พบผลลัพธ์ทั้งหมด 709 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 553/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองลูกระเบิดของเจ้าพนักงานและขอบเขตความผิด การกระทำนอกหน้าที่
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยมีลูกระเบิดไว้ในครอบครอง ศาลทั้ง 2 พิพากษายกฟ้องโจทก์ โจทก์ฎีกาในข้อกฎหมายว่าการที่จำเลยนำเอาลูกระเบิดของกลางจากที่เก็บมาใช้คุกคามต่อความปลอดภัยของผู้อื่น (นำมาวางบนโต๊ะของเพื่อนข้าราชการแล้วพูดว่าใครอวดดีก็มา) แม้จะกระทำในสถานที่ราชการนั้นเองก็หาอาจจะถือได้ว่าเป็นการกระทำในหน้าที่ได้ไม่
เมื่อข้อเท็จจริงเป็นอันยุติตามศาลล่างทั้งสองว่าจำเลยเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่เก็บรักษาลูกระเบิดของกลางนี้ฎีกาของโจทก์จึงเห็นได้ว่าเป็นกรรมอีกอันหนึ่งที่ไม่เกี่ยวกับการที่ลูกระเบิดของกลางตกอยู่ในครอบครองของจำเลยโดยชอบด้วยกฎหมายดังข้อเท็จจริงที่ศาลล่างฟังมา ซึ่งไม่เป็นความผิดต้องยกฎีกาโจทก์พิพากษายืน
เมื่อข้อเท็จจริงเป็นอันยุติตามศาลล่างทั้งสองว่าจำเลยเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่เก็บรักษาลูกระเบิดของกลางนี้ฎีกาของโจทก์จึงเห็นได้ว่าเป็นกรรมอีกอันหนึ่งที่ไม่เกี่ยวกับการที่ลูกระเบิดของกลางตกอยู่ในครอบครองของจำเลยโดยชอบด้วยกฎหมายดังข้อเท็จจริงที่ศาลล่างฟังมา ซึ่งไม่เป็นความผิดต้องยกฎีกาโจทก์พิพากษายืน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2026/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขรก.ไม่มีหน้าที่ดูแลทรัพย์สิน จึงไม่ต้องรับผิดตาม ม.132 แม้รับเงินค่าแสตมป์แล้วนำแสตมป์ใช้แล้วมาปิด
บรรยายฟ้องว่าจำเลยมีหน้าที่แต่เพียงเชิญชวนแนะนำให้ผู้ร้องปิดแสตมป์ ก.ศ.ส.ในคำร้องเท่านั้นแม้จะได้ความจริงก็หาลงโทษจำเลยได้ไม่ เพราะจำเลยไม่มีหน้าที่จัดซื้อหรือทำหรือปกครองรักษาทรัพย์สิ่งใด ๆ ตามความหมายใน ม.132.
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 12/2499)
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 12/2499)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2026/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หน้าที่จำกัดของข้าราชการ: การกระทำผิดมาตรา 132 ต้องมีหน้าที่ดูแลทรัพย์สินโดยตรง
บรรยายฟ้องว่าจำเลยมีหน้าที่แต่เพียงเชิญชวนแนะนำให้ผู้ร้องปิดแสตมป์ ก.ศ.ส. ในคำร้องเท่านั้น แม้จะได้ความจริงก็หาลงโทษจำเลยได้ไม่ เพราะจำเลยไม่มีหน้าที่จัดซื้อหรือทำหรือปกครองรักษาทรัพย์สิ่งใดๆ ตามความหมายในมาตรา 132 (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 12/2499)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2013/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดเจ้าพนักงานต่อ พ.ร.บ.สำรวจและห้ามกักกันข้าว: หน้าที่ vs. การกระทำผิด
คำว่า "การกระทำผิดของเจ้าพนักงานอื่นใด" ตาม พ.ร.บ. สำรวจและห้ามกักกันข้าว (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2489 ม.15 (1) นั้นจะต้องเป็นการปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติการในหน้าที่ แต่ปรากฎในคดีนี้ว่าจำเลยเป็นเพียงเจ้าพนักงานตำรวจมีหน้าที่แต่เฉพาะขับรถยนต์ของทางราชการเท่านั้นการที่จำเลยสมคบกับพวกขนย้ายข้าวออกนอกเขตห้ามขนย้ายทางทะเลและพยายามนำออกไปนอกราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตจึงมิใช่เป็นการกระทำที่เกี่ยวกับการปฏิบัติการหรือละเว้นไม่ปฏิบัติการในหน้าที่ของจำเลยแต่ประการใด ความผิดของจำเลยจึงไม่ต้องด้วย ม.15 (1) แห่ง พ.ร.บ. สำรวจและห้ามกักกันข้าวที่แก้ไขดังกล่าว.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2013/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดเจ้าพนักงานตามพ.ร.บ.สำรวจและห้ามกักกันข้าว ต้องเกี่ยวข้องกับการปฏิบัติหน้าที่
คำว่า"การกระทำผิดของเจ้าพนักงานอื่นใด" ตามพระราชบัญญัติสำรวจและห้ามกักกันข้าว (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2489 มาตรา 15(1) นั้นจะต้องเป็นการปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติการในหน้าที่ แต่ปรากฏในคดีนี้ว่าจำเลยเป็นเพียงเจ้าพนักงานตำรวจมีหน้าที่แต่เฉพาะขับรถยนต์ของทางราชการเท่านั้น การที่จำเลยสมคบกับพวกขนย้ายข้าวออกนอกเขตห้ามขนย้ายทางทะเลและพยายามนำออกไปนอกราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต จึงมิใช่เป็นการกระทำที่เกี่ยวกับการปฏิบัติการหรือละเว้นการปฏิบัติการในหน้าที่ของจำเลยแต่ประการใด ความผิดของจำเลยจึงไม่ต้องด้วย มาตรา 15(1) แห่ง พระราชบัญญัติสำรวจและห้ามกักกันข้าวที่แก้ไขดังกล่าว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1938-1945/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสูญเสียสัญชาติไทยโดยการได้รับใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว และหน้าที่ในการต่ออายุ
การขาดจากสัญชาติไทยตาม พ.ร.บ.สัญชาติ(ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2496 ++เป็นไปด้วยใจสมัคร
เมื่อบุคคลยังมีสัญชาติไทยอยู่ ก็มีหน้าที่ต้องมีใบสำคัญหรือต่ออายุใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว.
เมื่อบุคคลยังมีสัญชาติไทยอยู่ ก็มีหน้าที่ต้องมีใบสำคัญหรือต่ออายุใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1484/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตความรับผิดของนายจ้างต่อการกระทำละเมิดของลูกจ้าง นอกเหนือจากหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย
นายจ้างใช้ให้ลูกจ้างนำมะพร้าวไปส่งแก่ผู้ซื้อ ในระหว่างส่งมะพร้าวแก่กันนั้น ผู้ซื้อโต้เถียงด่าว่าลูกจ้าง ลูกจ้างโกรธจึงชกต่อยผู้ซื้อมีบาดเจ็บ ดังนี้ ถือว่าเป็นเหตุการณ์อีกเรื่องหนึ่ง มิใช่กิจการที่นายจ้างได้มอบให้ลูกจ้างไปกระทำ นายจ้างไม่ต้องรับผิดฐานละเมิดร่วมกับลูกจ้าง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 813/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตความรับผิดของผู้ค้ำประกันในสัญญาค้ำประกันการทำงานช่างทอง: ความเสียหายเฉพาะหน้าที่
ทำสัญญาค้ำประกันลูกจ้างซึ่งทำหน้าที่เป็นช่างทองของโจทก์โดยยอมรับผิดชดใช้ค่าเสียหายที่ลูกจ้างทำขึ้นนั้นย่อมหมายความว่าผู้ค้ำประกันยอมใช้ค่าเสียหายให้โจทก์ซึ่งเกิดจากการกระทำของลูกจ้างในหน้าที่การงานที่จ้างกันเท่านั้นหากจะให้ผู้ค้ำประกันรับผิดในประการอื่นนอกจากหน้าที่การงานที่จ้างเช่นเงินล่วงหน้าที่ลูกจ้างขอรับไปนั้นความรับผิดเช่นว่านี้ต้องกล่าวไว้ให้ชัดมิฉะนั้นผู้ค้ำประกันไม่ต้องรับผิด
ประเพณีเป็นข้อเท็จจริงที่ต้องนำสืบ อ้างว่าตามประเพณีช่างทองจะต้องรับเงินล่วงหน้าผู้ค้ำประกันจึงต้องรับผิดด้วยดังนี้เมื่อโจทก์ไม่สืบผู้ค้ำประกันจึงไม่ต้องรับผิด
ประเพณีเป็นข้อเท็จจริงที่ต้องนำสืบ อ้างว่าตามประเพณีช่างทองจะต้องรับเงินล่วงหน้าผู้ค้ำประกันจึงต้องรับผิดด้วยดังนี้เมื่อโจทก์ไม่สืบผู้ค้ำประกันจึงไม่ต้องรับผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 798/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทิ้งฟ้องในชั้นอุทธรณ์: การกำหนดระยะเวลาและหน้าที่ของคู่ความ
ในกรณีที่ผู้อุทธรณ์ยื่นอุทธรณ์.ศาลชั้นต้นเพียงแต่สั่งรับอุทธรณ์ส่งสำเนาอีกฝ่ายเพื่อแก้ แต่มิได้กำหนดวันให้ผู้อุทธรณ์จัดการส่งเมื่อปรากฏว่าผู้อุทธรณ์ไม่นำเจ้าพนักงานศาลส่งสำเนาฟ้องอุทธรณ์ให้แก่อีกฝ่ายหนึ่งเกินกำหนด 15 วัน ไป 6 วัน นับแต่วันศาลสั่งรับอุทธรณ์นั้นยังไม่พอถือว่าทิ้งฟ้องอุทธรณ์อันถึงกับจะให้จำหน่ายคดี
ส่วนกำหนดระยะเวลา 15 วัน ที่บัญญัติไว้ใน มาตรา 174 ข้อ 1 นั้นหมายความเฉพาะในชั้นยื่นฟ้องและขอหมายเรียกให้จำเลยแก้คดีเท่านั้น
ส่วนกำหนดระยะเวลา 15 วัน ที่บัญญัติไว้ใน มาตรา 174 ข้อ 1 นั้นหมายความเฉพาะในชั้นยื่นฟ้องและขอหมายเรียกให้จำเลยแก้คดีเท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 758/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การดูถูกเหยียดหยามผู้พิพากษาในหน้าที่ ถือเป็นความผิดหมิ่นประมาทเจ้าพนักงานตามมาตรา 116
การที่จำเลยกล่าวหมิ่นประมาทผู้พิพากษาว่า'อ้ายผู้พิพากษานี่ปรับกูหมื่นห้าพันได้กูจะต้องเตะมึง' ดังนี้เป็นการดูถูกเหยียดหยามพาดพิงถึงตำแหน่งราชการทำให้ผู้พิพากษาคนนั้นได้รับความอับอายเสียหาย จึงมีผิดฐานหมิ่นประมาทเจ้าพนักงานเพราะเหตุได้กระทำการตามหน้าที่ตาม มาตรา116