คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ยินยอม

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 676 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 343/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้สิทธิโดยไม่สุจริตของผู้ขายร่วมที่ยินยอมให้ผู้ซื้อเชื่อว่าตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับทรัพย์สิน
มารดาผู้เป็นเจ้าของที่ดินร่วมกับบุตร ปล่อยให้บุตรไปประกาศรับมรดกที่ดินนี้แต่ผู้เดียว จนเจ้าพนังกานจดทะเบียนไว้แล้ว มารดาก็ทราบ ต่อมาบุตรตกลงขายที่ดินให้บุคคลอื่น มารดาก็รู้เห็นอยู่ด้วย จนยินยอมเอาเงินที่ได้รับจากผู้ซื้อมาไถ่ถอนการขายฝากที่ดินนี้ แม้ภายหลังจะกลับใจโดยมารดาเอาที่ดินไปประกาศขายแก่คนอื่นเสีย แต่เมื่อบุตรคัดค้านและอำเภอสั่งให้มารดาฟ้อง มารดาก็ไม่ฟ้อง จนต่อมาบุตรได้ประกาศขายให้ผู้ซื้อมารดาก็ไม่คัดค้านอย่างไรอีกจนอำเภอจดทะเบียนทำสัญญาซื้อขายให้กันเสร็จไปแล้ว ดังนี้ย่อมถือได้ว่า พฤติการณ์และการกระทำของมารดาทำให้ผู้ซื้อเชื่อโดยสุจริตว่ามารดาคงไม่เกี่ยวข้องกับที่พิพาท ยอมให้บุตรขายได้แล้ว ผู้ซื้อจึงรับซื้อและชำระราคาไป มารดาจะกลับมาฟ้องขอให้ทำลายสัญญาซื้อขายดังกล่าวไม่ได้ เป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 343/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยินยอมให้ขายแล้วกลับใจ มารดาใช้สิทธิโดยไม่สุจริต สัญญาซื้อขายสมบูรณ์
มารดาผู้เป็นเจ้าของที่ดินร่วมกับบุตร ปล่อยให้บุตรไปประกาศรับมรดกที่ดินนี้แต่ผู้เดียวจนเจ้าพนักงานจดทะเบียนไว้แล้ว มารดาก็ทราบต่อมาบุตรตกลงขายที่ดินให้บุคคลอื่น มารดาก็รู้เห็นอยู่ด้วย จนยินยอมเอาเงินที่ได้รับจากผู้ซื้อมาไถ่ถอนการขายฝากที่ดินนี้แม้ภายหลังจะกลับใจโดยมารดาเอาที่ดินไปประกาศขายแก่คนอื่นเสีย แต่เมื่อบุตรคัดค้านและอำเภอสั่งให้มารดาฟ้องมารดาก็ไม่ฟ้อง จนต่อมาบุตรได้ประกาศขายให้ผู้ซื้อมารดาก็ไม่คัดค้านอย่างไรอีก จนอำเภอจดทะเบียนทำสัญญาซื้อขายให้กันเสร็จไปแล้วดังนี้ ย่อมถือได้ว่าพฤติการณ์และการกระทำของมารดาทำให้ผู้ซื้อเชื่อโดยสุจริตว่ามารดาคงไม่เกี่ยวข้องกับที่พิพาท ยอมให้บุตรขายได้แล้ว ผู้ซื้อจึงรับซื้อและชำระราคาไป มารดาจะกลับมาฟ้องขอให้ทำลายสัญญาซื้อขายดังกล่าวไม่ได้ เป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1963-1965/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้สถานที่เช่าต่างจากที่ระบุในสัญญา สิทธิของผู้เช่าและการยินยอมของผู้ให้เช่า
แม้หนังสือสัญญาเช่าจะมีระบุไว้แล้วว่าผู้เช่าเช่าไปเพื่อประกอบการค้าเป็นส่วนใหญ่ ก็ตาม ถ้าหากผู้เช่าใช้สถานที่เช่าเพื่อการอย่างอื่นโดยฝ่ายผู้ให้เช่ามิได้ทักท้วงว่ากล่าว ก็เป็นการยินยอมให้ใช้สถานที่เช่าเพื่อการอย่างอื่นได้ ฉะนั้นผู้เช่าย่อมนำสืบข้อเท็จจริงที่ได้ปฏิบัติมาต่อกันได้ ไม่เป็นการสืบแก้ไขเปลี่ยนแปลงเอกสาร อันต้องห้ามตาม ป.ม.วิ.แพ่ง มาตรา 94
ฟ้องว่าจำเลยเช่าห้องเพื่อประกอบการค้าเป็นส่วนใหญ่ จำเลยให้การว่าเช่าเป็นที่อยู่อาศัยเป็นส่วนใหญ่ ตามคำให้การดังกล่าวเป็นคำให้การที่เข้าอยู่ในข่าย พ.ร.บ.ควบคุมการเช่า ฯ แล้วการนำสืบและคำวินิจฉัยของศาลที่เป็นไปในทางที่ว่า การเช่าของจำเลยอยู่ในความควบคุมตามพ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯ หรือไม่ จึงไม่เป็นการนอกประเด็น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1963-1965/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้สถานที่เช่าต่างจากสัญญาเดิม หากผู้ให้เช่าไม่ทักท้วง ถือเป็นการยินยอมได้
แม้หนังสือสัญญาเช่าจะมีระบุไว้แล้วว่าผู้เช่าเช่าไปเพื่อประกอบการค้าเป็นส่วนใหญ่ก็ตาม ถ้าหากผู้เช่าใช้สถานที่เช่าเพื่อการอย่างอื่นโดยฝ่ายผู้ให้เช่ามิได้ทักท้วงว่ากล่าว ก็เป็นการยินยอมให้ใช้สถานที่เช่าเพื่อการอย่างอื่นได้ ฉะนั้นผู้เช่าย่อมนำสืบข้อเท็จจริงที่ได้ปฏิบัติมาต่อกันได้ ไม่เป็นการสืบแก้ไขเปลี่ยนแปลงเอกสาร อันต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94
ฟ้องว่าจำเลยเช่าห้องเพื่อประกอบการค้าเป็นส่วนใหญ่ จำเลยให้การว่าเช่าเป็นที่อยู่อาศัยเป็นส่วนใหญ่ ตามคำให้การดังกล่าวเป็นคำให้การที่เข้าอยู่ในข่ายพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯแล้ว การนำสืบและคำวินิจฉัยของศาลที่เป็นไปในทางที่ว่า การเช่าของจำเลยอยู่ในความควบคุมตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯหรือไม่ จึงไม่เป็นการนอกประเด็น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1814/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความยินยอมของผู้เช่าต่อการออกจากห้องเช่าตามมติคณะกรรมการควบคุมค่าเช่า และผลต่อการฟ้องขับไล่
ผู้ให้เช่ายื่นคำร้องขอเข้าอยู่ในห้องเช่าเอง ต่อคณะอนุกรรมการควบคุมค่าเช่าประจำจังหวัด อนุกรรมการได้เชิญให้ผู้ให้เช่าและผู้เช่ามาเพื่อแจ้งมติคณะกรรมการควบคุมค่าเช่าให้ทราบ ผู้ให้เช่าและผู้เช่าจึงตกลงยินยอมตามกำหนดที่คณะกรรมการกำหนด คือให้ผู้เช่าออกจากห้องเช่าภายใน 8 เดือนและมีความว่าผู้เช่าตกลงยินยอมจะออกจากห้องเช่าของผู้ให้เช่าตามมติของคณะกรรมการควบคุมค่าเช่าภายในกำหนด 8 เดือนฯลฯ ดังนี้ข้อตกลงเช่นนี้ถือได้ว่าเป็นความยินยอมของผู้เช่าตาม พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯลฯ มาตรา 16(5) แล้ว ฉะนั้นภายหลังอนุกรรมการควบคุมค่าเช่าประจำจังหวัดจะเสนอเรื่องนี้ขึ้นไปยังคณะกรรมการควบคุมค่าเช่าสั่งตามอำนาจ คณะกรรมการได้ลงมติไม่ให้ผู้เช่าเข้าอยู่ห้องเช่าของผู้ให้เช่าตามคำร้องก็ตาม มติกรรมการก็ไม่ลบล้างความยินยอมดังกล่าวแล้ว ฉะนั้นเมื่อครบกำหนด 8 เดือนแล้วผู้เช่าไม่ออกจากห้องเช่า โจทก์ย่อมฟ้องขับไล่จำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 999/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พินัยกรรมยกทรัพย์และการยินยอมให้มอบทรัพย์หลังพินัยกรรมมีผลใช้บังคับ
เอกสารที่ผู้ทำ ทำยกทรัพย์ให้บุตร ได้ทำตามแบบพินัยกรรม์ความตอนต้นก็บ่งว่าผู้ทำ ทำพินัยกรรม์เป็นคำสั่งเด็ดขาดและจะยกทรัพย์ให้ต่อเมื่อตนตายแล้ว ตอนท้ายก็มีบันทึกของผู้นั่งพินัยกรรม์ตามแบบเดิม และเซ็นชื่อผู้นั่งพินัยกรรม์ถึง 6 คน ดังนี้ย่อมถือว่าเป็นพินัยกรรม์
ทำพินัยกรรม์ยกทรัพย์ให้แก่บุตร แล้วภายหลังสั่งให้ผู้รับฝากทรัพย์ตามพินัยกรรม์ให้มอบทรัพย์นั้นแก่บุตรไปในระวห่างที่ตนมีชีวิตอยู่ ก็หาเป็นเหตุลบล้างลักษณะของเอกสารนั้นให้กลับไม่เป็นพินัยกรรม์ได้ไม่
ผู้รับฝากทรัพย์ของเขาไว้เพื่อมอบให้แก่บุตรของผู้ฝากภายหลังได้มอบทรัพย์นั้นแก่บุตรของผู้ฝาก ๆ รู้แล้วมิได้คัดค้านย่อมถือได้ว่าผู้ฝากยินยอมให้ผู้รับฝากมอบทรัพย์ให้แก่บุตรผู้รับฝากย่อมพ้นหน้าที่รับผิดชอบใน ทรัพย์ส่วนนี้ และผู้ฝากก็สิ้นสิทธิที่จะเรียกทรัพย์ส่วนนี้คืนจากผู้รับฝาก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 999/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พินัยกรรมยกทรัพย์และการยินยอมให้มอบทรัพย์ก่อนตาย ทำให้สิ้นสิทธิเรียกร้องคืน
เอกสารที่ผู้ทำ ทำยกทรัพย์ให้บุตร ได้ทำตามแบบพินัยกรรมความตอนต้นก็บ่งว่าผู้ทำ ทำพินัยกรรมเป็นคำสั่งเด็ดขาดและจะยกทรัพย์ให้ต่อเมื่อตนตายแล้ว ตอนท้ายก็มีบันทึกของผู้นั่งพินัยกรรมตามแบบเดิม และเซ็นชื่อผู้นั่งพินัยกรรมถึง 6 คน ดังนี้ย่อมถือว่าเป็นพินัยกรรม
ทำพินัยกรรมยกทรัพย์ให้แก่บุตร แล้วภายหลังสั่งให้ผู้รับฝากทรัพย์ตามพินัยกรรมให้มอบทรัพย์นั้นแก่บุตรไปในระหว่างที่ตนมีชีวิตอยู่ ก็หาเป็นเหตุลบล้างลักษณะของเอกสารนั้นให้กลับไม่เป็นพินัยกรรมได้ไม่
ผู้รับฝากทรัพย์ของเขาไว้เพื่อมอบให้แก่บุตรของผู้ฝากภายหลังได้มอบทรัพย์นั้นแก่บุตรของผู้ฝาก ผู้ฝากรู้แล้วมิได้คัดค้านย่อมถือได้ว่าผู้ฝากยินยอมให้ผู้รับฝากมอบทรัพย์ให้แก่บุตร ผู้รับฝากย่อมพ้นหน้าที่รับผิดชอบในทรัพย์ส่วนนี้ และผู้ฝากก็สิ้นสิทธิที่จะเรียกทรัพย์ส่วนนี้คืนจากผู้รับฝาก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 933/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองห้องเช่าและการบุกรุก: เมื่อผู้เช่าแจ้งยกเลิกและยินยอมให้ผู้อื่นอยู่ต่อ ผู้ให้เช่าไม่ผิดฐานบุกรุก
ผู้เช่าห้อง เมื่อจะออกจากห้องเช่าไปอยู่ที่อื่น ได้บอกผู้เช่าและขอให้คนอื่นอาศัยอยู่ช่วงเวลา 1 เดือนนั้น ถือว่าผู้ให้เช่าเป็นผู้ครอบครองห้องเช่านั้นต่อมาส่วนคนอื่นที่มาอาศัยอยู่นั้น เป็นเพียงผู้อาศัยเมื่อครบกำหนด 1 เดือนแล้วยังไม่ออกไปผู้ให้เช่าจึงจัดให้คนเข้ามานอนในห้องเช่านั้น ดังนี้ผู้ให้เช่าและผู้ที่ผู้ให้เช่าจัดให้เข้านอนไม่มีผิดฐานบุกรุกตามมาตรา 329

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 910/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้สิทธิไม่สุจริตในการบอกล้างนิติกรรมขายฝากเมื่อสามีเคยยินยอมให้ภรรยาจำนองและไถ่ถอนที่ดินมาก่อน
สามีเคยให้ภรรยาเอาที่ดินไปจำนองและมอบเงินไปชำระดอกเบี้ย และไถ่ถอนมาหลายครั้งแล้ว. ภายหลังภรรยาเอาที่นี้ไปขายฝากไว้แก่ผู้อื่นอีก. แล้วสามีมาขอบอกล้าง ให้ทำลายนิติกรรมโดยอ้างว่าไม่ได้รับความยินยอมจากสามีนั้น.เป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต ตาม ป.พ.พ. ม.5 การบอกล้างไม่มีผล.(อ้างฎีกาที่ 468/2488).

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 87/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยินยอมให้เข้าอยู่ทำให้หลุดพ้นจาก พรบ.ควบคุมค่าเช่า สิทธิผู้ให้เช่ากลับสู่ประมวลกฎหมายแพ่งฯ
ผู้ให้เช่า ซึ่งได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการควบคุมค่าเช่าให้เข้าอยู่ในสถานที่เช่าและได้ฟ้องคดีขับไล่ผู้เช่าไว้ก่อนตาย ถือว่าโจทก์ใหม่ผู้รับมรดกความของผู้ให้เช่ามีความจำเป็นเข้าอยู่ในสถานที่เช่ารายนี้ด้วย
เมื่อคณะกรรมการฯ ยินยอมให้ผู้ให้เช่าเข้าอยู่ในสถานที่เช่าแล้วทำให้การเช่านั้นหลุดพ้นจากพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯฐานะของผู้เช่าและผู้ให้เช่ากลับคืนสู่สภาพเดิมตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ คือผู้ให้เช่าขับไล่ผู้เช่าได้หากมีสิทธิที่จะขับไล่ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
ผู้เช่าทำสัญญาให้ขึ้นค่าเช่า ไม่ขัดต่อพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ มาตรา 10
ประชุมใหญ่ครั้งที่ 4/2493
of 68