คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
คดีแพ่ง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,220 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4014/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อห้ามฟ้องคดีซ้ำซ้อนขณะคดีเดิมยังพิจารณาค้าง
โจทก์เคยฟ้องจำเลยเกี่ยวกับเช็คฉบับเดียวกันในมูลคดีและข้อหาเดียวกันกับที่ฟ้องคดีนี้ก่อนฟ้องคดีนี้1วันเมื่อคดีแรกยังอยู่ในระหว่างพิจารณาศาลยังไม่ได้พิพากษาฟ้องโจทก์คดีนี้จึงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา173วรรคสอง(1)ประกอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา15ไม่ต้องพิจารณาว่าต่อมาศาลชั้นต้นจะพิพากษาหรือสั่งในคดีแรกนั้นเป็นอย่างใด.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3496/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อจำกัดการฎีกาในคดีกรรมสิทธิ์ที่ดิน: เมื่อศาลอุทธรณ์ยืนตามศาลชั้นต้นแล้ว โจทก์ไม่สามารถฎีกาข้อเท็จจริงเดิมได้
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาว่า ที่ดินพิพาททั้งสามแปลงเป็นของโจทก์ จำเลยกล่าวแก้เป็นข้อพิพาทด้วยกรรมสิทธิ์เฉพาะที่ดินแปลงที่ 2 และที่ 3 ส่วนแปลงที่ 1 จำเลยต่อสู้ว่าเป็นของบุคคลอื่นมิได้ต่อสู้เป็นข้อพิพาทด้วยกรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาทแปลงที่ 1 ซึ่งมีราคา 7,000 บาท และพอถือได้ว่า ขณะยื่นฟ้องที่ดินดังกล่าวอาจให้เช่าได้ไม่เกินเดือนละ 5,000 บาทด้วย เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นโดยฟังว่าที่ดินพิพาทแปลงที่ 1 กับแปลงที่ 2, ที่ 3 ไม่ใช่ของโจทก์ คดีเกี่ยวกับที่ดินพิพาทแปลงที่ 1 นี้ ต้องห้ามมิให้คู่ความฎีกาในข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3350/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา ศาลต้องใช้ข้อเท็จจริงตามคำพิพากษาคดีอาญา และความรับผิดทางละเมิดต้องพิจารณาตามหลักเกณฑ์ทางแพ่ง
แม้คดีอาญาจะมีอัยการศาลทหารกรุงเทพเป็นโจทก์ ก็ถือว่าอัยการศาลทหารกรุงเทพฟ้องคดีแทนกองบัญชาการทหารสูงสุด โจทก์ในคดีแพ่งซึ่งเป็นผู้เสียหาย คู่ความทั้งในคดีอาญาและคดีแพ่งจึงเป็นคู่ความเดียวกัน และแม้ข้อหาในคดีอาญาจะต่างกับคดีแพ่งหากข้อเท็จจริงปรากฏว่าความรับผิดในทางแพ่งเกิดขึ้นเนื่องจากผลของการกระทำผิดในคดีอาญา ก็อาจเป็นคดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญาได้ โดยเฉพาะข้อเท็จจริงตามคำฟ้องที่ให้จำเลยรับผิดเพราะจำเลยได้ร่วมกับร้อยเอก ม. แก้ไขเพิ่มเติมจำนวนสิ่งของลงในบันทึกข้อความเสนอความต้องการสิ่งของไปยังแผนกธุรการสำนักงานปลัดบัญชีทหารรวม 11 ฉบับ เป็นเหตุให้โจทก์ต้องจ่ายเงินในการจัดซื้อวัสดุสิ่งของเพิ่มมากขึ้นเกินกว่าความต้องการที่แท้จริง ความรับผิดในผลละเมิดที่จำเลยกระทำต่อโจทก์เป็นผลจากการกระทำผิดในคดีอาญา
ข้อเท็จจริงตามคำฟ้องในคดีแพ่งส่วนนี้ยังเป็นคดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา กรณีต้องบังคับตามพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. 2498 มาตรา 54 ที่บัญญัติให้การพิพากษาคดีแพ่ง ศาลพลเรือนจำต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในคำพิพากษาคดีอาญาของศาลทหาร ดังนั้นเมื่อศาลทหารสูงสุดพิพากษายกฟ้องเพราะการกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดเนื่องจากไม่ได้เกิดความเสียหายแก่ผู้ใด คดีแพ่งในส่วนนี้จึงต้องถือตามข้อเท็จจริงดังกล่าวว่าการกระทำของจำเลยในส่วนนี้ไม่เป็นการละเมิดและจำเลยไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์
คำฟ้องในส่วนหลังของโจทก์เป็นเรื่องโจทก์ฟ้องให้จำเลยรับผิดในมูลละเมิดเพราะจำเลยปฏิบัติหน้าที่ด้วยความประมาทเลินเล่อ ฝ่าฝืนระเบียบแบบแผนทางราชการโดยจำเลยตรวจรับสิ่งของโดยไม่มีหน้าที่ และไม่นำสิ่งของไปมอบปลัดบัญชีทหาร ไม่ควบคุมดูแลทรัพย์สินของโจทก์ แต่นำไปฝากที่อื่นเป็นเหตุให้พัสดุสิ่งของสูญหายขาดบัญชีไป ส่วนคดีอาญาเป็นเรื่องจำเลยถูกหาว่าทุจริตต่อหน้าที่ ปลอมเอกสารราชการ และใช้เอกสารราชการปลอมอันเป็นข้อเท็จจริงคนละเรื่องคนละประเด็นต่างหากจากคดีอาญา คำฟ้องคดีนี้ของโจทก์ตอนหลังจึงไม่ใช่คดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา
การที่จำเลยนำกระดาษพิมพ์ต่อเนื่องไปฝากไว้ที่บริษัทผู้ขายแม้จะไม่มีระเบียบของโจทก์ให้ทำได้เช่นนั้น แต่จะเป็นละเมิดหรือไม่ต้องแล้วแต่พฤติการณ์เป็นเรื่อง ๆ ไป กระดาษพิมพ์ดังกล่าวจะต้องเก็บในที่ที่มีความชื้นน้อย หน่วยงานโจทก์ไม่มีที่เก็บสิ่งของเช่นนี้ เพื่อรักษาผลประโยชน์ของทางราชการ จำเลยจึงต้องเก็บรักษาไว้ที่บริษัทผู้ขายซึ่งผู้บังคับบัญชาก็ทราบและปฏิบัติทำนองเดียวกันเรื่อยมาดังนี้ ไม่ถือว่าจำเลยประมาทเลินเล่อ จึงไม่มีความรับผิดทางละเมิดต่อโจทก์
(อ้างฎีกาที่ 280/2520)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3350/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา: ศาลต้องถือข้อเท็จจริงตามคำพิพากษาคดีอาญา และพิจารณาละเมิดตามหลักทั่วไป
แม้คดีอาญาจะมีอัยการศาลทหารกรุงเทพเป็นโจทก์ ก็ถือว่าอัยการศาลทหารกรุงเทพฟ้องคดีแทนกองบัญชาการทหารสูงสุด โจทก์ในคดีแพ่งซึ่งเป็นผู้เสียหาย คู่ความทั้งในคดีอาญาและคดีแพ่งจึงเป็นคู่ความเดียวกันและแม้ข้อหาในคดีอาญาจะต่างกับคดีแพ่งหากข้อเท็จจริงปรากฏว่าความรับผิดในทางแพ่งเกิดขึ้นเนื่องจากผลของการกระทำผิดในคดีอาญาก็อาจเป็นคดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญาได้ โดยเฉพาะข้อเท็จจริงตามคำฟ้องที่ให้จำเลยรับผิดเพราะจำเลยได้ร่วมกับร้อยเอกม.แก้ไขเพิ่มเติมจำนวนสิ่งของลงในบันทึกข้อความเสนอความต้องการสิ่งของไปยังแผนกธุรการสำนักงานปลัดบัญชีทหารรวม 11 ฉบับ เป็นเหตุให้โจทก์ต้องจ่ายเงินในการจัดซื้อวัสดุสิ่งของเพิ่มมากขึ้นเกินกว่าความต้องการที่แท้จริง ความรับผิดในผลละเมิดที่จำเลยกระทำต่อโจทก์เป็นผลจากการกระทำผิดในคดีอาญา
ข้อเท็จจริงตามคำฟ้องในคดีแพ่งส่วนนี้ยังเป็นคดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา กรณีต้องบังคับตามพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ.2498มาตรา 54 ที่บัญญัติให้การพิพากษาคดีแพ่งศาลพลเรือนจำต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในคำพิพากษาคดีอาญาของศาลทหารดังนั้นเมื่อศาลทหารสูงสุดพิพากษายกฟ้องเพราะการกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดเนื่องจากไม่ได้เกิดความเสียหายแก่ผู้ใด คดีแพ่งในส่วนนี้จึงต้องถือตามข้อเท็จจริงดังกล่าวว่าการกระทำของจำเลยในส่วนนี้ไม่เป็นการละเมิดและจำเลยไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์
คำฟ้องในส่วนหลังของโจทก์เป็นเรื่องโจทก์ฟ้องให้จำเลยรับผิดในมูลละเมิดเพราะจำเลยปฏิบัติหน้าที่ด้วยความประมาทเลินเล่อฝ่าฝืนระเบียบแบบแผนทางราชการโดยจำเลยตรวจรับสิ่งของโดยไม่มีหน้าที่และไม่นำสิ่งของไปมอบปลัดบัญชีทหารไม่ควบคุมดูแลทรัพย์สินของโจทก์ แต่นำไปฝากที่อื่นเป็นเหตุให้พัสดุสิ่งของสูญหายขาดบัญชีไปส่วนคดีอาญาเป็นเรื่องจำเลยถูกหาว่าทุจริตต่อหน้าที่ปลอมเอกสารราชการและใช้เอกสารราชการปลอมอันเป็นข้อเท็จจริงคนละเรื่องคนละประเด็นต่างหากจากคดีอาญาคำฟ้องคดีนี้ของโจทก์ตอนหลังจึงไม่ใช่คดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา
การที่จำเลยนำกระดาษพิมพ์ต่อเนื่องไปฝากไว้ที่บริษัทผู้ขายแม้จะไม่มีระเบียบของโจทก์ให้ทำได้เช่นนั้น แต่จะเป็นละเมิดหรือไม่ต้องแล้วแต่พฤติการณ์เป็นเรื่อง ๆ ไป กระดาษพิมพ์ดังกล่าวจะต้องเก็บในที่ที่มีความชื้นน้อย หน่วยงานโจทก์ไม่มีที่เก็บสิ่งของเช่นนี้ เพื่อรักษาผลประโยชน์ของทางราชการ จำเลยจึงต้องเก็บรักษาไว้ที่บริษัทผู้ขายซึ่งผู้บังคับบัญชาก็ทราบและปฏิบัติทำนองเดียวกันเรื่อยมาดังนี้ไม่ถือว่าจำเลยประมาทเลินเล่อจึงไม่มีความรับผิดทางละเมิดต่อโจทก์ (อ้างฎีกาที่280/2520)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3350/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา การใช้ข้อเท็จจริงจากคำพิพากษาในคดีอาญา และการประเมินความประมาทเลินเล่อ
แม้คดีอาญาจะมีอัยการศาลทหารกรุงเทพเป็นโจทก์ก็ถือว่าอัยการศาลทหารกรุงเทพฟ้องคดีแทนกองบัญชาการทหารสูงสุดโจทก์ในคดีแพ่งซึ่งเป็นผู้เสียหายคู่ความทั้งในคดีอาญาและคดีแพ่งจึงเป็นคู่ความเดียวกันและแม้ข้อหาในคดีอาญาจะต่างกับคดีแพ่งหากข้อเท็จจริงปรากฏว่าความรับผิดในทางแพ่งเกิดขึ้นเนื่องจากผลของการกระทำผิดในคดีอาญาก็อาจเป็นคดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญาได้โดยเฉพาะข้อเท็จจริงตามคำฟ้องที่ให้จำเลยรับผิดเพราะจำเลยได้ร่วมกับร้อยเอกม.แก้ไขเพิ่มเติมจำนวนสิ่งของลงในบันทึกข้อความเสนอความต้องการสิ่งของไปยังแผนกธุรการสำนักงานปลัดบัญชีทหารรวม11ฉบับเป็นเหตุให้โจทก์ต้องจ่ายเงินในการจัดซื้อวัสดุสิ่งของเพิ่มมากขึ้นเกินกว่าความต้องการที่แท้จริงความรับผิดในผลละเมิดที่จำเลยกระทำต่อโจทก์เป็นผลจากการกระทำผิดในคดีอาญา ข้อเท็จจริงตามคำฟ้องในคดีแพ่งส่วนนี้ยังเป็นคดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญากรณีต้องบังคับตามพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหารพ.ศ.2498มาตรา54ที่บัญญัติให้การพิพากษาคดีแพ่งศาลพลเรือนจำต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในคำพิพากษาคดีอาญาของศาลทหารดังนั้นเมื่อศาลทหารสูงสุดพิพากษายกฟ้องเพราะการกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดเนื่องจากไม่ได้เกิดความเสียหายแก่ผู้ใดคดีแพ่งในส่วนนี้จึงต้องถือตามข้อเท็จจริงดังกล่าวว่าการกระทำของจำเลยในส่วนนี้ไม่เป็นการละเมิดและจำเลยไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ คำฟ้องในส่วนหลังของโจทก์เป็นเรื่องโจทก์ฟ้องให้จำเลยรับผิดในมูลละเมิดเพราะจำเลยปฏิบัติหน้าที่ด้วยความประมาทเลินเล่อฝ่าฝืนระเบียบแบบแผนทางราชการโดยจำเลยตรวจรับสิ่งของโดยไม่มีหน้าที่และไม่นำสิ่งของไปมอบปลัดบัญชีทหารไม่ควบคุมดูแลทรัพย์สินของโจทก์แต่นำไปฝากที่อื่นเป็นเหตุให้พัสดุสิ่งของสูญหายขาดบัญชีไปส่วนคดีอาญาเป็นเรื่องจำเลยถูกหาว่าทุจริตต่อหน้าที่ปลอมเอกสารราชการและใช้เอกสารราชการปลอมอันเป็นข้อเท็จจริงคนละเรื่องคนละประเด็นต่างหากจากคดีอาญาคำฟ้องคดีนี้ของโจทก์ตอนหลังจึงไม่ใช่คดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา การที่จำเลยนำกระดาษพิมพ์ต่อเนื่องไปฝากไว้ที่บริษัทผู้ขายแม้จะไม่มีระเบียบของโจทก์ให้ทำได้เช่นนั้นแต่จะเป็นละเมิดหรือไม่ต้องแล้วแต่พฤติการณ์เป็นเรื่องๆไปกระดาษพิมพ์ดังกล่าวจะต้องเก็บในที่ที่มีความชื้นน้อยหน่วยงานโจทก์ไม่มีที่เก็บสิ่งของเช่นนี้เพื่อรักษาผลประโยชน์ของทางราชการจำเลยจึงต้องเก็บรักษาไว้ที่บริษัทผู้ขายซึ่งผู้บังคับบัญชาก็ทราบและปฏิบัติทำนองเดียวกันเรื่อยมาดังนี้ไม่ถือว่าจำเลยประมาทเลินเล่อจึงไม่มีความรับผิดทางละเมิดต่อโจทก์. (อ้างฎีกาที่280/2520).

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3183/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การถอนฟ้องคดีอาญาที่ยอมความได้ และผลกระทบต่อคดีแพ่ง
โจทก์ฟ้องจำเลยว่ากระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา341ซึ่งเป็นความผิดอันยอมความได้กับขอให้จำเลยชำระเงินคืนเมื่อโจทก์ขอถอนฟ้องและจำเลยไม่คัดค้านสิทธินำคดีอาญามาฟ้องย่อมระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา39(2)สำหรับคดีส่วนแพ่งศาลฎีกาไม่อาจอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องในชั้นฎีกาได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3046/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิเรียกร้องตามเช็ค - ผู้ทรงเช็ค - คดีแพ่งแยกจากคดีอาญา
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยรับผิดใช้เงินตามเช็คอันเป็นสิทธิเรียกร้องโดยไม่ต้องอาศัยมูลความผิดอาญาตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2497 จึงไม่ใช่คดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา ข้อที่จำเลยอ้างว่าศาลต้องฟังข้อเท็จจริงคดีนี้ตามคำพิพากษาส่วนอาญาของศาลชั้นต้นที่พิพากษาว่าลูกวงแชร์เป็นผู้ทรงเช็คจึงฟังไม่ขึ้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3046/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องเรียกค่าเช็คโดยไม่ต้องอาศัยมูลความผิดอาญา ศาลไม่ต้องผูกพันตามคำพิพากษาคดีอาญา
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยรับผิดใช้เงินตามเช็คอันเป็นสิทธิเรียกร้องโดยไม่ต้องอาศัยมูลความผิดอาญาตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คพ.ศ.2497จึงไม่ใช่คดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญาข้อที่จำเลยอ้างว่าศาลต้องฟังข้อเท็จจริงคดีนี้ตามคำพิพากษาส่วนอาญาของศาลชั้นต้นที่พิพากษาว่าลูกวงแชร์เป็นผู้ทรงเช็คจึงฟังไม่ขึ้น.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2773/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องซ้ำ/ดำเนินกระบวนพิจารณาซ้ำในคดีสัญญาจ้างเหมา กรณีประเด็นข้อพิพาทเดียวกัน แม้คดีก่อนยังไม่ถึงที่สุด
คดีก่อน จำเลยที่ 1 เป็นโจทก์ฟ้องโจทก์ในคดีนี้กับพวกเป็นจำเลย ในข้อหาว่า โจทก์เป็นผู้ผิดสัญญาจ้างเหมาก่อสร้าง ที่โจทก์จ้างจำเลยที่ 1 ก่อสร้างอาคารที่ทำการกองบัญชาการศึกษาของโจทก์ และโจทก์ได้สั่งให้ จำเลยที่ 1 ระงับการก่อสร้างเนื่องจากโจทก์ได้ทำการออกแบบแปลน ตัวอาคารที่ก่อสร้างรุกล้ำเข้าไปในที่ดินของเอกชนโดยความผิดพลาด ของโจทก์เองและเรียกร้องให้โจทก์ใช้ค่าเสียหายแก่จำเลยที่ 1 จึงมีประเด็นว่า โจทก์เป็นฝ่ายผิดสัญญาหรือไม่ และจะต้องใช้ค่าเสียหาย แก่จำเลยที่ 1เท่าใด ศาลฎีกาวินิจฉัยชี้ขาดว่า โจทก์เป็นฝ่ายผิดสัญญาแต่ให้ยกฟ้องจำเลยที่ 1 เพราะจำเลยที่ 1 ยังไม่มีสิทธิบอกกล่าวเลิกสัญญา กับโจทก์ จึงไม่มีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายได้ โจทก์กลับมาฟ้องจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 เป็นจำเลยในคดีนี้ในข้อหาว่าจำเลยที่ 1 ผิดสัญญา ก่อสร้างฉบับเดียวกันโดยอ้างเหตุเช่นเดียวกับคดีก่อนว่าโจทก์ได้ ออกแบบแปลนตัวอาคารผิดพลาดโดยเหตุที่ที่ดินบางส่วนทางด้านทิศใต้ ของบริเวณที่ดินที่ก่อสร้างเป็นของเอกชนต่อมาโจทก์ได้จัดซื้อที่ดิน ของเอกชนดังกล่าวแล้ว จึงขอให้จำเลยทั้งสองทำการก่อสร้างต่อไป แต่จำเลยทั้งสองไม่ก่อสร้างและให้จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้ค่าเสียหาย แก่โจทก์ ดังนี้ มูลคดีทั้งสองคดีนี้มีว่าคู่ความฝ่ายใดเป็นฝ่ายผิดสัญญา จ้างเหมาก่อสร้างอาคารที่ทำการกองบัญชาการศึกษาของโจทก์ โดยอาศัยเหตุอย่างเดียวกันเรื่องก่อสร้างอาคารที่ทำการกองบัญชาการศึกษา รุกล้ำที่ดินของเอกชนเป็นข้อสำคัญของคดีจึงเป็นการ ดำเนินกระบวนพิจารณาซ้ำกับคดีก่อนต้องห้ามตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 144 กรณีมิใช่เป็นการฟ้องซ้ำตาม มาตรา 148 เพราะขณะที่โจทก์ยื่นฟ้องคดีนี้คดีก่อนอยู่ในระหว่างพิจารณาของศาลฎีกา ยังมิได้มีคำพิพากษาถึงที่สุด แม้ศาลชั้นต้น จะรอคดีนี้ไว้เพื่อฟังผลของคดีก่อนจนถึงที่สุดก็ตาม
จำเลยที่ 2 เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการประเภทไม่จำกัดความรับผิดของห้างหุ้นส่วนจำกัดจำเลยที่ 1 เมื่อโจทก์ต้องห้ามมิให้ฟ้องจำเลยที่ 1 จึงมีผลถึงจำเลยที่ 2 ไม่ต้องรับผิดร่วมกับจำเลยที่1 ต่อโจทก์ด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 236/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีแพ่งระหว่างญาติ: การฟ้องบุพการี (ยาย) ของผู้สืบสันดาน (หลาน) และข้อยกเว้น
โจทก์ที่ 2 อยู่ในฐานะผู้สืบสันดานคือเป็นหลานจำเลยจำเลยอยู่ในฐานะเป็นยายย่อมเป็นบุพการีของโจทก์ที่ 2 การที่โจทก์ที่ 2 ฟ้องจำเลยจึงเป็นการฟ้องบุพการี ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1562 โจทก์ที่ 2 จึงไม่มีอำนาจฟ้องจำเลย สำหรับโจทก์ที่ 1 เป็นเพียงบุตรเขยไม่ได้เป็นผู้สืบสันดานของจำเลย จำเลยไม่ได้เป็นบุพการีของโจทก์ที่ 1 ฟ้องโจทก์จึงไม่ต้องห้ามทั้งหมด โจทก์ที่ 1 ซึ่งเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วยในที่พิพาทย่อมมีอำนาจดำเนินคดีต่อไปได้
of 122