คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
เช็คปลอม

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 60 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 133/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช็คปลอมแก้ตัวยาแก้ตัวยาก: ผู้สั่งจ่ายต้องรับผิดตามจำนวนเดิม แม้การแก้ไขไม่ประจักษ์
จำเลยสั่งจ่ายเช็คพิพาทจำนวนเงิน 3,626 บาทให้แก่ ว.ต่อมามีการแก้ไขเพิ่มจำนวนเงินเป็น 903,626 บาท โดยจำเลยมิได้รู้เห็นยินยอม การแก้ไขดังกล่าวหากไม่ตรวจโดยละเอียดก็ยากที่จะสังเกตได้ ดังนี้ การแก้ไขเปลี่ยนแปลงจำนวนเงินอันจะพึงใช้นั้นถือว่า เป็นการแก้ไขเปลี่ยนแปลงในข้อสำคัญ แต่ความเปลี่ยนแปลงนั้นไม่ประจักษ์ กรณีจึงต้องบังคับตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1007 วรรคสอง
ที่โจทก์ฎีกาว่า การที่จะให้ธนาคารโจทก์ผู้ทรงเช็ครับผิด (น่าจะเป็นมีสิทธิ)ตามเนื้อความเดิมแห่งเช็คตามมาตรา 1007 วรรคสอง ต้องไม่ปรากฏว่าผู้สั่งจ่ายได้ละเลยในการระมัดระวังที่จะไม่ให้มีการปลอมแปลงเช็ค ถ้าหากผู้สั่งจ่ายละเลยไม่ระมัดระวังเป็นเหตุให้มีการปลอมแปลงเช็คได้โดยง่าย ผู้สั่งจ่ายต้องรับผิดนั้น คดีไม่มีประเด็นดังกล่าวศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
จำเลยที่ 2 ที่ 3 กรรมการบริษัทจำเลยที่ 1 ลงลายมือชื่อเป็นผู้สั่งจ่าย และประทับตราของบริษัทจำเลยที่ 1 เป็นสำคัญในเช็คพิพาทเพื่อชำระราคาอ้อยให้แก่ ว.เป็นการกระทำตามหน้าที่ภายในขอบวัตถุที่ประสงค์ของบริษัทจำเลยที่ 1 เมื่อจำเลยที่ 1 ต้องรับผิดตามเนื้อความในเช็คนั้นแล้ว จำเลยที่ 2 ที่ 3 หาต้องรับผิดเป็นส่วนตัวไม่
เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่า มีการปลอมจำนวนเงินในเช็คโดยไม่ประจักษ์ จำเลยที่ 1 ก็ต้องรับผิดชำระเงินตามเนื้อความเดิมแห่งเช็คนั้น และเนื่องจากไม่ปรากฏว่าจำเลยได้วางเงินชำระหนี้ตามเช็คพิพาท จำเลยที่ 1 จึงต้องรับผิดชำระดอกเบี้ยให้โจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1462-1463/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ธนาคารต้องรับผิดต่อความเสียหายจากเช็คปลอม และอำนาจร้องทุกข์ย่อมเป็นของธนาคาร ไม่ใช่ตัวแทน แม้ตัวแทนเสียชีวิต
พนักงานของธนาคารซึ่งเป็นผู้แทนของธนาคาร จ่ายเงินจากบัญชีของลูกค้าไปโดยลูกค้าไม่ได้สั่ง ธนาคารตัวการต้องรับผิดเกี่ยวกับเงินจำนวนที่พนักงานของคนจ่ายจากบัญชีลูกค้า การที่จำเลยร่วมกันนำเช็คซึ่งปลอมลายมือชื่อลูกค้าไปเบิกเงินจากธนาคารย่อมได้ชื่อว่ากระทำให้ธนาคารเสียหาย ธนาคารจึงเป็นผู้เสียหาย
ผู้จัดการธนาคารสำนักงานใหญ่มอบอำนาจให้ บ. ไปร้องทุกข์ในฐานะผู้จัดการของธนาคาร มิใช่มอบอำนาจให้ไปร้องทุกข์ไปฐานะส่วนตัว เมื่อ บ.ไปร้องทุกข์ไว้ ถือได้ว่าธนาคารได้ร้องทุกข์ไว้แล้ว ดังนั้น แม้ผู้จัดการตาาย กรณีก็ไม่ใช่ลักษณะสัญญาตัวแทนย่อมระงับสิ้นไป เมื่อคู่สัญญาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งตาย อันจะเป็นเหตุอ้างว่า บ. ไม่มีอำนาจร้องทุกข์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2924/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ธนาคารประมาทเลินเล่อจ่ายเช็คปลอม ผู้รับฝากต้องใช้ความระมัดระวังตรวจสอบลายมือชื่อ
ธนาคารจำเลยเป็นผู้รับฝากเงินเป็นอาชีพโดยหวังผลประโยชน์ในบำเหน็จค่าฝาก หรือจากการเอาเงินฝากของผู้ฝากไปแสวงหาประโยชน์ได้ มีหน้าที่ตามกฎหมายจะต้องใช้ความระมัดระวังและความรู้ความชำนาญเป็นพิเศษตรวจสอบลายมือชื่อผู้สั่งจ่ายว่าเหมือนลายมือชื่อที่ให้ตัวอย่างไว้กับจำเลยหรือไม่ หากเห็นว่าลายมือชื่อสั่งจ่ายในเช็คพิพาทไม่เหมือนตัวอย่างที่ให้ไว้ จำเลยก็ชอบที่จะปฏิเสธการจ่ายเงิน ฉะนั้นการที่จำเลยได้จ่ายหรือหักบัญชีเงินฝากของโจทก์ให้บุคคลอื่นไปจึงถือได้ว่าเป็นความประมาทเลินเล่อของจำเลยจำเลยจึงต้องรับผิดต่อโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1700/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความสมบูรณ์ของคำฟ้องอาญา และการใช้เช็คปลอมโดยรู้เท่าทัน
หน้าฟ้องลงข้อหาว่า "ปลอมหนังสือ ใช้หนังสือปลอม"คำบรรยายฟ้องก็ชัดเช่นนั้น ส่วนคำขอท้ายฟ้องพิมพ์ไว้แต่เพียงว่าขอให้ลงโทษตามมาตรา 264, 265, 266, 268 โดยมิได้อ้างชื่อกฎหมายแห่งมาตรานั้น ๆ ว่าเป็นกฎหมายอะไรก็จริงอยู่แต่เมื่อประมวลแล้วทราบได้ว่ากฎหมายที่ขอให้ลงโทษนั้นคือประมวลกฎหมายอาญา ทั้งมาตราที่พิมพ์ไว้ในคำขอท้ายฟ้องตรงกับมาตราที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายอาญาในหมวดว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับเอกสาร คำฟ้องของโจทก์คดีนี้ขาดตกบกพร่องเพียง แต่มิได้ระบุชื่อของกฎหมาย แต่ก็มีพฤติการณ์แสดงให้เห็นได้ว่าเป็นกฎหมายอะไร เช่นนี้ หาเพียงพอที่จะถือว่าคำฟ้องนั้นเป็นคำฟ้องที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 158(6) แต่อย่างใดไม่ ฟ้องโจทก์จึงสมบูรณ์
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 25/2514)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1507/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช็คที่มิได้ออกโดยธนาคารแต่มีลายมือชื่อผู้สั่งจ่าย มิใช่เช็คปลอม ไม่มีความผิดฐานใช้ตั๋วเงินปลอม
ลำพังแต่แบบพิมพ์เช็คที่ธนาคารได้จัดพิมพ์ขึ้นเพื่อให้ลูกค้าของธนาคารใช้เป็นหนังสือตราสาร คำสั่งให้ธนาคารจ่ายเงินแก่ผู้รับเงินที่ยังไม่ได้ลงชือผู้สั่งจ่ายและกรอกรายการอื่นดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 988 ให้ครบถ้วนบริบูรณ์ แบบพิมพ์นั้นก็ยังไม่เป็นเช็คหรือตั๋วเงินที่ใช้ได้โดยชอบด้วยกฎหมาย
ถึงแม้แบบพิมพ์ที่จำเลยใช้กรอกข้อความรายการทำให้ใช้ได้เป็นเช็ค จะมิใช่แบบพิมพ์เช็คที่ธนาคารได้จัดพิมพ์ขึ้นไว้ให้ใช้ เมื่อปรากฏว่าลายมือชื่อผู้สั่งจ่ายเป็นลายมือชื่อของจำเลยเอง มิได้ปลอมลายมือชื่อของบุคคลอื่นใด เช็คนั้นย่อมไม่ใช่เอกสารปลอมหรือตั๋วเงินปลอม
เมื่อเอกสารที่จำเลยนำไปใช้ไม่ใช่เป็นตั๋วเงินปลอม แม้จำเลยจะนำไปใช้ในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน จำเลยก็ยังไม่มีความผิดฐานใช้ตั๋วเงินปลอม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1507/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช็คที่ไม่ใช่แบบพิมพ์ธนาคาร ไม่ถือเป็นเช็คปลอม แม้กรอกข้อมูลครบถ้วน หากผู้สั่งจ่ายลงชื่อเอง
ลำพังแต่แบบพิมพ์เช็คที่ธนาคารได้จัดพิมพ์ขึ้นเพื่อให้ลูกค้าของธนาคารใช้เป็นหนังสือตราสาร คำสั่งให้ธนาคารจ่ายเงินแก่ผู้รับเงินที่ยังไม่ได้ลงชื่อผู้สั่งจ่ายและกรอกรายการอื่นดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 988 ให้ครบถ้วนบริบูรณ์แบบพิมพ์นั้นก็ยังไม่เป็นเช็คหรือตั๋วเงินที่ใช้ได้โดยชอบด้วยกฎหมาย
ถึงแม้แบบพิมพ์ที่จำเลยใช้กรอกข้อความรายการทำให้ใช้ได้เป็นเช็ค จะมิใช่แบบพิมพ์เช็คที่ธนาคารได้จัดพิมพ์ขึ้นไว้ให้ใช้เมื่อปรากฏว่าลายมือชื่อผู้สั่งจ่ายเป็นลายมือชื่อของจำเลยเองมิได้ปลอมลายมือชื่อของบุคคลอื่นใด เช็คนั้นย่อมไม่ใช่เอกสารปลอมหรือตั๋วเงินปลอม
เมื่อเอกสารที่จำเลยนำไปใช้ไม่ใช่เป็นตั๋วเงินปลอม แม้จำเลยจะนำไปใช้ในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชนจำเลยก็ยังไม่มีความผิดฐานใช้ตั๋วเงินปลอม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1233/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานใช้เช็คปลอมและฉ้อโกง: เช็คเป็นหนังสือสำคัญทางกฎหมายอาญา
เช็คเป็นตั๋วเงินชนิดหนึ่ง สั่งให้ธนาคารจ่ายเงิน จึงเป็นหนังสือซึ่งเป็นสำคัญแก่การตั้งหนี้สินหรือเป็นหลักฐานแก่การเปลี่ยนแก้ เลิกล้าง หรือ โอนหนี้สินเพราะเช็คนั้น ในเบื้องต้นย่อมเป็นหนังสือตราสารซึ่งผู้สั่งจ่ายสั่งธนาคารให้ใช้เงินแก่ผู้ทรง และผู้สั่งจ่ายเป็นอันสัญญาว่า ถ้าธนาคารไม่ยอมจ่ายเงิน ผู้สั่งจ่ายก็จะใช้เงินแก่ผู้ทรง และในเบื้องปลาย เมื่อธนาคารได้จ่ายเงินตามคำสั่งของผู้ออกเช็คแล้ว ก็ย่อมเป็นหนังสือหลักฐานแสดงหนี้สินผูกพันระหว่างผู้ออกเช็คและธนาคารซึ่งผู้ออกเช็คต้องยอมให้ธนาคารหักเงินที่สั่งจ่ายนั้นจากบัญชีเงินฝากของตน หรือถ้าธนาคารจ่ายเงินตามเช็คเกินบัญชีเงินฝากของผู้ออกเช็คไป ธนาคารก็ย่อมเรียกร้องเอาจากผู้ออกเช็คได้เช็คจึงเป็นหนังสือสำคัญตามความหมายของกฎหมายลักษณะอาญาโดยแท้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 131/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ธนาคารต้องรับผิดชอบเช็คปลอม แม้ไม่มีประมาทเลินเล่อ ตามประมวลกฎหมายแพ่งฯ มาตรา 1008
เช็คที่มีผู้ปลอมลายมือชื่อผู้สั่งจ่าย แล้วเอาไปขึ้นเงินจากธนาคารไปนั้น เป็นกรณีตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 1008 แม้
ธนาคารจะจ่ายเงินไปโดยมิได้ประมาทเลินเล่อ ธนาคารก็ยังต้องรับผิดชอบตามจำนวนเงินที่จ่ายให้ไปนั้น./

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 131/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช็คปลอม: ธนาคารต้องรับผิดแม้ไม่มีประมาทเลินเล่อตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1008
เช็คที่มีผู้ปลอมลายมือชื่อผู้สั่งจ่าย แล้วเอาไปขึ้นเงินจากธนาคารไปนั้น เป็นกรณีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1008 แม้ธนาคารจะจ่ายเงินไปโดยมิได้ประมาทเลินเล่อธนาคารก็ยังต้องรับผิดตามจำนวนเงินที่จ่ายให้ไปนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5286/2559

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ธนาคารต้องรับผิดชอบเช็คปลอมหากขาดความระมัดระวังในการตรวจสอบลายมือชื่อ แม้โจทก์เก็บรักษาเช็คด้วยความระมัดระวัง
เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าเช็คพิพาททั้งสิบหกฉบับมีการปลอมลายมือชื่อผู้สั่งจ่าย แต่จำเลยที่ 14 ประกอบธุรกิจธนาคารพาณิชย์เป็นที่ไว้วางใจของประชาชน การจ่ายเงินตามเช็คที่มีผู้มาขอเบิกเงินจากธนาคารเป็นงานส่วนหนึ่งของจำเลยที่ 14 ย่อมมีความชำนาญในการตรวจสอบลายมือชื่อในเช็คว่าเป็นลายมือชื่อของผู้สั่งจ่ายหรือไม่ยิ่งไปกว่าบุคคลธรรมดา ทั้งต้องมีความระมัดระวังในการจ่ายเงินตามเช็คยิ่งกว่าวิญญูชนทั่ว ๆ ไป การที่จำเลยที่ 14 จ่ายเงินตามเช็คพิพาททั้งสิบหกฉบับซึ่งเป็นเช็คที่มีการปลอมลายมือชื่อผู้สั่งจ่าย ทั้งที่มีตัวอย่างลายมือชื่อของโจทก์ที่ให้ไว้แก่จำเลยที่ 14 กับมีเช็คอีกหลายฉบับที่โจทก์เคยสั่งจ่ายไว้อยู่ที่จำเลยที่ 14 จึงเป็นการขาดความระมัดระวังของจำเลยที่ 14 ผู้ประกอบธุรกิจธนาคารพาณิชย์ ถือได้ว่าเป็นความบกพร่องของจำเลยที่ 14 เอง จำเลยที่ 14 จึงไม่หลุดพ้นจากความรับผิดตาม ป.พ.พ. มาตรา 1008 วรรคหนึ่ง
ค. กรรมการโจทก์เก็บสมุดเช็คไว้ในลิ้นชักโต๊ะทำงานของตนบริเวณชั้นสองของอาคารที่ทำการ ซึ่ง ค. ทำงานที่อาคารชั้นสองเพียงคนเดียว ส่วนพนักงานคนอื่น ๆ ทำงานชั้นล่างของอาคาร พนักงานจะขึ้นไปต่อเมื่อ ค. เรียกเข้าพบเท่านั้น โต๊ะทำงานและลิ้นชักดังกล่าวล็อกกุญแจไว้ทุกครั้ง กุญแจจะอยู่ที่ ค. เพียงคนเดียว ดังนี้ ฟังได้ว่าโจทก์ได้เก็บรักษาเช็คพิพาทดังเช่นวิญญูชนพึงกระทำแล้ว ถือไม่ได้ว่าโจทก์กระทำโดยประมาทอันจะถือว่าโจทก์เป็นผู้ต้องตัดบทมิให้ยกข้อลายมือชื่อปลอมขึ้นต่อสู้ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1008 วรรคหนึ่ง และแม้โจทก์มิได้แจ้งให้จำเลยที่ 14 ทราบเมื่อเช็คพิพาททั้งสิบหกฉบับเกิดการสูญหายและมีผู้ไม่สุจริตนำไปปลอมลายมือชื่อผู้สั่งจ่ายก็ตาม เมื่อโจทก์มิได้กระทำโดยประมาท จำเลยที่ 14 จะหยิบยกข้อสัญญาที่ยกเว้นความรับผิดของตนมาปัดความรับผิดไม่ได้
ในคดีอาญา เป็นกรณีที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ฟ้องจำเลยที่ 1 ถึงที่ 4 ในคดีนี้เป็นจำเลย ในข้อหาความผิดเกี่ยวกับเอกสาร ลักทรัพย์ ความผิดเกี่ยวกับบัตรอิเลคทรอนิกส์ ส่วนคดีนี้เป็นคดีที่โจทก์ฟ้องจำเลยที่ 14 เป็นจำเลย ในข้อหาละเมิด ฝากทรัพย์ คดีนี้ระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 14 จึงไม่ใช่คดีแพ่งเกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา ทั้งจำเลยที่ 14 ในคดีนี้ก็ไม่ได้ถูกฟ้องเป็นจำเลยในคดีอาญาดังกล่าว ฟ้องของโจทก์เกี่ยวกับจำเลยที่ 14 จึงไม่เป็นฟ้องซ้ำตาม ป.วิ.พ. มาตรา 144
of 6