คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ฉ้อโกง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 938 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 798/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฉ้อโกง: เริ่มนับเมื่อรู้ถูกหลอกลวง ไม่ใช่นับจากวันที่กรรมสิทธิ์เปลี่ยนมือ
ผู้ซื้อฝากที่ดินเพิ่งรู้ว่าถูกผู้ขายฝากฉ้อโกง (โดยนำที่ดินของผู้อื่นมาขายฝาก)เมื่อพ้นกำหนดไถ่แล้ว ดังนี้ อายุความ (3 เดือน) ขอให้ดำเนินคดีเริ่มนับตั้งแต่วันที่ผู้ซื้อฝากรู้เรื่องว่าตนถูกฉ้อโกง มิใช่เริ่มนับตั้งแต่วันที่กรรมสิทธิ์ในที่ดินที่ขายฝากตกเป็นของผู้ซื้อฝาก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 467-468/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีอาญาฐานฉ้อโกง แม้มีข้อจำกัดในคดีแพ่งเกี่ยวกับหุ้น
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1114 ที่ได้บัญญัติห้ามมิให้ผู้เข้าชื่อซื้อหุ้นฟ้องร้องขอให้ศาลเพิกถอนการที่ตนได้เข้าชื่อซื้อ โดยยกเหตุว่าสำคัญผิดหรือต้องข่มขู่หรือถูกลวงล่อฉ้อฉลนั้น ห้ามเฉพาะในกรณีที่ฟ้องร้องกันในทางแพ่งเท่านั้น มิได้มีผลห้ามมิให้ผู้เข้าชื่อซื้อหุ้นฟ้องในคดีอาญาฐานฉ้อโกง ฉะนั้น ผู้เสียหายหรือพนักงานอัยการ ในเมื่อมีการร้องทุกข์ จึงมีอำนาจดำเนินคดีกับจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 467-468/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ มาตรา 1114 มิได้ห้ามฟ้องอาญาฉ้อโกง แม้มีข้อตกลงซื้อหุ้น
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1114 ที่ได้บัญญัติห้ามมิให้ผู้เข้าชื่อซื้อหุ้นฟ้องร้องขอให้ศาลเพิกถอนการที่ตนได้เข้าชื่อซื้อ โดยยกเหตุว่าสำคัญผิดหรือต้องข่มขู่หรือถูกลวงล่อฉ้อฉลนั้น ห้ามเฉพาะในกรณีที่ฟ้องร้องกันในทางแพ่งเท่านั้น มิได้มีผลห้ามมิให้ผู้เข้าชื่อซื้อหุ้นฟ้องในคดีอาญาฐานฉ้อโกง ฉะนั้น ผู้เสียหายหรือพนักงานอัยการ ในเมื่อมีการร้องทุกข์ จึงมีอำนาจดำเนินคดีกับจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1305/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง: โต้แย้งดุลพินิจชั่งน้ำหนักพยานของศาลอุทธรณ์เกี่ยวกับความผิดฐานฉ้อโกง
การฎีกาโต้เถียงดุลพินิจในการชั่งน้ำหนักคำพยานของศาลอุทธรณ์ เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1264/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับของโจร: ตัวการร่วมกระทำผิดฐานลักทรัพย์/ฉ้อโกง ไม่มีความผิดฐานรับของโจร
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยรับข้าวเปลือกไว้จากผู้อื่นโดยรู้ว่าเป็นของร้ายอันได้มาจากการกระทำผิดฐานลักทรัพย์หรือฉ้อโกง นั้น ถือว่าโจทก์ได้บรรยายฟ้องครบองค์ความผิดฐานรับของโจร ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 (5) แล้ว จึงไม่เป็นฟ้องที่เคลือบคลุม
ข้อเท็จจริงฟังว่า จำเลยใช้ผู้อื่นไปลักทรัพย์หรือฉ้อโกงนั้น ถือว่าจำเลยเป็นตัวการด้วยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 ดังนั้น เมื่อจำเลยรับทรัพย์นั้นจากผู้ที่จำเลยใช้ ถือว่าเป็นการรับทรัพย์ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องมาจากกรรมอันเดียวกับความผิดฐานลักทรัพย์หรือฉ้อโกง ที่จำเลยเป็นผู้ใช้นั้นเอง จำเลยจึงไม่มีความผิดฐานรับของโจรตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 357

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1264/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับของโจร: ตัวการร่วมกระทำผิดฐานลักทรัพย์/ฉ้อโกงไม่ต้องรับโทษฐานรับของโจร
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยรับข้าวเปลือกไว้จากผู้อื่นโดยรู้ว่าเป็นของร้ายอันได้มาจากการกระทำผิดฐานลักทรัพย์หรือฉ้อโกงนั้น ถือว่าโจทก์ได้บรรยายฟ้องครบองค์ความผิดฐานรับของโจรชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5) แล้ว จึงไม่เป็นฟ้องที่เคลือบคลุม
ข้อเท็จจริงฟังว่า จำเลยใช้ผู้อื่นไปลักทรัพย์หรือฉ้อโกงนั้นถือว่าจำเลยเป็นตัวการด้วยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 ดังนั้น เมื่อจำเลยรับทรัพย์นั้นจากผู้ที่จำเลยใช้ ถือว่าเป็นการรับทรัพย์ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องมาจากกรรมอันเดียวกับความผิดฐานลักทรัพย์หรือฉ้อโกง ที่จำเลยเป็นผู้ใช้นั้นเอง จำเลยจึงไม่มีความผิดฐานรับของโจรตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 357

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 884/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำความผิดฐานฉ้อโกงและการออกเช็คโดยไม่มีเงินในบัญชี จำเลยรับสารภาพ ฟ้องบรรยายครบถ้วน
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานฉ้อโกงกับความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3 โดยบรรยายฟ้องว่า จำเลยโดยทุจริตหลอกลวงผู้เสียหายด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จปกปิดความจริงซึ่งควรต้องบอกให้แจ้งว่า จำเลยไม่มีเงินอยู่ในบัญชีอันจะพึงให้ใช้เงินได้ ซึ่งความจริงในวันออกเช็คก็ดี วันสั่งจ่ายเงินตามเช็คก็ดี เงินในบัญชีของจำเลยไม่มีพอจ่าย ทั้งธนาคารก็ได้ปิดบัญชีจำเลยแล้ว การหลอกลวงของจำเลยดังกล่าวทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อว่าเป็นความจริง จึงได้มอบเงินให้จำเลยไป ดังนี้ ฟ้องของโจทก์ได้บรรยายข้อเท็จจริงในความผิดฐานฉ้อโกงไว้ครบถ้วนแล้ว เมื่อจำเลยให้การรับสารภาพผิดตามฟ้อง คดีจึงเป็นอันฟังได้ว่าการกระทำของจำเลยเป็นความผิดตามโจทก์ฟ้องทั้งสองฐาน.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 884/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานฉ้อโกงและเช็คเด้ง จำเลยรับสารภาพ ฟ้องบรรยายครบถ้วน ศาลฎีกาเห็นพ้อง
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานฉ้อโกงกับความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2497มาตรา 3 โดยบรรยายฟ้องว่า จำเลยโดยทุจริตหลอกลวงผู้เสียหายด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จปกปิดความจริงซึ่งควรต้องบอกให้แจ้งว่า จำเลยไม่มีเงินอยู่ในบัญชีอันจะพึงให้ใช้เงินได้ซึ่งความจริงในวันออกเช็คก็ดีวันสั่งจ่ายเงินตามเช็คก็ดี เงินในบัญชีของจำเลยไม่มีพอจ่าย ทั้งธนาคารก็ได้ปิดบัญชีจำเลยแล้ว การหลอกลวงของจำเลยดังกล่าวทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อว่าเป็นความจริงจึงได้มอบเงินให้จำเลยไปดังนี้ ฟ้องของโจทก์ได้บรรยายข้อเท็จจริงในความผิดฐานฉ้อโกงไว้ครบถ้วนแล้วเมื่อจำเลยให้การรับสารภาพผิดตามฟ้อง คดีจึงเป็นอันฟังได้ว่าการกระทำของจำเลยเป็นความผิดตามโจทก์ฟ้องทั้งสองฐาน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 884/2512

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานฉ้อโกงจากการออกเช็คไม่มีเงินรองรับ แม้ศาลอุทธรณ์ยกฐานความผิด แต่ศาลฎีกาเห็นว่าการกระทำครบองค์ประกอบ
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานฉ้อโกงกับความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2497มาตรา 3. โดยบรรยายฟ้องว่า จำเลยโดยทุจริตหลอกลวงผู้เสียหายด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จปกปิดความจริงซึ่งควรต้องบอกให้แจ้งว่า. จำเลยไม่มีเงินอยู่ในบัญชีอันจะพึงให้ใช้เงินได้. ซึ่งความจริงในวันออกเช็คก็ดีวันสั่งจ่ายเงินตามเช็คก็ดี เงินในบัญชีของจำเลยไม่มีพอจ่าย ทั้งธนาคารก็ได้ปิดบัญชีจำเลยแล้ว. การหลอกลวงของจำเลยดังกล่าวทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อว่าเป็นความจริงจึงได้มอบเงินให้จำเลยไป. ดังนี้ ฟ้องของโจทก์ได้บรรยายข้อเท็จจริงในความผิดฐานฉ้อโกงไว้ครบถ้วนแล้ว. เมื่อจำเลยให้การรับสารภาพผิดตามฟ้อง คดีจึงเป็นอันฟังได้ว่าการกระทำของจำเลยเป็นความผิดตามโจทก์ฟ้องทั้งสองฐาน.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 722/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีฉ้อโกงและคดีเกี่ยวกับสมาคม: ผู้เสียหายและองค์ประกอบความผิด
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยเจตนาทุจริตใช้อุบายหลอกลวงนางคอย ทรัพย์อ่วม โจทก์และประชาชนด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จและปกปิดความจริง แต่มิได้บรรยายมาในฟ้องว่าความจริงเป็นอย่างไร และความเท็จเป็นอย่างไร ฟ้องโจทก์จึงไม่มีมูลเป็นความผิดฐานฉ้อโกง
โจทก์ไม่ใช่สมาชิกของสมาคม ได้ฟ้องสมาคมซึ่งจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลแล้วกับพวกเป็นจำเลย ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติกำหนดความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคม และมูลนิธิ พ.ศ. 2499 มาตรา 52, 53, 55, 56 ตามมาตรา 53 ของพระราชบัญญํติดังกล่าวเป็นเรื่องที่สมาชิกของสมาคมจะดำเนินคดีโจทก์จะมาดำเนินคดีหาได้ไม่ และตามมาตรา 52, 55 โจทก์ก็ไม่ใช่ผู้เสียหาย ส่วนมาตรา 56 ก็เป็นเรื่องของสมาคมที่ยังไม่ได้จดทะเบียนแต่เรื่องนี้สมาคมจำเลยได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายแล้ว ฟ้องโจทก์จึงไม่เป็นฟ้องที่ควรรับไว้พิจารณา
of 94