คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ไม่ชัดเจน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 100 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2155/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำให้การที่ไม่ชัดเจนและอำนาจฟ้องคดี: หนังสือมอบอำนาจไม่จำต้องระบุชื่อจำเลย
คำให้การจำเลยระบุเพียงว่า ไม่ทราบและไม่รับรอง ไม่ได้ความแจ้งชัดว่าปฏิเสธฟ้องโจทก์จึงเป็นคำให้การที่ไม่ชัดแจ้งและไม่ทำให้เกิดประเด็น การมอบอำนาจให้ฟ้องคดีไม่จำต้องระบุชื่อผู้ถูกฟ้องในหนังสือมอบอำนาจเพราะไม่มีกฎหมายบังคับ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3481/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขานราคาประมูลที่ไม่ชัดเจนทำให้ผู้เสนอราคาเข้าใจผิด การขายทอดตลาดจึงไม่ชอบ
การที่ผู้แทนผู้ร้องที่ 2 ลงชื่อค้านราคาขาย 3,050,000 บาทในรายงานการขายอสังหาริมทรัพย์ เป็นเหตุผลสนับสนุนให้ฟังได้ว่าผู้แทนผู้ร้องที่ 2 เข้าใจผิดว่าในขณะที่เจ้าพนักงานบังคับคดี ขานราคาประมูลว่า "สามล้านห้า หนึ่ง สามล้านห้า สอง สามล้านห้า สาม"นั้น หมายถึงราคา 3,500,000 บาท นอกจากนี้ปรากฏว่าการให้ราคาประมูลก่อนครั้งสุดท้ายถือราคา 3,000,000 บาท เพิ่มจากราคาครั้งก่อนหน้านั้นถึง 950,000 บาท ย่อมทำให้ผู้แทนผู้ร้องที่ 2เข้าใจได้ว่าผู้ซื้อทรัพย์ประมูลราคา 3,500,000 บาท จึงมีเหตุให้เชื่อได้ว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีขานราคาไม่ชัดเจน การดำเนินการขายทอดตลาดจึงเป็นไปโดยมิชอบ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1816/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำให้การลอย ๆ ไม่ชัดเจน ศาลไม่ต้องวินิจฉัยประเด็นใหม่ที่ไม่ชัดเจนตาม ป.วิ.พ.
คำให้การของจำเลยที่ 4 ในข้อ 2 จำเลยที่ 4 ให้การลอย ๆ ไว้แต่เพียงว่าจำเลยที่ 4 ไม่ต้องรับผิดชอบต่อโจทก์ตามเอกสารท้ายฟ้องหมายเลข 4 เนื่องจากทำขึ้นโดยขัดต่อระเบียบข้อบังคับของโจทก์เท่านั้น จึงเป็นคำให้การที่ไม่แสดงให้แจ้งชัดถึงเหตุแห่งการปฏิเสธข้ออ้างของโจทก์ ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 177 วรรคสอง จึงไม่มีประเด็นที่ศาลอุทธรณ์จะต้องวินิจฉัยว่า ที่ ห. ทำสัญญาแลกเช็คเป็นเงินสดตามเอกสารหมาย จ.4 ให้โจทก์ในฐานะเป็นตัวแทนหรือกรรมการผู้มีอำนาจของโจทก์ ทั้งไม่ใช่ปัญหาอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนที่ศาลอุทธรณ์จะต้องวินิจฉัยให้ ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 225วรรคสอง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3737/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความไม่ชัดเจนของฟ้องพนัน ทำให้ศาลลงโทษไม่ถูกต้อง ศาลฎีกาพิพากษายืนตามเดิม
คำฟ้องของโจทก์ที่บรรยายว่า จำเลยทั้งหมดกับพวกได้ร่วมกันเล่นการพนันป๊อกแปดเก้าหรือการเล่นซึ่งมีลักษณะคล้ายป๊อก มีวิธีการเล่นซึ่งดัดแปลงมาจากการเล่นแปดเก้าอันระบุไว้ในบัญชี ก.อันดับที่ 5 และการเล่นป๊อกอันระบุไว้ในบัญชี ก. อันดับที่ 11ย่อมเป็นที่เข้าใจได้แล้วว่า จำเลยทั้งหมดกับพวกเข้าพนันในการเล่นอย่างเดียว โดยมีวิธีการเล่นที่พลิกแพลงนำเอาการเล่นแปดเก้ากับการเล่นป๊อกเข้ามารวมกัน แล้วเรียกชื่อใหม่ว่าป๊อกแปดเก้าจำเลยให้การรับสารภาพตลอดข้อหา แสดงว่าเข้าใจในวิธีการเล่นการพนันตามที่โจทก์กล่าวในฟ้องแล้วเป็นอย่างดี คำฟ้องของโจทก์ไม่เคลือบคลุม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1541/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาไม่ชัดเจน ต้องห้ามตามกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา จำเลยต้องระบุข้อผิดพลาดของศาลอุทธรณ์
จำเลยฎีกาว่า คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ยังคลาดเคลื่อนทั้งปัญหาข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายโดยมิได้ระบุให้เห็นว่าคำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์คลาดเคลื่อนในข้อใดแม้ต่อมาจำเลยจะยื่นคำแถลงการณ์ต่อศาลฎีกาก็ตาม คำแถลงการณ์ก็มิได้เป็นส่วนหนึ่งของฎีกา ฎีกาของจำเลยจึงเป็นฎีกาที่ไม่ชัดแจ้งต้องห้ามตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 193 วรรคสองประกอบมาตรา 225.(ที่มา-ส่งเสริม)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 838/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำเตือนทางวินัยต้องระบุการกระทำผิดชัดเจน การเลิกจ้างโดยอ้างผิดซ้ำจึงไม่ชอบ หากแต่การไม่ปฏิบัติตามคำสั่งก็เป็นเหตุเลิกจ้างได้
คำสั่งของนายจ้างที่ลงโทษและภาคทัณฑ์ลูกจ้างระบุว่าลูกจ้างทำผิดวินัย และมีคำเตือนว่าหากลูกจ้างกระทำผิดวินัยข้อใดอีกนายจ้างจะเลิกจ้างโดยไม่จ่ายค่าชดเชย แต่คำสั่งดังกล่าวมิได้ระบุว่าลูกจ้างกระทำการใดที่ถือว่าเป็นการผิดวินัย ทั้งได้ระบุข้อวินัยที่อ้างว่าลูกจ้างทำผิดไว้ถึง 5 ข้อ เช่นนี้ จึงเป็นการเตือนที่กว้างเกินไป ลูกจ้างย่อมไม่อาจทราบและปรับปรุงตนเองเพื่อมิให้กระทำผิดซ้ำคำเตือนนี้ได้ นายจ้างจะอ้างว่าลูกจ้างทำผิดซ้ำคำเตือนดังกล่าวและเลิกจ้างโดยไม่จ่ายค่าชดเชยตามประกาศกระทรวงมหาดไทยเรื่อง การคุ้มครองแรงงาน ข้อ 47(3) มิได้ ลูกจ้างซึ่งเป็นพนักงานบริการมีหน้าที่ทำงานในลักษณะทั่วไปที่ใช้แรงงาน เช่น รักษาความสะอาด ยาม พนักงานเดินหนังสือได้รับคำสั่งให้มาทำหน้าที่เปิดปิดประตูสำนักงาน มิได้ปฏิบัติตามคำสั่งโดยเคร่งครัด โดยมักจะมาเปิดประตูไม่ตรงตามเวลาที่กำหนดเช่นนี้ ถือได้ว่าเป็นการกระทำประการอื่นอันไม่สมแก่การปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ลุล่วงไปโดยถูกต้องตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 583 นายจ้างจึงมีสิทธิเลิกจ้างโดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4537/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำในความผิดเบิกความเท็จ: สิทธินำคดีอาญาไม่ระงับหากคำพิพากษาเดิมยกฟ้องเนื่องจากคำฟ้องไม่ชัดเจน
โจทก์เคยฟ้องจำเลยในข้อหาเบิกความเท็จมาครั้งหนึ่งแล้วคดีก่อนศาลพิพากษายกฟ้องโดยวินิจฉัยว่า ฟ้องโจทก์บรรยายแต่เฉพาะข้อความที่อ้างว่าจำเลยเบิกความเท็จ ไม่ได้บรรยายว่าความจริงเป็นอย่างไรจะฟังว่าจำเลยเบิกความเท็จยังไม่ได้ การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิด เป็นการยกฟ้องเนื่องจากคำฟ้องไม่ได้บรรยายว่าความจริงเป็นอย่างไร ศาลยังไม่ได้วินิจฉัยชี้ขาดถึงการกระทำผิดของจำเลย สิทธินำคดีอาญามาฟ้องของโจทก์ยังไม่ระงับ โจทก์ฟ้องใหม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1843/2531 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำให้การที่ขัดแย้งกัน ถือเป็นคำให้การไม่ชัดเจน ไม่เป็นประเด็นฟ้อง, คำสั่งงดสืบพยานชอบแล้ว
คำสั่งของศาลที่ให้งดสืบพยานเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา
หลังจากศาลชั้นต้นชี้สองสถานและมีคำสั่งให้งดสืบพยานแล้วจำเลยยื่นคำร้องว่า ตามที่ศาลได้จดรายงานกระบวนพิจารณาว่าคำให้การของจำเลยไม่ชัดแจ้ง จึงไม่เป็นประเด็นแห่งคดีนั้น จำเลยเห็นว่าคำให้การของจำเลยชัดเจนแล้ว จึงขอให้ศาลกำหนดประเด็นเพิ่มขึ้น ดังนี้ ถือได้ว่าจำเลยได้โต้แย้งคำสั่งศาลชั้นต้นที่ให้งดสืบพยานแล้ว จำเลยชอบที่จะยกประเด็นดังกล่าวขึ้นอุทธรณ์ฎีกาได้
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยในฐานะทายาทของ ย. ชำระหนี้ตามสัญญากู้เบิกเกินบัญชี สัญญาเพิ่มวงเงินและสัญญากู้ที่ ย.กู้ยืมไปจากโจทก์จำเลยให้การว่า ย. ไม่ได้เป็นลูกหนี้ ไม่เคยทำสัญญากู้เบิกเกินบัญชี สัญญาเพิ่มวงเงินและสัญญากู้เงินตามเอกสารท้ายฟ้อง ลายมือชื่อในเอกสารดังกล่าวไม่ใช่ลายมือชื่ออันแท้จริงของ ย. หรือหาก ย. จะลงชื่อไว้ก็โดยบุคคลอื่นหลอกลวงให้ลงชื่อ ดังนี้ เป็นคำให้การที่ขัดกัน จึงเป็นคำให้การที่ไม่ได้แสดงโดยชัดแจ้งว่าจำเลยยอมรับหรือปฏิเสธข้ออ้างของโจทก์ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 177 วรรคสอง ถือไม่ได้ว่าจำเลยให้การปฏิเสธ และไม่เป็นประเด็นในคดี.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1843/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำให้การที่ขัดแย้งกัน ถือเป็นคำให้การที่ไม่ชัดเจน ไม่เป็นประเด็นพิจารณา ศาลงดสืบพยานได้
คำสั่งของศาลที่ให้งดสืบพยานเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา
หลังจากศาลชั้นต้นชี้สองสถานและมีคำสั่งให้งดสืบพยานแล้วจำเลยยื่นคำร้องว่า ตามที่ศาลได้จดรายงานกระบวนพิจารณาว่าคำให้การของจำเลยไม่ชัดแจ้ง จึงไม่เป็นประเด็นแห่งคดีนั้น จำเลยเห็นว่าคำให้การของจำเลยชัดเจนแล้ว จึงขอให้ศาลกำหนดประเด็นเพิ่มขึ้น ดังนี้ ถือได้ว่าจำเลยได้โต้แย้งคำสั่งศาลชั้นต้นที่ให้งดสืบพยานแล้ว จำเลยชอบที่จะยกประเด็นดังกล่าวขึ้นอุทธรณ์ฎีกาได้
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยในฐานะทายาทของ ย. ชำระหนี้ตามสัญญากู้เบิกเกินบัญชี สัญญาเพิ่มวงเงินและสัญญากู้ที่ ย.กู้ยืมไปจากโจทก์จำเลยให้การว่า ย. ไม่ได้เป็นลูกหนี้ ไม่เคยทำสัญญากู้เบิกเกินบัญชี สัญญาเพิ่มวงเงินและสัญญากู้เงินตามเอกสารท้ายฟ้อง ลายมือชื่อในเอกสารดังกล่าวไม่ใช่ลายมือชื่ออันแท้จริงของ ย.หรือหากย. จะลงชื่อไว้ก็โดยบุคคลอื่นหลอกลวงให้ลงชื่อ ดังนี้ เป็นคำให้การที่ขัดกัน จึงเป็นคำให้การที่ไม่ได้แสดงโดยชัดแจ้งว่าจำเลยยอมรับหรือปฏิเสธข้ออ้างของโจทก์ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 177 วรรคสอง ถือไม่ได้ว่าจำเลยให้การปฏิเสธ และไม่เป็นประเด็นในคดี.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1480/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนี้ค่ากระแสไฟฟ้าไม่กำหนดเวลาชำระชัดเจน ไม่ถือเป็นหนี้มีกำหนดแน่นอน ผู้ค้ำประกันยังคงรับผิด
โจทก์เรียกเก็บเงินค่ากระแสไฟฟ้าโดยทำเป็นใบแจ้งหนี้ให้ผู้ใช้กระแสไฟฟ้าชำระภายใน 15 วัน นับแต่วันได้รับใบแจ้งหนี้เป็นรายเดือนทุกเดือน แต่โจทก์ก็ไม่ได้กำหนดวันที่เรียกเก็บไว้แน่นอนว่าจะเรียกเก็บวันใดการส่งใบแจ้งหนี้ให้ผู้ใช้กระแสไฟฟ้าก็ไม่มีกำหนดเวลา สุดแล้วแต่โจทก์จะแจ้งให้ทราบกำหนดเวลาชำระหนี้ค่ากระแสไฟฟ้าจึงแล้วแต่โจทก์จะทวงถาม หนี้ค่ากระแสไฟฟ้าดังกล่าวจึงไม่ใช่หนี้อันจะต้องชำระ ณ เวลามีกำหนดแน่นอนเมื่อโจทก์ยอมผ่อนผันเวลาให้แก่ลูกหนี้ก็ไม่ทำให้จำเลยผู้ค้ำประกันหลุดพ้นจากความรับผิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 700.
of 10