พบผลลัพธ์ทั้งหมด 931 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 289/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแต่งทนายความไม่สมบูรณ์ ศาลอนุญาตให้ว่าความได้ หากไม่มีผลกระทบต่อกระบวนการ
การที่คู่ความได้ลงลายมือชื่อเป็นผู้ตั้งทนายความแล้ว แต่ทนายมิได้ลงลายมือชื่อในฐานะเข้ารับเป็นทนายนั้น เป็นการบกพร่องที่เชื่อได้ว่าเกิดจากการพลั้งเผลอเพียงเล็กน้อย ศาลชั้นต้นได้ยินยอมให้ทนายว่าความและดำเนินกระบวนพิจารณาแทนตัวความตลอดมา ถือได้ว่าศาลชั้นต้นได้อนุญาตให้ทนายว่าความและดำเนินกระบวนพิจารณาแทนตัวความได้ การว่าคามและการดำเนินกระบวนการพิจารณาของทนายแทนตัวความจึงเป็นการชอบด้วยกระบวนพิจารณา.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1083/2509
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีเกี่ยวกับสินบริคณห์โดยไม่ได้รับอนุญาตจากสามี: ศาลอนุญาตฟ้องได้หากมีเหตุผลความจำเป็น
ภรรยาฟ้องคดีเรียกที่ดินอันเป็นสินบริคณห์จากบุคคลภายนอกโดยไม่ได้รับอนุญาตจากสามีเพราะคดีจะขาดอายุความ ถ้าปรากฏว่าสามีไม่ยอมอนุญาตโดยปราศจากเหตุอันสมควร ภรรยาย่อมขอให้ศาลสั่งอนุญาตให้ฟ้องคดีได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 667/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขคำให้การหลังศาลสั่งจำหน่ายคดีบางส่วนและการใช้ดุลพินิจของศาลในการอนุญาต
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 163 ให้โอกาสแก่โจทก์จำเลยที่จะขอแก้หรือเพิ่มเติมฟ้อง หรือคำให้การได้ก่อนศาลพิพากษา ในเมื่อมีเหตุอันสมควรแต่ถึงแม้จะมีเหตุอันสมควรดังที่โจทก์หรือจำเลยอ้างแล้วกฎหมายยังให้อยู่ในดุลพินิจของศาลอีกชั้นหนึ่งว่าสมควรจะอนุญาตหรือไม่
จำเลยที่ 1 ให้การรับสารภาพทั้งในชั้นสอบสวนและชั้นศาล ศาลชั้นต้นเห็นว่าเพื่อให้คดีเสร็จโดยรวดเร็วจึงจำหน่ายคดีเฉพาะจำเลยที่ 2 ที่ปฏิเสธและนัดตัดสินเนิ่นนานไปถึง 7 วัน เพื่อประสานกับคดีที่ให้โจทก์ยื่นฟ้องจำเลยที่ 2 ใหม่ ซึ่งถ้าศาลไม่สั่งเช่นนั้น จำเลยที่ 1 ก็จะถูกศาลพิพากษาลงโทษโดยไม่อาจยื่นคำให้การใหม่ ดังนี้เมื่อพิเคราะห์ประกอบกับความผิดและพฤติการณ์แห่งคดีแล้ว ไม่อนุญาตให้จำเลยแก้คำให้การ(อ้างนัยฎีกาที่ 555/2501)
จำเลยที่ 1 ให้การรับสารภาพทั้งในชั้นสอบสวนและชั้นศาล ศาลชั้นต้นเห็นว่าเพื่อให้คดีเสร็จโดยรวดเร็วจึงจำหน่ายคดีเฉพาะจำเลยที่ 2 ที่ปฏิเสธและนัดตัดสินเนิ่นนานไปถึง 7 วัน เพื่อประสานกับคดีที่ให้โจทก์ยื่นฟ้องจำเลยที่ 2 ใหม่ ซึ่งถ้าศาลไม่สั่งเช่นนั้น จำเลยที่ 1 ก็จะถูกศาลพิพากษาลงโทษโดยไม่อาจยื่นคำให้การใหม่ ดังนี้เมื่อพิเคราะห์ประกอบกับความผิดและพฤติการณ์แห่งคดีแล้ว ไม่อนุญาตให้จำเลยแก้คำให้การ(อ้างนัยฎีกาที่ 555/2501)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 361/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจำหน่ายไม้แปรรูปโดยไม่ได้รับอนุญาต: การพิจารณาเจตนาในการแปรรูปไม้เพื่อใช้ประโยชน์
ไม้ของกลางเป็นไม้สด ไม่มีรอยตราค่าภาคหลวงหรือรอยตรารัฐบาลขายแต่อย่างใด และไม่ปรากฏว่าจำเลยซื้อมาจากที่ไหนอย่างใด จำเลยได้เอาไม้ของกลางนี้มาฝังดินทำเป็นเสาเรือนโดยไม่ได้บากให้เป็นช่องรับไม้รอดที่ตียึดเสา กลับตีพุกประกับช่วย เป็นการแสดงเจตนาให้เห็นได้ว่าจำเลยเอามาทำเสาเรือนเพื่อพราง ไม่ใช่เพื่อให้เป็นเราเรือนอย่างถาวร ไม้ของกลางจึงยังไม่เป็นไม้แปรรูป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 360/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอนุญาตอุทธรณ์ต้องมีเหตุผลรองรับตามกฎหมาย หากไม่มีถือว่าไม่อนุญาต
ผู้พิพากษาผู้พิจารณาคดีในศาลแขวงได้มีคำสั่งในคดีซึ่งต้องห้ามอุทธรณ์ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวง ฯลฯ มาตรา 22 ว่า "รับเป็นอุทธรณ์โจทก์ร่วม สำเนาให้จำเลยแก้ใน 7 วัน" เพียงเท่านี้ยังไม่ถือว่าผู้พิพากษาผู้นั้นได้มีคำสั่งอนุญาตให้อุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง เพราะว่าในคำสั่งมิได้ชี้แจงแสดงเหตุผลว่า ข้อความที่ตัดสินเป็นปัญหาสำคัญอันควรสู่ศาลอุทธรณ์และมีคำสั่งอนุญาตให้อุทธรณ์ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1279/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต: ความผิดเฉพาะตัวของผู้ครอบครอง
การที่จำเลยที่ 1 รับจำนำอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยมิได้รับอนุญาต จึงเป็นความผิดเฉพาะตัวของจำเลยที่ 1 ตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯ มาตรา 7 โดยเฉพาะความผิดตามมาตรา 7 ผู้ฝ่าฝืนจะมีความผิดก็ต่อเมื่อมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ เมื่อปรากฏว่าจำเลยที่ 2 เป็นผู้ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนแล้วนำไปจำนำไว้กับจำเลยที่ 1 ดังนี้ การกระทำของจำเลยที่ 2 จึงไม่เป็นความผิดตามโจทก์ฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 935/2507
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำในความผิดฐานขายอาหารโดยไม่ได้รับอนุญาต การกระทำแต่ละคราวเป็นความผิดต่างกรรมต่างวาระ
การใช้สถานที่เอกชนทำการขายและสะสมอาหารโดยไม่ได้รับอนุญาตนั้น การกระทำแต่ละคราวย่อมเกิดเป็นความผิดได้
ในระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2505 ถึงวันที่ 9 กรกฎาคม 2505 จำเลยได้ใช้บ้านเรือนจำเลยทำการขายและสะสมอาหารโดยมิได้รับอนุญาต จำเลยได้ถูกฟ้องและศาลได้พิพากษาลงโทษจำเลยไปแล้ว ต่อมาในระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2505 ถึงวันที่ 27 ตุลาคม 2505 จำเลยได้ใช้บ้านเรือนจำเลยทำการขายและสะสมอาหารโดยมิได้รับอนุญาตอีก จำเลยจึงถูกฟ้องหาว่ากระทำผิดในครั้งหลังนี้อีก ดังนี้ การกระทำของจำเลยในครั้งหลังนี้เป็นการกระทำผิดต่างกรรมต่างวาระกับการกระทำผิดที่ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยไปแล้ว การกระทำของจำเลยไม่ใช่เป็นการกระทำครั้งเดียวคราวเดียวต่อเนื่องกันจึงไม่เป็นฟ้องซ้ำ
ในระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2505 ถึงวันที่ 9 กรกฎาคม 2505 จำเลยได้ใช้บ้านเรือนจำเลยทำการขายและสะสมอาหารโดยมิได้รับอนุญาต จำเลยได้ถูกฟ้องและศาลได้พิพากษาลงโทษจำเลยไปแล้ว ต่อมาในระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2505 ถึงวันที่ 27 ตุลาคม 2505 จำเลยได้ใช้บ้านเรือนจำเลยทำการขายและสะสมอาหารโดยมิได้รับอนุญาตอีก จำเลยจึงถูกฟ้องหาว่ากระทำผิดในครั้งหลังนี้อีก ดังนี้ การกระทำของจำเลยในครั้งหลังนี้เป็นการกระทำผิดต่างกรรมต่างวาระกับการกระทำผิดที่ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยไปแล้ว การกระทำของจำเลยไม่ใช่เป็นการกระทำครั้งเดียวคราวเดียวต่อเนื่องกันจึงไม่เป็นฟ้องซ้ำ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 424/2507 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชักลากไม้ผิดกฎหมาย แม้ไม่ได้ครอบครองไม้เอง ก็มีความผิดฐานชักลากโดยไม่ได้รับอนุญาต
ไม้ของกลางเป็นของแม่ยายจำเลย จำเลยเพียงรับจ้างหรือช่วยเหลือชักลาก ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยเป็นผู้มีไม้ของกลางไว้ในครอบครองอันจะต้องได้รับอนุญาตตามพระราชบัญญัติป่าไม้ แต่การที่จำเลยทำการชักลากไม้ของกลางโดยรู้อยู่ว่าไม้ของกลางเป็นไม้ผิดกฎหมายและไม่ได้รับอนุญาตให้ชักลาย จำเลยต้องมีความผิดฐานชักลายไม้ของกลางโดยไม่รับอนุญาต
แม้ทางพิจารณาได้ความว่าเป็นความผิดต่อเนื่องและกระทำต่อเนื่องกันในท้องที่ 2 ตำบลแต่โจทก์บรรยายฟ้องว่า เหตุเกิดที่ตำบลหนึ่งใน 2 ตำบลนั้นเพียงตำบลเดียว แันเป็นตำบลที่เจ้าพนักงานตำรวจพบการกระทำผิดของจำเลยและจับจำเลยได้ เช่นนี้ ฟ้องก็สมบูรณ์ และเมื่อจำเลยมิได้หลงต่อสู้ ก็ไม่เป็นเหตุให้ศาลพิพากษายกฟ้องโจทก์.
แม้ทางพิจารณาได้ความว่าเป็นความผิดต่อเนื่องและกระทำต่อเนื่องกันในท้องที่ 2 ตำบลแต่โจทก์บรรยายฟ้องว่า เหตุเกิดที่ตำบลหนึ่งใน 2 ตำบลนั้นเพียงตำบลเดียว แันเป็นตำบลที่เจ้าพนักงานตำรวจพบการกระทำผิดของจำเลยและจับจำเลยได้ เช่นนี้ ฟ้องก็สมบูรณ์ และเมื่อจำเลยมิได้หลงต่อสู้ ก็ไม่เป็นเหตุให้ศาลพิพากษายกฟ้องโจทก์.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 424/2507
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชักลากไม้ผิดกฎหมาย แม้รับจ้างแต่รู้ว่าเป็นไม้ผิดกฎหมาย มีความผิดฐานชักลากไม้โดยไม่ได้รับอนุญาต
ไม้ของกลางเป็นของแม่ยายจำเลย จำเลยเพียงรับจ้างหรือช่วยเหลือชักลากยังถือไม่ได้ว่าจำเลยเป็นผู้มีไม้ของกลางไว้ในครอบครองอันจะต้องได้รับอนุญาตตามพระราชบัญญัติป่าไม้ แต่การที่จำเลยทำการชักลากไม้ของกลางโดยรู้อยู่ว่าไม้ของกลางเป็นไม้ผิดกฎหมายและไม่ได้รับอนุญาตให้ชักลากจำเลยต้องมีความผิดฐานชักลากไม้ของกลางโดยไม่รับอนุญาต
แม้ทางพิจารณาได้ความว่า เป็นความผิดต่อเนื่องและกระทำต่อเนื่องกันในท้องที่ 2 ตำบล แต่โจทก์บรรยายฟ้องว่าเหตุเกิดที่ตำบลหนึ่งใน 2 ตำบลนั้นเพียงตำบลเดียว อันเป็นตำบลที่เจ้าพนักงานตำรวจพบการกระทำของจำเลยและจับจำเลยได้เช่นนี้ ฟ้องก็สมบูรณ์และเมื่อจำเลยมิได้หลงต่อสู้ก็ไม่เป็นเหตุให้ศาลพิพากษายกฟ้องโจทก์
แม้ทางพิจารณาได้ความว่า เป็นความผิดต่อเนื่องและกระทำต่อเนื่องกันในท้องที่ 2 ตำบล แต่โจทก์บรรยายฟ้องว่าเหตุเกิดที่ตำบลหนึ่งใน 2 ตำบลนั้นเพียงตำบลเดียว อันเป็นตำบลที่เจ้าพนักงานตำรวจพบการกระทำของจำเลยและจับจำเลยได้เช่นนี้ ฟ้องก็สมบูรณ์และเมื่อจำเลยมิได้หลงต่อสู้ก็ไม่เป็นเหตุให้ศาลพิพากษายกฟ้องโจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 363-393/2507
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ตลาดในวัดเป็นพื้นที่เอกชน การค้าโดยไม่ได้รับอนุญาตผิดเทศบัญญัติ
ตลาดที่จัดตั้งขึ้นในบริเวณวัดแม้จะได้รับอนุญาตให้จัดตั้งหรือไม่ก็ตาม ก็ยังเป็นสถานที่เอกชน ผู้ที่นำของไปขายในสถานที่นั้นโดยมิได้รับอนุญาตต่อเจ้าหน้าที่ของเทศบาลย่อมเป็นความผิดต่อเทศบัญญัติซึ่งออกตามพระราชบัญญัติสาธารณสุข พ.ศ.2484 มาตรา 50