คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
แก้ไขเอกสาร

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 49 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 244/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขเอกสารสัญญากู้ยืมเงินมีผลทำให้เอกสารเสียความน่าเชื่อถือ โจทก์ต้องพิสูจน์ความถูกต้อง
โจทก์ฟ้องเรียกเงินกู้ตามสัญญากู้เป็นจำนวนเงิน 1,000 บาท จำเลยรับว่าได้ทำสัญญากู้เงินจากโจทก์จริง แต่เป็นจำนวนเงิน 100 บาท ไม่ใช่ 1,000 บาท โจทก์แกด้จำนวนเงินจาก 100 บาทเป็น 1,000 บาท และในวันชี้สองสถานโจทก์นำต้นฉบับสัญญากู้ส่งต่อศาลจำเลยดูแล้วก็ยังรับว่าได้ทำสัญญากู้ดังโจทก์กล่าวจริง แต่กู้เพียง 100 บาท โจทก์แก้จำนวนเงินในสัญญาเป็น 1,000 บาท ดังนี้เป็นหน้าที่โจทก์จะต้องนำสืบก่อนตามที่กล่าวอ้าง เมื่อทั้งสองฝ่ายต่างไม่สืบพยาน โจทก์ก็ต้องเป็นฝ่ายแพ้คดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1248/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนำสืบส่วนได้เสียร่วมในสัญญาซื้อขายที่ไม่ระบุชื่อผู้ร่วมซื้อ ไม่เป็นการแก้ไขเอกสาร
ตามสัญญาซื้อขายมีชื่อสามีจำเลยเป็นผู้ซื้อ แต่ผู้เดียวนั้นโจทก์มีสิทธิที่จะนำสืบได้ว่าตนมีส่วนออกเงินร่วมด้วยในการทำสัญญานั้น ไม่เรียกว่า เป็นการนำสืบแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงเอกสารที่ห้ามไว้ตามมาตรา 94 ( ข) ป.ม.วิ.แพ่ง เพราะเป็นการนำสืบถึงข้อเท็จจริงส่วนหนึ่ง มิได้เปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อความในตัวสัญญานั้นเลย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 973/2480

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแสดงสลากหุ้นส่วนเป็นของตนเอง ไม่เข้าฐานปลอมแปลงเอกสารและฉ้อโกง เหตุไม่มีเจตนาทุจริตและไม่ได้แก้ไขเอกสาร
จำเลยกับผู้อื่นเข้าหุ้นกันซื้อสลากกินแบ่ง จำเลยเป็นผู้ถือสลาก เมื่อสลากถูกจำเลยได้เอาสลากของคนอื่นมาแสดงว่าเป็นสลากของหุ้นส่วนและเขียนลงในใบสลากว่าคณะหุ้นส่วนดังนี้ ไม่เป็นผิดฐานปลอมหนังสือ ประมวลวิธีพิจารณาอาญา ม. 170, 219 คดีศาลขั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาต้องกันว่าฟ้องของโจทก์ไม่มีมูลทางอาญาให้ยกเสีย โจทก์ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้ มีเจตนาทุจจริตหรือไม่เป็นปัญหาข้อเท็จจริง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 608/2478

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าพนักงานไม่มีอำนาจแก้ไขเอกสารราชการ แม้จะอยู่ในหน้าที่ แต่ไม่เข้าข่ายความผิดตาม ม.229
จำเลยเป็นเสมียนแผนกสรรพากรมีหน้าที่เขียนใบอนุญาตฆ่าสุกร มีผู้มาขอแก้วันเลื่อนวันฆ่าสุกรจำเลยก็ขูดแก้ให้โดยมิได้รับอนุญาตจากนายอำเภอมีผู้มีหน้าที่โดยตรงดังนี้มีผิดตาม ม.224 แต่ไม่เป็นผิดตาม ม.229

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1012/2475

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสืบพยานหลักฐานเพื่อแก้ไขข้อความในเอกสารสัญญา แม้จำเลยรับสภาพสัญญาแล้ว ศาลไม่อนุญาตตามหลักกฎหมาย
ขอสืบแก้ไขเอกสารไม่ได้ตามนัยฎีกาที่ 689 - 691/2469

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8413/2556

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์และการแก้ไขเอกสาร การกระทำเป็นกรรมเดียว
จำเลยมีตำแหน่งเป็นเสมียนตรามีหน้าที่รับเงินและออกใบเสร็จรับเงิน เมื่อใบเสร็จรับเงินที่จำเลยออกไปมีข้อความหรือจำนวนเงินผิดพลาด จำเลยย่อมมีอำนาจหน้าที่แก้ไขให้ถูกต้อง การแก้ไขดังกล่าวมิใช่การกระทำในขณะจำเลยหมดอำนาจที่จะแก้ไข จำเลยจึงมีความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานทำเอกสารอันเป็นเท็จแต่การทำเอกสารอันเป็นเท็จดังกล่าวเพื่อให้สมเหตุผลในการยักยอกทรัพย์ถือได้ว่าเป็นการกระทำโดยมีเจตนาเดียวคือเป็นเจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์ จึงเป็นกรรมเดียวกับความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 10959/2553

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขเอกสารซื้อขายเครื่องยนต์โดยไม่ได้รับความยินยอมถือเป็นการปลอมเอกสารสิทธิ
ผู้เสียหายว่าจ้างจำเลยให้ซ่อมและเปลี่ยนเครื่องยนต์รถยนต์รวมทั้งให้ดำเนินการจดทะเบียนเปลี่ยนหมายเลขเครื่องยนต์ จำเลยซื้อเครื่องยนต์จากบริษัท จ. โดยบริษัท จ. ออกเอกสารใบส่งของ/บิลเงินสด ใบกำกับภาษี กับหนังสือแจ้งจำหน่ายและการรับรองหลักฐานการส่งบัญชีรับและจำหน่ายเครื่องยนต์ ระบุชื่อผู้เสียหายเป็นผู้ซื้อ จำเลยนำเอกสารดังกล่าวไปให้บริษัท จ. แก้ไขเปลี่ยนแปลงชื่อผู้ซื้อเป็น ส. โดยผู้เสียหายไม่ยินยอมทำให้ผู้เสียหายได้รับความเสียหายแม้ พ. เป็นกรรมการผู้มีอำนาจของบริษัท จ. และเป็นผู้ทำเอกสารจะเป็นผู้แก้ไข แต่เมื่อการแก้ไขเกิดจากการแจ้งของจำเลยโดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้เสียหาย ย่อมไม่มีอำนาจ เป็นการปลอมเอกสารโดยถือได้ว่าจำเลยเป็นผู้กระทำความผิดนี้ด้วยการใช้ พ. เป็นเครื่องมือ
ใบกำกับภาษีเป็นหลักฐานแสดงว่าผู้ขายได้เรียกเก็บภาษีจากผู้เสียหายซึ่งเป็นผู้ซื้อเครื่องยนต์แล้ว บริษัท พ. ไม่มีสิทธิเรียกเก็บภาษีจากผู้เสียหายอีกจึงเป็นหลักฐานแห่งการระงับไปซึ่งสิทธิ เป็นเอกสารสิทธิ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 989/2561

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขใบตราส่งทางอิเล็กทรอนิกส์และการเปลี่ยนแปลงผู้รับตราส่ง ผลต่อหน้าที่และความรับผิดของผู้เกี่ยวข้อง
การขนส่งสินค้ารายนี้มีการว่าจ้างรับขนของเป็นทอด โดยออกใบตราส่งไว้เป็นหลักฐานรวม 2 ฉบับ ฉบับแรกคือ ใบตราส่งที่บริษัท ซ. ในฐานะผู้ทำสัญญารับขนของทางทะเลกับผู้ส่งของที่ประเทศเนเธอร์แลนด์เป็นผู้ออกระบุชื่อบริษัท จ. เป็นผู้ส่งของ บริษัท ท. เป็นผู้รับตราส่งและเป็นผู้รับแจ้งการมาถึงของสินค้า ส่วนจำเลยถูกระบุชื่อในช่องผู้ให้ติดต่อเพื่อส่งมอบสินค้า ส่วนอีกฉบับหนึ่งคือใบตราส่งที่โจทก์ซึ่งเป็นผู้ขนส่งที่แท้จริงเป็นผู้ออกระบุชื่อบริษัท ซ. เป็นผู้ส่งของ จำเลยเป็นผู้รับตราส่งและเป็นผู้รับแจ้งการมาถึงของสินค้า เงื่อนไขการขนส่งตามใบตราส่งทั้งสองฉบับเป็นแบบ FCL/FCL หรือ CY/CY จากท่าเรือต้นทางเมืองรอตเตอร์ดัมมายังปลายทางท่าเรือกรุงเทพ โดยที่จำเลยถูกระบุชื่อในใบตราส่งทั้งสองฉบับต่างสถานะกัน สิทธิ หน้าที่และความรับผิดของจำเลยจึงต้องพิจารณาจากความสัมพันธ์ของผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายตามที่ระบุในใบตราส่งแต่ละฉบับประกอบกัน เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่าจำเลยเป็นตัวแทนของบริษัท ซ. ผู้ขนส่งในประเทศไทย และถูกระบุให้เป็นผู้ให้ติดต่อเพื่อส่งมอบสินค้า จำเลยจึงมีหน้าที่ตามใบตราส่งที่จะต้องส่งมอบสินค้าให้แก่บริษัท ท. ผู้รับตราส่ง เมื่อบริษัท ซ. ว่าจ้างผู้ขนส่งอื่นคือโจทก์ให้ทำการขนส่งสินค้าแทน การที่โจทก์ออกใบตราส่งระบุชื่อจำเลยเป็นผู้รับตราส่งและเป็นผู้รับแจ้งการมาถึงของสินค้าก็เพื่อก่อให้เกิดความสัมพันธ์ระหว่างโจทก์ในฐานะผู้ขนส่งอื่นกับจำเลยในฐานะผู้รับตราส่งในเรื่องทั้งหลายเกี่ยวกับการขนส่งสินค้าให้เป็นไปตามข้อกำหนดในใบตราส่งตามที่บัญญัติไว้ใน พ.ร.บ.การรับขนของทางทะเล พ.ศ.2534 มาตรา 26 ซึ่งจำเลยมีพยานเบิกความว่า ก่อนโจทก์จะขนส่งสินค้าถึงท่าเรือกรุงเทพ เมื่อตัวแทนโจทก์ได้แจ้งการมาถึงของสินค้าให้จำเลยทราบ พร้อมทั้งแจ้งกำหนดเวลาการแก้ไขเอกสารโดยให้แก้ไขได้ภายในวันที่ 1 มิถุนายน 2555 ก่อนเวลา 16 นาฬิกา จำเลยได้แจ้งต่อไปยังบริษัท ท. และได้รับการยืนยัน โดยบริษัทดังกล่าวได้ส่งสำเนาใบกำกับสินค้ามาให้จำเลยเพื่อใช้ประกอบการขอแก้ไขเอกสาร จำเลยจึงได้ทำหนังสือขอให้โจทก์แก้ไขใบตราส่งและบัญชีสินค้าในเรือ โดยเปลี่ยนชื่อผู้รับตราส่งจากจำเลยเป็นบริษัท ท. และออกใบปล่อยสินค้า โดยเปลี่ยนชื่อผู้รับตราส่งจากจำเลยเป็นบริษัท ท. และภายหลังจากโจทก์ได้รับหนังสือแล้วโจทก์ได้ดำเนินการแก้ไขเอกสารพร้อมกับยื่นสำแดงต่อกรมศุลกากรและการท่าเรือแห่งประเทศไทยแล้ว เห็นได้ว่าข้อเท็จจริงดังกล่าวสอดคล้องกับเหตุผลในทางปฏิบัติเพื่อที่จำเลยจะได้ดำเนินการส่งมอบสินค้าให้แก่เจ้าของสินค้าที่แท้จริง และตรงกับข้อมูลการตรวจสอบในระบบ งานอิเล็กทรอนิกส์ใบตราส่งของกรมศุลกากร ซึ่งระบุชัดเจนว่าบริษัท ท. เป็นผู้รับตราส่ง เอกสารดังกล่าวส่งมาจากหน่วยงานราชการจึงมีน้ำหนักให้รับฟัง นอกจากนี้ ใบแจ้งสินค้านำเข้าและใบแจ้งหนี้ที่บริษัท อ. แจ้งไปยังจำเลยก็มีข้อความระบุกำหนดเวลาแก้ไขเอกสารชัดเจน ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่าโจทก์ได้แก้ไขใบตราส่งโดยเปลี่ยนชื่อผู้รับตราส่งจากจำเลยเป็นบริษัท ท. แล้ว พฤติการณ์ที่จำเลยติดต่อขอแก้ไขเอกสารและขอรับใบปล่อยสินค้าจากโจทก์ก็เพราะจำเลยอยู่ในฐานะเป็นผู้รับตราส่งตามใบตราส่งซึ่งต้องรับสินค้าจากโจทก์ขณะเดียวกันจำเลยก็ทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงานในการส่งมอบสินค้าให้แก่บริษัท ท. ดังนั้น เมื่อโจทก์ตกลงที่จะแก้ไขชื่อผู้รับตราส่งในใบตราส่งและออกใบปล่อยสินค้าในนามของบริษัท ท. แล้ว จำเลยจึงมิได้อยู่ในฐานะผู้รับตราส่งต่อไป และสิ้นความสัมพันธ์กับโจทก์ผู้ขนส่งอื่นตามข้อกำหนดในใบตราส่งโดยผลของ พ.ร.บ.การรับขนของทางทะเล พ.ศ.2534 มาตรา 26 จำเลยจึงไม่มีหน้าที่และไม่อยู่ในฐานะที่จะรับมอบตู้สินค้าจากโจทก์ ตามเงื่อนไขการขนส่งของ CY ตัวหลังได้ ดังนั้น การที่จำเลยไม่รับมอบตู้สินค้าจากโจทก์จึงไม่ถือเป็นการผิดสัญญารับขนของทางทะเลแต่อย่างใด
ส่วนที่โจทก์อ้างว่าจำเลยผิดคำรับรองตามหนังสือร้องขอแก้ไขชื่อผู้รับตราส่งนั้น เห็นว่า หนังสือดังกล่าวมีข้อความว่าจำเลยขอรับรองว่าจะไม่ให้โจทก์ได้รับผลกระทบจากการเรียกร้องหรือผลที่ตามมาจากการที่โจทก์ปฏิบัติตามที่จำเลยเรียกร้อง เมื่อความรับผิดตามคำรับรองของจำเลยอาจเกิดขึ้นเนื่องจากการขอให้โจทก์แก้ไขชื่อผู้รับตราส่ง จึงต้องพิจารณาว่าการดำเนินการดังกล่าวมีผลให้สิทธิและหน้าที่ของโจทก์เปลี่ยนไปอย่างไร ซึ่งเห็นได้ว่าการแก้ไขดังกล่าวเป็นผลให้โจทก์มีหน้าที่ต้องส่งมอบสินค้าให้แก่บริษัท ท. ผู้ที่จำเลยระบุว่าเป็นผู้รับตราส่งที่แท้จริง ข้อรับรองดังกล่าวของจำเลยจึงเป็นการที่จำเลยรับรองสถานะของบริษัท ท. ว่าเป็นผู้รับตราส่งที่มีสิทธิรับมอบสินค้าตามใบตราส่ง หากภายหลังมีบุคคลภายนอกมาอ้างสิทธิในฐานะผู้รับตราส่งรับมอบสินค้าจากโจทก์หรือบุคคลนั้นมีสิทธิดีกว่าก่อให้เกิดความเสียหายจากกรณีที่โจทก์ส่งมอบสินค้าให้แก่ผู้ไม่มีสิทธิรับไปจำเลยจึงจะต้องรับผิดต่อโจทก์ หาใช่เป็นการที่จำเลยรับรองว่าจะชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ในการกระทำหรือละเว้นกระทำการของบริษัท ท. ซึ่งจำเลยไม่มีส่วนเกี่ยวข้องและอยู่นอกเหนือการรับรู้ของจำเลยในทุกกรณีไม่ ดังนั้นการที่บริษัท ท. ไม่ไปรับสินค้าจากการท่าเรือแห่งประเทศไทยจึงไม่เป็นเหตุให้จำเลยต้องรับผิดต่อโจทก์ตามคำรับรองของจำเลยเช่นกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1456/2565

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขเอกสารราชการที่ไม่มีเจตนาทำให้เกิดความเสียหาย ไม่เป็นความผิดฐานปลอมเอกสาร
ความผิดฐานปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอมตาม ป.อ. มาตรา 264, 265, 268 จะต้องกระทำโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชนด้วย เมื่อโจทก์ฟ้ององค์การบริหารส่วนตำบล ม. และนายกองค์การบริหารส่วนตำบล ม. ต่อศาลปกครองกลาง ขอให้ออกคำสั่งรื้อถอนอาคารพาณิชย์เลขที่ 555/79, 555/80 และ 555/81 ส่วนที่ก่อสร้างต่อเติม โดยไม่ได้เกี่ยวข้องกับอาคารพาณิชย์เลขที่ 555/75 ด้วย การแก้ไขข้อความบันทึกการตรวจสอบโรงงานและแบบตรวจแนะนำของเจ้าพนักงานที่ระบุว่าเข้าไปตรวจสอบบ้านเลขที่ 555/75 ว่าเข้าไปตรวจสอบบ้านเลขที่ 555/79 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอาคารพาณิชย์ของจำเลยที่ 1 และที่ 2 ตามที่โจทก์ฟ้องว่าประกอบกิจการมีเสียงดังรบกวนให้ตรงกับที่เจ้าหน้าที่ได้เข้าไปตรวจสอบอาคารตามความจริง กลับเป็นประโยชน์แก่โจทก์ การแก้ไขข้อความในเอกสารจึงไม่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ ผู้อื่นหรือประชาชน จึงไม่เป็นการปลอมเอกสาร ไม่เป็นความผิดฐานปลอมเอกสารราชการ เมื่อนำไปใช้จึงไม่มีความผิดฐานใช้เอกสารราชการปลอม
of 5