พบผลลัพธ์ทั้งหมด 846 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 101/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมเดียวผิดหลายบท-การเพิ่มโทษเกินกรอบ: กรณีประทับตราอนุญาตชักลากไม้และทำบัญชีเท็จ
ตามระเบียบการตรวจวัดประทับตราอนุญาตชักลากไม้ และตามคำสั่งของป่าไม้เขตที่ให้จำเลยออกไปตรวจวัดประทับตราอนุญาตชักลากไม้ จำเลยจะต้องทำบัญชีอนุญาตชักลากไม้ด้วย ดังนั้น การที่จำเลยทำบัญชีอนุญาตชักลากไม้เป็นเท็จก็เพื่อให้การประทับตราอนุญาตชักลากไม้ไม่ถูกต้อง ตามระเบียบเสร็จสิ้นไปโดยบริบูรณ์ การทำบัญชีอนุญาตชักลากไม้เป็นเท็จกับการประทับตราอนุญาตชักลากไม้ไม่ถูกต้องตามระเบียบจึงเป็นกรรมเดียวกันเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท แม้ขั้นตอนที่จะต้องกระทำ จำเลยต้องประทับตราอนุญาตชักลากไม้ก่อนแล้วจึงทำบัญชีอนุญาตชักลากก็หาทำให้การกระทำของจำเลยเป็นสองกรรมต่างกันไม่
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 160, 162 แต่ละกรรมเป็นความผิดตามมาตรา 157 ด้วย ให้ลงโทษตามมาตรา 157 ซึ่งเป็นบทหนักทั้งสองกระทง จำคุกกระทงละ 5 ปี ข้อหาทำไม้ในเขตป่าสงวนแห่งชาติให้ยกฟ้อง โจทก์อุทธรณ์ขอให้ลงโทษจำเลยฐานทำไม้ในเขตป่าสงวนแห่งชาติด้วย ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าการกระทำของจำเลยตามมาตรา 160, 162 เป็นความผิดกรรมเดียวกัน พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 160, 162 และ 157 ให้ลงโทษตามมาตรา 157 ซึ่งเป็นบทหนักที่สุด จำคุก 10 ปี ดังนี้ ถือไม่ได้ว่าโจทก์อุทธรณ์ขอให้ลงโทษจำเลยหนักขึ้น การที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยกระทงเดียว 10 ปี เป็นการพิพากษาเพิ่มเติมโทษจำเลย ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 212
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 160, 162 แต่ละกรรมเป็นความผิดตามมาตรา 157 ด้วย ให้ลงโทษตามมาตรา 157 ซึ่งเป็นบทหนักทั้งสองกระทง จำคุกกระทงละ 5 ปี ข้อหาทำไม้ในเขตป่าสงวนแห่งชาติให้ยกฟ้อง โจทก์อุทธรณ์ขอให้ลงโทษจำเลยฐานทำไม้ในเขตป่าสงวนแห่งชาติด้วย ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าการกระทำของจำเลยตามมาตรา 160, 162 เป็นความผิดกรรมเดียวกัน พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 160, 162 และ 157 ให้ลงโทษตามมาตรา 157 ซึ่งเป็นบทหนักที่สุด จำคุก 10 ปี ดังนี้ ถือไม่ได้ว่าโจทก์อุทธรณ์ขอให้ลงโทษจำเลยหนักขึ้น การที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยกระทงเดียว 10 ปี เป็นการพิพากษาเพิ่มเติมโทษจำเลย ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 212
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 101/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมเดียวผิดหลายบท: การประทับตราอนุญาตชักลากไม้เท็จ และการทำบัญชีขนาดไม้เป็นเท็จ
ตามระเบียบการตรวจวัดประทับตราอนุญาตชักลากไม้ และตามคำสั่งของป่าไม้เขต ที่ให้จำเลยออกไปตรวจวัด ประทับตราอนุญาตชักลากไม้ จำเลยจะต้องทำบัญชีอนุญาต ชักลากไม้ด้วย ดังนั้น การที่จำเลยทำบัญชีอนุญาตชักลากไม้ เป็นเท็จก็เพื่อให้การประทับตราอนุญาตชักลากไม้ไม่ถูกต้อง ตามระเบียบเสร็จสิ้นไปโดยบริบูรณ์ การทำบัญชีอนุญาต ชักลากไม้เป็นเท็จกับการประทับตราอนุญาตชักลากไม้ไม่ถูกต้อง ตามระเบียบจึงเป็นกรรมเดียวกันเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท แม้ขั้นตอนที่จะต้องกระทำ จำเลยต้องประทับตราอนุญาต ชักลากไม้ก่อนแล้วจึงทำบัญชีอนุญาตชักลากไม้ ก็หาทำให้ การกระทำของจำเลยเป็นสองกรรมต่างกันไม่
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 160,162 แต่ละกรรมเป็นความผิดตามมาตรา 157ด้วย ให้ลงโทษตามมาตรา 157 ซึ่งเป็นบทหนักทั้งสองกระทง จำคุกกระทงละ 5 ปี ข้อหาทำไม้ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ให้ยกฟ้อง โจทก์อุทธรณ์ขอให้ลงโทษ จำเลยฐานทำไม้ใน เขตป่าสงวนแห่งชาติด้วย ศาลอุทธรณ์ วินิจฉัยว่าการกระทำ ของจำเลยตามมาตรา 160,162 เป็นความผิดกรรมเดียวกัน พิพากษาแก้เป็นว่าจำเลยมี ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 160,162 และ 157 ให้ลงโทษตามมาตรา 157 ซึ่ง เป็นบทหนักที่สุด จำคุก 10 ปี ดังนี้ ถือไม่ได้ว่าโจทก์อุทธรณ์ ขอให้ลงโทษจำเลย หนักขึ้น การที่ศาลอุทธรณ์พิพากษา ลงโทษ จำคุกจำเลย กระทงเดียว 10 ปี เป็นการพิพากษา เพิ่มเติม โทษจำเลยไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 212
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 160,162 แต่ละกรรมเป็นความผิดตามมาตรา 157ด้วย ให้ลงโทษตามมาตรา 157 ซึ่งเป็นบทหนักทั้งสองกระทง จำคุกกระทงละ 5 ปี ข้อหาทำไม้ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ให้ยกฟ้อง โจทก์อุทธรณ์ขอให้ลงโทษ จำเลยฐานทำไม้ใน เขตป่าสงวนแห่งชาติด้วย ศาลอุทธรณ์ วินิจฉัยว่าการกระทำ ของจำเลยตามมาตรา 160,162 เป็นความผิดกรรมเดียวกัน พิพากษาแก้เป็นว่าจำเลยมี ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 160,162 และ 157 ให้ลงโทษตามมาตรา 157 ซึ่ง เป็นบทหนักที่สุด จำคุก 10 ปี ดังนี้ ถือไม่ได้ว่าโจทก์อุทธรณ์ ขอให้ลงโทษจำเลย หนักขึ้น การที่ศาลอุทธรณ์พิพากษา ลงโทษ จำคุกจำเลย กระทงเดียว 10 ปี เป็นการพิพากษา เพิ่มเติม โทษจำเลยไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 212
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1005/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมเดียวผิดหลายบท: ใช้เอกสารปลอมเพื่อฉ้อโกง
การที่จำเลยใช้เอกสารราชการปลอมเพื่อฉ้อโกงเอาทรัพย์สินของโจทก์ร่วมเป็นการกระทำผิดกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 820/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมเดียวผิดฐานเดียว - การจำหน่ายเฮโรอีน
เฮโรอีนของกลางที่จำเลยมีไว้เพื่อจำหน่าย และจำหน่ายให้ผู้อื่นเป็นจำนวนเดียวกัน มิใช่สองจำนวนการกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดกรรมเดียว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 634/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขโทษในคดียาเสพติด: ศาลอุทธรณ์แก้โทษโดยลงโทษกรรมเดียว แต่ฎีกาไม่รับวินิจฉัยเพราะเป็นการแก้ไขเล็กน้อย
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยฐานมีและพยายามนำเฮโรอีนออกนอกราชอาณาจักร รวม 2 กระทง วางโทษจำคุกกระทงแรก 1 ปี กระทงหลัง 3 ปี 4 เดือนรับสารภาพลดโทษกึ่งหนึ่ง คงจำคุก 2 ปี 2 เดือนศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่าจำเลยกระทำความผิดกรรมเดียว ผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานพยายามนำเฮโรอีนออกนอกราชอาณาจักรซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุด ให้จำคุก 3 ปี 4เดือน รับสารภาพลดโทษกึ่งหนึ่งคงจำคุก 1 ปี 8 เดือน แก้เฉพาะโทษมิได้แก้บท จึงเป็นการแก้ไขเล็กน้อยต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 218
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2880/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมเดียวความผิดต่อเนื่อง: ข่มขืนกระทำชำเราหลายวาระ ไม่ถือเป็นฟ้องซ้ำ
จำเลยที่ 2 กับพวกได้ร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราหญิงเมื่อวันที่ 4 มกราคม 2521 แล้วจำเลยที่ 2 กับพวกยังควบคุมตัวผู้เสียหายไว้ตลอดเวลามิได้ปล่อยให้เป็นอิสระ แม้จำเลยที่ 2 จะได้ข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายต่ออีกในคืนวันที่ 4 ติดต่อกับคืนวันที่ 5 มกราคม 2521 ก็ถือได้ว่าเป็นการกระทำที่ต่อเนื่องจากเจตนาเดิม เป็นความผิดกรรมเดียวโจทก์ฟ้องซ้ำคดีเดิมไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2821/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดกรรมเดียวฟ้องซ้ำ: การฟ้องคดีอาญาซ้ำเมื่อคดีเดิมอยู่ระหว่างการพิจารณา
เมื่อความผิดฐานฉ้อโกงและความผิดต่อ พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค เป็นการกระทำความผิดกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบทการที่พนักงานอัยการประจำศาลแขวงฟ้องในความผิดฐานฉ้อโกงศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องแล้วพนักงานอัยการจังหวัดมาฟ้องในความผิดต่อพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คอีก โจทก์ทั้งสองคดีต่างเป็นพนักงานอัยการมีอำนาจฟ้องคดีอาญาต่อศาลตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 2(5)28 จึงเป็นพนักงานอัยการโจทก์ด้วยกันเมื่อมาฟ้องคดีนี้ขณะที่คดีก่อนอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์จึงต้องห้ามตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15 และ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 173(1) โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องคดีนี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2518/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมเดียวผิดหลายบท: การขายยาเสพติดจำนวนที่จำเลยมีอยู่ทั้งหมด
เมื่อแอมเฟตามีนไฮโดรคลอไรด์ที่จำเลยขายไปเป็นจำนวนเดียวกับที่จำเลยมีอยู่ การกระทำของจำเลยจึงเป็นกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2152/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมเดียวฟ้องซ้ำ: ศาลมีอำนาจยกฟ้องแม้จำเลยไม่ฎีกา หากการกระทำเป็นกรรมเดียวกับคดีก่อน
การกระทำที่จำเลยถูกฟ้องในคดีนี้เป็นกรรมเดียวกับความผิดในอีกคดีหนึ่งจำเลยได้ถูกฟ้องไว้ก่อนแล้วโจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องให้ศาลลงโทษจำเลยซ้ำอีกได้ปัญหาข้อนี้เป็นปัญหาอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้จำเลยจะไม่ฎีกาขึ้นมา เมื่อศาลเห็นว่ามีเหตุตามกฎหมายที่จำเลยไม่ควรต้องรับโทษ ศาลก็มีอำนาจยกฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2127/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมเดียวความผิดเดียว: จำหน่ายกัญชา - การมีไว้เพื่อจำหน่ายและการจำหน่ายเป็นกรรมเดียวกัน
จำเลยมีและจำหน่ายกัญชาไม่มีกัญชาเหลืออยู่อีกเป็นความผิด ฐานจำหน่ายกัญชากรรมเดียว ตาม พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 4,7,26,75