คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ผู้จัดการมรดก

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,106 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 91/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การถอดถอนผู้จัดการมรดกที่จงใจละเลยหน้าที่ และการแต่งตั้งบุตรผู้ตายเป็นผู้จัดการมรดกแทน
การที่ผู้คัดค้านจงใจไม่จัดทำบัญชีทรัพย์มรดก ภายในระยะเวลาตามที่กฎหมายกำหนดโดยมีพฤติการณ์ที่จะทำให้เกิดความเสียหายแก่กองมรดกและทายาทอื่น ดังนี้เป็นเหตุสมควรถอดถอนผู้คัดค้านจากการเป็นผู้จัดการมรดก เมื่อยังมีทรัพย์มรดกของผู้ตาย เพื่อจัดการต่อไปภายหลังที่เพิกถอนผู้จัดการมรดกแล้ว เมื่อปรากฏว่าผู้ร้องทั้งสองเป็นบุตรของผู้ตายทั้งไม่เป็นบุคคลที่มีคุณสมบัติต้องห้ามในการเป็นผู้จัดการมรดกตาม ป.พ.พ. มาตรา 1718 ผู้ร้องทั้งสองจึงสมควรเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตาย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 895/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การระงับสิทธิการขอเป็นผู้จัดการมรดกเมื่อผู้ร้องถึงแก่ความตายระหว่างการพิจารณาคดี
คำสั่งศาลฎีกา (895/2534) การร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกเป็นสิทธิเฉพาะตัว เมื่อผู้ร้องถึงแก่ความตายในระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา สิทธิของผู้ร้องจึงระงับไป ไม่มีประโยชน์ที่ศาลฎีกาจะพิจารณาฎีกาของผู้ร้องต่อไป ศาลฎีกามีคำสั่งให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6135/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิผู้จัดการมรดก, การตัดทายาท, การเพิกถอนพินัยกรรม และผลของการทำหนังสือตัดทายาท
ตามคำร้องขอจัดการมรดกของผู้ร้องมีทรัพย์สินจะต้องจัดการถึง7 รายการ แม้ผู้ตายทำพินัยกรรมยกทรัพย์สินเฉพาะบางรายการให้ผู้คัดค้านที่ 2 แล้ว ก็ยังมีทรัพย์สินอื่นนอกพินัยกรรมที่จะต้อง จัดการอยู่อีก ผู้ร้องเป็นทายาทโดยธรรมเป็นผู้มีส่วนได้เสียและ ไม่เป็นบุคคลต้องห้ามตาม ป.พ.พ. มาตรา 1718 จึงมีสิทธิที่จะเป็น ผู้จัดการมรดกของผู้ตายได้ หนังสือตัดทายาทโดยธรรมระบุนามสกุลผู้คัดค้านที่ 1 ว่า สกุล"ธรรมรัตน์"เป็น"ธรรมรักษ์" ซึ่งเป็นข้อผิดพลาดเพียงเล็กน้อย ไม่ ทำให้หนังสือตัดทายาทโดยธรรมเสียไป การที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า ผู้คัดค้านที่ 1 ถูกตัดจากการเป็นทายาทโดยธรรม โดยไม่วินิจฉัยชี้ชัดว่าผู้คัดค้านที่ 1 เป็นทายาท จริงหรือไม่นั้น การวินิจฉัยชี้ขาดว่าเป็นทายาทหรือไม่เป็นทายาท ของผู้ตายไม่ทำให้ผลคดีเปลี่ยนแปลงไปปัญหาข้อนี้เป็นอุทธรณ์ที่ ไร้สาระศาลอุทธรณ์ชอบที่จะไม่รับวินิจฉัยให้ ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1695 ผู้ทำพินัยกรรมอาจเพิกถอนพินัยกรรมทั้งหมดหรือแต่บางส่วนได้ โดยทำลายหรือขีดฆ่าเสียด้วยความตั้งใจหมายความว่า ต้องเพิกถอนด้วยการฉีก ทำลาย หรือทำให้หมดสิ้นจนใช้การไม่ได้ หรือขีดฆ่าลงบนพินัยกรรมนั้นเพื่อให้เห็นว่า ผู้ทำพินัยกรรมไม่มีเจตนาจะให้มีผลเป็นพินัยกรรมต่อไป ดังนั้น เพียงแต่บันทึกไว้ในช่องหมายเหตุในทะเบียนพินัยกรรมของ ที่ว่าการอำเภอว่า ขอถอนพินัยกรรม และบันทึกในใบรับพินัยกรรมว่า ขอถอน 14 มี.ค. 20 จึงยังไม่ถือว่าผู้ทำพินัยกรรมมีเจตนาทำลาย พินัยกรรม พินัยกรรมจึงยังมีผลสมบูรณ์.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6042/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การถอนคำร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกและผลกระทบต่อคำคัดค้าน การดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป
ผู้คัดค้านที่ 1 ยื่นคำคัดค้านขอให้ศาลยกคำร้องของผู้ร้องที่ขอให้ศาลตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกของ ค.ผู้ตาย ผู้คัดค้านที่ 2 ก็ยื่นคำคัดค้านเช่นเดียวกันโดยขอให้ศาลยกคำร้องของผู้ร้องและขอให้ศาลตั้งผู้คัดค้านที่ 2 เป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายในวันนัดไต่สวนคำร้อง ผู้ร้องยื่นคำร้องขอถอนคำร้องขอเป็นผู้จัดการมรดก ผู้คัดค้านทั้งสองไม่ค้าน ศาลชั้นต้นจึงมีคำสั่งอนุญาตให้ผู้ร้องถอนคำร้องขอ ให้จำหน่ายคดีเฉพาะผู้ร้องกับให้ผู้คัดค้านที่ 2 นำพยานเข้าไต่สวนทันทีซึ่งกรณีเช่นนี้ ไม่มีบทบัญญัติแห่งกฎหมายบังคับให้ศาลต้องเลื่อนกระบวนพิจารณาไปโดยไม่ต้องมีผู้ใดร้องขอ ศาลชอบที่ดำเนินกระบวน-พิจารณาไปตามประเด็นที่ปรากฏในคำคู่ความ ประเด็นในคำคัดค้านของผู้คัดค้านที่ 1มีแต่เพียงว่าผู้ร้องมีสิทธิร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกรายนี้หรือไม่ เมื่อผู้ร้องขอถอนคำร้องและศาลชั้นต้นอนุญาตแล้วคำคัดค้านของผู้คัดค้านที่ 1 จึงไม่มีประเด็นที่จะต้องพิจารณาต่อไปเมื่อผู้คัดค้านที่ 1 ไม่ร้องขอเลื่อนการพิจารณาไปเพื่อดำเนินการอย่างใด ศาลย่อมต้องดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปตามกระบวนพิจารณาที่กำหนดไว้ได้
เมื่อผู้ร้องขอถอนคำร้องของผู้ร้องไปแล้ว ประเด็นตามคำร้องของผู้ร้องย่อมหมดไป คำคัดค้านของผู้คัดค้านที่ 1 ที่คัดค้านคำร้องของผู้ร้องจึงตกไปด้วยส่วนคำคัดค้านของผู้คัดค้านที่ 2 นอกจากให้ยกคำร้องผู้ร้องแล้วยังได้ร้องขอให้ตั้งตนเองเป็นผู้จัดการมรดกรายนี้ด้วย ดังนั้น ประเด็นเรื่องขอเป็นผู้จัดการมรดกของผู้คัดค้านที่ 2ยังไม่ได้รับการวินิจฉัย คำร้องคัดค้านของผู้คัดค้านที่ 2 จึงหาตกไปไม่ ศาลต้องดำเนิน-กระบวนพิจารณาต่อไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6042/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การถอนคำร้องขอเป็นผู้จัดการมรดก และการดำเนินกระบวนพิจารณาต่อประเด็นการตั้งผู้จัดการมรดกรายใหม่
ผู้คัดค้านที่ 1 ยื่นคำคัดค้านขอให้ศาลยกคำร้องของผู้ร้องที่ขอให้ศาลตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกของ ค.ผู้ตาย ผู้คัดค้านที่ 2 ก็ยื่นคำคัดค้านเช่นเดียวกันโดยขอให้ศาลยกคำร้องของผู้ร้องและขอให้ศาลตั้งผู้คัดค้านที่ 2 เป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายในวันนัดไต่สวนคำร้อง ผู้ร้องยื่นคำร้องขอถอนคำร้องขอเป็นผู้จัดการมรดก ผู้คัดค้านทั้งสองไม่ค้าน ศาลชั้นต้นจึงมีคำสั่งอนุญาตให้ผู้ร้องถอนคำร้องขอ ให้จำหน่ายคดีเฉพาะผู้ร้องกับให้ผู้คัดค้านที่ 2 นำพยานเข้าไต่สวนทันทีซึ่งกรณีเช่นนี้ ไม่มีบทบัญญัติแห่งกฎหมายบังคับให้ศาลต้องเลื่อนกระบวนพิจารณาไปโดยไม่ต้องมีผู้ใดร้องขอ ศาลชอบที่ดำเนินกระบวนพิจารณาไปตามประเด็นที่ปรากฏในคำคู่ความ ประเด็นในคำคัดค้านของผู้คัดค้านที่ 1 มีแต่เพียงว่าผู้ร้องมีสิทธิร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกรายนี้หรือไม่เมื่อผู้ร้องขอถอนคำร้องและศาลชั้นต้นอนุญาตแล้วคำคัดค้านของผู้คัดค้านที่ 1 จึงไม่มีประเด็นที่จะต้องพิจารณาต่อไป เมื่อผู้คัดค้านที่ 1 ไม่ร้องขอเลื่อนการพิจารณาไปเพื่อดำเนินการอย่างใดศาลย่อมต้องดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปตามกระบวนพิจารณาที่กำหนดไว้ได้ เมื่อผู้ร้องขอถอนคำร้องของผู้ร้องไปแล้ว ประเด็นตามคำร้องของผู้ร้องย่อมหมดไป คำคัดค้านของผู้คัดค้านที่ 1 ที่คัดค้านคำร้องของผู้ร้องจึงตกไปด้วยส่วนคำคัดค้านของผู้คัดค้านที่ 2นอกจากให้ยกคำร้องผู้ร้องแล้วยังได้ร้องขอให้ตั้งตนเองเป็นผู้จัดการมรดกรายนี้ด้วย ดังนั้น ประเด็นเรื่องขอเป็นผู้จัดการมรดกของผู้คัดค้านที่ 2 ยังไม่ได้รับการวินิจฉัย คำร้องคัดค้านของผู้คัดค้านที่ 2 จึงหาตกไปไม่ ศาลต้องดำเนินกระบวน พิจารณาต่อไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6027/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การถอนผู้จัดการมรดก: ศาลชอบที่จะงดสืบพยานเมื่อประเด็นชัดเจน และการขอคุ้มครองชั่วคราวในคดีไม่มีประเด็นแบ่งมรดก
ประเด็นข้อพิพาทมีว่า สมควรถอนผู้ร้องออกจากการเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายหรือไม่ ไม่มีประเด็นเรียกร้องแบ่งเอาทรัพย์มรดก ผู้คัดค้านไม่มีสิทธิขอคุ้มครองตาม ป.วิ.พ. มาตรา 254 ขอให้ผู้ร้องแสดงบัญชีเงินได้จากการขายที่ดินทรัพย์มรดกและนำเงินดังกล่าวมาวางศาล ทั้งขออายัดการโอนที่ดินทรัพย์มรดกแปลงอื่น ตามคำแถลงคัดค้านของผู้ร้องรับว่าไม่ได้จัดทำบัญชีทรัพย์มรดกและได้โอนขายที่ดินทรัพย์มรดกไปจริง จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องสืบพยานผู้ร้อง เพราะเป็นการฟุ่มเฟือย ชักช้าไม่ทำให้ประเด็นเปลี่ยนแปลงไป ศาลชั้นต้นชอบที่จะงดสืบพยานของผู้ร้องได้ตาม ป.วิ.พ.มาตรา 86 วรรคสอง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6013/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลในการวินิจฉัยพินัยกรรมปลอม และสิทธิผู้รับพินัยกรรม/ทายาทโดยธรรมในการเป็นผู้จัดการมรดก
ผู้ร้องอ้างสิทธิในคำร้องขอจัดการมรดกว่าร้องขอในฐานะที่ผู้ร้องเป็นผู้รับพินัยกรรม มิได้ร้องขอในฐานะทายาทโดยธรรมด้วย เมื่อผู้คัดค้านอ้างในคำคัดค้านว่าพินัยกรรมดังกล่าวผู้ร้องทำปลอมขึ้นปัญหาว่าพินัยกรรมปลอมหรือไม่ย่อมเป็นประเด็นที่จำต้องวินิจฉัยเพราะหากพินัยกรรมที่ผู้ร้องอ้างเป็นพินัยกรรมที่ผู้ร้องทำปลอมขึ้นผู้ร้องย่อมถูกกำจัดมิให้รับมรดกฐานเป็นผู้ไม่สมควรตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1606(5) จึงไม่มีอำนาจร้องขอต่อศาลให้ตั้งผู้จัดการมรดก แม้ศาลชั้นต้นมิได้วินิจฉัยประเด็นข้อนี้ผู้ร้องซึ่งเป็นฝ่ายแพ้คดีในศาลชั้นต้นก็มีสิทธิที่จะอุทธรณ์และศาลอุทธรณ์ก็ย่อมมีอำนาจวินิจฉัยประเด็นข้อนี้ ซึ่งเป็นประเด็นแห่งคดีที่ถูกต้องได้ ท. ซึ่งมีสิทธิรับมรดกตามพินัยกรรมข้อ 9 และข้อ 10 ตายก่อนเจ้ามรดก ข้อกำหนดในพินัยกรรมส่วนนี้จึงเป็นอันตกไป ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1698(1) และต้องบังคับตามมาตรา 1699 ประกอบมาตรา 1620 วรรคสอง กล่าวคือต้องตกทอดแก่ทายาทโดยธรรมของเจ้ามรดก ซึ่งรวมทั้งผู้คัดค้าน ผู้คัดค้านในฐานะทายาทโดยธรรมของเจ้ามรดกจึงมีสิทธิร้องขอให้ศาลตั้งผู้จัดการมรดกได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1713 การตั้งผู้จัดการมรดกนั้น ศาลย่อมใช้ดุลพินิจคำนึงถึงความเหมาะสมหรือพฤติการณ์เพื่อประโยชน์แก่กองมรดกข้อเท็จจริงปรากฏว่าผู้คัดค้านมีความประพฤติดีไม่เคยทำร้ายหรือเป็นหนี้เจ้ามรดกดังคำพยานผู้ร้อง ส่วนข้อที่ผู้คัดค้านอ้างเป็นเหตุไม่สมควรตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกก็เป็นเรื่องเล็กน้อยเมื่อผู้ร้องและผู้คัดค้านต่างมีคุณสมบัติไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1718 จึงสมควรตั้งผู้ร้องและ ผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการมรดกร่วมกัน.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5776/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเข้าเป็นคู่ความแทนจำเลยหลังเสียชีวิต: สิทธิและหน้าที่ของผู้จัดการมรดก vs. ทายาท
โจทก์ฟ้องจำเลยในฐานะผู้จัดการมรดกของ ก. ขณะคดีอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ จำเลยถึงแก่กรรม จึงเป็นอำนาจของศาลอุทธรณ์ที่จะมีคำสั่งเกี่ยวกับการเข้าเป็นคู่ความแทนจำเลยการที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตให้ ส.เข้ามาเป็นคู่ความแทนที่จำเลยจึงเป็นการไม่ชอบ ศาลอุทธรณ์มิได้มีคำสั่งในเรื่องที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตให้ส.เข้ามาเป็นคู่ความแทนที่จำเลยโดยไม่ชอบ แต่เมื่อศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาโดยวินิจฉัยว่าผู้เข้าเป็นคู่ความแทนจำเลยซึ่ง ถึงแก่กรรมมีหน้าที่จะต้องปฏิบัติตามพินัยกรรมแทนจำเลยต่อไป ถือได้ว่าศาลอุทธรณ์อนุญาตให้ ส.เข้าเป็นคู่ความแทนจำเลยแล้ว เมื่อจำเลยถึงแก่กรรม สิทธิและหน้าที่ของจำเลยในฐานะผู้จัดการมรดกย่อมสิ้นสุดลงเพราะเป็นเรื่องเฉพาะตัวของ ผู้จัดการมรดกหาได้ตกทอดไปยังทายาทของจำเลยไม่ และข้อเท็จจริง ตามคำร้องของโจทก์และคำแถลงของ ส.คงได้ความแต่เพียงว่าส.เป็นทายาทของจำเลยเท่านั้น ไม่ปรากฏว่า ส.เป็นผู้ปกครอง ทรัพย์มรดกหรือมีอำนาจในการจัดการทรัพย์มรดกของ ก.แต่อย่างใดส.จึงไม่สามารถจะปฏิบัติตามคำพิพากษาได้หากในที่สุดจำเลยเป็นฝ่ายแพ้คดี ส.ย่อมไม่อาจเข้าเป็นคู่ความแทนจำเลยได้การที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาคดีไปโดยที่ไม่มีผู้เข้าเป็นคู่ความแทนจำเลย จึงเป็นการไม่ชอบ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5613/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีของผู้จัดการมรดกสิ้นสุดเมื่อศาลมีคำพิพากษาถอนสถานะ และการจัดการมรดกโดยผู้จัดการมรดกย่อมมีผลสมบูรณ์
เดิมศาลชั้นต้นมีคำสั่งตั้งโจทก์เป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายหากบุคคลใดประสงค์จะขอให้ศาลตั้งตนเป็นผู้จัดการมรดกคนใหม่แทนโจทก์กระทำได้โดยยื่นคำร้องขอเข้ามาในคดีเดิม แต่ถ้าจะฟ้องโจทก์แยกต่างหากจากคดีเดิมโดยอาศัยเหตุตาม ป.พ.พ. มาตรา 1727ก็ย่อมกระทำได้ ทั้งนี้เพราะบทบัญญัติดังกล่าวให้ยื่นคำร้องขอเข้ามาในคดีเดิมก่อนการปัน มรดก เสร็จสิ้นลงเท่านั้น หาได้ตัดสิทธิมิให้ผู้ขอไปฟ้องเป็นคดีใหม่อีกต่างหากไม่ เมื่อศาลมีคำพิพากษาให้ถอนโจทก์จากการเป็นผู้จัดการมรดก และตั้งบุคคลอื่นเป็นผู้จัดการมรดกแทนโจทก์ ซึ่งคดีถึงที่สุดแล้วคำพิพากษาดังกล่าวย่อมผูกพันโจทก์โจทก์จึงไม่ใช่ผู้จัดการมรดกของผู้ตายอีกต่อไป จึงไม่มีอำนาจฟ้องในฐานะเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตาย การที่ผู้จัดการมรดกได้ทำตามมติที่ประชุมทายาทโดยโอนที่ดินพิพาทให้แก่จำเลย เป็นการจัดการเพื่อแบ่งปันทรัพย์มรดกของผู้ตายนิติกรรมดังกล่าวย่อมมีผลสมบูรณ์ตามกฎหมาย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5603/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิผู้มีส่วนได้เสียคัดค้านการตั้งผู้จัดการมรดก & ความสมบูรณ์ของพินัยกรรมขณะทำพินัยกรรม
ผู้คัดค้านอ้างว่าเป็นภริยาของเจ้ามรดกโดยไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน แต่อยู่กินด้วยกัน และมีทรัพย์สินร่วมด้วยบางรายการถือว่าผู้คัดค้านเป็นผู้มีส่วนได้เสียชอบที่จะยื่นคำคัดค้านการที่ผู้ร้องขอให้ตั้งตนเองเป็นผู้จัดการมรดกได้ เมื่อปรากฏว่าหากพินัยกรรมทำขึ้นขณะที่ผู้ตายป่วยหนักสติสัมปชัญญะไม่สมประกอบดังคำคัดค้าน ผู้ร้องย่อมไม่มีอำนาจร้องต่อศาลขอให้ตั้งตนเองเป็นผู้จัดการมรดกตามพินัยกรรมได้ศาลก็จำต้องวินิจฉัยถึงความสมบูรณ์ของพินัยกรรมด้วย.
of 111