คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ประกันภัย

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 702 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1726/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิเรียกร้องตามสัญญาประกันภัย: ผู้ค้ำประกันฟ้องเรียกค่าเสียหายได้ในฐานะตนเอง
ผู้เอาประกันภัยค้ำจุนซึ่งศาลพิพากษาให้ใช้ค่าเสียหายแก่บุคคลภายนอกแล้ว ฟ้องผู้รับประกันภัยเรียกค่าเสียหายนั้นตามสิทธิของตนในสัญญาประกันภัยได้ ไม่ใช่ฟ้องแทนบุคคลภายนอกที่ได้รับความเสียหาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1260/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การต่ออายุประกันภัย: ต้องทำตามเงื่อนไขในกรมธรรม์ และชำระดอกเบี้ย/ตรวจสุขภาพ
อ. ผู้เอาประกันชีวิตขาดส่งเบี้ยประกันภัย ตามกรมธรรม์ประกันภัยมีว่า ผู้เอาประกันชีวิตอาจขอต่อบริษัทขยายเวลาออกไปได้ตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ ดังนี้ อ. ต้องทำคำขอ ไม่ใช่กรมธรรม์ขยายเวลาออกไปโดยอัตโนมัติการขอต่ออายุกรมธรรม์ต้องเป็นไปตามที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์อ. ขอต่ออายุกรมธรรม์ แต่มิได้ชำระดอกเบี้ยและตรวจสุขภาพก่อนตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ ยังไม่ถือว่าได้ขยายเวลาออกไปแล้ว ผู้เอาประกันภัยไม่ต้องใช้เงินตามกรมธรรม์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 918/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปิดเผยข้อมูลการชนก่อนทำประกันภัย ไม่ใช่สาระสำคัญทำให้สัญญาเป็นโมฆียะ หากไม่ส่งผลต่อเบี้ยหรือการรับประกัน
เมื่อเป็นที่เห็นได้ว่าการที่จำเลยผู้รับประกันภัยถือว่าข้อความจริงที่ว่ารถเคยถูกชนมาก่อน ซึ่งโจทก์ผู้เอาประกันมิได้เปิดเผยให้จำเลยทราบนั้น ไม่ใช่ข้อสำคัญอันจะมีผลเป็นการจูงใจจำเลยเรียกเบี้ยประกันภัยสูงขึ้นกว่าที่เรียกไว้ หรือเป็นเหตุบอกปัดไม่ยอมทำสัญญาด้วย เพียงแต่มีผลให้จำเลยไม่ยอมรับประกันภัยในจำนวนเงินที่โจทก์เอาประกันภัยไว้เท่านั้น กรณีจึงไม่ต้องด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 865 อันจะทำให้สัญญาประกันภัยเป็นโมฆียะ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 918/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปิดเผยข้อมูลรถยนต์ที่เคยชนก่อนทำประกันภัย ไม่ถือเป็นสาระสำคัญที่ทำให้สัญญาเป็นโมฆียะ หากผู้รับประกันภัยยังยินดีรับประกันในจำนวนเงินเดิม
เมื่อเป็นที่เห็นได้ว่าการที่จำเลยผู้รับประกันภัยถือว่าข้อความจริงที่ว่ารถเคยถูกชนมาก่อน ซึ่งโจทก์ผู้เอาประกันมิได้เปิดเผยให้จำเลยทราบนั้น ไม่ใช่ข้อสำคัญอันจะมีผลเป็นการจูงใจจำเลยเรียกเบี้ยประกันภัยสูงขึ้นกว่าที่เรียกไว้หรือเป็นเหตุบอกปัดไม่ยอมทำสัญญาด้วย เพียงแต่มีผลให้จำเลยไม่ยอมรับประกันภัยในจำนวนเงินที่โจทก์เอาประกันภัยไว้ เท่านั้น กรณีจึงไม่ต้องด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 865 อันจะทำให้สัญญาประกันภัยเป็นโมฆียะ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 764/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การตีความความคุ้มครองประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคลในกรณีความตายจากเหตุการณ์รุนแรงที่ไม่เจาะจง
จำเลยทำสัญญาประกันภัยรับประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลไว้กับ ส. ผู้ตาย โดยมีข้อสัญญาว่า ถ้า ส. ถึงแก่กรรม จำเลยจะต้องจ่ายเงินให้แก่บุตรของ ส. ทั้งสามคนตามกรมธรรม์ประกันภัย ซึ่งมีข้อยกเว้นว่า กรมธรรม์ประกันภัยไม่คุ้มครองถึงความตายที่เกิดจากถูกฆาตกรรม แต่การที่คนร้ายขว้างลูกระเบิดไปยังโต๊ะอาหารโดยตั้งใจฆ่าคนอื่นที่นั่งอยู่กับ ส. แล้วสะเก็ดระเบิดถูก ส. ด้วยนั้น ความตายของ ส. ไม่ได้เกิดจากถูกฆาตกรรม แต่เกิดขึ้นโดยอุบัติเหตุ จำเลยจึงต้องรับผิดจ่ายเงินให้แก่บุตรทั้งสามของ ส.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 580/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 148 กรณีเรียกค่าเสียหายจากประกันภัยอุบัติเหตุรายเดียวกัน
โจทก์เอาประกันภัยรถยนต์ไว้กับจำเลย สำหรับความเสียหายอันเกิดแก่ทรัพย์สินของบุคคลอื่นโดยรถยนต์นั้น ในวงเงินไม่เกิน 50,000 บาท ต่อมาลูกจ้างโจทก์ขับรถยนต์ดังกล่าวชนผู้อื่นบาดเจ็บและเสียชีวิตหลายคน โจทก์ถูกผู้เสียหายฟ้องและได้ใช้ค่าเสียหายไปแล้วบางราย โจทก์จึงฟ้องให้จำเลยชำระเงินค่าเสียหายที่โจทก์จ่ายไปแล้ว ได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกัน จำเลยยอมใช้เงินให้โจทก์ 29,000 บาท คดีถึงที่สุด โจทก์มาฟ้องให้จำเลยรับผิดสำหรับค่าเสียหายที่โจทก์จ่ายให้แก่ผู้เสียหายที่ถูกรถของโจทก์ชนเป็นคดีนี้อีก ดังนี้ แม้จำนวนเงินค่าเสียหายที่โจทก์เรียกร้องในคดีนี้บางส่วนจะเป็นเงินที่โจทก์ชำระให้แก่ผู้เสียหายต่างรายกันกับผู้เสียหายในคดีก่อนก็ตาม แต่ก็เป็นคดีที่โจทก์ฟ้องเรียกเงินชดใช้ตามกรมธรรม์ ซึ่งมีประเด็นวินิจฉัยอย่างเดียวกันว่าโจทก์มีสิทธิเรียกให้จำเลยชดใช้เงินได้เพียงไรหรือไม่ และศาลต้องวินิจฉัยถึงความรับผิดของจำเลยโดยอาศัยข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอุบัติเหตุรายเดียวกัน อาศัยกรมธรรม์ฉบับเดียวกัน ฟ้องของโจทก์ในคดีนี้จึงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 148

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 518/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตความหมาย 'ถูกขโมยทั้งคัน' ในสัญญาประกันภัย ครอบคลุมถึงการถูกปล้นด้วย
สัญญาประกันภัยรถยนต์ซึ่งบริษัทจำเลยจะต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่โจทก์ผู้เอาประกันภัยมีข้อความรวมถึงกรณีรถถูกขโมยทั้งคันด้วยคำว่า 'ถูกขโมยทั้งคัน' ตามสัญญาประกันภัยดังกล่าวนอกจากมีความหมายถึงการที่รถถูกคนร้ายลักไปแล้ว ย่อมหมายความรวมถึงการที่รถถูกคนร้ายปล้นเอาไปด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 330/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตความคุ้มครองประกันภัย กรณีเกิดจากความประมาทเลินเล่อและการตีความเงื่อนไขกรมธรรม์
คนงานของโจทก์จุดไฟหม้อน้ำตามปกติ แต่ไม่ได้ตรวจดูสายน้ำมันซึ่งเก่าหลวม น้ำมันไหลออกมากจนระเบิดขึ้นเพราะไฟลุกไหม้ เป็นประมาทเลินเล่อแต่ไม่ถึงกับร้ายแรงลิ้นหม้อน้ำเปิดไม่ทันเพราะความร้อนมากก็ไม่ใช่ความไม่สมประกอบของวัตถุที่เอาประกันภัย ผู้รับประกันภัยต้องรับผิดในความเสียหายแม้เกิดจากการระเบิด ซึ่งเป็นผลจากไฟนั้นเอง แต่เฉพาะความเสียหายต่อวัตถุที่ประกันภัยซึ่งไม่รวมถึงอาคารและสต๊อกสินค้า ไม่รวมถึงวัตถุดิบข้อกำหนดในกรมธรรม์ให้ฟ้องใน 3 เดือน ขัดต่อ มาตรา191,882 บังคับไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 217/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้รับประกันภัยรถยนต์มีสิทธิฟ้องเรียกค่าเสียหายจากผู้รับประกันภัยค้ำจุนได้ตามกฎหมาย
บริษัทผู้รับประกันภัยรถยนต์คันที่ถูกละเมิดซึ่งได้ใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ผู้เอาประกันภัยไปแล้ว ย่อมเป็นผู้รับช่วงสิทธิของผู้เอาประกันภัยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 880 และย่อมมีสิทธิเสมอเหมือนกับผู้เอาประกันภัยในอันจะฟ้องเรียกค่าสินไหมทดแทนที่ตนได้ชำระไปนั้นจากบริษัทผู้ประกันภัยค้ำจุนรถยนต์คันที่ทำละเมิดได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 226

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 217/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้รับประกันภัยมีสิทธิฟ้องเรียกค่าเสียหายจากผู้รับประกันภัยค้ำจุนได้ตามกฎหมาย
บริษัทผู้รับประกันภัยรถยนต์คันที่ถูกทำละเมิดซึ่งได้ใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ผู้เอาประกันภัยไปแล้ว ย่อมเป็นผู้รับช่วงสิทธิของผู้เอาประกันภัยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 880และย่อมมีสิทธิเสมอเหมือนกับผู้เอาประกันภัยในอันจะฟ้องเรียกค่าสินไหมทดแทนที่ตนได้ชำระไปนั้นจากบริษัทผู้รับประกันภัยค้ำจุนรถยนต์คันที่ทำละเมิดได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 226
of 71