คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
รถยนต์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 587 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 622/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความประมาทในการขับรถราง ชนรถยนต์เก๋ง ศาลฎีกาพิจารณาหลักฐานการกระทำและเหตุผลในการตัดสิน
รถยนต์เก๋งออกพ้นปากตรอกมาคารางรถรางอยู่ก่อนแล้วและไม่สามารถจะแล่นต่อไปในถนนได้ เพราะกำลังมีรถยนต์แล่นผ่านไปมาทั้งจะถอยหลังก็ไม่ได้เพราะจะชนรถยนต์บรรทุกที่แล่นสวนเข้าตรอกไปเวลานั้นจำเลยกำลังขับรถรางมาและจำเลยเห็นรถยนต์เก๋งในระยะไกลประมาณ 30 เมตรจำเลยก็ไม่หยุดหรือเบารถราง แต่จำเลยกลับโบกมือให้รถยนต์เก๋งถอยออกไป ต่อเมื่อเข้ามาในระยะใกล้แล้วจำเลยจึงได้พยายามหยุดรถ แต่หยุดไม่ทันท่วงทีรถรางจึงชนรถยนต์เก๋งเสียหาย เช่นนี้ ถือว่าจำเลยกระทำโดยประมาทตามกฎหมายแล้ว
ฎีกาว่า ศาลฟังข้อเท็จจริงโดยไม่มีพยานหลักฐานในสำนวนสนับสนุน เป็นฎีกาในข้อกฎหมาย
แต่ถ้าฎีกาว่า ศาลฟังโดยมีพยานหลักฐานแต่ไม่ควรฟังดังนั้นเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 553/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ นายจ้างต้องรับผิดร่วมกับลูกจ้างในความเสียหายจากการขับรถประมาท หากมอบหมายให้ใช้รถในหน้าที่ และข้อตกลงซ่อมรถไม่ผูกพันเจ้าของรถ
ฟ้องกล่าวว่า จำเลยที่ 2 ผู้เป็นนายจ้างและเจ้าของรถยนต์หมายเลขทะเบียน ก.ท. 12499 ได้มอบรถยนต์คันดังกล่าวให้จำเลยที ่1 ซึ่งเป็นลูกจ้างในตำแหน่งหัวหน้าช่างเครื่องยนต์ของบริษัท จำเลยที่ 2 ไปใช้ในตำแหน่งหน้าที่และในวันเกิดเหตุจำเลยที่ 1 ได้ขับรถยนต์คันนั้น โดยตาวประมาทเลินเล่อ เป็นเหตุให้รถยนต์ของจำเลยชนรถยนต์ของโจทก์เสียหายนั้นเป็นการเพียงพอที่จะให้เข้าใจได้แล้วว่า การที่จำเลยที่ 1 ได้ขับรถนั้นโดยความประมาทเป็นเหตุให้ชนรถโจทก์เสียหายอันเป็นการละเมิดต่อโจทก์ดังกล่าวเป็นการกระทำในทางการที่จำเลยที่ 2 จ้าง
ในชั้นสถานีตำรวจเปรียบเทียบลูกจ้างขับรถของโจทก์ได้ตกลงกับจำเลย ซึ่งขับรถชนรถโจทก์ว่าเพียงให้จำเลยซ่อมรถของโจทก์เท่านั้น ข้อตกลงเช่นนี้ ไม่ผูกพันโจทก์ เพราะผู้นั้นเป็นแต่เพียงลูกจ้างขับรถของโจทก์ โจทก์มิได้มอบหมายให้ตกลงในเรื่องค่าเสียหายอย่างใดเลย
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 7 / 2502)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 634/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าสินไหมทดแทนการขาดอุปการะจากกรณีเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์
จำเลยที่ 1 เป็นลูกจ้างจำเลยที่ 2 จำเลยที่ 1 ขับรถโดยประมาททำให้ภริยาโจทก์ตายนั้น ถือได้ว่าการที่ภริยาโจทก์ตายลงนั้นทำให้โจทก์ผู้เป็นสามีต้องขาดไร้อุปการะตามกฎหมาย โจทก์ชอบที่จะได้รับค่าสินไหมทดแทนเพื่อการนั้นตาม ป.พ.พ.มาตรา 443,1453 เช่น ค่าจ้างคนปฏิบัติโจทก์แทนผู้ตายระหว่างที่โจทก์อยู่โรงพยาบาลและค่าขาดการปฏิบัติอุปการะของผู้ตายต่อโจทก์ตลอดกาล

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 231/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนแปลงข้อตกลงเดิมด้วยการกู้ยืมเงินและมอบรถยนต์เป็นประกัน โดยจำเลยไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสัญญาซื้อขายได้
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยผิดสัญญาขายรถยนต์ปอนเตี๊ยกจึงเรียกเงินมัดจำคืนจำเลยต่อสู้ว่ากู้เงินโจทก์ 15,000บาทเอารถฮิลแมนประกันแล้วกู้อีก 10,000 บาทเอารถปอนเตี๊ยกประกันต่อมาจำเลยชำระคืน 15,000 บาทโจทก์คืนรถปอนเตี๊ยกให้แล้วโจทก์ยึดรถฮิลแมนของจำเลยโอนเป็นของโจทก์ โจทก์ยังจะต้องคืนเงินให้จำเลยอีก5,000 บาทข้อต่อสู้ของจำเลยมิได้กล่าวอ้างตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94 วรรคท้าย ดังนี้ จำเลยจะนำสืบเปลี่ยนแปลงเอกสารสัญญาซื้อขายท้ายฟ้องของโจทก์ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1188/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายรถยนต์ โอนกรรมสิทธิ์ได้แม้ยังไม่โอนทะเบียน
การซื้อขายรถยนต์ แม้ยังไม่โอนทะเบียนกรรมสิทธิ์ในรถยนต์ก็โอนไปยังผู้ซื้อได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 781/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์ในรถยนต์: การคุ้มครองเจ้าของตามกฎหมาย แม้มีการครอบครองโดยบุคคลภายนอก
ได้ความว่ารถยนต์พิพาทคดีนี้ศาลได้พิพากษาถึงที่สุดแล้วว่าเป็นของโจทก์จึงเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ ฉะนั้นโจทก์จึงยกขึ้นยันบุคคลภายนอกรวมทั้งผู้ร้องได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 145(2)เว้นแต่ผู้ร้องจะพิสูจน์ได้ว่าตนมีสิทธิดีกว่าหากผู้ร้องจะอ้างว่าตนได้ครอบครองรถยนต์อยู่จึงควรได้กรรมสิทธิ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1303 ผู้ร้องก็จะต้องพิสูจน์ว่าตนได้การครอบครองนั้นมาโดยเสียค่าตอบแทนและโดยสุจริตจึงจะมีสิทธิในรถยนต์พิพาทดีกว่าโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 578/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแจ้งเท็จต่อเจ้าพนักงานเกี่ยวกับที่มาของรถยนต์ แม้ซื้อมาโดยสุจริตก็มีความผิดฐานแจ้งเท็จ
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยลักจักรยานสามล้อหรือรับไว้โดยรู้ว่าเป็นของร้ายและนำความเท็จไปแจ้งแก่เจ้าพนักงานยานพาหนะว่าจำเลยซื้อมาจากร้านชนนิยมจำเลยต่อสู้ว่าซื้อมาโดยสุจริต
เมื่อข้อเท็จจริงฟังว่าจำเลยได้ซื้อมาโดยไม่รู้ว่าเป็นของร้ายจำเลยก็ไม่มีความผิดฐานรับของโจรแต่เมื่อจำเลยนำรถไปจดทะเบียนต่อเจ้าพนักงานจำเลยนำความเท็จไปแจ้งต่อเจ้าพนักงานทะเบียนว่าซื้อมาจากร้านชนนิยมซึ่งความจริงจำเลยหาได้ซื้อมาจากที่ร้านนี้ไม่เพียงเท่านี้จำเลยก็มีความผิดตาม มาตรา 226 แล้วเพราะการกระทำของจำเลยอาจเกิดความเสียหายแก่เจ้าทรัพย์และเจ้าพนักงานได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 941/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของบิดาต่อการกระทำละเมิดของผู้เยาว์ และการฟ้องเรียกค่าเสียหายจากรถยนต์ที่เสียหายและเสื่อมราคา
โจทก์บรรยายฟ้องว่า "การกระทำของจำเลยที่ 1 ดังกล่าวเป็นการละเมิดต่อบท ก.ม. เป็นเหตุให้รถยนต์ของโจทก์ต้องเสียหายคิดค่าซ่อมแซมเป็นเงิน 18,072 บาท 05 สตางค์ และแม้จะซ่อมแซมก็เป็นเหตุให้รถยนต์ของโจทก์เสื่อมราคาจากเดิมคิดเป็นเงิน 4,000 บาท "ดังนี้ ฟ้องของโจทก์ในข้อที่อ้างว่ารถเสื่อมราคานั้นได้แสดงออกโดยชัดแจ้งพอที่จะให้เข้าใจสภาพแห่งข้อหาได้ชัดเจนดีพอแล้วจึงไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
การที่บิดาปล่อยให้บุตรผู้เยาว์ขับรถยนต์ไปเที่ยวเสมอและในครั้งเกิดเหตุก็ขับรถยนต์ไปกับเพื่อน บิดารู้เห็นก็มิได้ห้ามตักเตือนจนขับรถไปทำให้ผู้อื่นเสียหายดังนี้ ย่อมถือได้ว่าบิดาพิสูจน์ไม่ได้ว่าคนใดใช้ความระมัดระวังตามสมควรแก่หน้าที่บิดาผู้ปกครองบุตรอยู่โดยปกติ จึงต้องรับผิดร่วมกับบุตร ตาม ม. 429

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 809/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดทางละเมิดจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ และการแบ่งความรับผิดตามพฤติการณ์
ความเสียหายอันเกิดจากการละเมิดนั้น อาจเกิดจากบุคคลหลายคนทำการละเมิดให้เกิดความเสียหายก็ได้ เช่นในคดีขับรถยนต์ชนกันโดยประมาทและแต่ละฝ่ายอาจรับผิดในความเสียหายยิ่งหย่อนกว่ากันได้สุดแต่ศาลจะวินิจฉัยตามพฤติการณ์และความร้ายแรงแห่งละเมิด
จำเลยที่ 2 เป็นคนขับรถของนายจ้างจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 4 เป็นคนขับรถของนายจ้าง จำเลยที่ 3 จำเลยที่ 2 ที่ 4 ขับรถชนกันโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้ตายตายผู้ตายเป็นหัวหน้าครอบครัวดังนี้เมื่อโจทก์ต่างเป็นผู้อยู่ในความอุปการะของผู้ตายซึ่งต่างเป็นผู้มีประโยชน์ร่วมกันในคดีย่อมเป็นโจทก์ฟ้องร่วมกันได้ตาม มาตรา59 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ฝ่ายจำเลยแม้มิได้มีประโยชน์ร่วมกันก็ต้องรับผิดในความเสียหายอันเดียวกันจำเลยทั้ง 4 จึงถูกฟ้องร่วมกันได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 501/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ วางเพลิงรถทำให้ถึงแก่ความตาย: ความผิดตามกฎหมายอาญามาตรา 185 และ 187
จำเลยใช้น้ำมันเชื้อเพลิงจุดเผารถยนต์ของผู้อื่นซึ่งมีคนนอนอยู่เป็นเหตุให้รถนั้นเสียหาย และไฟไหม้คนที่นอนในรถนั้นตาย ดังนี้จำเลยมีความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 185 และ 187 ตอน 2 อันบัญญัติให้ระวางโทษตามมาตรา 186 ตอนท้าย ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมตามกฎหมายลักษณะอาญา พ.ศ. 2475 มาตรา 4-5 อันเป็นความผิดหลายบท ให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา 187 ตอน 2 ประกอบด้วยมาตรา 186 ตอนท้ายซึ่งเป็นบทหนัก
of 59