คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ประนีประนอมยอมความ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 599 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1290/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความเฉพาะตัวจำเลย ไม่กระทบความรับผิดของจำเลยอื่น
ในคดีความผิดต่อส่วนตัวจำเลยทำสัญญายอมจะใช้เงินแก่ผู้เสียหาย แล้วก็ไม่ชำระตามกำหนดนัด ผู้เสียหายย่อมร้องทุกข์ขอให้ดำเนินคดีอาญาต่อไปได้
จำเลยบางคนทำสัญญายอมจะใช้เงินทั้งหมดแก่ผู้เสียหายคดีจะระงับหรือไม่ ก็เกี่ยวกับจำเลยเช่นว่านั้นโดยเฉพาะตัวเท่านั้นไม่พลอยไปถึงจำเลยอื่นๆ แม้อยู่ในคดีเดียวกันนั้นด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1655/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประนีประนอมยอมความยุติคดีอาญา: ผลผูกพันและอำนาจฟ้องของอัยการ
อัยการโจทก์และผู้เสียหายโจทก์ร่วมฟ้องจำเลยบุกรุกขอให้ลงโทษตาม ก.ม.อาญา ม.327
ปรากฏในรายงานกระบวนพิจารณาว่าจำเลยตกลงยอมขยับรั้วเข้ามาตามแนวที่ศาลชี้ ทนายโจทก์ร่วมและผู้รับมอบฉันทะจากผู้เสียหาย (โจทก์ร่วม) ให้ทำการประนีประนอมยอมความได้ ได้ยอมรับข้อตกลงนี้และแถลงว่าจะได้ถอนฟ้องให้เสร็จไป ดังนี้ถือว่าทั้งสองฝ่ายระงับข้อพิพาทซึ่งมีอยู่ให้เสร็จไปด้วยต่างยอมผ่อนผันให้แก่กันเข้าลักษณะสัญญาประนีประนอมยอมความตาม ป.พ.พ. ม.850,851,852
เมื่อจำเลยได้ปฏิบัติตามยอมแล้วคดีก็ระงับไปตาม ป.วิ.อาญา ม.39 (2) การที่โจทก์ร่วมว่าจะถอนฟ้องเมื่อจำเลยปฏิบัติแล้วนั้น ก็มีความหมายเพียงเพื่อให้ศาลจำหนายคดีเสร็จไปตามวิธีปฏิบัติของศาลทั้งจะถอนหรือไม่ถอนก็มีผลไม่ต่างกันและอัยการไม่มีสิทธิจะดำเนินคดีต่อไปได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1655/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การระงับข้อพิพาทด้วยการประนีประนอมยอมความและการสิ้นสุดคดีอาญา
อัยการโจทก์และผู้เสียหายโจทก์ร่วมฟ้องว่าจำเลยบุกรุกขอให้ลงโทษตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 327
ปรากฏในรายงานกระบวนพิจารณาว่าจำเลยตกลงยอมขยับรั้วเข้ามาตามแนวที่ศาลชี้ ทนายโจทก์ร่วมและผู้รับมอบฉันทะจากผู้เสียหาย(โจทก์ร่วม)ให้ทำการประนีประนอมยอมความได้ ได้ยอมรับข้อตกลงนี้และแถลงว่าจะได้ถอนฟ้องให้เสร็จไป ดังนี้ถือว่าทั้งสองฝ่ายระงับข้อพิพาทซึ่งมีอยู่ให้เสร็จไปด้วยต่างยอมผ่อนผันให้แก่กัน เข้าลักษณะสัญญาประนีประนอมยอมความตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 850,851,852
เมื่อจำเลยได้ปฏิบัติตามยอมแล้วคดีก็ระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(2) การที่โจทก์ร่วมว่าจะถอนฟ้องเมื่อจำเลยปฏิบัติแล้วนั้น ก็มีความหมายเพียงเพื่อให้ศาลจำหน่ายคดีเสร็จไปตามวิธีปฏิบัติของศาล ทั้งจะถอนหรือไม่ถอนก็มีผลไม่ต่างกันและอัยการไม่มีสิทธิจะดำเนินคดีต่อไปได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1058/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาใหม่ย่อมสละสิทธิในสัญญาก่อน การทำสัญญาเช่าใหม่หลังประนีประนอมยอมความ ย่อมถือเป็นการสละสิทธิบังคับตามสัญญาเดิม
การที่โจทก์ทำสัญญาให้จำเลยเข้าที่พิพาทขึ้นใหม่หลังจากทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันเช่นนี้ย่อมถือได้ว่าโจทก์ยอมสละสิทธิที่จะบังคับจำเลยตามสัญญาประนีประนอมยอมความอยู่ในตัวแล้ว จึงต้องว่ากล่าวกันตามสัญญาที่ทำขึ้นใหม่นี้
เมื่อโจทก์หมดสิทธิที่จะบังคับจำเลยตามสัญญาประนีประนอมยอมความกันแล้วก็หาบังคับบริวารจำเลยได้ไม่ ตลอดจนถึงเงินที่โจทก์ได้รับไปตามสัญญาประนีประนอมยอมความนั้นก็ต้องคืนจำเลยเช่นกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 267/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความใช้บังคับได้แม้พินัยกรรมเป็นโมฆะ หากไม่มีวัตถุประสงค์ขัดต่อกฎหมาย และจำเลยไม่นำสืบข้อต่อสู้
ทายาทตามพินัยกรรมตกลงกันทำสัญญาประนีประนอมยอมความว่าให้ถือเอาตามพินัยกรรมซึ่งตามกฎหมายเป็นโมฆะตามมาตรา 1705, 1653 แล้วนั้นใช้บังคับได้สัญญานั้นย่อมสมบูรณ์มีผลบังคับได้ เพราะพินัยกรรมนั้นไม่ได้มีวัตถุประสงค์ขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนและสัญญาประนีประนอมกันก็ไม่ต้องห้ามตามบทกฎหมายใดๆ
โจทก์ฟ้องว่าโจทก์มีสิทธิได้รับมรดกตามพินัยกรรมเพราะจำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความให้ถือเอาตามพินัยกรรมนั้นแล้วจำเลยต่อสู้ว่าจำเลยทำสัญญาโดยสำคัญผิดว่าพินัยกรรมนั้นเป็นของแท้จริงและถูกต้องตามกฎหมายประการหนึ่ง และอีกประการหนึ่งจำเลยต่อสู้ว่าสามีจำเลยได้บอกล้างนิติกรรมที่จำเลยได้กระทำไปโดยมิได้รับความยินยอมแล้วเช่นนี้จำเลยซึ่งเป็นผู้กล่าวอ้างต้องนำสืบก่อน เมื่อไม่สืบก็ไม่มีข้อเท็จจริงจะวินิจฉัยตามข้อต่อสู้ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1636-1639/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความกับการบังคับคดีขับไล่: การตีความขอบเขตระยะเวลาเช่า
โจทก์ฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยจากที่ของโจทก์ ชั้นพิจารณาคู่ความตกลงกันว่าโจทก์ยอมให้จำเลยเช่าต่อไป 2 ปี แม้ในสัญญาประนีประนอมจะมิได้ระบุว่าเมื่อครบ 2 ปี แล้วจำเลยจะต้องยอมออกไปก็ตาม ก็ต้องตีความตามสัญญานั้นว่าเมื่อครบ 2 ปีแล้วจำเลยก็ต้องออกไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 877/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความและการผิดสัญญาใหม่: ศาลยังคงบังคับตามคำพิพากษาเดิม
โจทก์จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันในศาล เอาที่ดินพิพาทประมูลระหว่างกันเอง ถ้าไม่ตกลงให้เอา ขายทอดตลาด ต่อมาโจทก์จำเลยได้แถลงต่อศาลว่า ไม่สามารถจะตกลงกันในวิธีการประมูลได้ทั้งสองฝ่ายจึงขอให้ ขายทอดตลาด ศาลได้เรียกคู่ความมาสอบถาม ทั้งสองฝ่ายขอให้ศาลถือข้อตกลงใหม่แทนการที่จะประมูลหรือบังคับ คดี แต่ฝ่ายโจทก์กลับเป็นฝ่ายผิดข้อตกลงตามที่ได้ตกลงกันใหม่นั้น จำเลยจึงไม่จำเป็นจะต้องปฏิบัติการตามข้อตก ลงใหม่นั้น แต่ยังคงต้องปฏิบัติตามคำพิพากษาท้ายยอม คือให้ขายทอดตลาดเอางเงินมาแบ่งกันตามคำพิพากษาท้าย ยอม./

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 877/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความเปลี่ยนแปลงได้ แต่ต้องไม่ขัดแย้งกับคำพิพากษาเดิม หากผิดสัญญาอีกฝ่ายไม่ต้องผูกพัน
โจทก์จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันในศาล เอาที่ดินพิพาทประมูลระหว่างกันเอง ถ้าไม่ตกลงให้เอาขายทอดตลาด ต่อมาโจทก์จำเลยได้แถลงต่อศาลว่า ไม่สามารถจะตกลงกันในวิธีการประมูลได้ทั้งสองฝ่ายจึงขอให้ขายทอดตลาด ศาลได้เรียกคู่ความมาสอบถาม ทั้งสองฝ่ายขอให้ศาลถือข้อตกลงใหม่แทนการที่จะประมูลหรือบังคับคดี แต่ฝ่ายโจทก์กลับเป็นฝ่ายผิดข้อตกลงตามที่ได้ตกลงกันใหม่นั้น จำเลยจึงไม่จำเป็นจะต้องปฏิบัติการตามข้อตกลงใหม่นั้น แต่ยังคงต้องปฏิบัติตามคำพิพากษาท้ายยอม คือให้ขายทอดตลาดเอาเงินมาแบ่งกันตามคำพิพากษาท้ายยอม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 453/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงระงับข้อพิพาท (สัญญาประนีประนอมยอมความ) กรณีเช่าที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง
ชนชาติญี่ปุ่นเช่าที่ดินของคนไทยมีกำหนด 5 ปี เช่าแล้วได้ปลูกอาคารโรงเรือนขึ้นบนที่เช่า ต่อมาผู้เช่าตกเป็น
บุคคลที่เป็นศัตรูของสหประชาชาติตามประกาศนายกรัฐมนตรีตามความใน พ.ร.บ.ว่าด้วยการกักคุมตัวและการควบ คุมกิจการหรือทรัพย์สินของบุคคลที่เป็นศัตรูต่อสหประชาชาติ มาตรา 3 ก.ท.ส. จึงเข้าควบคุมจัดกิจการของผู้เช่า ได้ตกลงกับผู้ให้เช่ามีใจความสำคัญว่า ผู้ให้เช่ายอมใช้เงินค่าเช่าล่วงหน้า 2400 บาท แต่ขอให้หักค่าเสียหาย 1500
บาท ค่าเช่าที่ค้างเป็นอันเลิกกันไป สิ่งปลูกสร้างเป็นของ ก.ท.ส. แต่ขอร้องให้ ก.ท.ส. ให้โอกาศรับซื้อก่อนคนอื่น
เมื่อคนอื่นให้ราคาเท่ากัน ดังนี้ ย่อมเห็นได้ว่าเป็นข้อตกลงระงับข้อพิพาทระหว่างผู้เช่ากับผู้ให้เช่าตาม ป.ม.แพ่งฯ
มาตรา 850 แล้ว ถือได้ว่าเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความ./

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 975/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนังสือไม่ถือเป็นประนีประนอมยอมความ, สงวนสิทธิแก้ไขค่าเสียหายได้
จำเลยถูกพนักงานอัยการฟ้องขอให้ลงโทษฐานขับรถ โดยประมาท เป็นเหตุให้รถชนกันผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บสาหัส จำเลยกลัวจะต้องรับโทษจำคุก จึงขอให้ผู้เสียหายเขียนหนังสือถึงพนักงานอัยการ ผู้เสียหายจึงเขียนหนังสือถึงพนักงานอัยการว่าตนไม่ติดใจจะฟ้องจำเลย ทั้งนี้เพื่อหวังผลให้จำเลยได้รับความปราณีบรรเทาโทษในทางอาญาเท่านั้น หนังสือดังกล่าวไม่มีลักษณะเป็นหนังสือประนีประนอมยอมความตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 850, 851 ผู้เสียหายจึงมีสิทธิฟ้องจำเลยเรียกค่าเสียหายในทางแพ่งได้
ศาลพิพากษาให้จำเลยใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้เสียหาย ซึ่งเป็นโจทก์ เมื่อปรากฎในระหว่างพิจารณาว่า อาการบ่วยของโจทก์ยังไม่หาย ยังไม่เป็นการแน่นอนลงไปทีเดียวว่าโจทก์จะพิการต่อไปจนตลอดชีวิตหรืออาจหายได้ เช่นนี้ ศาลย่อมมีอำนาจสงวนสิทธิไว้ในคำพิพากษาที่จะแก้ไขคำพิพากษาในเรื่องกำหนดค่าเสียหายได้ ภายใน 2 ปี
of 60