พบผลลัพธ์ทั้งหมด 70 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 389/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบอกเลิกสัญญาซื้อขายไม้: หน้าที่ของคู่สัญญาและการพิสูจน์การปฏิบัติตามสัญญา
ในสัญญาบ่งว่าก่อนที่จำเลยจะส่งไม้ลงเรือเป็นหน้าที่ของโจทก์จะต้องไปทำการวัดตรวจไม้กำหนดเครื่องหมายก่อนเมื่อโจทก์ไม่อาจพิสูจน์ว่าตนได้ปฏิบัติหน้าที่ครบถ้วนแล้วและจำเลยเป็นฝ่ายผิดสัญญาแต่กลับปรากฏว่าจำเลยเตรียมเลื่อยไม้ไว้ตามสัญญาแล้วหากโจทก์ไม่ส่งคนไปวัดไม้จนกระทั่งจำเลยได้ใช้สิทธิบอกเลิกสัญญาและริบเงินมัดจำแล้วโจทก์ยังมีหนังสือขอความเห็นใจให้จำเลยผ่อนผันยืดอายุสัญญาต่อไปอีกเช่นนี้ ย่อมแสดงให้เห็นว่าโจทก์เป็นฝ่ายผิดสัญญาเองจำเลยจึงไม่ชำระหนี้ เป็นพฤติการณ์ที่จำเลยไม่ต้องรับผิดชอบหาตกเป็นผู้ผิดนัดไม่
มาตรา 204 เป็นเรื่องลูกหนี้ผิดนัดเป็นคนละเรื่องกับการบอกเลิกสัญญาซึ่งจะต้องปฏิบัติตาม มาตรา387
มาตรา 204 เป็นเรื่องลูกหนี้ผิดนัดเป็นคนละเรื่องกับการบอกเลิกสัญญาซึ่งจะต้องปฏิบัติตาม มาตรา387
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 927/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำเสนอซื้อขายไม้ การเจรจาต่อรอง และผลของการไม่ปฏิบัติตามเงื่อนเวลา
ข้อความที่กล่าวว่า'ข้าพเจ้าจึงขอความกรุณารับซื้อไม้สักนี้ต่อไป ส่วนราคานั้นทางการจะขายเท่าใดแล้วแต่จะเห็นสมควร'เป็นคำแสดงความประสงค์ใคร่จะขอซื้อโดยขอให้อีกฝ่ายหนึ่งกำหนดราคามาก่อน หามีลักษณะเป็นคำเสนอไม่
คำว่าโดยด่วนนั้นเป็นเงื่อนเวลาหมายความว่าโดยรวดเร็วเมื่อโจทก์ทราบคำเสนอของจำเลยก่อนวันที่ 4 มีนาคม 2495 จนวันที่ 26 เดือนเดียวกันก็ยังไม่ตอบสนองรับจึงถือได้ว่าเกินกำหนดเวลาของคำว่าโดยด่วนแล้ว คำเสนอของจำเลยย่อมสิ้นสุดเพิกถอนแล้ว
คำว่าโดยด่วนนั้นเป็นเงื่อนเวลาหมายความว่าโดยรวดเร็วเมื่อโจทก์ทราบคำเสนอของจำเลยก่อนวันที่ 4 มีนาคม 2495 จนวันที่ 26 เดือนเดียวกันก็ยังไม่ตอบสนองรับจึงถือได้ว่าเกินกำหนดเวลาของคำว่าโดยด่วนแล้ว คำเสนอของจำเลยย่อมสิ้นสุดเพิกถอนแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 768/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาซื้อขายไม้: การวางหลักทรัพย์ไม่ใช่เงื่อนไขบังคับก่อน และการผิดสัญญาจากการสั่งหยุดทำไม้
สัญญามีว่า ในกรณีที่จะให้มีผู้ค้ำประกันผู้ขายจะต้องวางหลักทรัพย์ของผู้ขาย ให้ผู้ซื้อยึดถือไว้ ฯลฯ นั้นข้อนี้ไม่ใช่เงื่อนไขถ้าผู้ขายมิได้วางประกันเมื่อไม่ปรากฏว่า เป็นกรณีที่จะต้องวางและผู้ซื้อก็คงให้ผู้ขายปฏิบัติตามสัญญา โดยมิได้วางประกันผู้ซื้อจะยกข้อนี้ขึ้นอ้างเพื่อไม่รับผิดตามสัญญาไม่ได้
สัญญามีว่า ผู้ขายต้องนำไม้มาวางไว้ริมน้ำ 1,000 ท่อนให้ผู้ซื้อตรวจรับผู้ขายนำไม้มาวางได้ 600 ท่อน ผู้ซื้อก็สั่งงด ไม่ซื้อผู้ซื้อผิดสัญญา โดยผู้ขายไม่ต้องนำไม้มาวางถึง 1,000 ท่อน
ผู้ซื้อผิดสัญญา ต้องใช้ค่าเสียหายให้ผู้ขายตามที่สัญญากำหนดไว้ให้ใช้ครึ่งหนึ่งของราคาไม้เท่าที่ผู้ขายได้นำมากองไว้ตามสัญญาแล้วแต่เงินทุนที่ผู้ซื้อลงไปเพื่อทำไม้ทั้งหมด และราคาไม้ในป่าถ้าไม่แน่นอนว่ามีอยู่เท่าใด ศาลไม่คิดค่าเสียหายให้
สัญญามีว่า ผู้ขายต้องนำไม้มาวางไว้ริมน้ำ 1,000 ท่อนให้ผู้ซื้อตรวจรับผู้ขายนำไม้มาวางได้ 600 ท่อน ผู้ซื้อก็สั่งงด ไม่ซื้อผู้ซื้อผิดสัญญา โดยผู้ขายไม่ต้องนำไม้มาวางถึง 1,000 ท่อน
ผู้ซื้อผิดสัญญา ต้องใช้ค่าเสียหายให้ผู้ขายตามที่สัญญากำหนดไว้ให้ใช้ครึ่งหนึ่งของราคาไม้เท่าที่ผู้ขายได้นำมากองไว้ตามสัญญาแล้วแต่เงินทุนที่ผู้ซื้อลงไปเพื่อทำไม้ทั้งหมด และราคาไม้ในป่าถ้าไม่แน่นอนว่ามีอยู่เท่าใด ศาลไม่คิดค่าเสียหายให้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1727/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าพนักงานใช้อำนาจเกินหน้าที่และอนุญาตตัดไม้โดยมิชอบ ไม่ถือเป็นความผิดตาม ม.129 อาญา
จะมีความผิดตาม ก.ม.อาญา ม.129 ก็ต่อเมื่อได้ความว่าผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ท่านใช้ให้มีหน้าที่ปกครองหรือพิทักษ์รักษาทรัพย์หรือหนังสืออย่างใดใด ถ้ามันมิได้มีอำนาจที่จะทำได้โดยชอบด้วย ก.ม.และมันทำลายทรัพย์หรือหนังสือนั้น ๆ หรือ ทำให้วิปลาศ บุบสลายหรือมันยอมให้ผู้อื่นกระทำเช่นนั้น โดยมันรู้เห็นเป็นใจด้วยก็ดี จึงจะมีความผิด
เมื่อได้ความว่าจำเลยเป็นผู้รักษาการป่าไม้อำเภอ อนุญาตให้ผู้มีชื่อตัดไม้โดยไม่อยู่ในอำนาจที่จะอนุญาตได้เพียงเท่านี้จึงไม่ใช่เรื่องเจตนาทำลายทรัพย์หรือหนังสืออย่างใดตามความใน ม.129 และเมื่อคดีไม่มีปัญหาที่จะวินิจฉัยว่าจำเลยจะมีความผิดสถานอื่นอีกหรือไม่ เพราะไม่มีฝ่ายใดฎีกา คดีจึงไม่มีทางลงโทษจำเลยได้
เมื่อได้ความว่าจำเลยเป็นผู้รักษาการป่าไม้อำเภอ อนุญาตให้ผู้มีชื่อตัดไม้โดยไม่อยู่ในอำนาจที่จะอนุญาตได้เพียงเท่านี้จึงไม่ใช่เรื่องเจตนาทำลายทรัพย์หรือหนังสืออย่างใดตามความใน ม.129 และเมื่อคดีไม่มีปัญหาที่จะวินิจฉัยว่าจำเลยจะมีความผิดสถานอื่นอีกหรือไม่ เพราะไม่มีฝ่ายใดฎีกา คดีจึงไม่มีทางลงโทษจำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 270/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ไม้จากสิ่งปลูกสร้างรื้อถอน ไม่ถือเป็นไม้แปรรูปตาม พ.ร.บ.ป่าไม้
ไม้กระดานที่ได้เคยประกอบเป็นสิ่งปลูกสร้าง คือเป็นเรือนมาแล้ว เมื่อรื้อออกมาเป็นแผ่นไม้กระดานอีก ก็ไม่ถือว่าเป็นไม้แปรรูปตามความหมายของ พ.ร.บ.ป่าไม้ ( ฉะบับที่ 3 ) พ.ศ.2494 มาตรา 3
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 270/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ไม้จากสิ่งปลูกสร้างรื้อถอน ไม่ถือเป็นไม้แปรรูปตามกฎหมาย
ไม้กระดานที่ได้เคยประกอบเป็นสิ่งปลูกสร้างคือเป็นเรือนมาแล้วเมื่อรื้อออกมาเป็นแผ่นไม้กระดานอีกก็ไม่ถือว่าเป็นไม้แปรรูปตามความหมายของ พระราชบัญญัติป่าไม้(ฉบับที่ 3) พ.ศ.2494 มาตรา 3
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 849/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้ไม้เป็นอาวุธในการปล้นทรัพย์: ไม้จริงมีผลต่อการเข้าข่ายเป็นอาวุธ
ไม้จริงขนาดยาว 2 ศอกโตเท่าแขน ตามธรรมดาแล้ว ย่อมสามารถจะทำให้ร่างกายแตกหักบุบสลายถึงสาหัสสได้ เมื่อใช้ไม้นี้ขู่เข็ญจะทำร้ายเจ้าทรัพย์ในการชิงทรัพย์ก็ถือได้ว่าไม้นั้นเป็นศาสตราวุธตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 6 (15) และเมื่อผู้กระทำผิดร่วมกันทำตั้งแต่สามคนขึ้นไป ก็ย่อมมีผิดฐานปล้นทรัพย์./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1018/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนำไม้เคลื่อนที่ล่วงด่านป่าไม้ต้องมีใบเบิกทางเฉพาะไม้ที่ทำตามกฎหมายเท่านั้น ไม้ผิดกฎหมายไม่ต้องขอใบเบิกทาง
ความผิดฐานนำไม้หรือของป่าเคลื่อนที่ล่วงด่านป่าไม้ไม่มีใบเบิกทางกำกับตาม พระราชบัญญัติป่าไม้ 2484 มาตรา 39 นั้น มุ่งหมายถึงไม้ที่ทำออกได้โดยรับอนุญาตจากเจ้าพนักงานภายหลังที่นำไปถึงที่อันระบุไว้ในใบอนุญาตแล้วประการหนึ่ง กับไม้ที่ทำออกโดยไม่ต้องรับอนุญาต ภายหลังที่นำไปถึงด่านป่าไม้ด่านแรกแล้ว อีกประการหนึ่ง เท่านั้น ถ้าหากนำไม้ที่ทำออกโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือนำไม้ที่มีไว้โดยไม่ได้รับอนุญาตเคลื่อนล่วงด่านป่าไม้แล้วย่อมไม่อยู่ในบังคับแห่งบทมาตรานี้ (อ้างฎีกาที่ 38/2496)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 551/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าเสียหายตามคำพิพากษา แม้จะขนส่งไม้บางส่วนแล้ว ก็ต้องชำระเต็มตามสัญญา
คำพิพากษาที่ให้จำเลยรับไม้ 3 กองไปจากโจทก์ โดยให้จำเลยใช้ค่าเสียหายวันละ 30 บาทแก่โจทก์นับจากวันฟ้องจนกว่าจะเอาไม้ไปเสร็จนั้น แม้ค่าเสียหายวันละ30 บาทตามคำพิพากษาจะมุ่งหมายถึงไม้3 กอง แต่ก็ไม่ได้แยกเป็นรายกองไว้ ฉะนั้นแม้จำเลยจะขนไป 2 กองแล้วคงเหลืออีกกองเดียว จำเลยก็ต้องใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์วันละ 30 บาทเต็มตามคำพิพากษาต่อไปจนกว่าจะขนไม้ไปเสร็จ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1847-1849/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การตัดไม้เป็นท่อน ไม่ถือเป็นการแปรรูปไม้ตามกฎหมาย
เพียงแต่ตัดท่อนไม้เป็นท่อนๆ ยาว 1 เมตรบ้าง 1 เมตรครึ่งบ้าง ยังไม่เป็นการแปรรูปไม้ตามความหมายของพระราชบัญญัติป่าไม้