พบผลลัพธ์ทั้งหมด 62 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 784/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกำหนดเวลากลางคืนตามกฎหมาย: ผลต่อการพิจารณาคดีอาญา
การนับเวลาได้มีประกาศนับเวลาในราชการ พ.ศ.2460 ให้เริ่มนับวันใหม่ตั้งแต่เที่ยงคืน และ ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 6 ข้อ 23 บัญญัติว่า วันหนึ่งหมายความว่าระยะเวลายี่สิบสี่ชั่วโมง เมื่อตั้งต้นนับวันใหม่ตั้งแต่เที่ยงคืน วันหนึ่งจึงมีเวลากลางคืน 2 ตอน คือตอนต้นนับวันใหม่ตั้งแต่เวลาเที่ยงคืนไปจนถึงพระอาทิตย์ขึ้น เป็นเวลากลางคืนตอนหนึ่ง กับอีกตอนหนึ่งระหว่างเวลาตั้งแต่พระอาทิตย์ตกไปสุดสิ้นถึงเวลาเที่ยงคืน
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกระทำผิดในวันที่ 20 กันยายน 2489 เวลากลางคืน ทางพิจารณาได้ความว่า จำเลยกระทำผิดในวันที่ 21 กันยายน 2489 เวลา 4.00 นาฬิกา ดังนี้ข้อเท็จจริงตามทางพิจารณาต่างกับข้อเท็จจริงที่กล่าวในฟ้อง ต้องยกฟ้อง
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกระทำผิดในวันที่ 20 กันยายน 2489 เวลากลางคืน ทางพิจารณาได้ความว่า จำเลยกระทำผิดในวันที่ 21 กันยายน 2489 เวลา 4.00 นาฬิกา ดังนี้ข้อเท็จจริงตามทางพิจารณาต่างกับข้อเท็จจริงที่กล่าวในฟ้อง ต้องยกฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 784/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนับเวลากลางคืนตามกฎหมาย: ผลต่อการระบุวันเวลาเกิดเหตุในคดีอาญา
การนับเวลาได้มีประกาศนับเวลาในราชการ พ.ศ.2460 ให้เริ่มนับวันใหม่ตั้งแต่เที่ยงคืน และกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 6 ข้อ 23 บัญญัติว่า วันหนึ่งหมายความว่าระยะเวลายี่สิบสี่ชั่วโมง เมื่อตั้งต้นนับวันใหม่ตั้งแต่เที่ยงคืนวันหนึ่งจึงมีเวลากลางคืน 2 ตอน คือตอนต้นนับวันใหม่ตั้งแต่เวลาเที่ยงคืนไปจนถึงพระอาทิตย์ขึ้น เป็นเวลากลางคืนตอนหนึ่ง กับอีกตอนหนึ่งระหว่างเวลาตั้งแต่พระอาทิตย์ตกไปสุดสิ้นถึงเวลาเที่ยงคืน
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกระทำผิดในวันที่ 20 กันยายน 2489เวลากลางคืนทางพิจารณาได้ความว่า จำเลยกระทำผิดในวันที่ 21 กันยายน 2489 เวลา 4.00 นาฬิกา ดังนี้ข้อเท็จจริงตามทางพิจารณาต่างกับข้อเท็จจริงที่กล่าวในฟ้อง ต้องยกฟ้อง
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกระทำผิดในวันที่ 20 กันยายน 2489เวลากลางคืนทางพิจารณาได้ความว่า จำเลยกระทำผิดในวันที่ 21 กันยายน 2489 เวลา 4.00 นาฬิกา ดังนี้ข้อเท็จจริงตามทางพิจารณาต่างกับข้อเท็จจริงที่กล่าวในฟ้อง ต้องยกฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 686/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยักย้ายข้าวเวลากลางคืนเป็นความผิด ฟ้องไม่จำเป็นต้องระบุว่าจำเลยเป็นผู้ค้าข้าว และริบข้าวได้
ในกรณีที่เจ้าพนักงานห้ามยักย้ายข้าวเวลากลางคืนนั้น ฟ้องไม่จำต้องระบุว่า จำเลยเป็นผู้ค้าข้าวหรือไม่
การที่เจ้าพนักงานประกาศห้ามยักย้ายข้าวเวลากลางคืน ย่อมอยู่ภายในบังคับของมาตรา 8
การยักย้ายข้าวฝ่าฝืนประกาศของเจ้าพนักงาน ย่อมริบข้าวได้ตามมาตรา 21 ทวิ.
กับมีคดีและข้อวินิจฉัยอย่างเดียวกัน คือ
คดีดำ 636/91 ฎีกาที่ 682/91
คดีดำ 637/91 ฎีกาที่ 683/91
คดีดำ 638/91 ฎีกาที่ 707/91
คดีดำ 639/91 ฎีกาที่ 684/91
คดีดำ 640/91 ฎีกาที่ 685/91
การที่เจ้าพนักงานประกาศห้ามยักย้ายข้าวเวลากลางคืน ย่อมอยู่ภายในบังคับของมาตรา 8
การยักย้ายข้าวฝ่าฝืนประกาศของเจ้าพนักงาน ย่อมริบข้าวได้ตามมาตรา 21 ทวิ.
กับมีคดีและข้อวินิจฉัยอย่างเดียวกัน คือ
คดีดำ 636/91 ฎีกาที่ 682/91
คดีดำ 637/91 ฎีกาที่ 683/91
คดีดำ 638/91 ฎีกาที่ 707/91
คดีดำ 639/91 ฎีกาที่ 684/91
คดีดำ 640/91 ฎีกาที่ 685/91
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 685/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยักย้ายข้าวฝ่าฝืนประกาศห้ามยักย้ายเวลากลางคืน ถือเป็นความผิดแม้ไม่ระบุว่าจำเลยเป็นผู้ค้าข้าว
ในกรณีที่เจ้าพนักงานห้ามยักย้ายข้าวเวลากลางคืนนั้น ฟ้องไม่ต้องระบุว่า จำเลยเป็นผู้ค้าข้าวหรือไม่
การที่เจ้าพนักงานประกาศห้ามยักย้ายข้าวเวลากลางคืน ย่อมอยู่ภายในบังคับของ มาตรา 8
การยักย้ายข้าวฝ่าฝืนประกาศของเจ้าพนักงน ย่อมริบข้าวได้ตามมาตรา 21.
การที่เจ้าพนักงานประกาศห้ามยักย้ายข้าวเวลากลางคืน ย่อมอยู่ภายในบังคับของ มาตรา 8
การยักย้ายข้าวฝ่าฝืนประกาศของเจ้าพนักงน ย่อมริบข้าวได้ตามมาตรา 21.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 685/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยักย้ายข้าวฝ่าฝืนประกาศห้ามยักย้ายเวลากลางคืน และการริบข้าวเป็นของกลาง
ในกรณีที่เจ้าพนักงานห้ามยักย้ายข้าวเวลากลางคืนนั้นฟ้องไม่ต้องระบุว่า จำเลยเป็นผู้ค้าข้าวหรือไม่
การที่เจ้าพนักงานประกาศห้ามยักย้ายข้าวเวลากลางคืน ย่อมอยู่ภายในบังคับของ มาตรา 8
การยักย้ายข้าวฝ่าฝืนประกาศของเจ้าพนักงาน ย่อมริบข้าวได้ตามมาตรา 21
การที่เจ้าพนักงานประกาศห้ามยักย้ายข้าวเวลากลางคืน ย่อมอยู่ภายในบังคับของ มาตรา 8
การยักย้ายข้าวฝ่าฝืนประกาศของเจ้าพนักงาน ย่อมริบข้าวได้ตามมาตรา 21
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 59/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนับเวลาแจ้งปริมาณสินค้า: เวลากลางคืนตามกฎหมาย และการเริ่มนับระยะเวลา
เวลากลางคืนตามที่บัญญัติไว้ใน ก.ม.อาญานั้น ก.ม.มิได้บัญญัติไว้ว่าเป็นคืนของวันไหน จึงต้องถือตามประกาศนับเวลาในราชการ ซึ่งให้นับวันเป็น 24 ชั่วนาฬิกา เริ่มต้นแต่ศูนย์นาฬิกาเป็นต้นไป
มีของต้องแจ้งปริมาณไว้ตั้งแต่ 3.00 น. ของวันที่ 3 ไปแจ้งปริมาณในวันที่ 5 เดือนนั้น ถือว่ายังไม่เกินกำหนด 2 วัน.
มีของต้องแจ้งปริมาณไว้ตั้งแต่ 3.00 น. ของวันที่ 3 ไปแจ้งปริมาณในวันที่ 5 เดือนนั้น ถือว่ายังไม่เกินกำหนด 2 วัน.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 59/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนับเวลาแจ้งปริมาณสินค้า: เวลากลางคืนตามกฎหมายและการเริ่มต้นระยะเวลาตามประมวลกฎหมาย
เวลากลางคืนตามที่บัญญัติไว้ในกฎหมายลักษณะอาญานั้นกฎหมายมิได้บัญญัติไว้ว่าเป็นคืนของวันไหน จึงต้องถือตามประกาศนับเวลาในราชการ ซึ่งให้นับวันเป็น 24 ชั่วนาฬิกา เริ่มต้นแต่ศูนย์นาฬิกาเป็นต้นไป
มีของต้องแจ้งปริมาณไว้ตั้งแต่เวลา 3.00 น. ของวันที่ 3 ไปแจ้งปริมาณในวันที่ 5 เดือนนั้น ถือว่ายังไม่เกินกำหนด 2 วัน
มีของต้องแจ้งปริมาณไว้ตั้งแต่เวลา 3.00 น. ของวันที่ 3 ไปแจ้งปริมาณในวันที่ 5 เดือนนั้น ถือว่ายังไม่เกินกำหนด 2 วัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1161/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกำหนดช่วงเวลากระทำผิดในคดีอาญา การพิจารณาช่วงเวลากลางคืนตามกฎหมาย
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทำผิดในระหว่างเวลาตั้งแต่พระอาทิตย์ตกวันที่ 3 สิงหาคม 2490 ถึงเวลาพระอาทิตย์ขึ้นวันที่ 4 สิงหาคม 2490 อันเป็นเวลากลางคืนตามกฎหมาย แต่ทางพิจารณาได้ความว่า จำเลยกระทำผิดเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2490 เวลา 2.00 น. ซึ่งเป็นเวลาก่อนย่ำรุ่งของวันที่ 3สิงหาคม 2490 ถือได้ว่าเป็นเวลาคนละคืนกับที่โจทก์ฟ้อง ชอบที่จะยกฟ้องโจทก์เสียได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรคสอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 954/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวเมื่อถูกทำร้ายในเวลากลางคืนและการใช้สัดส่วนในการป้องกัน
ผู้ตายเมาสุราเข้าทำร้ายจำเลยด้วยมือเปล่าเป็นพัลวัล คือชกจำเลยล้มแล้ว ยังต่อยและเตะซ้ำอีกหลายที ทั้งเวลาที่เกิดเหตุก็เป็นเวลากลางคืน จำเลยไม่สามารถจะทราบได้ว่า ผู้ตายมีอาวุธติดตัวมาด้วยหรือไม่ จำเลยจึงใช้มีดที่มีติดตัวไป ทำการป้องกันตัว ถูกผู้ตายในที่สำคัญ ผู้ตาย ตาย ดังนี้เป็นการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 954/2490
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ แม้ใช้มีดต่อสู้เมื่อถูกทำร้ายร่างกายในเวลากลางคืน
ผู้ตายเมาสุราเข้าทำร้ายจำเลยด้วยมือเปล่าเป็นพัลวัล คือชกจำเลยล้มแล้ว ยังต่อยและเตะซ้ำอีกหลายที ทั้งเวลาที่เกิดเหตุก็เป็นเวลากลางคืน จำเลยไม่สามารถจะทราบได้ว่า ผู้ตายมีอาวุธติดตัวมาด้วยหรือไม่ จำเลยจึงใช้มีดที่มีติดตัวไป ทำการป้องกันตัว ถูกผู้ตายในที่สำคัญ ผู้ตาย ตายดังนี้เป็นการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ