คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
อำนาจศาล

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,218 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4578/2539

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุของจำเลยเป็นเหตุให้ศาลต้องโอนคดีไปยังศาลเยาวชนและครอบครัว แม้แจ้งอายุเท็จในชั้นสอบสวนและศาลชั้นต้น
จำเลยที่1ให้การต่อพนักงานสอบสวนตามบันทึกคำให้การรับสารภาพว่าเกิดเมื่อวันที่10พฤศจิกายน2518มีอายุ19ปีและเมื่อฟ้องศาลจำเลยที่1ก็แจ้งต่อศาลว่าอายุ19ปีโจทก์และศาลชั้นต้นจึงเข้าใจว่าอายุ19ปีไม่ทำให้การพิจารณาและพิพากษาคดีของศาลเสียไปเมื่อข้อเท็จจริงปรากฏในระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ว่าจำเลยที่1อายุ16ปีเศษศาลอุทธรณ์ต้องโอนคดีไปให้ศาลอุทธรณ์แผนกคดีเยาวชนและครอบครัวพิจารณาพิพากษาไม่ใช่ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4285/2539 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขาดนัดพิจารณาคดี: อำนาจไต่สวนและเพิกถอนคำสั่ง กรณีใบมอบฉันทะ
จำเลยที่ 1 ยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งไต่สวนและเพิกถอนคำสั่งที่สั่งว่าจำเลยที่ 1 ขาดนัดพิจารณาโดยอ้างว่าได้ทำใบมอบฉันทะมอบให้เสมียนทนายมาแล้ว แต่เสมียนทนายไม่ได้นำไปแสดงต่อศาลในการขอเลื่อนสืบพยานจำเลยเพราะหลงลืม ทั้งในคำร้องได้คัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลชั้นต้นไว้ด้วย คำร้องของจำเลยที่ 1 จึงชอบด้วย ป.วิ.พ. มาตรา 208 แล้ว การที่เสมียนทนายไม่ได้นำใบมอบฉันทะมาแสดงต่อศาลก็ดีหรือการที่เสมียนทนายปลอมใบมอบฉันทะก็ดีเป็นการกระทำของเสมียนทนายไม่เกี่ยวกับข้อเท็จจริงที่ว่าจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นฝ่ายขาดนัดมาศาลได้หรือไม่ ตาม ป.วิ.พ.มาตรา 209 ศาลชั้นต้นต้องทำการไต่สวนและมีคำสั่งต่อไปตามรูปคดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3946/2539 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พยานบอกเล่า & อำนาจศาลอุทธรณ์ - กรณีจำเลยขาดนัด
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 95 มิได้ห้ามโดยเด็ดขาดมิให้รับฟังพยานบอกเล่า หากพยานบอกเล่ากล่าวถึงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นอย่างมีเหตุผล ศาลย่อมใช้ดุลพินิจรับฟังพยานบอกเล่าดังกล่าวนั้นประกอบพยานหลักฐานอื่นได้
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสามร่วมกันชำระหนี้ในมูลละเมิดอันไม่อาจแบ่งแยกได้ เมื่อศาลอุทธรณ์เห็นว่าเหตุที่เกิดเพลิงไหม้ไม่ได้เกิดจากกระแสไฟฟ้าลัดวงจร จำเลยทั้งสามซึ่งเป็นเจ้าของผู้ครอบครองเครื่องวัดกระแสไฟฟ้าจึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ แม้จำเลยที่ 3 จะอุทธรณ์แต่เพียงผู้เดียว ศาลอุทธรณ์ย่อมมีอำนาจพิพากษาให้มีผลไปถึงจำเลยที่ 1 และที่ 2 ซึ่งขาดนัดยื่นคำให้การ ขาดนัดพิจารณาและมิได้อุทธรณ์ด้วยได้ตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 245 (1)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3946/2539 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับฟังพยานบอกเล่าและอำนาจศาลอุทธรณ์ในการพิพากษาคดีที่จำเลยขาดนัด
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา95มิได้ห้ามโดยเด็ดขาดมิให้รับฟังพยานบอกเล่าหากพยานบอกเล่ากล่าวถึงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นอย่างมีเหตุผลศาลย่อมใช้ดุลพินิจรับฟังพยานบอกเล่าดังกล่าวนั้นประกอบพยานหลักฐานอื่นได้ โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสามร่วมกันชำระหนี้ในมูลละเมิดอันไม่อาจแบ่งแยกได้เมื่อศาลอุทธรณ์เห็นว่าเหตุที่เกิดเพลิงไหม้ไม่ได้เกิดจากกระแสไฟฟ้าลัดวงจรจำเลยทั้งสามซึ่งเป็นเจ้าของผู้ครอบครองเครื่องวัดกระแสไฟฟ้าจึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์แม้จำเลยที่3จะอุทธรณ์แต่เพียงผู้เดียวศาลอุทธรณ์ย่อมมีอำนาจพิพากษาให้มีผลไปถึงจำเลยที่1และที่2ซึ่งขาดนัดยื่นคำให้การขาดนัดพิจารณาและมิได้อุทธรณ์ด้วยได้ตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา245(1)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3512/2539 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตคำพิพากษาผูกพันบุคคลภายนอก & อำนาจศาลบังคับคดีตามคำพิพากษาเดิม
คำสั่งศาลชั้นต้นลงวันที่29มีนาคม2537ที่ว่าคำพิพากษาไม่ผูกพันบุคคลภายนอกแม้จะเป็นผู้ได้รับประโยชน์จากคำพิพากษาในคดีนี้คำพิพากษาจึงไม่ผูกพันท.นั้นเป็นคำสั่งเกี่ยวกับบุคคลภายนอกซึ่งมิได้เป็นคู่ความในกระบวนพิจารณาของศาลว่าคำพิพากษาไม่ผูกพันบุคคลภายนอกส่วนคำสั่งศาลชั้นต้นลงวันที่27เมษายน2537ที่ว่าคู่ความทุกฝ่ายมีหน้าที่ต้องปฏิบัติคำพิพากษาผู้ร้องที่2ไม่มีอำนาจแจ้งอายัดมิให้เจ้าพนักงานที่ดินปฏิบัติตามคำพิพากษาผู้ร้องทั้งสองไม่มีอำนาจคัดค้านมิให้จดทะเบียนใส่ชื่อท.ถือกรรมสิทธิ์ร่วมด้วยและให้เจ้าพนักงานที่ดินจดทะเบียนที่ดินพิพาทด้านทิศเหนือเนื้อที่26ไร่ใส่ชื่อผู้ร้องทั้งสองและท.ร่วมกันโดยมิต้องระบุส่วนแบ่งของแต่ละคนนั้นเป็นคำสั่งเกี่ยวกับคู่ความที่มิได้ปฏิบัติตามคำพิพากษาและคู่ความอีกฝ่ายร้องขอให้บังคับคดีตามคำพิพากษาจึงเป็นคนละเรื่องคนละประเด็นกันกรณีมิใช่ได้มีคำพิพากษาหรือคำสั่งวินิจฉัยชี้ขาดคดีหรือในประเด็นข้อใดข้อหนึ่งแห่งคดีแล้วดำเนินกระบวนการพิจารณาในศาลนั้นอันเกี่ยวกับคดีหรือประเด็นที่ได้วินิจฉัยชี้ขาดนั้นอันจะต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา144

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3512/2539

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลในการบังคับตามคำพิพากษาและการแยกแยะคู่ความ/บุคคลภายนอกในคดี
คำสั่งศาลชั้นต้นลงวันที่29มีนาคม2537ที่ว่าคำพิพากษาไม่ผูกพันบุคคลภายนอกแม้จะเป็นผู้ได้รับประโยชน์จากคำพิพากษาในคดีนี้คำพิพากษาจึงไม่ผูกพันท.นั้นเป็นคำสั่งเกี่ยวกับบุคคลภายนอกซึ่งมิได้เป็นคู่ความในกระบวนพิจารณาของศาลว่าคำพิพากษาไม่ผูกพันบุคคลภายนอกส่วนคำสั่งศาลชั้นต้นลงวันที่27เมษายน2537ที่ว่าคู่ความทุกฝ่ายมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามคำพิพากษาผู้ร้องที่2ไม่มีอำนาจแจ้งอายัดมิให้เจ้าพนักงานที่ดินปฏิบัติตามคำพิพากษาผู้ร้องทั้งสองไม่มีอำนาจคัดค้านมิให้จดทะเบียนใส่ชื่อท. ถือกรรมสิทธิ์ร่วมด้วยและให้เจ้าพนักงานที่ดินจดทะเบียนโอนที่ดินพิพาทด้านทิศเหนือเนื้อที่26ไร่ใส่ชื่อผู้ร้องทั้งสองและท.ร่วมกันโดยมิต้องระบุส่วนแบ่งของแต่ละคนนั้นเป็นคำสั่งเกี่ยวกับคู่ความที่มิได้ปฏิบัติตามคำพิพากษาและคู่ความอีกฝ่ายร้องขอให้บังคับคดีตามคำพิพากษาจึงเป็นคนละเรื่องคนละประเด็นกันกรณีมิใช่ได้มีคำพิพากษาหรือคำสั่งวินิจฉัยชี้ขาดคดีหรือในประเด็นข้อใดข้อหนึ่งแห่งคดีแล้วดำเนินกระบวนพิจารณาในศาลนั้นอันเกี่ยวกับคดีหรือประเด็นที่ได้วินิจฉัยชี้ขาดนั้นอันจะต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา144

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 327/2539

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจัดการมรดก: อำนาจศาลในการถอดถอน/แต่งตั้งผู้จัดการมรดกใหม่เมื่อมีพฤติการณ์เปลี่ยนแปลง
แม้จะมีข้อกำหนดในพินัยกรรมให้ตั้งผู้ร้องที่1ถึงที่4เป็นผู้จัดการมรดกและศาลมีคำสั่งให้ผู้ร้องทั้งสี่ร่วมกันเป็นผู้จัดการมรดกแล้วเมื่อปรากฏต่อมาในภายหลังว่าพฤติการณ์เปลี่ยนแปลงไปศาลมีอำนาจถอดถอนหรือสั่งตั้งผู้จัดการมรดกตามคำสั่งศาลเพิ่มเติมได้เพื่อประโยชน์แก่กองมรดกและเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ทายาทผู้มีสิทธิรับมรดก แม้ศาลยกคำร้องของค. ที่ร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกแล้วแต่ผู้มีส่วนได้เสียในทรัพย์มรดกคนอื่นร้องขอต่อศาลให้ตั้งค.เป็นผู้จัดการมรดกก็เป็นสิทธิที่จะกระทำได้ไม่ขัดต่อประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1713 การที่บุคคลใดเคยถูกศาลพิพากษาลงโทษมิใช่เหตุที่จะเป็นผู้จัดการมรดกไม่ได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1718

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2769/2539 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลในการงดบังคับคดี: ศาลที่พิจารณาคดีชั้นต้นมีอำนาจชี้ขาดคำร้องเท่านั้น
คำร้องที่ขอให้ศาลงดการบังคับคดีเป็นคำร้องที่เกี่ยวเนื่องกับการบังคับคดี ศาลที่มีอำนาจทำคำวินิจฉัยชี้ขาดคำร้องคือศาลแพ่งซึ่งเป็นศาลที่พิจารณาและชี้ขาดตัดสินคดีนี้ในศาลชั้นต้นตามบทบัญญัติแห่ง ป.วิ.พ. มาตรา 302วรรคหนึ่ง ศาลจังหวัดตราด ซึ่งเป็นศาลที่ได้รับมอบหมายจากศาลแพ่งให้ดำเนินการบังคับคดียึดทรัพย์โดยขายทอดตลาดแทนไม่มีอำนาจสั่งให้งดการบังคับคดีตามคำร้องของผู้ร้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2769/2539

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลในการสั่งงดการบังคับคดี: ศาลที่ได้รับมอบหมายบังคับคดีแทนศาลต้นสังกัด ไม่มีอำนาจสั่งงดการบังคับคดี
คำร้องที่ขอให้ศาลงดการบังคับคดีเป็นคำร้องที่เกี่ยวเนื่องกับการบังคับคดีศาลที่มีอำนาจทำคำวินิจฉัยชี้ขาดคำร้องคือศาลแพ่งซึ่งเป็นศาลที่พิจารณาและชี้ขาดตัดสินคดีนี้ในศาลชั้นต้นตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา302วรรคหนึ่งศาลจังหวัดตราดซึ่งเป็นศาลที่ได้รับมอบหมายจากศาลแพ่งให้ดำเนินการบังคับคดียึดทรัพย์โดยขายทอดตลาดแทนไม่มีอำนาจสั่งให้งดการบังคับคดีตามคำร้องของผู้ร้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2380/2539

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การริบรถยนต์ที่ใช้ในการแข่งรถโดยไม่ได้รับอนุญาต ศาลมีอำนาจริบได้ตามกฎหมาย
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยขับรถยนต์แข่งในทางโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานจราจรเจ้าพนักงานตำรวจจับจำเลยได้พร้อมยึดรถยนต์ดังกล่าวเป็นของกลางเมื่อจำเลยให้การรับสารภาพข้อเท็จจริงจึงฟังเป็นยุติได้ตามคำฟ้องและคำให้การของจำเลยว่ารถยนต์ ของกลางเป็นทรัพย์ที่ใช้ในการกระทำความผิดศาลมีอำนาจพิพากษาริบได้ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา33(1)
of 222