คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
เปลี่ยนแปลงโทษ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 43 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1323/2553

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาต้องห้ามเนื่องจากแก้ไขโทษเล็กน้อย แต่ศาลฎีกามีอำนาจเปลี่ยนแปลงดุลพินิจลงโทษได้
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษกักขังแทนโทษจำคุก ศาลอุทธรณ์ภาค 9 พิพากษาแก้โดยปรับบทให้ถูกต้อง แต่ไม่แก้ไขโทษอันเป็นการแก้ไขเล็กน้อย คดีจึงต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตาม ป.วิ.อ. มาตรา 219 ตรี ประกอบ พ.ร.บ.จัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง ฯ มาตรา 4 จำเลยฎีกาขอให้รอการลงโทษ จึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายดังกล่าวซึ่งในกรณีนี้ ป.วิ.อ. มาตรา 221 ไม่ได้บัญญัติให้ผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาหรือลงชื่อในคำพิพากษาหรือทำความเห็นแย้งในศาลชั้นต้นอนุญาตให้ฎีกาได้ การอนุญาตให้ฎีกาของผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาศาลชั้นต้นจึงไม่ชอบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2620/2552

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลักทรัพย์ในเคหสถาน: ความยินยอมในการเข้าบ้านและการเปลี่ยนแปลงฐานความผิด
การที่ ฉ. และ จ. ผู้เสียหายมอบกุญแจบ้านและกุญแจห้องนอนให้จำเลยช่วยดูแลบ้านระหว่างที่ผู้เสียหายไม่อยู่ เท่ากับอนุญาตให้จำเลยเข้าไปในบ้านอันเป็นเคหสถานแล้ว การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดฐานลักทรัพย์ในเคหสถานตาม ป.อ. มาตรา 335 (8) ซึ่งต้องเป็นการเข้าไปโดยไม่ได้รับความยินยอมจากเจ้าของหรือผู้ครอบครองเคหสถานนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 122/2551 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขอเปลี่ยนแปลงโทษตามกฎหมายใหม่หลังมีคำพิพากษาถึงที่สุด การไม่ปฏิบัติตามลำดับชั้นศาล และการวินิจฉัยเกินขอบเขต
คดีนี้ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาถึงที่สุดเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2544 ให้จำคุกจำเลย 20 ปี ตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 15 วรรคหนึ่ง, 66 วรรคหนึ่ง ต่อมาวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2548 จำเลยยื่นคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นกำหนดโทษจำเลยเสียใหม่ให้เหมาะสมสอดคล้องกับบทบัญญัติตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 5) พ.ศ.2545 ตาม ป.อ. มาตรา 3 (1) ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ตามคำร้องไม่เข้าหลักเกณฑ์ตาม ป.อ. มาตรา 3 (1) ให้ยกคำร้อง ในกรณีเช่นนี้หากจำเลยไม่เห็นพ้องด้วยกับคำสั่งศาลชั้นต้นก็ต้องอุทธรณ์คำสั่งต่อศาลอุทธรณ์ภาค 8 ภายในเวลาที่กฎหมายกำหนด แต่ปรากฏว่าจำเลยมิได้อุทธรณ์โต้แย้งคำสั่งแต่อย่างใด คำสั่งศาลชั้นต้นดังกล่าวจึงถึงที่สุด ดังนี้ การที่จำเลยมายื่นคำร้องลงวันที่ 19 เมษายน 2550 ขอให้ศาลอุทธรณ์ภาค 8 พิจารณากำหนดโทษจำเลยเสียใหม่ตาม ป.อ. มาตรา 3 (1) อีกนั้น จึงหาอาจทำได้ไม่ ทั้งกรณีไม่เป็นไปตามลำดับชั้นศาล จำเลยย่อมไม่มีสิทธิยื่นคำร้องดังกล่าวต่อศาลอุทธรณ์ภาค 8 ได้ ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 8 วินิจฉัยว่า คำร้องของจำเลยไม่เข้าลักษณะของการอุทธรณ์โต้แย้งคำสั่งศาลชั้นต้น ให้ยกคำร้องนั้นชอบแล้ว ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย แต่การที่ศาลอุทธรณ์ภาค 8 วินิจฉัยต่อมาว่า กรณีตามคำร้องของจำเลยไม่เข้าหลักเกณฑ์ตาม ป.อ. มาตรา 3 (1) นั้น เป็นการไม่ชอบ แม้ศาลอุทธรณ์ภาค 8 จะวินิจฉัยให้ก็ถือไม่ได้ว่าเป็นข้อที่ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลอุทธรณ์ภาค 8 และไม่มีผลอันจะก่อสิทธิให้จำเลยฎีกาโต้แย้งคำสั่งดังกล่าวได้ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
of 5