คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
กรรมเดียว

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 846 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2092/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมเดียวผิดหลายบท: ใช้เอกสารปลอมขอแลกเงิน ธ.กรุงเทพ ต้องใช้บทหนัก
โจทก์บรรยายฟ้องไว้ชัดเจนว่าจำเลยนำหนังสือเดินทางปลอมและเช็คเดินทางปลอมไปแสดงต่อเจ้าหน้าที่ของธนาคารกรุงเทพ จำกัด สาขาราชเทวีในคราวเดียวกัน เพื่อขอแลกเงินตามเช็คเดินทางปลอมนั้น เป็นการกระทำกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ต้องใช้กฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2092/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมเดียวผิดหลายบท: ใช้เอกสารปลอม ขอแลกเงินธนาคาร ต้องลงโทษบทหนักสุด
โจทก์บรรยายฟ้องไว้ชัดเจนว่าจำเลยนำหนังสือเดินทางปลอมและเช็คเดินทางปลอมไปแสดงต่อเจ้าหน้าที่ของธนาคารกรุงเทพจำกัด สาขาราชเทวีในคราวเดียวกัน เพื่อขอแลกเงินตามเช็คเดินทางปลอมนั้น เป็นการกระทำกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ต้องใช้กฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 65/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานผลิตและมีกัญชาเพื่อจำหน่ายเป็นกรรมเดียว แม้มีกฎหมายหลายบท
กัญชาที่จำเลยมีไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย ก็คือกัญชาทั้งหมดที่จำเลยปลูกไว้ ซึ่งถือว่าเป็นการผลิตตามกฎหมาย เป็นที่เห็นได้ว่ากัญชาที่จำเลยมีไว้เพื่อจำหน่ายนั้นเป็นผลที่เกิดจากการที่จำเลยปลูกหรือผลิตกัญชานั่นเอง มิได้มีการกระทำอย่างใดอันมีลักษณะเป็นการกระทำให้ได้กัญชาดังกล่าวมาไว้ในความ ครอบครอง เพื่อจำหน่ายขึ้นอีก การกระทำของจำเลยจึงเป็น ความผิดกรรมเดียว แต่ผิดกฎหมายหลายบท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 514/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท: การหมิ่นประมาทต่อเนื่องในหนังสือพิมพ์
ฟ้องของโจทก์ทั้งสองข้อกล่าวหาว่าจำเลยกระทำผิดวันเวลาเดียวกัน ข้อความที่โฆษณาหมิ่นประมาทและดูหมิ่นผู้เสียหายนั้นต่างลงพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ฉบับเดียวกัน เพียงแต่ ต่างคอลัมน์กันเท่านั้น และเป็นข้อความที่เกี่ยวเนื่องเป็นเรื่องเดียวกัน จึงเห็นได้ว่าจำเลยมีเจตนาเป็นอันเดียวกัน คือโฆษณาใส่ความเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ชื่อเสียงของผู้เสียหายและเป็นการกระทำต่อเนื่องเป็นคราวเดียวกัน จึงถือได้ว่าเป็นการกระทำกรรมเดียวแม้ฟ้องในอีกข้อหนึ่งจะเป็นว่าโจทก์ฟ้องจำเลยเพียงฐานดูหมิ่นหรือมีข้อความพาดพิงถึงบุคคลอื่นด้วย ก็ไม่ทำให้เจตนาของจำเลยเกี่ยวกับการหมิ่นประมาทผู้เสียหายเป็นเจตนาเพิ่มขึ้นใหม่เป็นอีกกรรมหนึ่ง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3436/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษและริบของกลางในความผิดกรรมเดียวต่อกฎหมายหลายบท ต้องใช้บทที่มีโทษหนัก และริบได้เฉพาะตามบทที่ใช้ลงโทษ
เมื่อการกระทำของจำเลยเป็นความผิดกรรมเดียวผิดต่อ กฎหมายหลายบทคือผิดตามพระราชบัญญัติการประมงและพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ ต้องลงโทษตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุดแต่โจทก์มิได้ขอหรืออ้างบทมาตราเกี่ยวกับการให้ริบของกลางในความผิดตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ เท่ากับโจทก์ไม่ประสงค์ให้ริบของกลางในความผิดนั้น เมื่อศาลพิพากษาลงโทษจำเลยในความผิดตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติแล้ว ก็จะริบของกลางตามพระราชบัญญัติการประมงซึ่งมิได้ใช้เป็นบทลงโทษจำเลยด้วยไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3436/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษกรรมเดียวผิดหลายบทและการริบของกลางที่ศาลสั่งได้เฉพาะในบทที่ใช้ลงโทษ
เมื่อการกระทำของจำเลยเป็นความผิดกรรมเดียวผิดต่อ กฎหมายหลายบทคือผิดตามพระราชบัญญัติการประมงและพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ ต้องลงโทษตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุด แต่โจทก์มิได้ขอหรืออ้างบทมาตราเกี่ยวกับการให้ริบของกลางในความผิดตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ เท่ากับโจทก์ไม่ประสงค์ให้ริบของกลางในความผิดนั้น เมื่อศาลพิพากษาลงโทษจำเลยในความผิดตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติแล้ว ก็จะริบของกลางตามพระราชบัญญัติการประมงซึ่งมิได้ใช้เป็นบทลงโทษจำเลยด้วยไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3304/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมเดียวความผิดเดียวกัน: สิทธิระงับเมื่อมีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว
ข้อกล่าวหาที่อ้างว่าจำเลยทั้งสามกระทำความผิดคดีนี้กับคดีสองสำนวนคดีก่อนเป็นการกล่าวอ้างถึงการกระทำความผิดของจำเลยอย่างเดียวกัน คือกล่าวหาว่าจำเลยทั้งสามบุกรุกรบกวนการครอบครองที่ดินอันเป็นกรณีพิพาทรายเดียวกันวันเวลาที่กล่าวหาว่ากระทำความผิดก็อยู่ในช่วงเดียวกันถือได้ว่าเป็นการกระทำอันเป็นกรรมเดียวกัน คดีสองสำนวนก่อนศาลได้พิพากษายกฟ้องจำเลยที่ 1 ที่ 2 โดยวินิจฉัยว่าการกระทำไม่เป็นความผิด และคำพิพากษาดังกล่าวได้ถึงที่สุดไปแล้ว แม้โจทก์คดีนี้จะมิใช่เป็นคนเดียวกับโจทก์ในคดีก่อนก็ตาม ก็ถือได้ว่าการกระทำของจำเลยที่ 1 ที่ 2 ได้มีคำพิพากษาเสร็จเด็ดขาดในความผิดซึ่งได้ฟ้องแล้วคดีอาญามาฟ้องจำเลยที่ 1 ที่ 2 ย่อมระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(4) โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยที่ 1 ที่ 2 อีก แต่คดีสำหรับจำเลยที่ 3 นั้น ไม่ปรากฏว่าได้ถูกฟ้องในคดีสองสำนวนก่อนด้วย โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องจำเลยที่ 3 ในคดีนี้ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3304/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมเดียวความผิดเดียวกัน: ศาลระงับฟ้องจำเลยที่ถูกพิพากษายกฟ้องแล้วในคดีเดิม แต่ยังฟ้องดำเนินคดีกับจำเลยที่ไม่ได้ถูกฟ้องในคดีเดิม
ข้อกล่าวหาที่อ้างว่าจำเลยทั้งสามกระทำความผิดคดีนี้กับคดีสองสำนวนคดีก่อนเป็นการกล่าวอ้างถึงการกระทำความผิดของจำเลยอย่างเดียวกัน คือกล่าวหาว่าจำเลยทั้งสามบุกรุกรบกวนการครอบครองที่ดินอันเป็นกรณีพิพาทรายเดียวกันวันเวลาที่กล่าวหาว่ากระทำความผิดก็อยู่ในช่วงเดียวกันถือได้ว่าเป็นการกระทำอันเป็นกรรมเดียวกัน คดีสองสำนวนก่อนศาลได้พิพากษายกฟ้องจำเลยที่ 1 ที่ 2 โดยวินิจฉัยว่าการกระทำไม่เป็นความผิด และคำพิพากษาดังกล่าวได้ถึงที่สุดไปแล้ว แม้โจทก์คดีนี้จะมิใช่เป็นคนเดียวกับโจทก์ในคดีก่อนก็ตาม ก็ถือได้ว่าการกระทำของจำเลยที่1 ที่ 2 ได้มีคำพิพากษาเสร็จเด็ดขาดในความผิดซึ่งได้ฟ้องแล้วคดีอาญามาฟ้องจำเลยที่ 1 ที่ 2 ย่อมระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(4) โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยที่ 1 ที่ 2 อีก แต่คดีสำหรับจำเลยที่ 3 นั้น ไม่ปรากฏว่าได้ถูกฟ้องในคดีสองสำนวนก่อนด้วย โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องจำเลยที่ 3 ในคดีนี้ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 214/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาในการกระทำความผิดทางอาญา: การพิจารณาว่าการบุกรุกและการกระทำอนาจารเป็นกรรมเดียว
จำเลยเข้าไปในเคหสถานแล้กระทำอนาจารผู้เสียหายนั้น เห็นเจตนาของจำเลยได้ว่า จำเลยมีเจตนาเข้าไปเพื่อกระทำอนาจารต่อผู้เสียหายเป็นสำคัญ การกระทำของจำเลยจึงเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท แม้โจทก์ จะบรรยายฟ้องว่าจำเลยได้กระทำความผิดต่อกฎหมายหลายกรรมต่างกัน และจำเลยให้การรับสารภาพก็ตาม ศาลจะลงโทษจำเลยหลายกรรมต่างกันเป็นหลายกระทงความผิดมิได้ (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1905/2520)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 214/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาการกระทำผิดเป็นสำคัญ: การกระทำหลายบทเป็นกรรมเดียว
จำเลยเข้าไปในเคหสถานแล้วกระทำอนาจารผู้เสียหายนั้นเห็นเจตนาของจำเลยได้ว่า จำเลยมีเจตนาเข้าไปเพื่อกระทำอนาจารต่อผู้เสียหายเป็นสำคัญ การกระทำของจำเลยจึงเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท แม้โจทก์จะบรรยายฟ้องว่าจำเลยได้กระทำความผิดต่อกฎหมายหลายกรรมต่างกันและจำเลยให้การรับสารภาพก็ตาม ศาลจะลงโทษจำเลยหลายกรรมต่างกันเป็นหลายกระทงความผิดมิได้(อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1905/2520)
of 85