คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
เบียดบัง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 67 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 455/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ยักยอกทรัพย์จากสัญญาขายและรับฝาก: การเบียดบังข้าวเปลือกของผู้อื่นเป็นความผิดอาญา
จำเลยทำสัญญาขายข้าวเปลือกซึ่งเก็บไว้ในยุ้งของ ส. ให้โจทก์ร่วม และทำสัญญารับฝากข้าวเปลือกจำนวนนั้นไว้จากโจทก์ร่วมจะนำไปส่งมอบให้ภายหลังดังนี้เห็นได้ว่าข้าวเปลือกได้โอนไปเป็นของโจทก์ร่วมแล้วเมื่อจำเลยรับฝากข้าวเปลือกของโจทก์ร่วมโดยเก็บไว้ในยุ้งที่จำเลยเช่าไว้ จึงเป็นผู้ครอบครองข้าวเปลือกซึ่งเป็นของโจทก์ร่วมเมื่อจำเลยขนเอาข้าวเปลือกไปเสียและปฏิเสธฝืนพยานหลักฐานว่าไม่มีข้าวเปลือกของจำเลยอยู่ในยุ้งดังกล่าว และจำเลยไม่เคยขายและรับฝากข้าวเปลือกจากโจทก์ร่วมเช่นนี้ถือได้ว่า จำเลยได้เบียดบังเอาข้าวเปลือกของโจทก์ร่วมไปโดยทุจริต จึงเป็นความผิดฐานยักยอกทรัพย์แม้ข้าวเปลือกจะเป็นสังกมะทรัพย์ซึ่งอาจใช้ข้าวประเภทและชนิดเดียวกันมีปริมาณเท่ากัน แทนกันได้แต่ก็มิใช่ว่าผู้รับฝากจะเอาไปเป็นประโยชน์สำหรับตนได้ทั้งๆ ที่ไม่มีสิทธิ การกระทำของจำเลยหาใช่เป็นผิดสัญญาทางแพ่งเท่านั้นไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1845/2517 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้าราชการเบียดบังแสตมป์ฤชากรจากสำนวนคดี ไม่มีหลักฐานแสวงหาประโยชน์ส่วนตัว
จำเลยเป็นเสมียนศาล มีหน้าที่เก็บรักษาสำนวนความผู้พิพากษาหัวหน้าศาลตั้งให้จำเลยเป็นกรรมการปลดเผาสำนวนร่วมกับผู้อื่นในระหว่างการปลดเผาสำนวน จำเลยเอาแสตมป์ฤชากรที่ฉีกออกจากสำนวนที่จะต้องปลดเผาไปเสีย การกระทำของจำเลยเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 158 เมื่อโจทก์ไม่มีพยานมาสืบว่าจำเลยนำแสตมป์เก่าที่ใช้แล้วนั้นไปใช้แสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมาย ไม่พอฟังว่าจำเลยเบียดบังยักยอกแสตมป์เหล่านั้นเป็นประโยชน์ส่วนตัวโดยทุจริต จึงไม่มีความผิดตามมาตรา 147, 157 ด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1845/2517

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้าราชการเบียดบังแสตมป์ฤชากร แม้ไม่ได้แสวงหาประโยชน์ส่วนตัว ไม่มีหลักฐานความผิดฐานยักยอก
จำเลยเป็นเสมียนศาล มีหน้าที่เก็บรักษาสำนวนความผู้พิพากษาหัวหน้าศาลตั้งให้จำเลยเป็นกรรมการปลดเผาสำนวนร่วมกับผู้อื่นในระหว่างการปลดเผาสำนวน จำเลยเอาแสตมป์ฤชากรที่ฉีกออกจากสำนวนที่จะต้องปลดเผาไปเสีย การกระทำของจำเลยเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 158 เมื่อโจทก์ไม่มีพยานมาสืบว่าจำเลยนำแสตมป์เก่าที่ใช้แล้วนั้นไปใช้แสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมาย ไม่พอฟังว่าจำเลยเบียดบังยักยอกแสตมป์เหล่านั้นเป็นประโยชน์ส่วนตัวโดยทุจริต จึงไม่มีความผิดตามมาตรา 147,157 ด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 109/2516 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ยักยอกทรัพย์: การเบียดบังเช็คที่ได้รับมอบหมายชำระหนี้แทนแล้ว เป็นความผิดฐานยักยอก
โจทก์ออกเช็คให้ผู้อื่นเพื่อเป็นประกันหนี้ ต่อมาโจทก์ได้มอบเงินให้จำเลยไปชำระหนี้ตามเช็คนั้น แล้วรับเช็คมาแล้วจำเลยจึงเป็นผู้ครอบครองเช็คอันเป็นทรัพย์ของโจทก์ไว้ และไม่คืนให้โจทก์ อ้างว่าโจทก์ไม่ได้มอบเงินให้ไปชำระหนี้แทนซึ่งไม่เป็นความจริง แล้วนำเอาเช็คนั้นไปเบิกเงินจากธนาคารพฤติการณ์เช่นนี้ถือได้ว่า เป็นการเบียดบังเอาเช็คของโจทก์ไปโดยทุจริตการกระทำของจำเลยเป็นความผิดฐานยักยอก
คดีที่คู่ความอุทธรณ์ได้แต่เฉพาะปัญหาข้อกฎหมายตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวงฯ นั้น ข้อเท็จจริงต้องฟังเป็นยุติตามที่ศาลแขวงฯ ฟังมา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 109/2516

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ยักยอกทรัพย์: การครอบครองเช็คของผู้อื่นหลังรับมอบชำระหนี้แล้วนำไปเบิกเงิน ถือเป็นการเบียดบังทรัพย์โดยทุจริต
โจทก์ออกเช็คให้ผู้อื่นเพื่อเป็นประกันหนี้ ต่อมาโจทก์ได้มอบเงินให้จำเลยไปชำระหนี้ตามเช็คนั้น แล้วรับเช็คมาแล้ว จำเลยจึงเป็นผู้ครอบครองเช็คอันเป็นทรัพย์ของโจทก์ไว้ และไม่คืนให้โจทก์ อ้างว่าโจทก์ไม่ได้มอบเงินให้ไปชำระหนี้แทน ซึ่งไม่เป็นความจริง แล้วนำเอาเช็คนั้นไปเบิกเงินจากธนาคาร พฤติการณ์เช่นนี้ถือได้ว่า เป็นการเบียดบังเอาเช็คของโจทก์ไปโดยทุจริต การกระทำของจำเลยเป็นความผิดฐานยักยอก
คดีที่คู่ความอุทธรณ์ได้แต่เฉพาะปัญหาข้อกฎหมายตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวงฯ นั้น ข้อเท็จจริงต้องฟังเป็นยุติตามที่ศาลแขวงฯ ฟังมา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1375/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ยักยอกทรัพย์ vs. ผิดสัญญา: การเบียดบังเงินที่ได้รับมอบหมายซื้อของ
จำเลยได้รับมอบเงินจากผู้เสียหายเพื่อให้นำไปซื้อปอฝ้ายและพืชไร่ มาให้ผู้เสียหายภายในกำหนด แล้วจำเลยไม่ปฏิบัติตามที่ผู้เสียหายมอบหมายกลับหลบหนีไปและได้นำเงินของผู้เสียหายไปใช้เสียหมด ดังนี้ ถ้าข้อเท็จจริงฟังได้ด้วยว่า การที่จำเลยนำเงินของผู้เสียหายไปใช้นั้นเป็นการเบียดบังเอาทรัพย์ของผู้เสียหายโดยทุจริตแล้วจำเลยก็ต้องมีความผิดฐานยักยอกมิใช่เป็นเพียงผิดสัญญาในทางแพ่ง
ศาลชั้นต้นสืบผู้เสียหายเป็นพยานปากเดียวแล้วสั่งงดสืบพยานต่อไป เมื่อข้อเท็จจริงที่ปรากฏยังไม่เพียงพอที่จะวินิจฉัยว่าการกระทำของจำเลยเป็นการกระทำผิดในทางอาญาหรือเป็นเพียงผิดสัญญาในทางแพ่งก็ต้องยกคำพิพากษาศาลชั้นต้นย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาใหม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 341/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าพนักงานเบียดบังน้ำมันของราชการเพื่อประโยชน์ส่วนตัว มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147
จำเลยเป็นพลทหารเรือประจำการมีหน้าที่เป็นพลขับรถยนต์ของราชการทหารเรือ จึงเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่จัดการใช้และรักษาน้ำมันรถที่จำเลยทำหน้าที่ขับนั้นด้วย การที่จำเลยยอมให้บุคคลอื่นดูดเอาน้ำมันในรถไปแล้วรับเงินจากบุคคลนั้นเป็นค่าตอบแทนเอาเป็นประโยชน์ส่วนตัวย่อมเป็นการเบียดบังน้ำมันของทางราชการไปโดยทุจริตเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 3/2512)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1125/2507

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาทุจริตเบียดบังทรัพย์สินเช่าซื้อเป็นความผิดฐานยักยอก แม้ผิดสัญญาเช่าซื้อ
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยเช่าซื้อจักรเย็บผ้า 1 หลังจากบริษัทซิงเกอร์โชอิงแมชีน. จำเลยต้องส่งเงินค่าเช่าซื้อเป็นรายเดือน ได้ผ่อนชำระมาบ้างแล้ว ที่เหลือจำเลยไม่ยอมชำระ และจำเลยได้นำเอาจักรดังกล่าวไปจำนำเสียที่สถานธนานุบาล โดยจำเลยมีเจตนาทุจริตคิดยักยอกเบียดบังเอาจักร เป็นอาณาประโยชน์ส่วนตัว ดังนี้ พอแปลความหมายได้ว่าจำเลยเบียดบังเอาจักรเป็นของตนโดยทุจริต อันเป็นองค์สำคัญในความผิดทางอาญาฐานยักยอกแล้วฟ้องของโจทก์จึงเป็นฟ้องที่ยืนยันข้อเท็จจริงว่าจำเลยได้กระทำผิดทางอาญาฐานยักยอกโดยสมบูรณ์ เมื่อจำเลยให้การรับสารภาพตลอดข้อหาแล้ว ศาลก็ลงโทษจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 37/2504

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าหน้าที่เรือนจำเบียดบังเงินค่าขายสุกร ความผิดทางอาญา
พัสดีเรือนจำชั่วคราวมีหน้าที่ควบคุมการเลี้ยงสุกรเมื่อจำหน่ายสุกรได้ต้องส่งเงินรายได้ต่อเรือนจำจังหวัด แต่กลับเบียดบังเอาเงินค่าขายสุกรไปใช้เป็นประโยชน์ส่วนตัวเสียดังนี้ ย่อมมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 147 แม้ผู้บัญชาการเรือนจำจะอนุญาตให้จำเลยผัดใช้เงินก็มิทำให้จำเลยพ้นผิดไปได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 666/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานยักยอกทรัพย์: ฟ้องชัดเจน ครอบครองแล้วเบียดบังเป็นของตน
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษฐานยักยอก โดยมีข้อความระบุวันที่จำเลยรับมอบจักร์เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2501 เวลากลางวัน เพื่อเอาไปทดลองใช้ภายในกำหนดวันที่ 24 กรกฎาคม 2501 ให้นำจักร์ส่งคืนจำเลยกับพวกรับจักร์ไปแล้วมิได้นำจักรมาส่งคืนตามกำหนด โดยมีเจตนาทุจริตเบียดบังยักยอกเอาจักร์ไปเป็นประโยชน์ส่วนตนหรือผู้อื่น ดังนี้ ฟ้องของโจทก์มีข้อความชัดเจนพอที่จำเลยจะเข้าใจข้อหาได้ดีกว่า จำเลยทุจริตเบียดบังเอาทรัพย์ไประหว่างวันเวลาดังกล่าวนั้น ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
of 7