คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags: เวลาเกิดเหตุ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 195/2487 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

การฟ้องผิดวัน: การพิจารณาความหมายของเวลาเกิดเหตุตามหลักการนับวันแบบราชการและสามัญชน

โจทฟ้องว่าเหตุเกิดวันที่ 6 ธันวาคม 2485 เวลากลางคืนจวนสว่างพยานโจทเบิกความว่าเหตุเกิดวันแรม 13 ค่ำเดือน 12 พ.ส.2485 เวลากลางคืนตอนเช้ามืดจวนสว่าง ไม่ถือว่าฟ้องผิดวัน (หมายเหตุ วันที่ 6 ธันวาคมตรงกับวันแรม 14 ค่ำ)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 807/2486 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

การแก้ไขฟ้องคดีอาญา: การเปลี่ยนแปลงเวลาเกิดเหตุหลังสืบพยานแล้ว และการพิจารณาเรื่องการเอาเปรียบในการดำเนินคดี

โจทขอแก้ฟ้อง เวลาเกิดเหตุเวลากลางวัยเปนเวลากลางคืนเมื่อสืบพยานโจทหมดแล้วเปนการเอาเปรียบไนเชิงคดีสาลไม่อนุญาตไห้แก้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 473/2486 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ฟ้องอาญาต้องระบุเวลาเกิดเหตุ หากไม่ระบุเวลาและไม่แสดงเหตุผลที่ไม่สามารถรู้ได้ ฟ้องไม่ชอบ

ฟ้องโจททุกฉบับต้องระบุเวลาผิดเหตุกลางวันหรือกลางคืน ถ้าโจทไม่รู้เวลาก็ต้องกล่าวไนฟ้องมิฉะนั้นยอมไม่เปนฟ้องที่ชอบด้วยกดหมาย
ฟ้องที่ไม่ถูกต้องตามกดหมายแม้จำเลยจะไห้การับสารภาพก็ลงโทสจำเลยไม่ได้
ฟ้องโจทที่มิได้ระบุเวลาที่เกิดเหตุ แม้จำเลยจะมิได้ยกขึ้นคัดค้านไว้ สาลย่อมหยิบยกขึ้นพิจารนาได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 473/2486

การระบุเวลาเกิดเหตุในฟ้อง: เงื่อนไขการเป็นฟ้องที่ชอบด้วยกฎหมายและผลกระทบต่อการลงโทษ

ฟ้องโจทก์ทุกฉบับต้องระบุเวลาเกิดเหตุกลางวันหรือกลางคืนถ้าโจทก์ไม่รู้เวลาก็ต้องกล่าวในฟ้อง มิฉะนั้นย่อมไม่เป็นฟ้องที่ชอบด้วยกฎหมาย
ฟ้องที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายแม้จำเลยจะให้การรับสารภาพก็ลงโทษจำเลยไม่ได้
ฟ้องโจทก์ที่มิได้ระบุเวลาที่เกิดเหตุ แม้จำเลยจะมิได้ยกขึ้นคัดค้านไว้ ศาลย่อมหยิบยกขึ้นพิจารณาได้
ประชุมใหญ่ครั้งที่ 8/2486

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 443/2486 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

การระบุเวลาเกิดเหตุในฟ้องคดีอาญา: ความแตกต่างระหว่างข้อความในฟ้องและข้อเท็จจริงจากการพิจารณา

ฟ้องโจทกล่าวว่าเกิดเหตุเวลากลางวันทางพิจารนาได้ความว่าเกิดเหตุเวลากลางคืน สาลก็ต้องยกฟ้อง
ฟ้องต้องระบุเวลาเกิดเหตุทุกเรื่องไป เว้นแต่จะเปนกรนีที่ไม่+เวลากะทำผิด ฟ้องจะต้องมีข้อความที่จำเลยจะเข้าใจข้อหาได้ดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 443/2486

การระบุเวลาเกิดเหตุในฟ้องคดี หากระบุเวลาผิด ศาลอาจยกฟ้อง และฟ้องต้องทำให้จำเลยเข้าใจข้อหา

ฟ้องโจทก์กล่าวว่าเกิดเหตุเวลากลางวันทางพิจารณาได้ความว่าเกิดเหตุเวลากลางคืน ศาลก็ต้องยกฟ้อง
ฟ้องต้องระบุเวลาเกิดเหตุทุกเรื่องไป เว้นแต่จะเป็นกรณีที่ไม่ทราบเวลากระทำผิด
ฟ้องจะต้องมีข้อความที่จำเลยจะเข้าใจข้อหาได้ดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 398/2486 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

เขตอำนาจศาล: คดีอาญาคาบเกี่ยวระหว่างศาลพลเรือนและทหาร ต้องพิจารณาเวลาเกิดเหตุอย่างชัดเจนเพื่อกำหนดเขตอำนาจ

คดีอาญาที่การกะทำผิดเกิดขึ้นคาบเกี่ยวกับสาลพลเรือนและสาลทหาน เมื่อไม่ปรากดแน่ชัดว่าเปนกรนีที่เกิดขึ้นพายไหเวลาที่บัญญัติว่าจะต้องดำเนินคดีทางสาลทหานเช่นนี้ ต้องนำคดีขึ้นสาลพลเรือน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 453/2485

การแก้ไขฟ้องคดีอาญา: การเปลี่ยนแปลงเวลาเกิดเหตุที่ไม่ทำให้จำเลยเสียเปรียบ

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษฐานปล้น. เมื่อสืบพยานโจทก์ไปบ้างแล้ว.โจทก์ขอแก้ฟ้องเรื่องเวลากระทำผิดซึ่งเป็นกลางคืนว่าเป็นกลางวัน. เมื่อไม่ทำให้จำเลยเสียเปรียบหรือหลงข้อต่อสู้แล้ว.ศาลอนุญาตให้แก้ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 713/2484

การฟ้องผิดวันเวลาเกิดเหตุในคดีอาญา ทำให้การพิจารณาไม่ตรงกับข้อเท็จจริงที่นำสืบ

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกระทำผิดระหว่างเวลาพระอาทิตย์ตกวันที่ 8 ถึงเวลาพระอาทิตย์ขึ้นวันที่ 9 ทางพิจารณาได้ความว่าเกิดเหตุเมื่อวันเวลา 1 นาฬิกาของวันที่ 8 ถือว่าโจทก์ฟ้องผิดวัน ต้องตัดสินยกฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 78/2479

การต่อสู้คดีกับข้อเท็จจริงที่เปลี่ยนแปลงได้: เวลาเกิดเหตุไม่ใช่สาระสำคัญ

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทำผิดในเวลากลางวัน ทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยทำผิดในเวลากลางคืนและจำเลยก็นำสืบตามที่ปรากฎเหตุเกิดตามคำพะยานโจทกืทั้งสิ้น ไม่เป็นการหลงต่อสู้เช่นนี้ลงโทษจำเลยได้
คำว่า "ข้อเท็จจริง" ตามมาตรา 192 วรรค 2 นั้น ต้องเป็นข้อเท็จจริงที่แตกต่างกันอันเป็นสาระสำคัญขององค์แห่งความคิด

คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags เวลาเกิดเหตุ