พบผลลัพธ์ทั้งหมด 632 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1597/2558
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำความผิดฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย: การพิสูจน์ตัวการร่วมและการสนับสนุน
จำเลยลักลอบจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนโดยเป็นผู้รับคำสั่งซื้อและจัดหาเมทแอมเฟตามีนไว้ วันเกิดเหตุจำเลยมอบเมทแอมเฟตามีนของกลางให้ จ. และ ส. นำไปส่งให้ ว. ลูกค้าของจำเลยที่อยู่กรุงเทพมหานครทางไปรษณีย์และจำเลยขับรถจักรยานยนต์ติดตามไปดูการส่งเมทแอมเฟตามีนของ จ. และ ส. จำเลยจึงเป็นตัวการร่วมกับ จ. และ ส. ในการกระทำความผิดฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย หาใช่เป็นกรณีที่จำเลยใช้ให้ จ. และ ส. กระทำความผิดไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6899/2557
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองและจำหน่ายอาวุธปืนเถื่อนและอาวุธปืนของผู้อื่น มีความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ
เมื่ออาวุธปืนที่จำเลยมีและพยายามจำหน่ายสำหรับการค้าเป็นอาวุธปืนพกออโตเมติก (STAR) ขนาด .38 (9 มม.) ไม่มีหมายเลขทะเบียนของเจ้าพนักงานอนุญาต และจำเลยยังมีอาวุธปืนมีทะเบียนของผู้อื่น ซองกระสุนปืน และเครื่องกระสุนปืนของกลางอื่นอีก การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานมีอาวุธปืนมีทะเบียนของผู้อื่นไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตอีกกระทงหนึ่งด้วย จึงต้องลงโทษจำเลยตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ มาตรา 7, 72 วรรคสาม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6586/2557
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การผลิตเมทแอมเฟตามีนโดยแบ่งบรรจุเพื่อจำหน่าย: การปรับบทลงโทษตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดฯ มาตรา 65 วรรคสี่
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยผลิตเมทแอมเฟตามีนด้วยการแบ่งบรรจุเป็นถุงย่อย ๆ ถุงละ 20 เม็ด 8 ถุง 10 เม็ด 5 ถุง 8 เม็ด 1 ถุง 4 เม็ด 1 ถุง 1 เม็ด 1 ถุง และมีอีก 10 เม็ด รวม 223 เม็ด คำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ได้ 4.905 กรัม จำเลยให้การรับสารภาพ จึงต้องฟังว่า จำเลยแบ่งบรรจุเมทแอมเฟตามีนใส่ในถุงตามฟ้อง จำเลยจะฎีกาโต้เถียงว่า ไม่ได้แบ่งบรรจุเมทแอมเฟตามีนหาได้ไม่ เพราะขัดกับคำรับสารภาพของจำเลยและเป็นข้อเท็จจริงที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ส่วนที่จำเลยฎีกาว่า จำเลยให้การปฏิเสธข้อหาดังกล่าวในศาลชั้นต้น เป็นข้อเท็จจริงที่เพิ่งจะยกขึ้นอ้างในชั้นฎีกา จึงต้องห้ามฎีกาตาม ป.วิ.พ. มาตรา 249 วรรคหนึ่ง ประกอบ ป.วิ.อ. มาตรา 15
ตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 5) พ.ศ.2545 มาตรา 19 ยกเลิกความในมาตรา 65 แห่ง พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 และให้ใช้ข้อความใหม่แทน โดยบัญญัติเพิ่มเติมให้มีวรรคสามและวรรคสี่ ซึ่งวุฒิสภาให้เหตุผลในการแก้ไขไว้ชัดเจนอันแสดงให้เห็นว่าเป็นการแก้ไขโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกำหนดให้มีบทความผิดและบทลงโทษสำหรับการกระทำความผิดฐานผลิตยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 โดยการแบ่งบรรจุ หรือรวมบรรจุไว้เป็นกรณีเฉพาะ แยกต่างหากจากบทความผิดและบทลงโทษ ฐานผลิตยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 ในกรณีทั่วไปตามมาตรา 65 วรรคหนึ่งและวรรคสอง (ผลิตโดยการ เพาะ ปลูก ทำ ผสม ปรุง แปรสภาพ เปลี่ยนรูปสังเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์) ซึ่งมีสภาพแห่งความผิดเป็นภัยร้ายแรงต่อสังคมมากกว่าการกระทำความผิดฐานผลิตยาเสพติดให้โทษ โดยการแบ่งบรรจุ หรือรวมบรรจุ ยิ่งกว่านั้นยังได้บัญญัติแก้ไขใหม่ไว้เป็น 2 กรณี กล่าวคือ มาตรา 65 วรรคสาม มุ่งใช้บังคับสำหรับการแบ่งบรรจุหรือรวมบรรจุยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 ที่มีปริมาณไม่ถึงบทสันนิษฐานของมาตรา 15 วรรคสาม ส่วนวรรคสี่มุ่งใช้บังคับสำหรับการแบ่งบรรจุหรือรวมบรรจุยาเสพติดที่มีปริมาณเกินบทสันนิษฐานตามมาตรา 15 วรรคสาม ส่วนการที่มาตรา 65 วรรคสี่ บัญญัติว่า "ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคสาม เป็นการกระทำเพื่อจำหน่าย..." นั้น หมายถึง การกระทำความผิดฐานผลิตโดยการแบ่งบรรจุ หรือรวมบรรจุเท่านั้น ไม่ได้หมายความรวมไปถึงว่า จะต้องมีปริมาณไม่ถึงด้วยบทสันนิษฐานตามมาตรา 15 วรรคสาม ด้วยการกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิด ฐานผลิตเมทแอมเฟตามีนโดยการแบ่งบรรจุเพื่อจำหน่ายและต้องได้รับโทษตามมาตรา 65 วรรคสี่
ปัญหาว่าการกระทำของจำเลยมีความผิดตามมาตรา 65 วรรคใด เป็นข้อกฎหมายอันเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย แม้จำเลยไม่ฎีกาศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้เองตาม ป.วิ.อ. มาตรา 195 วรรคสอง ประกอบมาตรา 225
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 7/2557)
ตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 5) พ.ศ.2545 มาตรา 19 ยกเลิกความในมาตรา 65 แห่ง พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 และให้ใช้ข้อความใหม่แทน โดยบัญญัติเพิ่มเติมให้มีวรรคสามและวรรคสี่ ซึ่งวุฒิสภาให้เหตุผลในการแก้ไขไว้ชัดเจนอันแสดงให้เห็นว่าเป็นการแก้ไขโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกำหนดให้มีบทความผิดและบทลงโทษสำหรับการกระทำความผิดฐานผลิตยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 โดยการแบ่งบรรจุ หรือรวมบรรจุไว้เป็นกรณีเฉพาะ แยกต่างหากจากบทความผิดและบทลงโทษ ฐานผลิตยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 ในกรณีทั่วไปตามมาตรา 65 วรรคหนึ่งและวรรคสอง (ผลิตโดยการ เพาะ ปลูก ทำ ผสม ปรุง แปรสภาพ เปลี่ยนรูปสังเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์) ซึ่งมีสภาพแห่งความผิดเป็นภัยร้ายแรงต่อสังคมมากกว่าการกระทำความผิดฐานผลิตยาเสพติดให้โทษ โดยการแบ่งบรรจุ หรือรวมบรรจุ ยิ่งกว่านั้นยังได้บัญญัติแก้ไขใหม่ไว้เป็น 2 กรณี กล่าวคือ มาตรา 65 วรรคสาม มุ่งใช้บังคับสำหรับการแบ่งบรรจุหรือรวมบรรจุยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 ที่มีปริมาณไม่ถึงบทสันนิษฐานของมาตรา 15 วรรคสาม ส่วนวรรคสี่มุ่งใช้บังคับสำหรับการแบ่งบรรจุหรือรวมบรรจุยาเสพติดที่มีปริมาณเกินบทสันนิษฐานตามมาตรา 15 วรรคสาม ส่วนการที่มาตรา 65 วรรคสี่ บัญญัติว่า "ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคสาม เป็นการกระทำเพื่อจำหน่าย..." นั้น หมายถึง การกระทำความผิดฐานผลิตโดยการแบ่งบรรจุ หรือรวมบรรจุเท่านั้น ไม่ได้หมายความรวมไปถึงว่า จะต้องมีปริมาณไม่ถึงด้วยบทสันนิษฐานตามมาตรา 15 วรรคสาม ด้วยการกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิด ฐานผลิตเมทแอมเฟตามีนโดยการแบ่งบรรจุเพื่อจำหน่ายและต้องได้รับโทษตามมาตรา 65 วรรคสี่
ปัญหาว่าการกระทำของจำเลยมีความผิดตามมาตรา 65 วรรคใด เป็นข้อกฎหมายอันเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย แม้จำเลยไม่ฎีกาศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้เองตาม ป.วิ.อ. มาตรา 195 วรรคสอง ประกอบมาตรา 225
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 7/2557)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 13320/2557
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
จำหน่ายยาเสพติด: ศาลยกฟ้องข้อหาจำหน่ายต่อ แต่ลงโทษฐานมีไว้เพื่อจำหน่าย เนื่องจากมีหลักฐานการครอบครอง
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยร่วมกับ ท. มีเมทแอมเฟตามีน 10 เม็ด ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายเมทแอมเฟตามีน 9 เม็ด ให้แก่สายลับ แต่ได้ความจากทางนำสืบโจทก์ว่า จำเลยจำหน่ายเมทแอมเฟตามีน 10 เม็ด ให้แก่ ท. โดยไม่ปรากฏว่า จำเลยทราบว่า ท. จะนำเมทแอมเฟตามีนดังกล่าวไปจำหน่ายให้แก่สายลับ จึงเห็นได้ว่า การซื้อขายเมทแอมเฟตามีนระหว่าง ท. กับสายลับไม่เกี่ยวข้องกับจำเลย จึงฟังไม่ได้ว่าจำเลยร่วมกับ ท. จำหน่ายเมทแอมเฟตามีน 9 เม็ด ให้แก่สายลับ และแม้ได้ความว่าจำเลยจำหน่ายเมทแอมเฟตามีน 10 เม็ด ให้แก่ ท. แต่ข้อเท็จจริงที่ปรากฏในการพิจารณาดังกล่าวแตกต่างกับข้อเท็จจริงที่กล่าวในฟ้องในสาระสำคัญ ศาลไม่อาจลงโทษจำเลยฐานจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนให้แก่ ท. ตามข้อเท็จจริงที่ได้ความนั้น ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 192 วรรคสอง อย่างไรก็ดีการที่จำเลยจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนให้แก่ ท. แสดงว่าจำเลยมีเมทแอมเฟตามีนของกลาง 10 เม็ด ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต แม้โจทก์ฟ้องว่า จำเลยร่วมกับพวกมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต แต่เมื่อได้ความว่าจำเลยกับ ท. ต่างคนต่างครอบครองเมทแอมเฟตามีนของกลางในช่วงเวลาต่างกันซึ่งเป็นความผิดได้อยู่ในตัวเอง ประกอบกับโจทก์บรรยายฟ้องประสงค์ให้ลงโทษจำเลยในความผิดฐานนี้ ศาลจึงมีอำนาจลงโทษจำเลยฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาตตามที่พิจารณาได้ความตาม ป.วิ.อ. มาตรา 192 วรรคท้าย ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 12389/2557
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
จำหน่ายยาเสพติด: แม้ไม่ร่วมจำหน่ายให้สายลับ แต่มีไว้เพื่อจำหน่ายก็มีความผิด
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองร่วมกันมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและร่วมกันจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนดังกล่าวให้แก่สายลับผู้ล่อซื้อ แต่เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยที่ 2 มิได้มีส่วนร่วมกับจำเลยที่ 1 ในการจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนให้แก่สายลับ จึงไม่อาจรับฟังลงโทษจำเลยที่ 2 ฐานร่วมกันจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนให้แก่สายลับดังที่โจทก์ฟ้อง แต่พฤติการณ์ที่จำเลยที่ 2 แบ่งขายเมทแอมเฟตามีนให้แก่จำเลยที่ 1 ย่อมแสดงอยู่ในตัวว่าจำเลยที่ 2 ครอบครองเมทแอมเฟตามีนไว้เพื่อจำหน่ายอยู่ก่อนแล้ว แม้โจทก์จะฟ้องว่าจำเลยทั้งสองร่วมกันมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ซึ่งย่อมมีความหมายเช่นเดียวกัน ทั้งมิใช่ข้อแตกต่างที่เป็นสาระสำคัญและจำเลยที่ 2 มิได้หลงต่อสู้ จึงฟังได้ว่าจำเลยที่ 2 กระทำความผิดฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 11473/2557
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
จำหน่ายยาเสพติด: ความรับผิดของผู้เกี่ยวข้องเมื่อไม่มีส่วนร่วมในการจำหน่ายโดยตรง
แม้ความผิดฐานจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนให้แก่สายลับจะต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตาม ป.วิ.อ. มาตรา 218 วรรคหนึ่ง แต่เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่าจำเลยที่ 1 ซื้อเมทแอมเฟตามีนมาจากจำเลยที่ 2 และที่ 3 แล้วจึงนำไปจำหน่ายให้แก่สายลับ โดยจำเลยที่ 2 และที่ 3 ไม่มีส่วนร่วมรู้เห็นด้วย ข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในการพิจารณาจึงแตกต่างกับข้อเท็จจริงที่กล่าวในฟ้องในข้อสาระสำคัญ ศาลฎีกาไม่อาจลงโทษจำเลยที่ 2 และที่ 3 ฐานจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนตามข้อเท็จจริงที่ได้ความนั้นได้ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 185 วรรคหนึ่ง, 192 วรรคสอง ประกอบด้วยมาตรา 215, 225
ความผิดฐานมีวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 ไว้ในครอบครองเพื่อขายและเกินปริมาณที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดตาม พ.ร.บ.วัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ.2518 มาตรา 13 ทวิ วรรคหนึ่ง, 62 วรรคหนึ่ง, 89, 106 ทวิ เป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท แต่ละบทมีโทษเท่ากัน ให้ลงโทษฐานมีวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 ไว้ในครอบครองเพื่อขายตาม ป.อ. มาตรา 90
ความผิดฐานมีวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 ไว้ในครอบครองเพื่อขายและเกินปริมาณที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดตาม พ.ร.บ.วัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ.2518 มาตรา 13 ทวิ วรรคหนึ่ง, 62 วรรคหนึ่ง, 89, 106 ทวิ เป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท แต่ละบทมีโทษเท่ากัน ให้ลงโทษฐานมีวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 ไว้ในครอบครองเพื่อขายตาม ป.อ. มาตรา 90
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4701/2556
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจำหน่ายยาเสพติดต่างจากฟ้อง แต่มีหลักฐานแสดงเจตนาเพื่อจำหน่าย ศาลลงโทษฐานครอบครองเพื่อจำหน่ายได้
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกับ บ. ร่วมกันมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย แต่ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยจำหน่ายเมทแอมเฟตามีให้ บ. แม้ข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในการพิจารณาแตกต่างกับข้อเท็จจริงที่กล่าวในฟ้องในข้อสาระสำคัญ ไม่อาจลงโทษจำเลยฐานจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนตามข้อเท็จจริงที่ได้ความนั้นได้ ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 192 วรรคสอง ประกอบด้วยมาตรา 215, 225 แต่การที่จำเลยจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนให้แก่ บ. เป็นเหตุผลที่แสดงให้เห็นว่าจำเลยมีเมทแอมเฟตามีนของกลางไว้เพื่อจำหน่ายก่อนที่จะส่งมอบ จึงลงโทษจำเลยในความผิดฐานนี้ตามที่พิจารณาได้ความได้ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 192 วรรคท้าย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4526/2556
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อที่ดินโดยใช้ชื่อผู้อื่นเนื่องจากข้อจำกัดคนต่างด้าว การจำหน่ายต้องเป็นไปตามขั้นตอนของ ป.ที่ดิน
การที่โจทก์ซื้อบ้านและที่ดินพิพาท โดยใช้ชื่อจำเลยเป็นผู้ซื้อและถือกรรมสิทธิ์แทนเนื่องจากโจทก์เป็นคนต่างด้าวไม่อาจถือกรรมสิทธิ์ในที่ดินได้ เป็นการกระทำที่ขัดต่อ ป.ที่ดิน มาตรา 86 และมาตรา 96 ซึ่งโจทก์จะต้องจัดการจำหน่ายที่ดินนั้นภายในเวลาที่อธิบดีกรมที่ดินกำหนดตามมาตรา 94 โจทก์จะฟ้องบังคับจำเลยให้จำหน่ายที่ดินแทนโจทก์โดยพลการหาได้ไม่ เนื่องจากเจตนารมณ์ของบทบัญญัติดังกล่าวประสงค์ที่จะให้อธิบดีกรมที่ดินรับทราบและกำหนดเวลาให้คนต่างด้าวนั้นจัดการจำหน่ายที่ดินเสียก่อน หากไม่ดำเนินการภายในกำหนดจึงให้อธิบดีกรมที่ดินมีอำนาจจำหน่ายที่ดินนั้นได้ตามวิธีการที่บัญญัติไว้ในหมวด 3 การที่ศาลล่างทั้งสองกำหนดให้จำเลยจำหน่ายที่ดินพิพาทแทนโจทก์ หากจำเลยไม่ดำเนินการให้ถือคำพิพากษาของศาลแทนการแสดงเจตนาและให้โจทก์ได้รับเงินที่ได้จากการจำหน่ายอันเป็นวิธีการนอกเหนือไปจากบทบัญญัติดังกล่าวซึ่งให้อธิบดีกรมที่ดินเป็นผู้กำหนดวิธีการจำหน่าย จึงเป็นการไม่ชอบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4353/2556
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำผิดฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายหลายกรรมต่างวาระ และการใช้ดุลพินิจลงโทษตาม พ.ร.บ.ยาเสพติด
พ. ได้ว่าจ้างให้จำเลยที่ 3 ช่วยเก็บรักษาเมทแอมเฟตามีนไว้ให้ เป็นเงิน 2,000,000 บาท หลังจากนั้น 2 ถึง 3 วัน พ. โทรศัพท์หาจำเลยที่ 3 บอกว่า มีเมทแอมเฟตามีนอีก 1 ล็อต ช่วยเก็บรักษาไว้ให้ด้วย โดย พ. จะจ่ายค่าจ้างเพิ่มให้อีก 1,000,000 บาท รวมเป็นเงิน 3,000,000 บาท กรณีจึงเป็นเรื่องที่จำเลยที่ 3 รับฝากเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองจาก พ. ต่างกรรมต่างวาระกัน โดยจำเลยที่ 3 ได้รับค่าตอบแทนการรับฝากเพิ่มจากจำนวนที่เพิ่มขึ้นอีกส่วนหนึ่ง นอกจากนี้สถานที่ตรวจค้นพบเมทแอมเฟตามีนก็ต่างสถานที่กัน ข้อเท็จจริงดังกล่าวนี้ย่อมเป็นการบ่งชี้ให้เห็นว่า จำเลยที่ 3 มีเจตนาในการมีไว้ในครอบครองเมทแอมเฟตามีนสองจำนวนดังกล่าวแยกออกจากกันโดยเด็ดขาด จึงเป็นการกระทำต่างกรรมต่างวาระตาม ป.อ. มาตรา 91 จำเลยที่ 3 มีความผิดฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายรวมสองกรรม
การลงโทษผู้กระทำความผิดให้น้อยกว่าอัตราโทษขั้นต่ำที่กำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 100/2 เป็นการให้อำนาจแก่ศาลในการใช้ดุลพินิจลงโทษมิใช่บทบังคับแต่อย่างใด
การลงโทษผู้กระทำความผิดให้น้อยกว่าอัตราโทษขั้นต่ำที่กำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 100/2 เป็นการให้อำนาจแก่ศาลในการใช้ดุลพินิจลงโทษมิใช่บทบังคับแต่อย่างใด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4328/2556
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
จำหน่ายยาเสพติด – การเปลี่ยนแปลงข้อกล่าวหา – ศาลฎีกามีอำนาจลงโทษฐานครอบครองเพื่อจำหน่าย แม้ข้อกล่าวหาเดิมไม่ตรง
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยที่ 1 และที่ 2 ว่า จำเลยที่ 1 และที่ 2 กับ ศ. ร่วมกันมีเมทแอมเฟตามีน 3 เม็ด ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนดังกล่าวให้แก่สายลับ แต่ข้อเท็จจริงได้ความว่าจำเลยที่ 1 ซื้อเมทแอมเฟตามีน มาจากจำเลยที่ 2 จำนวน 10 เม็ด ได้เสพไปจนเหลือ 3 เม็ด แล้วจำเลยที่ 1 กับ ศ. นำเม็ดแอมเฟตามีนไปจำหน่ายให้แก่สายลับ โดยจำเลยที่ 2 ไม่มีส่วนรู้เห็นด้วย ข้อเท็จจริงที่ปรากฏในทางพิจารณาจึงแตกต่างไปจากข้อเท็จจริงที่โจทก์ฟ้องในข้อสาระสำคัญ ทั้งการกระทำของจำเลยที่ 2 ไม่เป็นการสนับสนุนให้จำเลยที่ 1 มีเมทแอมเฟตามีนไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนให้แก่สายลับด้วย จึงไม่อาจลงโทษจำเลยที่ 2 ในข้อหาดังกล่าวได้
การที่จำเลยที่ 2 จำหน่ายเมทแอมเฟตามีนให้แก่จำเลยที่ 1 แสดงให้เห็นว่าจำเลยที่ 2 มีเมทแอมเฟตามีนของกลางจำนวน 3 เม็ด ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ศาลฎีกามีอำนาจพิพากษาลงโทษจำเลยที่ 2 ในความผิดฐานนี้ตามที่พิจารณาได้ความได้ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 192 วรรคท้าย
การที่จำเลยที่ 2 จำหน่ายเมทแอมเฟตามีนให้แก่จำเลยที่ 1 แสดงให้เห็นว่าจำเลยที่ 2 มีเมทแอมเฟตามีนของกลางจำนวน 3 เม็ด ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ศาลฎีกามีอำนาจพิพากษาลงโทษจำเลยที่ 2 ในความผิดฐานนี้ตามที่พิจารณาได้ความได้ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 192 วรรคท้าย