พบผลลัพธ์ทั้งหมด 869 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1967/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพยายามฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน: ศาลฎีกาแก้โทษ ลดมาตราส่วนโทษ และพิจารณาอายุของจำเลย
คดีอาญาของศาลคดีเด็กและเยาวชน แม้ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ทั้งบทและกำหนดโทษที่ศาลชั้นต้นวางมา เป็นการแก้มากแต่การที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ให้เปลี่ยนโทษจำคุกเป็นการส่งตัวจำเลยไปฝึกอบรมที่สถานพินิจและคุ้มครองเด็กนั้น ถือไม่ได้ว่าพิพากษาลงโทษจำเลยโดยจำคุกเกิน 1 ปี จึงต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 22
การกระทำของจำเลยตามข้อเท็จจริงที่ศาลอุทธรณ์ฟังมาเป็นการพยายามฆ่า โดยการไตร่ตรองไว้ก่อนหรือไม่ เป็นฎีกาในปัญหาข้อกฎหมาย
ก่อนที่จำเลยใช้ปืนยิงผู้เสียหาย จำเลยกับพวกผู้เสียหายมีสาเหตุกันด้วยเรื่องผู้เสียหายขับรถเฉียดรถจำเลยแล้วมีการตะโกนท้าทายกันเล็กน้อย ทั้งสองฝ่ายมิได้หยุดรถ ต่อมาจำเลยกลับไปบ้านเอาปืนมายืนตรงที่เกิดเหตุ พอผู้เสียหายขี่รถจักรยานยนต์มา จำเลยก็ยิงเอาโดยไม่มีข้อเท็จจริงใดยืนยันว่าจำเลยมารออยู่เพื่อจะยิงผู้เสียหาย ดังนี้ การกระทำของจำเลยยังไม่ถึงขั้นพยายามฆ่าโดยการ ไตร่ตรองไว้ก่อน
การกระทำของจำเลยตามข้อเท็จจริงที่ศาลอุทธรณ์ฟังมาเป็นการพยายามฆ่า โดยการไตร่ตรองไว้ก่อนหรือไม่ เป็นฎีกาในปัญหาข้อกฎหมาย
ก่อนที่จำเลยใช้ปืนยิงผู้เสียหาย จำเลยกับพวกผู้เสียหายมีสาเหตุกันด้วยเรื่องผู้เสียหายขับรถเฉียดรถจำเลยแล้วมีการตะโกนท้าทายกันเล็กน้อย ทั้งสองฝ่ายมิได้หยุดรถ ต่อมาจำเลยกลับไปบ้านเอาปืนมายืนตรงที่เกิดเหตุ พอผู้เสียหายขี่รถจักรยานยนต์มา จำเลยก็ยิงเอาโดยไม่มีข้อเท็จจริงใดยืนยันว่าจำเลยมารออยู่เพื่อจะยิงผู้เสียหาย ดังนี้ การกระทำของจำเลยยังไม่ถึงขั้นพยายามฆ่าโดยการ ไตร่ตรองไว้ก่อน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 185/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คดีฆ่าและพยายามฆ่าโดยเจตนา ศาลพิจารณาโทษหนักเบาจากพฤติการณ์และลดโทษตามรับสารภาพ
จำเลยยิงผู้ตายหนึ่งนัด กระสุนปืนถูกผู้ตายหลายแห่ง แล้วยังไปถูกน่องของ ช. ซึ่งอยู่ในที่เกิดเหตุด้วย ดังนี้ ถือว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288,80,60 อีกด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 185/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คดีฆ่าโดยเจตนาและพยายามฆ่า ศาลฎีกาแก้ไขโทษจำคุกจากศาลอุทธรณ์ โดยพิจารณาจากความร้ายแรงของการกระทำ
จำเลยยิงผู้ตายหนึ่งนัด กระสุนปืนถูกผู้ตายหลายแห่งแล้วยังไปถูกน่องของ ช. ซึ่งอยู่ในที่เกิดเหตุด้วย ดังนี้ ถือว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 80, 60 อีกด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1714/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาความผิดฐานพยายามฆ่าโดยประเมินเหตุแห่งการกระทำและข้อต่อสู้ของผู้กระทำผิด
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดฐานพยายามฆ่าเพื่อป้องกัน เกินสมควรแก่เหตุ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 80, 60,68, 69 ให้จำคุก 3 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดฐานพยายามฆ่า โดยบันดาลโทสะตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 80, 60, และ 72ให้จำคุก 2 ปี เช่นนี้ เป็นการพิพากษาแก้มาก ไม่ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 218 (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 17/2515)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1714/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาความผิดฐานพยายามฆ่า และการใช้ดุลยพินิจลงโทษที่แตกต่างกันในแต่ละศาล
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดฐานพยายามฆ่าเพื่อป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288,80,60,68,69 ให้จำคุก 3 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ เป็นว่า จำเลยมีความผิดฐานพยายามฆ่า โดยบันดาลโทสะ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288,80,60, และ 72 ให้จำคุก 2 ปี เช่นนี้ เป็นการพิพากษาแก้มาก ไม่ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 17/2515)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 132/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความร่วมมือพยายามฆ่า และการข่มขู่เจ้าพนักงาน: เจตนาสำคัญในการประเมินความผิด
จำเลยทั้งสองพกปืนไปหาผู้เสียหาย จำเลยที่ 2 ควักปืนออกมาชี้ปากกระบอกปืนไปที่ผู้เสียหายแล้วถามจำเลยที่ 1 ว่า คนนี้ใช่ไหม จำเลยที่ 1 ใช้ปืนยิงผู้เสียหาย 3 นัด จำเลยที่ 2 ยิงปืนขู่ 1 นัด และพูดขู่ไม่ให้พวกผู้เสียหายติดตาม แล้วจำเลยทั้งสองพากันวิ่งหนีไป ดังนี้ จำเลยที่ 2 เป็นตัวการร่วมกับจำเลยที่ 1 กระทำผิดฐานพยายามฆ่าผู้เสียหาย
เมื่อตำรวจติดตามจับกุมจำเลยที่ 2 และแสดงตัวให้ทราบว่าเป็นตำรวจจำเลยที่ 2 จ้องปืนมาที่ตำรวจ แต่ไม่ยิงทั้งๆ ที่มีโอกาสยิงได้ ปล่อยให้ตำรวจกระโดดเข้าปัดปืนจากจำเลยจนปืนลั่น โดยไม่ปรากฏว่าปืนลั่นเพราะจำเลยมีเจตนายิง พฤติการณ์เช่นนี้แสดงว่าจำเลยที่ 2 จ้องปืนเพื่อขู่ตำรวจเท่านั้น ยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยที่ 2 พยายามฆ่าเจ้าพนักงาน
เมื่อตำรวจติดตามจับกุมจำเลยที่ 2 และแสดงตัวให้ทราบว่าเป็นตำรวจจำเลยที่ 2 จ้องปืนมาที่ตำรวจ แต่ไม่ยิงทั้งๆ ที่มีโอกาสยิงได้ ปล่อยให้ตำรวจกระโดดเข้าปัดปืนจากจำเลยจนปืนลั่น โดยไม่ปรากฏว่าปืนลั่นเพราะจำเลยมีเจตนายิง พฤติการณ์เช่นนี้แสดงว่าจำเลยที่ 2 จ้องปืนเพื่อขู่ตำรวจเท่านั้น ยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยที่ 2 พยายามฆ่าเจ้าพนักงาน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 132/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ร่วมกันพยายามฆ่าและข่มขู่เจ้าพนักงาน: การพิจารณาเจตนาจากพฤติการณ์
จำเลยทั้งสองพกปืนไปหาผู้เสียหาย จำเลยที่ 2 ควักปืนออกมาชี้ปากกระบอกปืนไปที่ผู้เสียหายแล้วถามจำเลยที่ 1 ว่า คนนี้ใช่ไหม จำเลยที่ 1 ใช้ปืนยิงผู้เสียหาย 3 นัด จำเลยที่ 2 ยิงปืนขู่ 1 นัด และพูดขู่ไม่ให้พวกผู้เสียหายติดตาม แล้วจำเลยทั้งสองพากันวิ่งหนีไป ดังนี้ จำเลยที่ 2 เป็นตัวการร่วมกับจำเลยที่ 1 กระทำผิดฐานพยายามฆ่าผู้เสียหาย
เมื่อตำรวจติดตามจับกุมจำเลยที่ 2 และแสดงตัวให้ทราบว่าเป็นตำรวจจำเลยที่ 2 จ้องปืนมาที่ตำรวจ แต่ไม่ยิงทั้ง ๆ ที่มีโอกาสยิงได้ ปล่อยให้ตำรวจกระโดดเข้าปัดปืนจากจำเลยจนปืนลั่นโดยไม่ปรากฏว่าปืนลั่นเพราะจำเลยมีเจตนายิง พฤติการณ์เช่นนี้แสดงว่าจำเลยที่ 2 จ้องปืนเพื่อขู่ตำรวจเท่านั้นยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยที่ 2 พยายามฆ่าเจ้าพนักงาน
เมื่อตำรวจติดตามจับกุมจำเลยที่ 2 และแสดงตัวให้ทราบว่าเป็นตำรวจจำเลยที่ 2 จ้องปืนมาที่ตำรวจ แต่ไม่ยิงทั้ง ๆ ที่มีโอกาสยิงได้ ปล่อยให้ตำรวจกระโดดเข้าปัดปืนจากจำเลยจนปืนลั่นโดยไม่ปรากฏว่าปืนลั่นเพราะจำเลยมีเจตนายิง พฤติการณ์เช่นนี้แสดงว่าจำเลยที่ 2 จ้องปืนเพื่อขู่ตำรวจเท่านั้นยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยที่ 2 พยายามฆ่าเจ้าพนักงาน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1238/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พยายามฆ่าเจ้าพนักงาน: การยกปืนเล็งจ้องแสดงเจตนาลงมือ แม้จะทำไม่สำเร็จ
จำเลยมีอาการเมาสุราไม่พอใจและโกรธผู้เสียหายที่สั่งให้จำเลยออกจากห้อง จึงกลับไปเอาปืนคาร์ไบน์มาหาผู้เสียหายยืนบนบันได ยกปืนซึ่งบรรจุกระสุนอยู่พร้อมที่จะยิงได้ขึ้นประทับบ่าเล็งจ้องไปที่ผู้เสียหายในระยะห่าง 5 เมตรเศษ ดังนี้ ถือได้ว่าเป็นการลงมือกระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่นแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 117/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ยิงปืนเข้าบ้านผู้อื่นโดยรู้มีคนอยู่ เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ มีความผิดฐานพยายามฆ่าและยิงปืนในเมืองโดยไม่มีเหตุ
จำเลยยิงปืนเข้าไปในบ้านผู้เสียหายโดยจำเลยทราบว่ามีคนอยู่ในบ้านนั้น กระสุนปืนอาจจะถูกผู้เสียหายและพวกซึ่งอาศัยอยู่ในบ้านหลังนั้นได้ และกระสุนปืนที่จำเลยใช้ยิงได้ทะลุบ้านผู้เสียหายไปถูกผู้ที่อาศัยอยู่ในบ้านอีกหลังหนึ่งได้รับบาดเจ็บ เช่นนี้ จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 80
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 984/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานและพยายามฆ่า: การกระทำความผิดร่วมกัน การใช้ดุลยพินิจศาล
คืนเกิดเหตุ ตำรวจกับพวกตามหาเรือของเจ้าทรัพย์ที่ถูกคนร้ายชิงไปพบจำเลยทั้งสองอยู่ในเรือลำหนึ่ง ตำรวจซึ่งอยู่ในเครื่องแบบแสดงตัวและบอกให้จำเลยเข้ามาหา จำเลยทั้งสองรู้ว่าเป็นตำรวจแต่ขัดขืน และได้ยิงปืนมาที่เรือตำรวจ 1 นัดกระสุนปืนถูกผู้ช่วยเหลือเจ้าพนักงานที่ขาแล้วจำเลยทั้งสองโดดน้ำหนีพร้อมกัน ดังนี้จำเลยทั้งสองร่วมกันกระทำผิดฐานต่อสู้ขัดขวางและพยายามฆ่าเจ้าพนักงานกับผู้ช่วยเหลือเจ้าพนักงานที่กระทำตามหน้าที่
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 12/2514)
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 12/2514)