คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
เด็ก

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 262 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1356/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข่มขืนเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี โดยใช้อาวุธและไม่ยินยอม ศาลฎีกาแก้ไขโทษตามมาตรา 277 วรรคสาม
ผู้เสียหายเป็นบุตรติดของ จ. จ. มาอยู่กินฉันสามีภรรยากับจำเลยอำนาจการปกครองผู้เสียหายจึงตกแก่ จ.ผู้เป็นมารดาตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1568 การที่จำเลยข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหาย จำเลยย่อมมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 277 วรรคสามเท่านั้น ไม่ต้องด้วยมาตรา 285 อันเป็นบทบัญญัติที่ให้วางโทษหนักกว่าที่บัญญัติไว้ในมาตรานั้น ๆ หนึ่งในสาม ปัญหาดังกล่าวเป็นปัญหาเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกาหยิบยกปัญหาดังกล่าวขึ้นวินิจฉัยเองได้ แม้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดฎีกา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5520/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ครูประมาทเลินเล่อดูแลเด็กไม่ปลอดภัยขณะทำงานและเล่นน้ำ ทำให้เด็กจมน้ำเสียชีวิต
จำเลยเป็นครูประจำชั้นให้เด็กนักเรียนในชั้นรวมทั้งผู้ตายซึ่งเป็นเด็กเล็ก อายุเพียง 11 ปี ไปช่วยจับปลาจากบ่อหนึ่งไปปล่อยในบ่อน้ำใหญ่ซึ่งมีช่วงที่ลึกและเป็นอันตรายแก่เด็ก เมื่อเสร็จงานแล้วก็เพิกถอนเสียมิได้ติดตามดูแลเด็กให้รีบกลับบ้านหรือห้ามปรามมิให้ลงเล่นน้ำ และเมื่อผู้ตายกับเพื่อน ๆ ลงเล่นน้ำในบ่อใหญ่แล้ว จำเลยก็มิได้ตักเตือนให้เล่นด้วยความระมัดระวังเพื่อจะได้ไม่ถลำลงไปในช่วงที่มีน้ำลึกและเป็นอันตราย ทั้ง ๆ ที่ในขณะนั้นจำเลยกับพวกก็นั่งดื่มสุราอยู่ที่ใต้ต้นมะพร้าวริมบ่อที่มีการจับปลานั่นเอง ผู้ตายลื่นลงไปในบ่อช่วงที่มีน้ำลึกและจมน้ำตาย ดังนี้ย่อมถือได้ว่าจำเลยให้ผู้ตายช่วยทำการงานในสถานที่ที่มีอันตรายแล้วไม่ดูแลให้ปลอดภัยตามสมควรแก่วัยของผู้ตายซึ่งเป็นเด็ก จึงเป็นการกระทำโดยประมาทเลินเล่อเป็นเหตุให้ผู้ตายซึ่งเป็นบุตรของโจทก์ถึงแก่ความตายและเป็นการกระทำละเมิดต่อโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4457/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปิดเผยข้อมูลสุขภาพในการทำประกันชีวิต: เด็กอายุ 8 ปีไม่มีหน้าที่เปิดเผยข้อมูลเจ็บป่วย
นายล.ตัวแทนหาประกันชีวิตของจำเลยเอาแบบคำขอเอาประกันชีวิตให้เด็กหญิง ป. อายุเพียง 8 ปี ลงลายมือชื่อ ไว้โดยไม่ได้กรอกข้อความ แล้วนายล.นำแบบคำขอเอาประกันชีวิตดังกล่าวไปกรอกข้อความเอง เด็กหญิง ป. จึงไม่อยู่ในวิสัยที่จะแจ้งข้อความเกี่ยวกับความป่วยเจ็บของตนให้ทราบได้ และไม่สามารถจะทราบความร้ายแรงของโรคที่ตนเป็นอยู่ได้ จึงถือไม่ได้ว่าผู้เอาประกันภัยละเว้นไม่เปิดเผยข้อความจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 865 วรรคแรก คำขอเอาประกันชีวิตไม่มีกฎหมายบังคับว่าต้องมีพยานเอกสารมาแสดงโจทก์มีสิทธิสืบพยานบุคคลเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อความในเอกสารดังกล่าวได้ ไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 94(ข)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 44/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำอนาจารเด็กโดยขู่เข็ญและใช้กำลัง เด็กอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้
จำเลยพาผู้เสียหายทั้งสองซึ่งมีอายุเพียง 9 ปี เข้าไปในห้องบังคับให้ถอดเสื้อผ้าออกมิฉะนั้นจะใช้ไฟฟ้า ช็อต และใช้อวัยวะเพศมาถูกที่อวัยวะเพศของผู้เสียหายทั้งสองจนสำเร็จความใคร่ ถือได้ว่าเป็นการกระทำโดยขู่เข็ญด้วยประการใด ๆ โดยผู้เสียหายทั้งสองนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 31/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำชำเราเด็กอายุ 9 ปี แม้ผู้เสียหายไม่รู้ว่าเป็นอวัยวะเพศ จำเลยมีความผิดจริง
ผู้เสียหายเป็นเด็กหญิงอายุเพียง 9 ปี ไม่ปรากฏว่าเป็นเด็กเร่ร่อนหรือสำส่อนทางเพศ หรือถูกผู้อื่นข่มขืนกระทำชำเรามาก่อนและแม้ผู้เสียหายจะเบิกความว่าไม่รู้ว่าสิ่งที่จำเลยสอดเข้าไปในอวัยวะเพศของผู้เสียหายเป็นอวัยวะเพศหรือนิ้วมือของจำเลยแต่จำเลยสอดใส่เข้าไปในตัวผู้เสียหายและใส่เข้าใส่ออกก็ตามกรณีเป็นเรื่องที่เด็กไร้เดียงสา อาจไม่ทราบชัดว่าเป็นอวัยวะเพศหรือไม่ก็ได้และหลังเกิดเหตุแล้วเมื่อน้าสาวของผู้เสียหายถามผู้เสียหายถึงรายละเอียดที่จำเลยกระทำ ผู้เสียหายก็บอกว่าสิ่งที่จำเลยสอดใส่เข้าในอวัยวะเพศผู้เสียหายนั้นใหญ่กว่านิ้วมือทั้งแพทย์ผู้ตรวจร่างกายผู้เสียหายก็เบิกความว่า ตรวจช่องคลอดผู้เสียหายแล้วน่าเชื่อว่าผู้เสียหายผ่านการร่วมเพศมาแล้วเนื่องจากช่องคลอดขยายตัวยืดหย่อน เมื่อพิจารณาประกอบกันแล้วพยานหลักฐานโจทก์จึงฟังได้ว่าจำเลยกระทำผิดจริงตามฟ้อง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1439/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี ไม่เข้าข่ายพรากเด็กเพื่อการอนาจาร หากเด็กไปโดยสมัครใจ
เด็กหญิงม. อายุ 14 ปี รักใคร่ฉันชู้สาวกับจำเลยมาก่อนและสมัครใจไปกินอยู่หลับนอนกับจำเลยซึ่งยังไม่มีภรรยาที่บ้านญาติจำเลยเป็นเวลาประมาณ 1 เดือนเศษ และได้เสียกับจำเลยหลายครั้ง เมื่อบิดามารดาตามไปพบบอกให้เด็กหญิงม.ไปเรียนหนังสือต่อ เด็กหญิงม.ก็ยอมกลับบ้านโดยมีจำเลยติดตามมาด้วย มารดาจำเลยมาสู่ขอเด็กหญิงม.แต่ตกลงกับบิดาเด็กหญิงม.เรื่องค่าสินสอดกันไม่ได้การกระทำของจำเลยไม่เป็นพรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปีไปเสียจากบิดามารดาเพื่อการอนาจาร

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3270/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลในการดำเนินคดีกับเด็กที่กระทำผิด พ.ร.บ.สารระเหย ต้องเป็นไปตามที่กฎหมายเฉพาะบัญญัติไว้
จำเลยซึ่งกระทำความผิดตามพระราชกำหนดป้องกันการใช้สารระเหยพ.ศ. 2533 มาตรา 17 มีอายุไม่เกิน 17 ปี และไม่ปรากฏว่าจำเลยเป็นผู้ติดสารระเหย ในกรณีเช่นนี้พระราชกำหนดดังกล่าวมาตรา 26(1) บัญญัติว่า ให้ศาลมีอำนาจดำเนินการคือ ให้ว่ากล่าวตักเตือนจำเลยแล้วปล่อยตัวไป และถ้าศาลเห็นสมควรจะเรียกบิดามารดาผู้ปกครองหรือบุคคลที่จำเลยอาศัยอยู่มาตักเตือนด้วยก็ได้ ดังนี้ต้องถือว่าพระราชกำหนดดังกล่าวได้บัญญัติวิธีที่จะให้ศาลดำเนินการกับจำเลยไว้โดยเฉพาะแล้ว ศาลจึงนำประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 17,74,75 มาใช้บังคับโดยพิพากษาให้ส่งตัวจำเลยไปฝึกอบรมที่สถานพินิจและคุ้มครองเด็กมีกำหนด 1 ปีไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3278/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดพยายามข่มขืนกระทำชำเรา: การกระทำไม่ถือเป็นอนาจารอื่น
การที่จำเลยให้ผู้เสียหายนั่งโก้งโค้งและจำเลยนั่งคุกเข่าอยู่ข้างหลังใช้มือข้างหนึ่งจับเอวผู้เสียหาย ส่วนอีกข้างหนึ่งปิดปากแล้วใช้อวัยวะเพศของจำเลยทิ่มเข้าไปที่อวัยวะเพศของผู้เสียหายหลายครั้งนั้น เป็นอากัปกิริยาที่จำเลยใช้ในการพยายามข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหาย ไม่ถือว่าเป็นการกระทำอนาจารอย่างอื่นอีกจึงไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 279 อีกบทหนึ่ง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 261/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พรากเด็กจากผู้ดูแล, ร่วมประเวณีกับเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี, ความผิดฐานร่วมกระทำความผิด
การที่จำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 ร่วมกันพาผู้เสียหายซึ่งมีอายุ 14 ปีเศษและอยู่ในความดูแลของ ช. ออกจากบ้านโดยไม่ให้คนในบ้านรู้ แล้วจำเลยที่ 1 พาผู้เสียหายไปชำเราในป่ายางข้างทางและที่อื่น ๆ อีกหลายครั้ง หลังจากจำเลยที่ 1 ได้ร่วมประเวณีแล้วยังได้มอบผู้เสียหายให้ไปกับจำเลยที่ 2 ปล่อยให้จำเลยที่ 2ร่วมประเวณีอีกหลายคืน ถือได้ว่าเป็นการพรากเด็กไปเสียจากผู้ดูแลโดยปราศจากเหตุอันสมควรตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 317

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 117/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำอนาจารเด็กและการพิจารณาความผิดฐานพยายามกระทำชำเรา โดยพิจารณาจากพยานหลักฐานทางการแพทย์
ตามพฤติการณ์ของจำเลยน่าเชื่อว่า จำเลยเพียงแต่ใช้อวัยวะเพศของจำเลยถู ไถสัมผัสอวัยวะเพศของผู้เสียหายที่ด้านนอกจนสำเร็จความใคร่โดยไม่มีเจตนาสอดใส่เข้าไปในอวัยวะเพศของผู้เสียหาย จำเลยจึงไม่มีความผิดฐานพยายามกระทำชำเราผู้เสียหาย การกระทำของจำเลยเป็นความผิดฐานกระทำอนาจารแก่เด็กอายุไม่เกินสิบห้าปี ตาม ป.อ. มาตรา 279 วรรคแรก และเป็นการกระทำแก่ผู้สืบสันดานมีโทษหนักขึ้นตามมาตรา 285 แม้โจทก์ขอให้ลงโทษจำเลยตาม ป.อ. มาตรา 277 และ 285 โดยไม่ได้ขอให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา 279 ด้วย แต่ความผิดตามที่โจทก์ฟ้องนั้นรวมการกระทำผิดฐานกระทำอนาจารตามมาตรา 279 ด้วย ศาลมีอำนาจลงโทษจำเลยตามความผิดที่พิจารณาได้ความได้ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 192วรรคท้าย.
of 27