คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ความผิดอาญา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 671 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 444/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาทำลายทรัพย์สิน: การกระทำโดยไม่ได้เจตนา ไม่ถึงขั้นความผิดอาญา แต่เป็นการละเมิดทางแพ่ง
เดินเหยียบย่ำต้นข้าวในนาเสียหาย เพราะลงไปเที่ยวหาหนูในนานั้น หาได้มีเจตนาโดยตรงที่จะแกล้งเหยียบย่ำทำลายต้นข้าวไม่ ดังนี้ ยังถือไม่ได้ว่าเป็นการบังอาจทำให้ทรัพย์ของผู้อื่นเสียหายตามก.ม.อาญามาตรา 324 + แต่เป็นการละเมิดในทางแพ่ง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 444/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำโดยไม่มีเจตนาทำลายทรัพย์ผู้อื่น ไม่เป็นความผิดอาญา แต่เป็นการละเมิดทางแพ่ง
เดินเหยียบย่ำต้นข้าวในนาเขาเสียหาย เพราะลงไปเที่ยวหาหนูในนานั้น หาได้มีเจตนาโดยตรงที่จะแกล้งเหยียบย่ำทำลายต้นข้าวไม่ดังนี้ยังถือไม่ได้ว่าเป็นการบังอาจทำให้ทรัพย์ของผู้อื่นเสียหายตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 324
หากแต่เป็นการละเมิดในทางแพ่ง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 38/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีแพ่งเท็จไม่เป็นความผิดตามมาตรา 158, 159 อาญา หากไม่มีคำขอให้ลงอาญา
ฟ้องกล่าวโทษหรือฟ้องว่าเกิดการกระทำผิดขึ้นตามความในกฎหมายอาญามาตรา 158, 159 นั้นเป็นเรื่องฟ้องว่ากระทำความผิดในทางอาญา
ฟ้องคดีแพ่ง แม้จะกล่าวว่าเป็นเรื่องยักยอก แม้จะเป็นเท็จก็ไม่มีผิดฐานฟ้องเท็จตาม ม.158, 159.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 286-287/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจการสอบสวนความผิดอาญา: การสอบสวนร่วม ตำรวจ-ข้าหลวง-นายอำเภอ และข้อยกเว้น
ผู้กำกับการตำรวจประจำจังหวัด ทำการสอบสวนความผิดทางอาญา+ได้เกิดขึ้นภายในเขตต์จังหวัดนั้น+กับข้าหลวงประจำจังหวัด โดยมีนายอำเภอท้องที่ร่วมด้วยเพราะขณะนั้นไม่มีตัวนายอำเภอ ดังนี้ ถือว่าเป็นการสอบสวนที่ชอบด้วยคำกะรทรวงมหาดไทยที่ 7164/2488

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 179/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าพนักงานเรียกเก็บเงินนอกหน้าที่ – ความผิดตามมาตรา 135 อาญา
เจ้าพนักงานวิสามัญสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ที่มีหน้าที่เรียกเก็บค่าเช่า ไม่มีหน้าที่เรียกเก็บแป๊ะเจี๊ยะนั้นถ้าไปเรียกเก็บแป๊ะเจี๊ยะย่อมได้ชื่อว่าเรียกเก็บเงินหรือทรัพย์ที่ไม่ควรจะเก็บและมิได้นำส่งต่อรัฐบาลก็เป็นผิดตามกฎหมายอาญามาตรา 135

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 172/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำความผิดฐานพยายามชิงทรัพย์ แม้ผู้ถูกขู่ไม่มีทรัพย์สินในตัว ณ ขณะนั้น
โจทก์บรรยายฟ้องมีข้อเท็จจริงว่า จำเลยมีปืนชักปืนออกขู่เข็ญจะทำร้ายบังคับให้เขาส่งเงิน 500,000 บาท แก่จำเลย ถ้าข้อเท็จจริงไม่ปรากฎเป็นอย่างอื่น ย่อมถือได้ว่าจำเลยได้ลงมือกระทำการชิงทรัพย์แล้วตาม ก.ม. จึงเป็นองค์ความผิดฐานพยายามชิงทรัพย์แล้ว
การพยายามลักทรัพย์ หรือชิงทรัพย์นั้น แม่จะปรากฎภายหลังว่า ทรัพย์ไม่มีอยู่ ก็หาทำให้ผู้กระทำพ้นความผิดฐานพยายามได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1253/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองทรัพย์สินชั่วคราวและการลักทรัพย์: การที่การช่วยถือทรัพย์ไม่อาจตัดสิทธิเจ้าของได้
เจ้าทรัพย์ยอมให้จำเลยช่วยถือทรัพย์ไว้แทนตนและไปด้วยกัน การครอบครองในทรัพย์ยังตกอยู่แก่เจ้าของทรัพย์ การที่จำเลยบังอาจพาทรัพย์นั้นหนีไป ให้พ้นจากความครอบครองของเจ้าของทรัพย์ โดยไม่ได้รับอนุญาต ย่อมเป็นความผิดฐานลักทรัพย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1148/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ป้องกันเกินสมควร: การใช้กำลังเกินกว่าเหตุเพื่อป้องกันตัวจากอาวุธ ทำให้มีความผิดอาญา
ผู้ตายถือปืนยาวแบบญี่ปุ่นขึ้นไปบนเรือนจำเลยที่ 1 เกิดโต้เถียงกันผู้ตายยกปืนขึ้นและกระชากขึ้นลำกล้องหันปากกระบอกปืนไปทางจำเลยที่ 1จำเลยที่ 1 แย่งปืนและเอาขวานฟันผู้ตายหลายที และเรียกจำเลยที่ 2 มาช่วย จำเลยที่ 2 ใช้ดาบฟันผู้ตายหลายที ผู้ตายล้มลงสักครู่ก็ขาดใจตาย มีบาดแผล 38 แผล ดังนี้ การกระทำของจำเลยเป็นการกระทำเกินกว่าความจำเป็นเพื่อป้องกันชีวิตและร่างกายของจำเลย ย่อมมีผิดตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 249,53

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 951/2490

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาในความผิดอาญาเกี่ยวกับอาวุธระเบิด: การครอบครองโดยไม่รู้ว่าเป็นวัตถุระเบิด ไม่เป็นความผิด
เจตนาตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 43 หมายถึงอาชญาเจตนาซึ่งเป็นเจตนาอันควรรับอาญา
พ.ร.บ.อาวุธปืน, เครื่องกระสุน ฯลฯ 2471 มิได้มีบทบัญญัติยกเว้นในเรื่องเจตนาไว้เป็นพิเศษ จึงต้องถือหลักเจตนาตามที่บัญญัติไว้ในกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 43 ซึ่งมาตรา11 ให้นำมาใช้บังคับได้
มีวัตถุระเบิดไว้ในครอบครองโดยไม่ทราบว่าเป็นวัตถุระเบิด ยังไม่มีความผิดเพราะไม่มีอาชญาเจตนา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 851/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแจ้งความเท็จต่อพนักงานสอบสวน แม้เป็นคำให้การในฐานะผู้เสียหาย ก็ถือเป็นการแจ้งความเท็จได้
การให้การหรือให้ถ้อยคำต่อพนักงานสอบสวนในฐานะผู้เสียหายนั้น อยู่ในลักษณะที่เรียกว่าเป็นการแจ้งความต่อเจ้าพนักงานเหมือนกัน ถ้าเป็นเท็จก็ผิดตาม ก.ม.อาญา ม. 118
ฟ้องว่าจำเลยแจ้งความเท็จ ในวันที่ 15 ทางพิจารณาได้ความว่า จำเลยนำความไปแจ้งในวันที่ 13 ส่วนวันที่ 15 เจ้าพนักงานเรียกตัวไปสอบสวน จำเลยให้ถ้อยคำเท็จอย่างเดียวกัน ถ้อยคำในวันที่ 13 ดังนี้ ลงโทษได้ ไม่ถือว่าข้อเท็จจริงต่างกับฟ้อง
of 68