยกระดับราคาหัวมันสำปะหลัง ขอรับเงินค่าชดเชยการขนส่งมันเม็ดตามโครงการจากโจทก์ โดยไม่เป็นไปตามเงื่อนไข โดยมีจำเลยที่ 2 เป็นผู้ค้ำประกันการรับเงิน แม้โจทก์จะคืนสัญญาค้ำประกันให้แก่จำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 1 นำสัญญาไปคืนแก่จำเลยที่ 2 แต่จำเลยที่ 1 ยังมีภาระที่ต้องคืนเงินชดเชยค่าขนส่งให้แก่โจทก์ ตราบใดที่จำเลยที่ 1 ยังไม่คืนเงินแก่โจทก์ ภาระการค้ำประกันยังคงผูกพันจำเลยที่ 2 อยู่ไม่สิ้นสุดไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7364/2554
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การปลอมเอกสารราชการเพื่อรับเงินชดเชยพิเศษ และการสนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่า มีเจ้าพนักงานร่วมกันเป็นตัวการในการกระทำความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและโดยทุจริต จำเลยที่ 2 และที่ 3 มีส่วนร่วมในการกระทำความผิดดังกล่าวแต่เป็นราษฎรจึงเป็นผู้สนับสนุนในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและโดยทุจริตของเจ้าพนักงานดังกล่าว แม้ศาลอุทธรณ์ภาค 1 จะยกฟ้องจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นเจ้าพนักงาน เนื่องจากพยานหลักฐานของโจทก์ยังมีความสงสัยตามสมควรว่า จำเลยที่ 1 ร่วมเป็นตัวการกระทำความผิดตามฟ้องหรือไม่ก็ตาม ศาลก็ลงโทษจำเลยที่ 2 และที่ 3 ฐานเป็นผู้สนับสนุนได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4121-4124/2561
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจ่ายเงินชดเชยกรณีเกษียณอายุและการเปลี่ยนรูปแบบการจ่ายเป็นกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ มิใช่ค่าชดเชยตาม พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน
เดิมโจทก์ทั้งสี่มีสิทธิได้รับเงินชดเชยตามระเบียบว่าด้วยเงินชดเชยเมื่อออกจากงาน ต่อมาจำเลยจัดตั้งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพพนักงานบริษัท อ. ซึ่งจดทะเบียนแล้ว โดยออกข้อบังคับมีสาระสำคัญว่าเมื่อลูกจ้างได้รับอนุมัติให้เข้าเป็นสมาชิกกองทุน ให้ถือว่าสิทธิการรับเงินชดเชยเมื่อออกจากงานภายใต้ระเบียบเดิมของบริษัทที่ใช้อยู่ในปัจจุบันเป็นอันระงับไป ต่อมาโจทก์ทั้งสี่สมัครเข้าเป็นสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพโดยทราบเงื่อนไขตามข้อบังคับดังกล่าวและตกลงสละสิทธิรับเงินชดเชยเมื่อออกจากงานตามระเบียบข้อบังคับเดิมแล้วมาใช้สิทธิตามข้อบังคับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพพนักงานบริษัท อ. ซึ่งจดทะเบียนแล้วแทน ถือได้ว่าโจทก์ทั้งสี่แสดงเจตนาต่อจำเลยยินยอมสละสิทธิรับเงินชดเชยเมื่อออกจากงานตามระเบียบข้อบังคับเดิม เมื่อสิทธิของโจทก์ทั้งสี่ที่จะได้รับเงินชดเชยตามระเบียบข้อบังคับว่าด้วยเงินชดเชยเมื่อออกจากงานนั้น เป็นสิทธิที่เกิดจากระเบียบข้อบังคับ โดยไม่ปรากฏว่าเป็นข้อตกลงระหว่างนายจ้างและลูกจ้างที่เกิดจากข้อเรียกร้อง จึงสามารถตกลงแก้ไขเปลี่ยนแปลงในภายหลังได้ ไม่ขัดต่อ พ.ร.บ.กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ พ.ศ.2530 มาตรา 5 และไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน
เมื่อเงินค่าชดเชยตามระเบียบว่าด้วยเงินชดเชยเมื่อออกจากงานได้ถูกนำไปรวมเป็นเงินสมทบในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพพนักงานบริษัท อ. แล้ว จึงต้องถือว่าค่าชดเชยตามระเบียบเดิมนั้นสิ้นสภาพไป และเงินสมทบในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพตาม พ.ร.บ.กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ พ.ศ.2530 มีลักษณะแตกต่างจากค่าชดเชยตาม พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 มาตรา 118 วรรคหนึ่ง ที่กำหนดให้นายจ้างเป็นผู้จ่ายค่าชดเชยแก่ลูกจ้างที่เลิกจ้าง ดังนั้น แม้โจทก์ทั้งสี่จะได้รับเงินสมทบและเงินสะสมจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพพนักงานบริษัท อ. แล้ว โจทก์ทั้งสี่ก็ยังมีสิทธิได้รับค่าชดเชยตาม พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 มาตรา 118 วรรคหนึ่ง
เมื่อเงินค่าชดเชยตามระเบียบว่าด้วยเงินชดเชยเมื่อออกจากงานได้ถูกนำไปรวมเป็นเงินสมทบในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพพนักงานบริษัท อ. แล้ว จึงต้องถือว่าค่าชดเชยตามระเบียบเดิมนั้นสิ้นสภาพไป และเงินสมทบในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพตาม พ.ร.บ.กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ พ.ศ.2530 มีลักษณะแตกต่างจากค่าชดเชยตาม พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 มาตรา 118 วรรคหนึ่ง ที่กำหนดให้นายจ้างเป็นผู้จ่ายค่าชดเชยแก่ลูกจ้างที่เลิกจ้าง ดังนั้น แม้โจทก์ทั้งสี่จะได้รับเงินสมทบและเงินสะสมจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพพนักงานบริษัท อ. แล้ว โจทก์ทั้งสี่ก็ยังมีสิทธิได้รับค่าชดเชยตาม พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 มาตรา 118 วรรคหนึ่ง