คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ค้ำประกัน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 610 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 710/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าที่มิได้ปิดอากรแสตมป์, ความรับผิดของผู้ค้ำประกัน, และขอบเขตการบังคับคดีตามคำพิพากษา
โจทก์อ้างสัญญาเช่าที่มิได้ปิดอากรแสตมป์ครบถ้วนซึ่งตามประมวลรัษฎากร มาตรา118 ว่าจะใช้เป็นพยานหลักฐานมิได้นั้นหากยังมีเอกสารที่ไม่ต้องด้วยข้อห้ามอื่นๆ อีกพอที่จะรับฟังเป็นหลักฐานได้ว่าได้มีสัญญาเช่ากันแล้วเอกสารที่ไม่ใช่สัญญาเช่านั้นถือว่าเป็นหลักฐานพอที่จะบังคับผู้เช่าได้แล้ว
กฎหมาย ในเรื่องค้ำประกันไม่ได้บังคับว่าต้องบรรยายความรับผิดของผู้ค้ำประกันไว้ แม้ปรากฏว่าเอกสารที่โจทก์ยังมิได้แสดงถึงข้อผูกพันระหว่างผู้ค้ำประกันกับเจ้าหนี้ก็ตามแต่เมื่อมีหนังสือให้ปรากฏว่าเป็นการค้ำประกันก็เป็นหลักฐานแสดงความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าหนี้กับผู้ค้ำประกันแล้ว
ผู้ค้ำประกันจึงไม่พ้นจากความรับผิดฐานเป็นผู้ค้ำประกัน
ศาลชั้นต้นถือเอามติคณะเทศมนตรีลดค่าเช่าที่จำเลยค้างชำระโจทก์ลง 1 ใน 4 คงให้จำเลยทั้งสองชำระเพียง 3 ใน 4 โจทก์อุทธรณ์ขอให้จำเลยทั้งสองชำระเต็มตามสัญญาแต่ก่อนศาลอุทธรณ์พิจารณาโจทก์ยื่นคำร้องว่าไม่สามารถส่งสำเนาอุทธรณ์ให้จำเลยที่ 1 ได้โจทก์ไม่ติดใจที่จะอุทธรณ์เฉพาะจำเลยที่ 1 แต่ขณะนั้นศาลอุทธรณ์ยังพิพากษาบังคับให้จำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 ผู้ค้ำประกันร่วมกันใช้ค่าเช่าเต็มตามสัญญาจึงถือว่าเป็นการไม่ชอบเพราะถ้าโจทก์ประสงค์จะว่ากล่าวกับจำเลยที่ 1 ในปัญหาว่าควรลดค่าเช่าหรือไม่แล้วพิธีการตามกฎหมาย ก็มีอยู่ให้ทำได้แต่โจทก์ไม่ขอให้ทำฉะนั้นย่อมถือว่าความรับผิดของจำเลยที่ 1 ยุติเพียงเท่าที่ศาลชั้นต้นพิพากษาไว้และโดยข้อกฎหมาย ที่ว่าผู้ค้ำประกันไม่ต้องรับผิดชำระหนี้เกินกว่าความรับผิดของลูกหนี้จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นผู้ค้ำประกันจึงร่วมรับผิดเพียงเท่าที่จำเลยที่ 1 จะต้องชำระเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1821/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การค้ำประกันและการผ่อนเวลาชำระหนี้ ข้อตกลงพิเศษในสัญญาค้ำประกันมีผลผูกพันผู้ค้ำประกัน
เรื่องกู้หนี้กันตามธรรมดาถ้าเจ้าหนี้ผ่อนเวลาชำระหนี้แก่ลูกหนี้ โดยผู้ค้ำประกันมิได้ตกลงด้วยแล้วผู้ค้ำประกันก็ย่อมหลุดพ้นจากความรับผิด
แต่สำหรับเรื่องขอกู้เบิกเงินเกินบัญชีกับธนาคารในคดีนี้ ผู้ค้ำประกันทำสัญญาไว้ว่าการผ่อนเวลาชำระหนี้แม้จะไม่ได้รับแจ้งก็ไม่เป็นเหตุให้ปลดเปลื้องความรับผิดของผู้ค้ำประกันแล้วในเมื่อธนาคารผ่อนเวลาชำระหนี้และการกู้เบิกเงินเกินบัญชีแก่ผู้เบิกในครั้งหลังจะมิได้แจ้งให้ผู้ค้ำประกันทราบและผู้ค้ำประกันมิได้ลงชื่อรับรองดังครั้งก่อนก็ดี ผู้ค้ำประกันก็จำต้องผูกพันตามสัญญาที่ทำกันไว้หาทำให้หลุดพ้นจากความรับผิดชอบไปได้ไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1821/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การผ่อนเวลาชำระหนี้กับผลกระทบต่อผู้ค้ำประกันตามสัญญาค้ำประกันที่มีข้อตกลงพิเศษ
เรื่องกู้หนี้กันตามธรรมดาถ้าเจ้าหนี้ผ่อนเวลาชำระหนี้แก่ลูกหนี้โดยผู้ค้ำประกันมิได้ตกลงด้วยแล้ว ผู้ค้ำประกันก็ย่อมหลุดพ้นจากความรับผิด
แต่สำหรับเรื่องขอกู้เบิกเงินเกินบัญชีกับธนาคารในคดีนี้ผู้ค้ำประกันทำสัญญาไว้ว่าการผ่อนเวลาชำระหนี้แม้จะไม่ได้รับแจ้งก็ไม่เป็นเหตุให้ปลดเปลื้องความรับผิดของผู้ค้ำประกันแล้วในเมื่อธนาคารผ่อนเวลาชำระหนี้และการกู้เบิกเงินเกินบัญชีแก่ผู้เบิกในครั้งหลังจะมิได้แจ้งให้ผู้ค้ำประกันทราบและผู้ค้ำประกันมิได้ลงชื่อรับรองดังครั้งก่อนก็ดี ผู้ค้ำประกันก็จำต้องผูกพันตามสัญญาที่ทำกันไว้หาทำให้หลุดพ้นจากความรับผิดไปได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 813/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตความรับผิดของผู้ค้ำประกัน: ค้ำช่างทองเฉพาะความเสียหายในหน้าที่การงาน ไม่รวมเงินล่วงหน้า
ทำสัญญาค้ำประกันลูกจ้างซึ่งทำหน้าที่เป็นช่างทองของโจทก์โดยยอมรับผิดชดใช้ค่าเสียหายที่ลูกจ้างทำขึ้นนั้น ย่อมหมายความว่าผู้ค้ำประกันยอมใช้ค่าเสียหายให้โจทก์ซึ่งเกิดจากการกระทำของลูกจ้างในหน้าที่การงานที่จ้างกันเท่านั้นหากจะให้ผู้ค้ำประกันรับผิดในประการอื่นนอกจากหน้าที่การงานที่จ้างเช่นเงินล่วงหน้าที่ลูกจ้างขอรับไปนั้น ความรับผิดเช่นว่านี้ต้องกล่าวไว้ให้ชัด มิฉะนั้น ผู้ค้ำประกันไม่ต้องรับผิด
ประเพณีเป็นข้อเท็จจริงที่ต้องนำสืบ อ้างว่าตามประเพณีช่างทองจะต้องรับเงินล่วงหน้าผู้ค้ำประกันจึงต้องรับผิดด้วยดังนี้เมื่อโจทก์ไม่สืบผู้ค้ำประกันจึงไม่ต้องรับผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 813/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตความรับผิดของผู้ค้ำประกันในสัญญาค้ำประกันการทำงานช่างทอง: ความเสียหายเฉพาะหน้าที่
ทำสัญญาค้ำประกันลูกจ้างซึ่งทำหน้าที่เป็นช่างทองของโจทก์โดยยอมรับผิดชดใช้ค่าเสียหายที่ลูกจ้างทำขึ้นนั้นย่อมหมายความว่าผู้ค้ำประกันยอมใช้ค่าเสียหายให้โจทก์ซึ่งเกิดจากการกระทำของลูกจ้างในหน้าที่การงานที่จ้างกันเท่านั้นหากจะให้ผู้ค้ำประกันรับผิดในประการอื่นนอกจากหน้าที่การงานที่จ้างเช่นเงินล่วงหน้าที่ลูกจ้างขอรับไปนั้นความรับผิดเช่นว่านี้ต้องกล่าวไว้ให้ชัดมิฉะนั้นผู้ค้ำประกันไม่ต้องรับผิด
ประเพณีเป็นข้อเท็จจริงที่ต้องนำสืบ อ้างว่าตามประเพณีช่างทองจะต้องรับเงินล่วงหน้าผู้ค้ำประกันจึงต้องรับผิดด้วยดังนี้เมื่อโจทก์ไม่สืบผู้ค้ำประกันจึงไม่ต้องรับผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 652/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การร่วมให้การถือเป็นคำให้การร่วมกันของผู้ค้ำประกัน และผลของการต่อสู้เรื่องหนี้
จำเลยสองคนร่วมให้การในฉบับเดียวกัน ถือได้ว่าคำให้การทั้งหมดเป็นคำให้การของจำเลยทั้งสองร่วมกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1020/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาค้ำประกันมีผลผูกพันแม้เจ้าหนี้ยังไม่ขอบังคับคดีระหว่างฎีกา การผ่อนเวลาต้องแสดงเจตนาชัดเจน
ผู้ค้ำประกันจำเลยตามคำสั่งคำร้องขอทุเลาการบังคับคดีของศาลอุทธรณ์โดยมีข้อสัญญาค้ำประกันว่า ถ้าจำเลยแพ้คดีในชั้นศาลอุทธรณ์และจำเลยไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาลผู้ค้ำประกันยอมชำระให้โจทก์แทนจำเลยจนครบนั้น แม้ต่อมาศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยแพ้คดีและในระหว่างฎีกาโจทก์จะมิได้ขอให้บังคับคดีเอาแก่จำเลยจนศาลฎีกาพิพากษาแล้วจึงบังคับก็ตาม ก็ไม่ถือว่าโจทก์ผู้เป็นเจ้าหนี้ได้ผ่อนเวลาให้แก่จำเลยอันจะเป็นเหตุให้ผู้ค้ำประกันพ้นจากความรับผิดไปได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 451/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนที่ดินให้สหกรณ์เพื่อค้ำประกันหนี้ การเรียกคืนที่ดินต้องเป็นไปตามข้อบังคับสหกรณ์และสมาชิกภาพ
โอนที่ดินของตนให้เป็นกรรมสิทธิของสหกรณ์ เพื่อให้สมาชิกของสหกรณ์ผู้หนึ่งกู้เงินของสหกรณ์ได้ ดังนี้ภายหลังตนจะให้สหกรณ์คืนที่ดินแก่ตนไม่ได้ แม้จะได้ชำระหนี้ที่สมาชิกผู้นั้นกู้มาจากสหกรณ์แล้วก็ดี ในเมื่อข้อบังคับของสหกรณ์ หรือตามเจตนาของคู่สัญญาไม่ปรากฎว่าให้ผู้โอนเอาที่กลับคืนได้ดังนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1821/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาผัดผ่อนหนี้และการค้ำประกัน: การขยายเวลาชำระหนี้ไม่ทำให้ผู้ค้ำประกันหลุดพ้น
ทำสัญญากู้เงินมีความว่า " จำนวนเงินที่ข้าพเจ้ากู้ไปนี้ ข้าพเจ้าสัญญาจะชำระให้เสร็จภายใน 6 เดือนนับแต่วันทำสัญญาเป็นต้นไป เว้นแต่ผู้ให้กู้จะได้มีคำสั่งเป็นอย่างอื่น " และผู้ค้ำประกันทำสัญญาค้ำประกันมีข้อความว่า " ถ้าผู้กู้ไม่สามารถชำระเงินที่ได้กู้ไปตามคำสั่งของผู้ให้กู้ ข้าพเจ้ายอมรับใช้ให้ทั้งสิ้น " ดังนี้กำหนด 6 เดือนที่ว่าไว้นั้นไม่ใช่เด็ดขาด แต่ผู้ให้กู้อาจสั่งเป็นอย่างอื่นได้ และการค้ำประกันก็เป็นไปทางยอมค้ำประกันตามอำนาจของผู้กู้ขอผัดผ่อนการชำระหนี้ต่อไป และผู้ให้กู้ยอม ก็ตามผู้ค้ำประกันก็ยังไม่หลุดพ้นจากการค้ำประกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1821/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาผ่อนผันหนี้และการค้ำประกันตามอำนาจผู้ให้กู้
ทำสัญญากู้เงินมีความว่า "จำนวนเงินที่ข้าพเจ้ากู้ไปนี้ ข้าพเจ้าสัญญาจะชำระให้เสร็จภายใน 6 เดือนนับแต่วันทำสัญญาเป็นต้นไป เว้นแต่ผู้ให้กู้จะได้มีคำสั่งเป็นอย่างอื่น" และผู้ค้ำประกันทำสัญญาค้ำประกันมีข้อความว่า"ถ้าผู้กู้ไม่สามารถชำระเงินที่ได้กู้ไปตามคำสั่งของผู้ให้กู้ ข้าพเจ้ายอมรับใช้ให้ทั้งสิ้น" ดังนี้กำหนด 6 เดือนที่ว่าไว้นั้นไม่ใช่เด็ดขาด แต่ผู้ให้กู้อาจสั่งเป็นอย่างอื่นได้ และการค้ำประกันก็เป็นไปในทางยอมค้ำประกันตามอำนาจของผู้ให้กู้ด้วย ฉะนั้นหากผู้กู้ขอผัดผ่อนการชำระหนี้ต่อไป และผู้ให้กู้ยอม ก็ตามผู้ค้ำประกันก็ยังไม่หลุดพ้นจากการค้ำประกัน
of 61