คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
อนุญาต

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 931 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 293/2507 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาหลบหนีเป็นสำคัญ: ผู้ป่วยจิตเวชได้รับอนุญาตไปรักษา ไม่ถือหลบหนี
ความผิดฐานหลบหนีระหว่างที่ถูกคุมขังตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 190 นั้นจะต้องมีเจตนาหลบหนีด้วย ฉะนั้น เมื่อจำเลยซึ่งเป็นนักโทษต้องคุมขังตามอำนาจของศาลป่วยเป็นโรคประสาท ได้รับอนุญาตจากพัศดีให้ไปรักษาตัว ณ โรงพยาบาลนอกเรือนจำโดยมีผู้คุมไปด้วย แม้ขณะกลับเรือนจำจะไม่มีผู้คุมควบคุมตัวจำเลยก็ตาม จำเลยก็ยังหามีความผิดฐานหลบหนีที่คุมขังไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 166/2507

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงต้องได้รับอนุญาตจากศาลอุทธรณ์
คดีอาญา ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนให้ยกฟ้องโจทก์โดยอาศัยข้อเท็จจริง แม้ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์นายหนึ่งจะมีความเห็นแย้งในข้อเท็จจริงไว้ ก็ต้องมีการอนุญาตให้ฎีกาได้อีกชั้นหนึ่งจึงจะฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1150/2507 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแปรรูปและครอบครองไม้แปรรูปโดยไม่ได้รับอนุญาตตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ แม้ได้รับอนุญาตทำไม้แล้ว ก็ต้องขออนุญาตแปรรูปอีก
ไม้ซึ่งแต่แรกจำเลยได้รับอนุญาตให้ทำ และมีไว้โดยชอบนั้น ถ้าจำเลยจะมีไม้นั้นซึ่งได้แปรรูปแล้วไว้ในครอบครองต่อไป จำเลยก็ต้องได้รับอนุญาตอีกชั้นหนึ่ง ฉะนั้นเป็นผิดตามาตรา 48 การถากซ้อมไม้นั้นเป็น+ โดยไม่ได้ขออนุญาตไม่เข้าข้อยกเว้นตามมาตรา 50(1) จำเลยจึงมีความผิดฐานแปรรูปไม้ตามมาตรา 48 ด้วย และไม้นั้นเป็นไม้ที่มีไว้เนื่องจากการกระทำผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ฯ ต้องริบตามมาตรา 74(อ้างฎีกาที่ 1551/2497)
จำเลยกระทำผิด 2 กระทง คือ ฐานแปรรูปไม้โดยไม่ได้รับอนุญาต และฐานมีไม้แปรรูปโดยไม่ได้รับอนุญาต ศาลล่างลงโทษจำคุก 6 เดือน ปรับ 2,000 บาท แล้วลดรับสารภาพ ก็เห็นได้ว่าลงโทษมาเฉพาะกระทงเดียว ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา73(2) แก้ไขโดย(ฉบับที่ 4) พ.ศ.2503 จึงชอบด้วยประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91 แล้ว เพราะความผิดแต่ละกระทงโทษหนักเท่ากัน ศาลจะลงโทษกระทงใดกระทงหนึ่งแต่กระทงเดียวก็ได้ (อ้างฎีกาที่ 167/2507)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1150/2507

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแปรรูปและครอบครองไม้แปรรูปโดยไม่ได้รับอนุญาตตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ ถือเป็นความผิด 2 กระทง ศาลลงโทษกระทงเดียวได้
ไม้ซึ่งแต่แรกจำเลยได้รับอนุญาตให้ทำ และมีไว้โดยชอบนั้นถ้าจำเลยจะมีไม้นั้นซึ่งได้แปรรูปแล้วไว้ในครอบครองต่อไป จำเลยก็ต้องได้รับอนุญาตอีกชั้นหนึ่ง มิฉะนั้นเป็นผิดตามมาตรา 48 การถากซ้อมไม้นั้นเป็นเสาโดยไม่ได้ขออนุญาต ไม่เข้าข้อยกเว้นตามมาตรา 50(1)จำเลยจึงมีความผิดฐานแปรรูปไม้ตามมาตรา 48 ด้วย และไม้นั้นเป็นไม้ที่มีไว้เนื่องจากการกระทำผิดพระราชบัญญัติป่าไม้ฯต้องริบตามมาตรา 74(อ้างฎีกาที่ 1551/2497)
จำเลยกระทำผิด 2 กระทง คือ ฐานแปรรูปไม้โดยไม่ได้รับอนุญาตและฐานมีไม้แปรรูปโดยไม่ได้รับอนุญาต ศาลล่างลงโทษจำคุก 6 เดือน ปรับ 2,000 บาท แล้วลดรับสารภาพ ก็เห็นได้ว่า ลงโทษมาเฉพาะกระทงเดียว ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 73(2) แก้ไขโดย (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2503 จึงชอบด้วยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 แล้ว เพราะความผิดแต่ละกระทง โทษหนักเท่ากัน ศาลจะลงโทษกระทงใดกระทงหนึ่งแต่กระทงเดียวก็ได้ (อ้างฎีกาที่ 167/2507)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1090/2507

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้ประกอบกิจการประกันภัยโดยไม่ได้รับอนุญาต: ความรับผิดเฉพาะตัว
พระราชบัญญัติควบคุมกิจการค้าขายอันกระทบถึงความปลอดภัยหรือผาสุกแห่งสาธารณชนพ.ศ.2471 มาตรา 7 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติควบคุมกิจการค้าขายอันกระทบถึงความปลอดภัยหรือผาสุกแห่งสาธารณชน(ฉบับที่ 3) พ.ศ.2499 มาตรา 3 นั้น มุ่งประสงค์จะลงโทษผู้ประกอบกิจการประกันภัยโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นการเฉพาะตัวผู้กระทำผิดจะต้องเป็นผู้ประกอบกิจการประกันภัยเอง ผู้กระทำการเพียงเป็นตัวแทนหรือนายหน้าไม่มีความผิด เมื่อจำเลยเป็นแต่เพียงตัวแทนหรือนายหน้าหาลูกค้าเท่านั้นโจทก์จะฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามบทกฎหมายดังกล่าวไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1070/2507

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาอนุญาตค้าวิทยุโทรทัศน์ขัดกฎหมาย: การโอนอำนาจทำการค้าให้ผู้อื่นที่ไม่ได้รับอนุญาตเป็นโมฆะ
ผู้มีสิทธิผูกขาดการค้าเครื่องรับวิทยุโทรทัศน์ตามกฎหมายแต่ได้ทำสัญญาอนุญาตหรือมอบให้ผู้อื่นสั่งเครื่องรับวิทยุโทรทัศน์เข้ามาจำหน่ายอีกต่อหนึ่งโดยเรียกเอาผลประโยชน์นั้น ไม่ใช่เป็นเรื่องตัวการตั้งตัวแทนแต่เป็นการโอนอำนาจในการค้าดังกล่าวให้ผู้ที่ไม่มีอำนาจทำการค้าไปทำการค้า อันเป็นการฝ่าฝืนต่อพระราชบัญญัติวิทยุฯ มาตรา 8 และมาตรา 20 สัญญานี้จึงมีวัตถุประสงค์เป็นการต้องห้ามชัดแจ้งโดยกฎหมาย เป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 113 ฟ้องเรียกเงินตามสัญญาไม่ได้ (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 28/2507)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1055/2507

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำไม้ในป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต การบรรยายฟ้อง และขอบเขตการบังคับใช้มาตรา 39 พ.ร.บ.ป่าไม้
โจทก์บรรยายฟ้องว่า "ฯลฯ จำเลยนี้บังอาจทำไม้โดยตัดฟัน ฯลฯ ไม้เต็ง ฯลฯ อันเป็นไม้หวงห้ามประเภท ก. ตามพระราชกฤษฎีกากำหนดไม้หวงห้าม พ.ศ.2505 ฯลฯ โดยมิได้รับอนุญาต ฯลฯ" ถือได้ว่าครบถ้วนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5) แล้ว หาจำต้องบรรยายโดยใช้คำว่า "ในป่า" ประกอบคำว่า "ทำไม้" หรือ"ตัดฟันไม้" ด้วยไม่
พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 39 นั้น บังคับเฉพาะการนำไม้ที่ทำออกตามใบอนุญาตเคลื่อนที่ภายหลังที่ได้นำไปถึงที่อันระบุไว้ในใบอนุญาต หรือการนำไม้ที่ทำออกโดยไม่ต้องรับอนุญาตเคลื่อนที่ภายหลังไปถึงด่านป่าไม้ด่านแรกตามความในมาตรา 38 เท่านั้น ส่วนการนำไม้หวงห้ามที่ทำโดยไม่ได้รับอนุญาตเคลื่อนที่ หาเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 39 ไม่ (อ้างฎีกาที่ 1018/2496 และฎีกาที่ 341/2498)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1006/2507 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ไม้แปรรูปvs.เครื่องใช้: การพิจารณาความผิดฐานมีไม้สักแปรรูปโดยไม่ได้รับอนุญาต แม้จะทำเป็นบานหน้าต่างแล้ว
บานหน้าต่างไม้สักของกลางจำนวน 22 บาน ซึ่งเป็นบานโกลน ยังไม่ทำบังใบเพื่อให้เป็นบานซ้ายบานขวา ทั้งเจ้าพนักงานจับได้ขณะที่จำเลยบรรทุกบานหน้าต่างเหล่านั้นขึ้นรถยนต์จะนำไปยังที่อื่นในยามวิกาล ประมาณ1.00 น. ดังนี้ บานหน้าต่างไม้สักของกลางนั้น หาใช่เป็นบานหน้าต่างสำเร็จรูปที่มีสภาพเป็นเครื่องใช้ไม่ เมื่อจำเลยมีไว้โดยมิได้รับอนุญาตจำเลยก็ย่อมมีความผิดฐานมีไม้สักแปรรูปไว้ในความครอบครอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 501-502/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขุดทำลายทำนบโดยได้รับอนุญาตจากกำนันเพื่อระบายน้ำ ไม่ถือว่าทำให้เสียทรัพย์
จำเลยขุดทำลายทำนบของผู้อื่นเพื่อระบายน้ำไม่ให้ท่วมทางตามคำสั่งของกำนัน โดยเจ้าของทำนบได้ตกลงไว้กับทางอำเภอรับจะระบายน้ำให้แล้ว ย่อมจะฟังว่าจำเลยกระทำผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 475/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การมีเนื้อสุกรจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต การริบของกลาง
การมีไว้ซึ่งเนื้อสุกรเพื่อจำหน่ายทั้งตัวนั้นพระราชบัญญัติควบคุมการฆ่าสัตว์และจำหน่ายเนื้อสัตว์ พ.ศ.2502 มาตรา 16 บัญญัติห้ามไว้เฉพาะเมื่อไม่มีใบอนุญาตให้ฆ่ากำกับการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่มีใบอนุญาตเช่นนี้ความผิดจึงอยู่ที่ไม่มีใบอนุญาต ส่วนเนื้อสุกรย่อมถือไม่ได้ว่าเป็นทรัพย์ที่มีไว้เป็นความผิด จึงไม่อยู่ในข่ายที่จำต้องริบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32
of 94