คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
เฉลี่ยทรัพย์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 160 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1623/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเฉลี่ยทรัพย์: พิจารณาความสามารถในการชำระหนี้จากทรัพย์สินอื่น ณ เวลาที่ยื่นคำร้อง
ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 290 วรรคหนึ่งและวรรคสอง ศาลจะอนุญาตให้เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาอื่นผู้ยื่นคำร้องขอเฉลี่ยทรัพย์เข้าเฉลี่ยทรัพย์ได้ก็ต่อเมื่อศาลเห็นว่าเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาอื่นนั้นไม่สามารถเอาชำระหนี้ได้โดยสิ้นเชิงจากทรัพย์สินอื่น ๆ ของลูกหนี้ตามคำพิพากษา โดยพิจารณาจากข้อเท็จจริงที่เป็นอยู่ในขณะยื่นคำร้องขอเฉลี่ยทรัพย์ เมื่อปรากฏว่าในขณะที่ยื่นคำร้องขอเฉลี่ยทรัพย์ จำเลยซึ่งเป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษายังมีทรัพย์สินอย่างอื่นอยู่อีกถึง 40 ล้านบาทเศษ แม้ต่อมาภายหลังจากผู้ร้องยื่นคำร้องขอเฉลี่ยทรัพย์ จำเลยถูกพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด และจำเลยได้ส่งมอบทรัพย์สินดังกล่าวให้แก่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไปหมดแล้วก็ตาม กรณียังถือไม่ได้ว่าในขณะที่ผู้ร้องยื่นคำร้องขอเฉลี่ยทรัพย์นั้น ผู้ร้องไม่สามารถเอาชำระหนี้ได้โดยสิ้นเชิงจากทรัพย์สินอื่น ๆ ของลูกหนี้ตามคำพิพากษาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 290 วรรคสอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4996/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาในการเฉลี่ยทรัพย์ - ห้ามลูกหนี้โต้แย้งระหว่างเจ้าหนี้ด้วยกัน
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 290เป็นบทบัญญัติที่คุ้มครองเจ้าหนี้ตามคำพิพากษา ข้ออ้างที่ว่าจำเลยยังมีทรัพย์สินอื่นที่ผู้ร้องสามารถบังคับชำระหนี้ได้เป็นข้ออ้างที่ใช้โต้แย้งระหว่างเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาด้วยกันจำเลยผู้เป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษาจะยกขึ้นโต้แย้งหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3880/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเฉลี่ยทรัพย์จากการบังคับคดีและการพิจารณาเรื่องกำหนดเวลาการยื่นคำร้อง
หลังจากผู้ร้องยื่นคำร้องเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2532 ขอให้ศาลชั้นต้นอนุญาตให้ผู้ร้องเข้าเฉลี่ยเงินที่ขายหรือจำหน่ายที่ดินของจำเลยแล้ว ผู้ร้องได้ยื่นคำร้องอื่นรวมทั้งคำแถลงต่อศาลอีกหลายครั้ง และตามรายงานการเดินหมายของเจ้าหน้าที่ศาลลงวันที่28 มิถุนายน 2532 ก็ระบุว่าเจ้าหน้าที่ศาลได้นำหมายนัดไปส่งแก่จำเลยด้วย แต่ส่งไม่ได้ การที่ผู้ร้องยื่นคำแถลงเมื่อวันที่3 กรกฎาคม 2532 ว่า ยังส่งสำเนาคำร้องขอเฉลี่ยทรัพย์ให้จำเลยไม่ได้ขอให้เจ้าหน้าที่ศาลส่งหมายนัดให้จำเลยอีกครั้งแสดงว่าผู้ร้องทราบดีว่าศาลกำหนดวันนัดพิจารณาคำร้องและผู้ร้องทราบวันนัดนั้นแล้วดังนั้น การที่ฝ่ายผู้ร้องไม่ไปศาลในวันนัดจึงเป็นการทราบคำสั่งแล้วเพิกเฉยไม่ดำเนินคดีภายในเวลาที่ศาลกำหนด ซึ่งเป็นการทิ้งคำร้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 174(2) กรณีที่ผู้ร้องซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาในคดีอื่นร้องขอเฉลี่ยทรัพย์ของจำเลยในคดีที่โจทก์ผู้เป็นเจ้าหนี้จำนองยึดไว้เพื่อขายทอดตลาดนั้น มิใช่เป็นกรณีเฉลี่ยทรัพย์โดยตรงกับโจทก์เพราะโจทก์เป็นเจ้าหนี้จำนองแต่เป็นกรณีที่ผู้ร้องมีสิทธิได้รับชำระหนี้จากเงินที่เหลือภายหลังที่ได้ชำระให้แก่โจทก์แล้ว ต้องนำประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 290 มาบังคับใช้โดยอนุโลมเมื่อการขายทอดตลาดครั้งหลังที่โจทก์เป็นผู้ประมูลได้ ยังไม่มีการยกเลิกโดยคำสั่งใดต้องถือว่ามีการขายทอดตลาดแล้ว ผู้ร้องต้องยื่นคำร้องก่อนสิ้นระยะเวลา 14 วัน นับแต่วันที่ขายทอดตลาด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2252/2536 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตการเฉลี่ยทรัพย์ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 290 วรรคสอง: ลูกหนี้ตามคำพิพากษา
ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 290 วรรคสอง ที่ห้ามมิให้ศาลอนุญาตตามคำขอเฉลี่ยทรัพย์ เว้นแต่ศาลเห็นว่าผู้ยื่นคำขอไม่สามารถเอาชำระหนี้ได้จากทรัพย์สินอื่น ๆ ของลูกหนี้ตามคำพิพากษานั้น คำว่าลูกหนี้ตามคำพิพากษาในที่นี้หมายความถึง ลูกหนี้ตามคำพิพากษาผู้ถูกยึดทรัพย์อยู่ในคดีที่มีการขอเฉลี่ยทรัพย์ ถ้าไม่มีทรัพย์สินอื่นอีก ผู้ขอก็ขอเฉลี่ยจากเงินที่ขายทรัพย์ได้ หาได้หมายความถึงลูกหนี้ตามคำพิพากษาคนอื่นในคดีที่ผู้ขอเฉลี่ยชนะคดีหรือบุคคลอื่นไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2252/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิการเฉลี่ยทรัพย์: ลูกหนี้ตามคำพิพากษาไม่มีทรัพย์สินอื่น เจ้าหนี้มีสิทธิขอเฉลี่ยจากทรัพย์สินที่ถูกยึด
ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 290 วรรคสองที่ห้ามมิให้ศาลอนุญาตตามคำขอเฉลี่ยทรัพย์ เว้นแต่ศาลเห็นว่าผู้ยื่นคำขอไม่สามารถเอาชำระหนี้ได้จากทรัพย์สินอื่น ๆ ของลูกหนี้ตามคำพิพากษานั้น คำว่าลูกหนี้ตามคำพิพากษาในที่นี้หมายความถึงลูกหนี้ตามคำพิพากษาผู้ถูกยึดทรัพย์อยู่ในคดีที่มีการขอเฉลี่ยทรัพย์ถ้าไม่มีทรัพย์สินอื่นอีก ผู้ขอก็ขอเฉลี่ยจากเงินที่ขายทรัพย์ได้หาได้หมายความถึงลูกหนี้ตามคำพิพากษาคนอื่นในคดีที่ผู้ขอเฉลี่ยชนะคดีหรือบุคคลอื่นไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 46/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดีและการเฉลี่ยทรัพย์: สิทธิของเจ้าหนี้และกองมรดก
โจทก์นำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดินซึ่งมีชื่อภรรยาจำเลยเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ในฐานที่เป็นทรัพย์สินของจำเลย ผู้ร้องซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาของจำเลยและภรรยาในคดีอื่นและเป็นผู้รับจำนองที่ดินแปลงที่ถูกยึด ได้ยื่นคำร้องขอรับชำระหนี้ในเงินที่ขายทอดตลาดก่อนเจ้าหนี้อื่นในฐานเจ้าหนี้บุริมสิทธิ ส่วนเงินที่เหลือผู้ร้องหาได้ใช้สิทธิในฐานะเจ้าหนี้ของจำเลยยื่นคำขอเฉลี่ยทรัพย์ไม่ดังนั้น เมื่อไม่มีเจ้าหนี้รายอื่นมายื่นคำขอเฉลี่ยทรัพย์ภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดแล้ว ก็ชอบที่ศาลจะต้องจ่ายเงินสุทธิที่หักจากหนี้บุริมสิทธิ์ให้โจทก์ไปตามสิทธิที่โจทก์มีส่วนได้รับ ผู้ร้องจะมายื่นคำแถลงคัดค้านขอให้งดการจ่ายเงินที่เหลือดังกล่าวทั้งหมดโดยอ้างว่าขอยึดไว้ในคดีอื่นแล้วหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3499/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในการขอเฉลี่ยทรัพย์ยังคงมีอยู่ แม้จะเคยขอถอนคำร้องไปก่อน หากไม่มีเจตนาสละสิทธิ
ตามคำร้องขอถอนคำร้องขอเฉลี่ยทรัพย์ครั้งก่อน ผู้ร้องแถลงว่าศาลนัดสืบพยานประเด็นผู้ร้องที่ศาลจังหวัดสุพรรณบุรี แต่เมื่อถึงวันนัด ทนายโจทก์และทนายผู้ร้องต่างก็ไปที่ศาลจังหวัดสุพรรณบุรีปรากฏว่าศาลจังหวัดสุพรรณบุรีแจ้งว่าศาลเจ้าของสำนวนไม่ได้ส่งประเด็นไปจึงไม่สามารถทำการสืบพยานประเด็นผู้ร้องได้ เมื่อกรณีเป็นเช่นนี้ ผู้ร้องจึงไม่ประสงค์ที่จะดำเนินคดีขอเฉลี่ยทรัพย์อีกต่อไป จึงขอถอนคำร้องขอเฉลี่ยทรัพย์ของผู้ร้องเสีย ตามคำร้องดังกล่าวไม่มีข้อความชัดแจ้งหรืออาจแปลได้ว่าผู้ร้องสละสิทธิที่จะขอเฉลี่ยทรัพย์ในมูลกรณีเดียวกันนั้นอีกในภายหลัง การขอถอนคำร้องขอเฉลี่ยทรัพย์ครั้งก่อนย่อมไม่ทำให้อำนาจที่จะยื่นคำร้องขอเฉลี่ยทรัพย์ของผู้ร้องหมดไป ผู้ร้องจึงมีอำนาจยื่นคำร้องขอเฉลี่ยทรัพย์ได้อีก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3499/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การถอนคำร้องขอเฉลี่ยทรัพย์ไม่เป็นการสละสิทธิ ผู้ร้องมีอำนาจยื่นคำร้องใหม่ได้
ตามคำร้องขอถอนคำร้องขอเฉลี่ยทรัพย์ครั้งก่อน ผู้ร้องแถลงว่าศาลนัดสืบพยานประเด็นผู้ร้องที่ศาลจังหวัดสุพรรณบุรี แต่เมื่อถึงวันนัดทนายโจทก์และทนายผู้ร้องต่างก็ไปที่ศาลจังหวัดสุพรรณบุรีปรากฏว่าศาลจังหวัดสุพรรณบุรีแจ้งว่า ศาลเจ้าของสำนวนไม่ได้ส่งประเด็นไป ไม่สามารถทำการสืบพยานประเด็นผู้ร้องได้ ผู้ร้องจึงไม่ประสงค์ที่จะดำเนินคดีขอเฉลี่ยทรัพย์อีกต่อไป ขอถอนคำร้องขอเฉลี่ยทรัพย์ตามคำร้องดังกล่าวไม่มีข้อความชัดแจ้งหรืออาจแปลได้ว่าผู้ร้องสละสิทธิที่จะขอเฉลี่ยทรัพย์ในมูลกรณีเดียวกันนั้นอีกในภายหลัง การขอถอนคำร้องขอเฉลี่ยทรัพย์ครั้งก่อนย่อมไม่ทำให้อำนาจที่จะยื่นคำร้องขอเฉลี่ยทรัพย์ของผู้ร้องหมดไป ผู้ร้องจึงมีอำนาจยื่นคำร้องขอเฉลี่ยทรัพย์ได้อีก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3074/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเฉลี่ยทรัพย์จากการอายัดเงินก่อนคำพิพากษา: สิทธิของเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาอื่นหลังการส่งมอบทรัพย์
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวก่อนพิพากษาโดยสั่งอายัดเงินของจำเลยไปยังลูกหนี้เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2529 ต่อมาเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2530 ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินตามฟ้อง วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2530 ลูกหนี้ส่งเงินต่อศาลตามคำสั่งอายัดคำสั่งอายัดเงินชั่วคราวก่อนคำพิพากษายังคงมีผลต่อไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 260(2) เมื่อโจทก์ได้ขอออกคำบังคับและขอหมายบังคับคดีถึงที่สุดแล้ว จึงมีผลเท่ากับเจ้าพนักงานบังคับคดีได้อายัดทรัพย์สินของจำเลยซึ่งเป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษาไว้แทนโจทก์ตามมาตรา 290 ผู้ร้องยื่นคำร้องขอเฉลี่ยทรัพย์เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2531 จึงเป็นการยื่นหลังจากสิ้นระยะเวลาสิบสี่วันนับแต่วันที่ลูกหนี้ส่งทรัพย์สินตามที่อายัดไว้ ต้องห้ามตามมาตรา 290 วรรคห้าผู้ร้องจึงไม่มีสิทธิขอเฉลี่ยทรัพย์ในคดีนี้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3074/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอายัดเงินชั่วคราวก่อนพิพากษาและการขอเฉลี่ยทรัพย์ตามคำพิพากษา โดยมีข้อจำกัดด้านระยะเวลา
การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอายัดเงินของจำเลยไว้ชั่วคราวก่อนพิพากษา ต่อมาศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินตามฟ้อง คำสั่งอายัดเงินชั่วคราวก่อนพิพากษายังคงมีผลต่อไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 260(2) การที่บุคคลภายนอกส่งเงินมาตามคำสั่งอายัดชั่วคราวภายหลังที่ศาลชั้นต้นพิพากษาให้โจทก์ชนะคดี เมื่อโจทก์ได้ขอออกคำบังคับและขอหมายบังคับคดีถึงที่สุดแล้วจึงมีผลเท่ากับเจ้าพนักงานบังคับคดีได้อายัดทรัพย์สินของจำเลยซึ่งเป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษาไว้แทนโจทก์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 290 วรรคแรก ผู้ร้องยื่นคำร้องขอเฉลี่ยทรัพย์รายนี้หลังจากสิ้นระยะเวลาสิบสี่วันนับแต่วันที่บุคคลภายนอกชำระเงินตามที่อายัดไว้ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 290 วรรคห้า จึงไม่มีสิทธิขอเฉลี่ยทรัพย์
of 16