คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ยินยอม

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 676 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 272/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้เช่าช่วงไม่ยินยอมตามคำพิพากษา: ความรับผิดชอบเฉพาะตัวและขอบเขตการบังคับ
ศาลพิพากษาให้ผู้เช่าที่ดินและบริวารออกจากที่ดินที่เช่าและให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างในที่ดินดังกล่าวไปให้เสร็จภายในกำหนดเวลา ดังนี้ เมื่อตัวผู้เช่าที่ดินได้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างของผู้เช่าเองออกไปหมดแล้ว แต่ผู้เช่าช่วงที่ดินรายนี้ ซึ่งการเช่าช่วงไม่ได้รับความยินยอมจากเจ้าของที่ดินจึงตกเป็นบริวารของผู้เช่าด้วยนั้น ไม่ยอมรื้อสิ่งปลูกสร้างของผู้เช่าช่วงออกไป เช่นนี้โจทก์ควรขอให้ศาลหมายเรียกผู้เช่าช่วงนั้น มาจัดการว่ากล่าวบังคับให้ปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาล เพราะเป็นเรื่องเฉพาะตัวผู้เช่าช่วง ไม่ใช่เรื่องที่ผู้เช่าขัดขืนไม่ทำตามคำบังคับของศาล ฉะนั้นจะถือว่าผู้เช่าฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำบังคับของศาลไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 164/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเช่าช่วงที่ผู้ให้เช่าเดิมยินยอม ผู้เช่าช่วงมีหน้าที่รับผิดต่อผู้ให้เช่าเดิมโดยตรง ไม่ใช่บริวารของผู้เช่า
การเช่าช่วงโดยผู้ให้เช่าเดิมยินยอมนั้น ผู้เช่าช่วงย่อมต้องรับผิดต่อให้เช่าเดิมโดยตรงตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 545 ผู้เช่าช่วงจึงหาใช่เป็นบริวารของผู้เช่าไม่
ฟ้องขับไล่ผู้เช่าออกจากที่เช่าแต่ลำพัง โดยไม่ได้ฟ้องผู้เช่าช่วงเป็นจำเลยด้วย แม้ศาลจะพิพากษาขับไล่ผู้เช่าออกจากที่เช่าแล้วก็ดี ถ้าการเช่าช่วงนั้น ได้กระทำไปโดยผู้ให้เช่าเดิมยินยอมแล้ว โจทก์จะขอให้ขับไล่ผู้เช่าช่วงในฐานะเป็นบริวารของผู้เช่าซึ่งเป็นจำเลยไม่ได้ ชอบที่จะว่ากล่าวกันต่างหากจากคดีนี้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 164/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเช่าช่วงที่ผู้ให้เช่าเดิมยินยอม: ผู้เช่าช่วงมีสิทธิและหน้าที่ต่อผู้ให้เช่าเดิมโดยตรง
การเช่าช่วงโดยผู้ให้เช่าเดิมยินยอมนั้น ผู้เช่าช่วงย่อมต้องรับผิดต่อผู้ให้เช่าเดิมโดยตรงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 545ผู้เช่าช่วงจึงหาใช่เป็นบริวารของผู้เช่าไม่
ฟ้องขับไล่ผู้เช่าออกจากที่เช่าแต่ลำพัง โดยไม่ได้ฟ้องผู้เช่าช่วงเป็นจำเลยด้วย แม้ศาลจะพิพากษาขับไล่ผู้เช่าออกจากที่เช่าแล้วก็ดี ถ้าการเช่าช่วงนั้น ได้กระทำไปโดยผู้ให้เช่าเดิมยินยอมแล้ว โจทก์จะขอให้ขับไล่ผู้เช่าช่วงในฐานะเป็นบริวารของผู้เช่าซึ่งเป็นจำเลยไม่ได้ชอบที่จะว่ากล่าวกันต่างหากจากคดีนี้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1398/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจ่ายโบนัสและหักเงินเดือนลูกจ้าง: นายจ้างต้องจ่ายโบนัสเมื่อเลิกจ้างโดยมิได้มีบกพร่อง และห้ามหักเงินเดือนเพื่อชำระหนี้บุคคลอื่นเว้นแต่ลูกจ้างยินยอม
นายจ้างเลิกจ้างลูกจ้างโดยลูกจ้างมิได้มีความบกพร่องในหน้าที่การงานที่นายจ้างจ้างทำ อันจะเป็นเหตุให้นายจ้างงดจ่ายโบนัสตามที่ได้ตกลงกันไว้แล้ว นายจ้างก็จะต้องจ่ายเงินโบนัสให้ลูกจ้าง
นายจ้างไม่มีสิทธิหักเงินเดือนของลูกจ้างไว้เพื่อใช้หนี้ที่ลูกจ้างเป็นลูกหนี้คนอื่นอยู่ เว้นแต่ลูกจ้างจะตกลงยินยอมให้หักเงินเดือนตนไว้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1323/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ยินยอมให้ผู้ไม่มีใบอนุญาตขับรถ: ความรับผิดทางอาญาและ พ.ร.บ.รถยนต์
จำเลยยินยอมให้ผู้อื่น ซึ่งไม่มีใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ ขับรถยนต์คันที่จำเลยขับ โดยจำเลยนั่งไปด้วยแล้วผู้นั้นขับโดยประมาท เป็นเหตุให้รถชนกับรถคันอื่น มีคนบาดเจ็บสาหัส ดังนี้
จะเอาผิดแก่จำเลยฐานขับรถโดยประมาททำให้คนบาดเจ็บสาหัสไม่ได้ เพราะจำเลยมิได้ขับ และจะปรับเอาผิดฐานขับรถโดยประมาททำให้คนบาดเจ็บสาหัสก็ไม่ได้ เพราะความผิดในฐานที่ทำให้คนบาดเจ็บสาหัสโดยประมาทเป็นการกระทำอีกคั่นหนึ่งต่างหาก ซึ่งเกิดขึ้นจากความประมาทของผู้รับเอง จะถือว่าเป็นการสมคบหรือสมรู้กันกระทำมิได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1323/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้ยินยอมให้ผู้อื่นขับรถประมาท ไม่ต้องรับผิดฐานขับรถประมาท
จำเลยยินยอมให้ผู้อื่น ซึ่งไม่มีใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ขับรถยนต์คันที่จำเลยขับ โดยจำเลยนั่งไปด้วย แล้วผู้นั้นขับโดยประมาท เป็นเหตุให้รถชนกับรถคันอื่น มีคนบาดเจ็บสาหัส ดังนี้ จะเอาผิดแก่จำเลยฐานขับรถโดยประมาททำให้คนบาดเจ็บสาหัสไม่ได้ เพราะจำเลยมิได้ขับและจะปรับเอาผิดฐานสมคบหรือสมรู้ในฐานขับรถโดยประมาททำให้คนบาดเจ็บสาหัสก็ไม่ได้ เพราะความผิดในฐานที่ทำให้คนบาดเจ็บสาหัสโดยประมาทเป็นการกระทำอีกครั้งหนึ่งต่างหากซึ่งเกิดขึ้นจากความประมาทของผู้ขับเอง จะถือว่าเป็นการสมคบหรือสมรู้กันกระทำมิได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1037/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขายฝากเรือนซ้ำ: สิทธิจำเลยเมื่อสามีให้ความยินยอม
ภรรยาเอาเรือนไปขายฝากแก่จำเลยไว้ โดยสามีได้ให้ความยินยอม ครั้นครบกำหนดไถ่ถอนตามสัญญาแล้ว ภรรยากลับขอทำสัญญาต่อใหม่อีก จำเลยก็ยินยอม ทางอำเภอจึงทำสัญญาขายฝากขึ้นอีกฉบับหนึ่ง ดังนี้ ถือได้ว่า การทำสัญญาขายฝากครั้งที่ 2 นี้เป็นแต่เพียงพิธีการสำหรับยืดอายุสิทธิการไถ่ถอนออกไปอีก เท่านั้น ต้องถือว่าเป็นการขายฝากรายเดียวกันซึ่งสามีได้ยินยอมตกลงอนุญาตให้ทำนิติกรรมนั้นแล้ว และถ้าสามีจะอ้างว่าการทำขายฝากครั้งที่ 2 คือยืดอายุการไถ่ถอน ไม่ได้รับอนุญาตจากสามี ขอให้เพิกถอนเสีย กรรมสิทธิ์ในทรัพย์ที่ขายฝากก็ย่อมตกได้แก่จำเลยบริบูรณ์ตั้งแต่ครบกำหนดการไถ่ถอนตามสัญญาครั้งแรกแล้ว จำเลยจึงย่อมบังคับให้เปลี่ยนแก้ทะเบียนเรือนให้จำเลยเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 770/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงใหม่หลังผิดสัญญาเช่า และการยินยอมให้เลิกสัญญาเช่าตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
ผู้เช่าผิดสัญญาเช่าที่ทำไว้กับผู้ให้เช่า จึงตกลงกับผู้ให้เช่าใหม่ โดยบันทึกข้อตกลงใหม่นี้ในด้านหลังสัญญาเช่าเดิมว่า ผู้เช่าจะทาสีน้ำมันภายในบ้านที่เช่าให้ภายใน 1 ปี ถ้าผิดสัญญายอมออกทันทีโดยไม่เรียกค่าเสียหายใด ๆดังนี้ เมื่อครบกำหนด 1 ปีแล้ว ผู้เช่ายังไม่ทาสีบ้านเช่าให้ ก็ต้องถือว่าผู้เช่าเลือกปฏิบัติในทางที่จะออกจากบ้านเช่าไปหรือนัยหนึ่งเป็นอันถือได้ว่าผู้ให้เช่าได้รับความยินยอมของผู้เช่าในอันที่จะเลิกใช้หรือได้รับประโยชน์ในทรัพย์สินที่เช่าตามความหมายของ พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯ2489 มาตรา 16(5) แล้ว จึงมีสิทธิฟ้องขับไล่ผู้เช่าออกจากเคหะที่เช่าได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 571/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยินยอมให้เข้าอยู่อาศัยและสิทธิในการฟ้องขับไล่: คำให้การเคลือบคลุมทำให้จำเลยไม่อาจสืบได้
มติคณะกรรมการควบคุมค่าเช่ามีว่า 'คณะกรรมการควบคุมค่าเช่าได้พิจารณาแล้วเห็นว่าท่านมีความจำเป็นจะต้องเข้าอยู่อาศัยกับทั้งท่านได้ให้คำมั่นว่าจะจัดการให้ผู้เช่าได้เข้าไปอยู่ในเคหะที่บิดามารดาของท่านเช่าอยู่ในปัจจุบันนี้ จึงลงมติให้ความยินยอมแก่ท่านในอันที่จะเข้าอยู่อาศัยในตึกแถวเลขที่ 60-61 ได้ตามขอ' และยังปรากฏในรายงานพิจารณาของศาลอีกว่า โจทก์ได้ยินยอมให้จำเลย(ผู้เช่า) อยู่ในบ้านบิดามารดาหากจำเลยไม่ยอมเข้าอยู่เองโดยอ้างว่าจะต้องอยู่ในฐานะเช่าไม่ใช่ฐานะอาศัยซึ่งโจทก์ได้แถลงต่อไปว่า จะให้เช่าไม่ได้เพราะโจทก์และบิดามารดาไม่ใช่เจ้าของกรรมสิทธิ์สถานที่ และโจทก์จะไม่ขับไล่จำเลยเป็นอันขาด เช่นนี้จะถือว่าโจทก์ปฏิบัติผิดคำสั่งคณะกรรมการมิได้ ฉะนั้นโจทก์จึงมีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลยออกจากตึกเช่าที่กล่าวแล้วได้
จำเลยให้การข้อหนึ่งว่าคำสั่งคณะกรรมการจะครบองค์ประชุมตาม กฎหมายหรือไม่ จำเลยไม่ทราบนั้น ถือว่าเป็นคำให้การเคลือบคลุม เพราะมิได้แสดงให้แจ้งชัดว่าจะรับหรือปฏิเสธ ฉะนั้นศาลจึงไม่ยอมให้จำเลยนำสืบได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 521/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนี้ร่วมสามีภรรยา: การยินยอมถือเป็นสัตยาบันตามกฎหมาย
สามีได้ลงชื่อให้ความยินยอมไว้ในสัญญาซึ่งภรรยาเป็นผู้กู้นั้นเป็นหลักฐานพอให้ถือได้ว่า เป็นหนี้ร่วมตามความในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1482(4) ซึ่งบัญญัติว่า 'หนี้ที่สามีหรือภริยาก่อขึ้นเพื่อประโยชน์ตนฝ่ายเดียว แต่อีกฝ่ายหนึ่งได้ให้สัตยาบัน' เพราะการที่สามีหรือภริยากระทำเช่นนี้ ก็เช่นเดียวกับการรับรองหรือให้สัตยาบันตามความหมายของกฎหมายมาตรานี้แล้ว และในกรณีเช่นนี้ถ้าเจ้าหนี้ฟ้องขอให้ล้มละลายแล้ว ทั้งสามีและภรรยาอาจถูกศาลมีคำสั่งให้พิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดได้ทั้ง 2 คน
of 68